อย่างนี้เรียกว่าข้อดีได้หรือเปล่า? บล็อกที่แล้ว เสียจริตอย่างแรง เพราะทำงานพลาด ฟาดหัว ฟาดหางด่าตัวเองเละเทะ บล็อกนี้เปลี่ยน theme มาเล่นเกมส์มองตัวเองในแง่ดี เพื่อเพิ่ม selfesteem จะช่วยได้หรือเปล่าไม่รู้ หรือจะทำให้หลงตัวเองไปซะล่ะ หวังว่าไม่นะ เอาล่ะ เกิดเป็นตัวฉันนี่มันมีข้อดีอีหยัง มั่ง ทนฟังหน่อยเด้อ พี่น้อง ข้อ 1 : มีกัลยาณมิตร ข้อนี้โดดเด่นสุดๆ แล้วในชีวิตอิฉัน พ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนสนิทมิตรสหาย รวมไปถึงหนังสือหลายๆ เล่มที่อ่าน ล้วนแต่เป็นกัลยาณมิตรของอิฉัน เวลามีปัญหาหรือไม่สบายใจ พวกเขาจะให้คำแนะนำ ที่ช่วยให้ฉันทำใจได้ สบายใจขึ้น รวมทั้งเพื่อนบล็อกด้วยนะคะ บางทีกำลังคิดอะไรไม่สบายใจ แต่อ่านบล็อกเพื่อนๆ แล้วก็เตือนสติกันได้เหมือนกันนะ ข้อ 2 :เป็นคนเปิดเผย คือว่า ใบหน้าของข้าพเจ้าจะ “ออก” อารมณ์ทันที ว่า “ชอบ” หรือ “ไม่ชอบ” แม้ว่าปากจะไม่พูดอะไร แต่ดูหน้าปุ๊บก็จะรู้เลย ไม่รู้มันดีหรือเปล่าอ่ะนะ ที่จริงรู้สึกว่า ถ้าเราเป็นคนหน้ายิ้มตลอดกาล หรือ หน้าตาไม่บ่งอารมณ์จะดีกว่า แต่เอาเหอะ ถือว่าเป็นคน เปิดเผยก็แล้วกัน ข้อ 3: เป็นคนไม่มีความลับ เพราะว่าเพื่อนเยอะ มาก เล่าให้คนที่หนึ่งฟัง แล้ว คนที่สอง สาม สี่ ห้า ก็ต้องอยากรู้ด้วยอยู่แล้ว อย่ากระนั้นเลย เรื่องของเราเราบอกเพื่อนว่า “เธออย่าไปบอกใครนะ” แต่มีวงเล็บต่อท้ายว่า (เดี๋ยวฉันจะบอกเขาเอง) ข้อ 4: เป็นคนเจริญอาหาร หากคุณได้เพื่อนกินอย่างฉัน คุณจะไม่ผิดหวัง เพราะฉันกินได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่ลาบ น้ำตก ส้มตำ ไปจนถึง พิซซ่า ขนมเค้ก บัวลอย มะม่วงดิบ ถึงแม้จะกลัวอ้วนแต่ เวลากินเนี่ยนะคะ กินเต็มที่ กินทุกคำ อย่างมีความสุข กินอิ่มเมื่อไหร่ ถึงค่อยนึกเรื่องกลัวอ้วน อีกที (มันถึงเป็นตุ่ม สามโคกอยู่นี่ไง) ข้อ 5: เป็นคนชอบกิจกรรมที่ได้ออกกำลังกาย โดยเฉพาะกลางแจ้ง อาจจะสืบเนื่องมาจากการที่กินเพลิน เลยทำให้รู้สึกว่า “ไม่ได้ๆ เราต้องเคลื่อนไหว” ข้อ 6 : เป็นคนพูดจาตลก จริงๆ คิดว่าตัวเอง ไม่ได้ตลกขนาดนั้นนะ แต่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชอบบอกว่า “ขำ” และ “ฮา” ว่าแล้วก็ขอเวลานอกหัวเราะ หัวเราะ และหัวเราะ จนจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ขนาดโทรไปเล่าเรื่องเศร้า ก็ยังอุตส่าห์ตลก เขาไม่เชื่อกันเลยอ่ะ ว่าข้าพเจ้าเศร้า จริงๆ นะ ข้อ 7 : เป็นคนมีความสนใจหลายอย่าง จะว่าจับฉ่าย ก็ได้นะ แต่วันนี้จะเอามาเป็นข้อดีแล้วกัน คือ ฉันสนใจหลายอย่าง ลองทำ และลองดูมาแล้วหลายอย่าง ตั้งแต่ ทำอาหาร ทำขนม ถ่ายรูป ว่ายน้ำ ตีแบท วิ่ง ดำน้ำ ปีนเขา เดินป่า พายเรือkayak squash เต้นละติน เต้นฟลาเมงโก ชมโอเปร่า ฟังคอนเสิร์ต ชมนิทรรศหารศิลปะ เรียนภาษา เรียนดนตรี เขียนกลอน เขียนบันทึก อ่านหนังสือ ฟังเพลงเน้น