Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าเก่าๆจากเมืองบริท...วิกฤติ และ โอกาส

1-2 AUG 1998

ระหว่างที่นั่งเครื่องบินฉันก็ถือโอกาสจัดเรียงเอกสารต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ เมื่อจัดมาถึง transcript ฉันจำได้ว่าเห็นเกรดแล้วมันช่างไม่น่าเชื่อว่าฉันจะมาเรียนต่อได้ จริงๆเกรดอย่างนี้ คงต้องใช้ประสบการณ์ทำงานเข้าช่วย

แต่ว่าตอนนั้น ฉันยังสงสัยอยู่เลยว่าจบแล้วฉันจะทำอะไร
เพราะในปี ่1998 เป็นปีที่ฟองสบู่แตก สภาพของฉันและเพื่อนร่วมรุ่นต่างมึนงงกับภาวะที่เราไม่เคยคิดว่าจะเจอมาก่อน

เรื่องจะหางานทำนั้นไม่ต้องพูดถึง คนที่เค้าทำงานกันอยู่แล้วยังเอาตัวไม่รอด เอเจนซี่โฆษณาหลายๆที่มีการ downsizing เรื่องการรับคนใหม่นั้น ไม่มีในนโยบาย

แต่แล้วความหวังของฉันถุูกจุดประกายขึ้นมา เมื่อสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยจัดการสอบแข่งขันเพื่อหาคนที่เก่งที่สุด 2 คนเข้าทำงานใน เอเจนซี่ใหญ่ 2 ที่ แต่ฉันก็ทำได้แค่ 20 คนสุดท้ายที่เข้ารอบเท่านั้น ฉันสอบตกสัมภาษณ์อย่างไม่ต้องลุ้น

“คุณจะทำอย่างไรถ้าวันที่ต้องไป present งาน คุณลืม storyboard ไว้ที่บริษัท คุณจะบอกลูกค้าว่าอย่างไร” เอ่อ เอ่อ ฉันอ้ำอึ้ง และตอบกลับไปว่า “คงบอกไปตรงๆอ่ะค่ะ ว่าลืม แต่เดี๋ยวรีบกลับไปเอา” …นั่นคงเป็นหนึ่งในวิกฤติของฉัน ที่เป็นสิ่งเตือนใจให้ฉันไม่เคยที่จะลืมงานที่จะเอาไปที่บริษัทลูกค้าเลยในชีวิต เพราะฉันไม่รู้ว่าคำตอบที่ถูกต้องมันควรตอบว่าอะไร

หลังจากเสียศูนย์ไปได้ระยะหนึ่ง อยู่ๆฉันก็รับได้จดหมายจากบริษัทตัวแทนรับนักเรียนไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยในจดหมายมีเนืื้อความโดยสรุปว่า รัฐบาลอังกฤษได้ออกทุนเรียนต่อพิเศษให้กับนักเรียนไทย โดยมีโควต้าให้นักเรียนแค่ 10 คนต่อหนึ่งมหาวิทยาลัยเท่านั้น โดยที่รายละเอียดอื่นๆ ฉันจะต้องโทรติดต่อไปยังบริษัทตัวแทนที่ส่งจดหมายมาให้ฉํน

ฉันนั่งอึ้งระลึกความหลังว่าฉันไปรู้จักกับบริษัทนี้ตอนไหน ทำไมเค้าถึงส่งจดหมายมาหาฉันได้ สมองฉันมันเบลอๆ คิดอะไรไม่ออก และฉันก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะค้นหาข้อมูลต่อด้วย เรื่องทุน เรื่องแข่งขัน ฉันนคงสู้คนเก่งๆไม่ได้แน่ๆ

เกรดที่ฉันจบมาก็แค่ 2.34 ส่วนคะแนน TOEFL ที่เคยไปสอบเล่นๆไว้ก็แค่ 530 ตกเกณฑ์ที่เค้าต้องการ จะให้ไปสอบใหม่ ฉันก็ไม่มีแรงบันดาลใจพอ ตามปกติเท่าที่ฉันรู้มา ถ้าใครเกรดเฉลี่ยไม่ดี ก็ต้องพยายามทำคะแนนภาษาอังกฤษให้สูงเข้าไว้ เพื่อนำมาต่อรองกับทางมหาลัยที่นู่น แต่นี่ ฉันมันไม่ได้เรื่องซักอย่าง

