Bloggang.com : O-HO : ~@-@~ ซินจ่าว เวียดนามเหนือ

~@-@~ ซินจ่าว เวียดนามเหนือ - 3 ~@-@~

.

สุวรรณภูมิ => นอยไบ => ฮาลอง => นิงห์บิงห์ => ไมเชียว => ฮานอย => นอยไบ => สุวรรณภูมิ

21 - 25 กุมภาพันธ์ 2551

บล็อกที่สามตามมาแล้วค่ะ

พูดถึงเรื่องสภาพอากาศและอาหารการกินในระหว่างที่ไปเที่ยวกัน
อากาศก็เย็นๆ แต่ไม่มาก ใส่เสื้อยืดสวมแจ็กเก็ตทับก็อยู่ได้แล้ว
ส่วนอาหารนั้น ในความรู้สึก คิดว่าไม่ต่างจากบ้านเรา
แต่รสจืดและมีผักเยอะกว่า เครื่องปรุงรสก็แปลกๆ
แต่... หง่อนหลำ [อร่อย] ไม่หง่อนหลำ ก็กินหมดเกลี้ยงทุกมื้อค่ะ

ส่วนอาหารยอดนิยมของที่นี่คงไม่แคล้วคือ

ข้าวสวยและเฝอ นั่นเอง
ป้ายตัวอักษรอันนี้เห็นได้ตลอดทางเช่นเดียวกับตัวโอโต

ชะแว้บบบ... ไปเที่ยวเวียดนามวันที่สองตอนบ่ายๆ กับโอ้โฮแทรเวลกันต่อนะคะ

ชมภาพจากทริปนี้เพิ่มเติมได้ที่
บ้านของหัวหน้าทัวร์ - //iyayoi.net
เว็บของน้องจอย - //www.inenjoy.com
และบล็อกของน้องเอ๋ - กระปุกกลิ้ง ค่ะ

วันที่ 2 [ 22 กพ. 51] - ช่วงบ่าย

กลับจากล่องเรือชมความงามของอ่าวลอง
พร้อมโซ้ยอาหารเที่ยงซึ่งเป็นอาหารทะเลสดๆ หวานๆ เยอะๆ กันเรียบร้อยแล้ว
พวกเราก็รีบขึ้นบก จับรถตู้คันเดิม เดินทางไปยังนิงห์บิงห์ [Ninh Binh]
จังหวัดที่อยู่ใต้สุดของเวียดนามเหนือ
ใช้เวลาเดินทางสี่ชั่วโมง จริงๆ ไม่ไกลเท่าไร
แต่เขาขับแปร๊นๆ ไปแบบใจเย็นๆ ก็เลยใช้เวลากันนิสสสนึง

ทิวทัศน์ระหว่างทาง

เราไปนิงห์บิงห์กันเพื่อไปล่องเรือชมฮาลองบกในเช้าวันรุ่งขึ้นค่ะ
แต่ช่วงบ่ายถึงเย็นของวันนี้
ขอเชิญแวะชมโบสถ์แพทเดียม [Phat Diem Cathedral] กันก่อนนะคะ

โบสถ์สไตล์ชิโน-เวียดนามิส
ที่ทางเทรคกิ้งไทยบอกว่ามีเพียงแห่งเดียวในเวียดนาม

ส่วนนี้เป็นข้อมูลจากเว็บแนะนำการท่องเที่ยวของเวียดนามค่ะ

Phat Diem Cathedral is a solemn and interesting architectural complex,
reflecting the skilful and excellent stone carving art of the Vietnamese workers.

จะแปลไว้ก็กลัวจะแปลผิดเลยยกมาทั้งแบบนี้

หาข้อมูลของโบสถ์นี้เป็นภาษาไทยไม่เจอเลยค่ะ

มุมต่างๆ

เข้าไปข้างในโบสถ์นี้ได้ค่ะ

ไม่ได้เปิดประตูหมดทุกบาน เลยมืดๆ ไปหน่อย
แต่ก็มองเห็นรายละเอียดความงดงามภายในค่ะ
พวกเราก็ใช้เวลาจดๆ จ้องๆ ถ่ายรูปกันอยู่พอสมควร

พอกลุ่มเราเลิกถ่ายรูปแล้วเดินออกมาปุ๊บ
คุณคนนี้รีบมาปิดประตูปั๊บ คงแบบว่ารอเวลาอยู่นานแล้ว อิอิ

กำลังจะเดินออกไปแล้ว
ยังไม่วายขอถ่ายรูปอีกสักมุม

คุณไกด์เล่าว่า บริเวณนี้เป็นสุสานของนักบวช
ที่เป็นผู้ริเริ่มและรวบรวมกำลังคนก่อสร้างโบสถ์หลังนี้
ขอโทษด้วยนะคะที่บอกไม่ได้ว่านักบวชชื่ออะไร
จริงๆ ที่สุสานก็มีป้ายหินอ่อนสลักชื่อไว้ นึกว่าถ่ายเก็บมาแล้ว แต่ค้นแล้วไม่มี กาซิกๆ

ออกจากประตูโบสถ์มา เราจะเห็นร้านขายขนมต่างๆ

และมีเจ้านี่ขายด้วย
ขนมอะไรก็ไม่รู้ คล้ายๆ กับขนมไทยผสมจีน ตัวแป้งสีดำ จะจืดๆ เหนียวๆ
ไส้ข้างในเป็นมะพร้าวหรือถั่ว ??? หวานอร่อยดี

คุณไกด์ก็บอกนะว่าชื่ออะไร แต่จำม่ายล่ายยยยย...

หลังจากชมโบสถ์ ถ่ายรูป อย่างเพลิดเพลินแล้ว
เราก็กลับขึ้นรถเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่ตั้งอยู่ที่ Tam Coc - Bich Dong
ค้างกันที่นี่หนึ่งคืน เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้ออกไปชมฮาลองบกกัน