Bloggang.com : : hotcoffee : เล่าข่าวงานเสวนา “จากเซ็นเซอร์สู่เรตติ้ง”+แถลงข่าวประกวดหนังสั้น kids story

เล่าข่าวงานเสวนา “จากเซ็นเซอร์สู่เรตติ้ง”+แถลงข่าวประกวดหนังสั้น kids story

งานเสวนา "จากเซ็นเซอร์สู่เรตติ้ง"

ระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคมที่ผ่านมา เครือข่ายรณรงค์เพื่อเสรีภาพของภาพยนตร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้จัดงานเสวนาขึ้นภายใต้หัวข้อ “จากเซ็นเซอร์สู่เรตติ้ง ทางออกที่เป็นไปได้” ขึ้นที่ บางกอกโค้ด แต่เนื่องจากผู้เขียนไม่ว่างในวันแรก จึงมีโอกาสได้ไปร่วมงานในวันสุดท้ายคือวันที่ 30 แทน โดยผู้เขียนได้ฟังการเสวนาเกี่ยวกับหนทางในการจัดเรตติ้งหนัง ผู้ร่วมเสวนาครั้งนี้ได้แก่ คุณอภิชาติพงศ์ ผู้กำกับ “แสงศตวรรษ”,คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว,คุณโดม สุขวงศ์,ผ.ศ.ดร.กฤษฎา เกิดดี,คุณประวิทย์ แต่งอักษร,คุณชลิดา เอื้อบำรุงจิต,คุณสุภิญญา กลางณรงค์,คุณลัดดา ตั้งศุภาชัย ผู้อำนวยการกลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และผู้แทนคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งการเสวนานั้นก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้น

ประเด็นในการพูดคุยในงานก็มีตั้งแต่ข้อสงสัยที่ว่า หนังอย่าง “แสงศตวรรษ” นั้นได้ไปละเมิดสิทธิของคนดูตรงไหนจึงถึงประสบปัญหา คุณโดมแสดงความเห็นว่า อย่าถามว่าไปละเมิดใคร เพราะคำตอบมันครอบจักรวาล กรรมการมีหน้าที่ตรวจคำผิด แต่เขาไม่รู้ว่าคนทำมีเจตนาที่จะสะกดผิดเพื่อบอกบางอย่าง เขาก็แค่ทำตามหน้าที่เซ็นเซอร์หนังไป และก็มีผู้ร่วมงานสงสัยว่าฟ้องกรรมการเซ็นเซอร์ได้ไหมในการกระทำของเซ็นเซอร์? เพราะถือว่าละเมิดสิทธิในการได้ดูหนังของคนดู ก็มีคำตอบออกมาว่าต้องพิจารณาว่าได้ผลกระทบจากคำสั่งนั้นหรือเปล่า ผลกระทบอย่างเช่นการอดดู แต่ตอนนี้รัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่มีกฎหมายที่จะใช้อ้างเพื่อฟ้องได้ (ต้องรอให้รัฐธรรมนูญเสร็จ) และความเป็นไปได้ของกฎหมายใหม่ที่กำลังรอคลอด หลายช่วงที่ดูเหมือนคุณลัดดาจะคิดต่างกับหลายๆ คนอย่างเช่นคุณอภิชาติพงศ์ค่อนข้างมาก และเธอก็เชื่อว่าควรมีการตรวจสอบบ้างไม่ควรปล่อยให้มีเสรีภาพแบบเสรีจริงๆ เหมือนอย่างที่คนทำหนังหวังว่าจะมีได้ แต่คุณลัดดาเองก็บอกว่าเธอพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นเพื่อหวังว่าจะสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้

และยังมีการโต้เถียงกันถึงสิทธิของประชาชนที่ควรจะมีโอกาสได้แสดงความเห็นต่อการกระทำของรัฐ อย่างเช่นกฎหมายเซ็นเซอร์และการตั้งคณะกรรมการ ผู้ร่วมงานบางคนแสดงความไม่พอใจเล็กๆ เพราะเขารู้สึกว่ารัฐชอบคิดแทนพลเมือง และไม่ทำให้คนไทยเกิดความเจริญทางปัญญา นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ //freethaicinema.blogspot.com ครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++
แถลงข่าวการประกวด “Kids Story Short Film Contest”

บางครั้ง พลังจากคนตัวเล็กๆ เมื่อนำหลายๆ คนมารวมกัน ก็สามารถกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ มูลนิธิกระจกเงาเองคงจะมองเห็นเช่นนั้น จึงได้จัดเวิร์คชอป “เด็กทำสื่อ” อยู่หลายครั้ง และล่าสุด เป็นตัวตั้งตัวตีจัดการประกวดหนังสั้น Kids Story Short Film Contest เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ อายุระหว่าง 13-25 ปี ได้มีโอกาสแสดงทัศนคติ สะท้อนมุมมองต่อโลกผ่านสายตาของพวกเขา โดยทางมูลนิธิกระจกเงา ได้จัดการแถลงข่าวขึ้นที่โรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ อนุเสาวรีย์ฯ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีคุณทราย เจริญปุระ เป็นพิธีกร

ในงานเริ่มโดยการสัมภาษณ์คุณสมบัติ บุญงามอนันต์ ประธานมูลนิธิกระจกเงา,คุณเข็มพร วิรุณราพันธ์ ตัวแทนจาก สสส. และคุณมนาเทศ อันนวัฒน์ ตัวแทนของซัมซุง ถึงแนวคิดในการจัดงาน โดยต่างเห็นกันว่าสื่อควรจะเป็นเครื่องมือในการนำเสนอปัญหาของเยาวชน และการประกวดนี้ก็จะสนับสนุนให้เด็กๆ กล้าแสดงออก ได้กล้าทำในสิ่งที่พวกเขาฝัน

ต่อจากนั้น ผู้กำกับหนังสั้นจำนวนหนึ่งนำโดย โดนัท มนัสนันท์ ดาราที่สนใจทำหนังสั้น ก็ออกมาเล่าประสบการณ์และต้นเหตุที่แต่ล่ะคนต่างลงมือทำหนังสั้น ทั้งหมดต่างมองเห็นว่าหนังสั้นเป็นเครื่องมือที่ดีในการที่จะสื่อถึงสิ่งที่คิดเอาไว้ข้างในถ่ายทอดออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ รวมไปถึงได้ความสนุกสนานเพลิดเพลินด้วย

การประกวดเปิดรับสองระดับ 1.มัธยมศึกษา อายุไม่เกิน 18 ปี 2.อุดมศึกษา อายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งสองระดับมีเงินรางวัล 3 หมื่นบาทและกล้องวีดีโอจากซัมซุงรออยู่ โดยทั้งสองระดับต้องสมัครและอัพโหลดหนังลงในเว๊ป //www.kidsstory.org ซึ่งสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน จนถึง 30 กรกฎาคม 2550 ผลงานจะต้องทำขึ้นตามหัวข้อการประกวด kids eye view คือการสะท้อนมุมมองต่อโลกใบนี้อย่างสร้างสรรค์ ความยาวไม่เกิน 10 นาที ใครที่สนใจก็ลงมือทำกันเลยนะครับ

Create Date : 31 พฤษภาคม 2550

Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 11:54:45 น.

0 comments

Counter : 1095 Pageviews.