ฉันปล่อยให้เวลาผ่านไปประมาณสองอาทิตย์ พ่อของฉันเหลือบไปเห็นจดหมายฉบับนั้นที่ฉันท้ิงระเกะระกะไว้ที่โต๊ะกลมข้างล่าง พ่อกระตุ้นให้ฉันลองโทรไปหาข้อมูล โดยให้กำลังใจว่า ถ้าได้ทุนขึ้นมา ก็ยังมีสิทธิ์ลุ้นไปเรียนต่อ เพราะคุณปู่ของฉันมีทุนส่วนนึงที่เก็บไว้ให้ฉันสำหรับเรียนต่ออยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในภาวะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นไปถึง 75 บาท ทุนที่มีอาจส่งให้ฉันเรียนได้ไม่จบ

ฉันต้องขอบคุณพ่อฉันที่ยุยงส่งเสริมให้ฉันลองโทรไปหาข้อมูล เพราะทุนที่เค้าแจกนั้น ไม่ต้องใช้ความสามารถด้านการเรียนอย่างที่ฉันคิด เงื่อนไขของทุนนี้ก็คือ ฉันจะต้องเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษบอกถึงเหตุผลว่าทำไมฉันถึงควรจะได้รับทุนนี้ และ วิชาที่ฉันเลือกเรียนจะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร

แต่ก่อนที่ฉันจะเริ่มลงมือจับปากการ่างเรียงความฉบับนั้น ฉันต้องไปหาบริษัทตัวแทนนี้เพื่อดูว่ามีสาขาวิชาอะไรที่ฉันสนใจในแต่ละมหาวิทยาลัยที่แจกทุนบ้าง

เมื่อไปถึง ฉันก็ไม่ลืมที่จะถามคำถามที่ค้างคาใจฉันตั้งแต่วันแรกที่ได้รับจดหมายว่า เค้าไปเอาที่อยู่ของฉันมาจากไหน คำตอบที่ได้ ทำให้ฉันเชื่อในอาณุภาพของเครื่องมือทางการตลาดตั้งแต่บัดนั้น

เมื่อหลายเดือนก่อนที่ฉันจะเรียนจบ ฉันเคยไปงาน British Education Exhibition ที่จัดโดย British Council ฉันจำได้ว่า ตามบูธของมหาวิทยาลัยต่างๆ จะมีตัวแทนคอยแจกโบรชัวร์ และ แบบฟอร์มมากมาย โดยที่ตัวแทนของแต่ละมหาวิทยาลัยจะคะยั้นคะยอให้ฉันกรอก ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อทิ้งไว้ เพื่อที่ว่าพวกเค้าจะได้ส่งข้อมูลอัพเดทต่างๆมาให้ฉันถึงบ้าน บอกตามตรงว่าตอนนั้นฉันออกจะรำคาญมากกว่า เลยกรอกๆให้พวกเค้าไปอย่างเสียมิได้ ไม่น่าเชื่อว่าฟอร์มพวกนั้น ไม่ใช่ Junk ไปซะทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นสื่อกลางที่ทำให้ฉันได้รับทราบข้อมูลที่มีค่าที่สุดในขณะนั้นก็ว่าได้

หลังจากซักถามเป็นที่พอใจ ฉันก็สำรวจลิสต์วิชาและมหาลัยที่เข้าร่วมแจกทุนในครั้งนี้ ใจจริงฉันอยากจะไปเรียนต่อทางด้าน Communication หรือไม่ก็อะไรที่เกี่ยวกับโฆษณา เพราะเป็นด้านที่ฉันชอบและถนัด แต่ด้านที่ใกล้เคียงที่สุดในลิสต์ก็คือ Marketing

ถึงแม้ว่าฉันจะเกลียดการเรียนเชิงธุรกิจเพราะมันต้องข้องแวะกับตัวเลข แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นๆที่ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องคะแนนภาษาอังกฤษ ทางบริษัทตัวแทนบอกว่า คะแนน TOEFL ของฉันเมื่อนำมาเทียบกับตาราง IELTS ฉันได้ 6.3 ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์ที่เค้าอยากได้มาอย่างเฉียดฉิว เมื่อทุกอย่างดุเหมือนจะเป็นใจ ฉันจึงตกลงที่จะขอลองส่งเรียงความดูสักตั้ง

ในที่สุดข่าวดีก็เป็นของฉันบ้าง ฉันได้รับทุนในครั้งนี้เป็นจำนวน 3000 ปอนด์ โดยเงินจำนวนนี้จะนำไปหักออกจากค่าเล่าเรียนของฉันโดยอัตโนมัติ ว่าไปแล้ว ทุนครั้งนี้ก็เปรียบเหมือน การลดแลกแจกแถม ดีๆนี่เอง ณ เวลานั้น ทางมหาวิทยาลัยในอังกฤษก็ได้รับผลกระทบจากจำนวนที่ลดลงของนักเรียนไทยเป็นจำนวนมากเช่นกัน แผนการแจกทุนนี้จึงเกิดขึ้น

ฉันกำลังจะได้ไปเหยียบแผ่นดินต้นกำเนิดเสียงดนตรีที่ฉันหลงใหลอีกครั้ง
ฉันกำลังจะได้ยินสำเนียงที่ฉันชื่นชอบ
ฉันกำลังจะได้เจอผู้คนและชีวิตใหม่ๆ

เอาล่ะ โอกาสของฉันน่ากำลังจะมาถึง ไม่นานเกินรอ







Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2550 2:50:05 น. 9 comments
Counter : 515 Pageviews.