คลาสสิก แจซ และ พื้นเมือง ดูละคร เดินเล่น ท่องเที่ยว ขี่จักรยาน ช็อปปิ้ง และยังอยากจะทำอีกหลายอย่างมากๆ เช่น เรียนวาดรูป เรียนร้องเพลง เรียนระบำหน้าท้อง เป็นต้น สังเกตสิ ว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวกับงานทีตัวเองทำอยู่เลยอ่ะค่ะ ข้อ 8: น้อยครั้งเหลือเกิน ที่จะรู้สึกเหงา ไม่ใช่คน ขี้เหงา หรือ แอบเหงา เพราะสืบเนื่องมาจาก ข้อ 7 แหละ สนใจหลายอย่าง เลยมีหลายอย่างให้ทำ แล้วแต่อารมณ์ว่า ช่วงไหน อยากทำอะไร ถ้าต้องไปไหนมาไหนคนเดียว หรือ ไปท่องเที่ยวคนเดียว ก็ไปได้ ไม่มีปัญหาและไม่กลัว (เท่าไหร่) ข้อ 9: เป็นคนใจอ่อน เพื่อนฉันบอกว่า “ก็เพราะแกเป็นคนไม่สวยไง” ตรรกะของเพื่อนอิฉันเป็นดั่งเพลงลูกทุ่งที่ว่า “คนสวยใจดำ ไม่น่ามาทำเลยนะแก้วตา” ดังนั้น “สวยจริง ต้องใจดำ” ฉันจะเป็นพวกใจอ่อน ขี้สงสาร คือ บางทีก็ไม่ค่อยชอบไปกับคนเยอะๆ เท่าไหร่ แต่ครั้นจะไปไม่ชวนคนบางคน ก็สงสารที่เขาต้องอยู่คนเดียว อะไรทำนองนี้ หรือบางทีโกร๊ธ โกรธ แอบโกรธคนบางคน (แต่จะไม่บึ้มนะ) พอเขามาพูดดีด้วย ก็พูดจายิ้มแย้มกับเขาตามปกติ ลืมเรื่องที่โมโหไปอย่างง่ายดาย เรียกว่า ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด แต่ที่ไม่ดีคือ วันดีคืนร้าย มีเรื่องให้โกรธอีก จะกลับมาจำได้ ว่า “หนอยคราวที่แล้ว มันก็มาทำให้เราโกรธอย่างนี้เป๊ะ เลย” ดีอย่างเดียว ที่หยุดปากเอาไว้ได้ทัน ข้อ 10: ไม่พูดจาประชดประชันเวลาโกรธ เมื่อก่อนน่ะ ชอบประชดประชัน แล้วก็เป็นพวก ชอบบึ้ม วีนแตกชนิดที่ตัวตายก็ไม่สนใจ ปัจจุบันนี้ ข้าน้อยเปลี่ยนไป๋ (บ้าง) แล้ว เพราะ เจอกับตัวเองมาจังๆ รู้สึกว่าคำพุดประชดประชัน จากปากคนที่เรา (เคย) ห่วงใย มันฟังแล้วเจ็บกระดองใจดีแท้ (กรรมตามสนองไง สม......ทำคนอื่นไว้เยอะ) จากนั้นก็เลยเลิกแล้ว ไอ้การพูดตามใจปากเวลาโมโหเนี่ย พูดไปเราก็แค่สะใจ แต่คนฟังเขาอาจจะเสียใจและเจ็บปวดมากกว่าที่เราคิดก็ได้ ปัจจุบันนี้ ถ้าโกรธมากๆ จะแปลงกายเป็นหอยกาบ คือ หุบปากนั่นเอง (แต่ว่า หน้าออกแล้วล่ะ ว่าไม่พอใจ) จากนั้นก็จะหนีไปไกลๆ ไปตั้งหลัก โมโหน้อย ก็แค่บ่นๆ แว้ดๆ (ที่อื่น กะคนอื่น) โมโหมากๆ จะ แว้ดๆ ก่อน แล้วไปหาหนังสือธรรมะมาอ่าน คำเตือน : ถ้าเห็นข้าพเจ้า ”หน้าออก” แล้วเงียบไป กรุณาอย่ามาพยายามง้างปาก ถามหาเหตุผล เพราะว่า อันตรายมาก เพราะข้าพเจ้าอาจจะเสียการควบคุม วีนแตก กระเจิงออกมาโดยพลัน ครานั้นจะบาดเจ็บกันไปทั้ง 2 ฝ่าย หามาได้แค่ 10 ข้อเองอ่ะ บางทีก็ไม่ได้ดีอย่างที่เขียนตลอดเวลาหรอกนะ แต่ว่าก็พยายามให้มันเป็นอย่างนั้นมากกว่า อุตส่าห์จะหาให้ได้ 18 ข้อ จะได้เป็น สิบแปดมงกุฏ หามาได้แค่นี้จะ พอคบกัน (เป็นเพื่อน) ได้ไหมล่ะค่ะ เนี่ย   Create Date : 24 พฤษภาคม 2550 12 comments Last Update : 24 พฤษภาคม 2550 17:13:42 น. Counter : 911 Pageviews. Share Tweet