 
โห คุณอวนโชคดีมากๆ เลยค่ะ นี่ต้องบอกว่าเพราะกรรมดีที่ทำไว้แน่ๆ เชียว + คามเก่งในการเขียนเรียงความด้วย

จะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ


โดย: the Vicky วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:2:49:52 น.  

 
นี่ล่ะค่ะ นิดว่าบางทีมันเป็นดวง .. โอกาส ... ทุกอย่างมันมารวมกัน ทำให้เราได้ข้อมูล ทำให้ได้รับการติดต่อ และก็ลงมือเขียน และแล้วก็ได้เรียนต่อ ...

เหมือนเบื้องบนเค้าขีดมาให้เราแบบนี้เลยนะค่ะคุณอวน


โดย: JewNid วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:53:46 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะเจ้าตัวน้อยเป็นงัยบ้างค่ะ เดินได้หรือยังเอ๋ย


โดย: namfonJC วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:13:36 น.  

 
พี่อวน คนจะได้ไปเรียนต่อนี่อะไรก็ฉุดไว้ไม่อยู่นะคะ
อิจฉาพี่อวน ได้ทุนด้วยง่า เท่ห์ๆๆ

รออ่านเรื่องราวดีๆจากพี่อวนค่ะ


โดย: ShiEri วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:20:17 น.  

 
อวนฮึด อัพบล็อกสองวันซ้อน ฮ่า (มีแต่อิชั้นนี่แหล่ะที่หมักดองบล็อกประจำ)

ตอนอวนเรียนต้องตรงกับแฟนเราแน่เลย เพราะเขาก็ได้ลดหย่อนจากมหาลัยเหมือนกัน แต่ของเขาสมัครไปเรียบร้อย รับแล้วอ่ะจ้ะ แล้วมหาลัยลดให้อัติโนมัติอีกที ไม่รู้มาก่อนว่าอวนอยากเรียนสาขาเดียวกับแฟนเราเลย แฟนเราเรียน communication ที่ Leicester จ้ะ

ว่าแต่เรียงความเขียนไปว่าไงมั่งเหรอจ๊ะ


โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:28:30 น.  

 
โชคดีจริงๆนะครับ

ปล. หากแวะเข้าบล็อกผม ช่วยคลิ๊กที่ป้าย "ทำงานผ่านเนท" ด้านขวามือให้สัก 1 ครั้งนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ


โดย: sak (psak28 ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:51:22 น.  

 

โชคดีจริงๆเลยนะค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:59:56 น.  

 
เอาล่ะ โอกาสของฉันน่ากำลังจะมาถึง ไม่นานเกินรอ
^^
^^

read your blog......|


โดย: law of nature วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:28:01 น.  

 
ขออ่านด้วยคน
ตัวเองไม่เคยบินออกนอกเมืองไทยเลยค่ะ แบบว่ารักเมืองไทย (ง่ะ ๆ ๆ ว่าไปนั้น)


โดย: viji (viji ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:44:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nzmum
Location :
กรุงเทพ New Zealand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บันทึก...แม่บ้า(น)ตัวอย่าง
ชีิวิตเก่าๆของแม่ลูกสอง ทั้งในและนอกประเทศไทย
หวังว่าวันนึงคงได้กลับมาอยู่บ้านเราอย่างถาวร



+KL and that second (3)+
+KL hours later(2)+
+KL in 24 HRS (1)+
+HBD CALEB 3 YRS OLD+
+ไม่ใช่ตุ๊กตา+
+ของขวัญจากโรงเรียน+
+วีคแรกที่ Kindy+
+Bye Bye Nappy+
+โรงเรียนของเคหลิบ+
+เกมแก้เซ็ง+
+ด้วยเกียรติของแม่บ้า(น)+
+ถึงคราวมีเจ๊ดัน+
+Headline Blog+
+Smile Upon The Sky+
+Caleb’s Language Milestone+
+Snap Shots ริมเจ้าพระยา+
+กลับ!+
+AF5: Me, My Dream & My Producer+
+วีรกรรมทำแสบ+
+Fuji Five Lakes+



+My Book+





Friends' blogs
[Add nzmum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.