แวะมาอ่านจ่ะ   โดย: แม่ลูกแฝด 24 พฤษภาคม 2550 19:35:17 น.

พี่ปออ่า น่ารักมากๆเลยล่ะ แจกแจงตัวเองด้วย 555 กระต่ายไม่เหมือนพี่ปออยู่อย่างก็คือเรื่องกินอ่ะค่ะ หนูเลือกมาก เรื่องมากสุดๆ แต่เรื่องตลกหนูก็ว่าหนูตลกนะ พี่ปอก็ตลกอ่ะ อ่านจากบลอคก็รู้เลยนะคะว่าตัวจริงต้องฮาแน่นอน อยากอยู่ใกล้ๆ เอาหน้าซุกพุงพี่ปอแล้วกลิ้งไปกลิ้งมา กิกิกิ   โดย: กระต่ายลงพุง 25 พฤษภาคม 2550 0:58:23 น.

555 ชอบตรงคำเตือนอ่ะ เรื่องตลก น่าจะจริง เพราะอ่านทีไร ฮากระจายทุกที ส่วนเรื่องไม่พูดประชดประชัน อ่านแล้วได้คิด เพราะมีนิสัยเช่นนั้น เลยว่าจะลองเลิกทำดู เผื่อจะดีขึ้น แต่ถึงไม่ 18 มงกุฏ ก็คบได้นะคะเนี่ย   โดย: ดอกรักเร่ (ดอกรักเร่ ) 25 พฤษภาคม 2550 6:29:12 น.

แวะมาเยี่ยมครับ เพิ่งทำงานเสร็จ ตรงจับฉ่ายนี่คล้ายๆ กันครับ สนใจไปเสียหมดทุกเรื่อง ทั้งการเมือง ทั้งซุบซิบดารา ทั้งหนัง ทั้งหนังสือ ทั้งเพลง ทั้งกีฬา ฯลฯ ยกเว้นเรื่องเรียนของตัวเอง ผมว่า การที่สนใจแบบจับฉ่ายจะเป็นข้อดีสำหรับคนที่เป็นครูอาจารย์นะ ว่าไหมครับ จะได้มีความรู้รอบตัวเยอะๆ เอาไว้สอนนักเรียน มีเรื่องเล่าโน่นนี่เยอะแยะ การเรียนจะได้ไม่น่าเบื่อ   โดย: คนทับแก้ว 25 พฤษภาคม 2550 18:59:38 น.

แต่ว่าอัพบล็อกบ่อย ๆ ก็จะดีนะคะ แหะ ๆ   โดย: ดอกรักเร่ (ดอกรักเร่ ) 26 พฤษภาคม 2550 12:30:34 น.

... ชีวิตจะลำเค็ญเพียงใดก็ตามแต่ หากนับข้อดีได้ถึง 10 ข้อ มันคงไม่ลำบากยากเย็นในการดำรงอยู่เกินไป...ใช่มั้ยครับ?   โดย: The Legendary Midfielder 26 พฤษภาคม 2550 17:33:38 น.

เป็นคนน่าคบมาก และมาก และเป็นนางแก้วที่ทำอาหารเป็น ใช่มั๊ย? อุอุ   โดย: yyswim 28 พฤษภาคม 2550 15:16:13 น.

ดีค่ะ หาข้อด๊ในตัวเอง เพื่อช่วยใหเ้เรารู้สึกดีขึ้น กินเก่ง ก็ช่วยนะเวลาเพื่อนอยากอดความอ้วน ...O_O'' นำดอกไม้มาฝาก ดอก Nigella ''Love in a mist'' ความรักในสายหมอก   โดย: law of nature 29 พฤษภาคม 2550 0:19:16 น.

พอเห็นวลีที่ว่า...ทนฟังหน่อยเด้อ พี่น้อง พี่เลยว่าของเปลี่ยนเป็นอ่าน...แทนฟังได้ป่ะ...อุอุอุ...ล้อเล่น......แต่อ่านแล้วก็โอเคนะ... ดูคล้ายๆป้าเหมือนกัน...   โดย: nong_taky 29 พฤษภาคม 2550 17:47:52 น.

เขียนไปเรื่อยๆ ก็ได้มองเห็นตัวเองชัดขึ้นนะครับ ครั้งหน้า สงสัยต้องเขียนดูอารมณ์อีกฝั่ง เอาแบบที่ร้ายๆ จะยิ่งเห็นตัวเองชัดขึ้นอีก เป็นวิธีที่ดีครับ ผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 31 พฤษภาคม 2550 12:11:56 น.

พี่ปอจ๋า พี่ปอหายไปไหน ไม่มาอัพบลอคเลย ไม่ไปเยี่ยมหนูด้วย สบายดีอยู่หรือไรคะ อยู่เมืองนอกคนเดียว ระวังตัวนะคะ เดี๋ยวฝรั่งจับไปเรียกค่าไถ่ น้องไม่มีตังค์ไปไถ่น๊า   โดย: กระต่ายลงพุง 1 มิถุนายน 2550 2:38:01 น.

จะไปเที่ยว เอ้ย... ไปสัมมนาอีกแล้วหรือครับ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะครับ รวบรวมกำลังใจกลับมาเสร็จแล้วก็จะได้ทำงานต่อ แล้วก็จะได้เรียนจบไวๆ ไงครับ   โดย: คนทับแก้ว 1 มิถุนายน 2550 15:42:11 น.