Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
7 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

เบื้องหลังการทำข่าวของนักข่าว(สมัครเล่น)

ผมได้มีโอกาสเป็นนักข่าวให้เว๊ป thaicinema.org ด้วย ผมได้เข้าไปเป็นนักข่าวสมัครเล่นเพราะทางคุณอัญชลี เจ้าของเว๊ปเขาต้องการคนเข้าไปช่วยหาข่าวให้ ผมซึ่งเป็นแฟนประจำของเว๊ปนี้อยู่แล้วและอยากร่วมงานกับเว๊ปนี้มานาน เมื่อเห็นช่องทางจึงสมัครเข้าไปทันทีไม่รีรอ ทางคุณอัญชลีก็เปิดโอกาสให้ผมได้เข้าไปเขียน และทำให้ผมได้เริ่มทำอะไรที่ผมไม่เคยทำมาก่อนนั้นก็คือการเป็นนักข่าว


(รูปนี้มาจากงานฉายหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติ "แด่พระผู้ทรงธรรม" รอบสื่อมวลชนนะครับ มีนายกรัฐมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์มาเป็นประธานในพิธี)

แต่เอาเข้าจริงๆ จะว่าไม่เคยทำก็ไม่ถูก เพราะสำหรับไทยชอร์ตฟิล์ม ผมก็จะคอยหาข่าวเขียนข่าวต่างๆ นานาอยู่เนื่องๆ แต่ไม่ได้ใช้ศาสตร์ของการทำข่าวจริงๆ เลย ก่อนทำข่าวให้ไทยซีเนม่า ผมก็อาศัยถ้าจะเขียนเล่าเรื่องต่างๆ ในเว๊ป thaishortfilm.com เช่น การไปขายหนังสั้นที่แฟตเฟสติวัล ผมก็จะอาศัยจำๆ แล้วเอามาเรียบเรียง หรือถ้าเป็นข่าวการประกวดหนังสั้นต่างๆ ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน หรือถ้าจะเล่าเรื่องอะไร เช่น ไปค่ายปูนซีเมนต์ ก็เป็นในเชิงเรื่องเล่าที่เล่าไปเรื่อยๆ ตามความทรงจำชองเรา คือไม่ได้เน้นรายละเอียดอะไรเท่าไหร่ ไม่ได้เตรียมตัวเพื่อไปทำข่าวโดยเฉพาะ

แต่เมื่อต้องมาทำข่าวแบบเป็นเรื่องเป็นราว ทุกอย่างก็ต้องคิดมากขึ้น สมมุติจะต้องไปทำข่าวอะไรก็แล้วแต่ มักจะเริ่มจาก 1.ทางคุณอัญชลีให้ไปทำ 2. ผมคิดว่ามีอะไรน่าสนใจก็เสนอไป ก็ต้องจดว่าไปทำข่าววันไหนเมื่อไหร่ที่ไหน และต้องเตรียมเครื่องบันทึกเสียงเพื่อไปบันทึกเสียงผู้ถูกสัมภาษณ์ ต้องเตรียมการว่าถ้าไปทำข่าวๆ นี้ ใครที่เกี่ยวข้องกับข่าวไปร่วมงานบ้าง



เช่น ตอนไปทำข่าวแถลงข่าวหนังเรื่อง “กอด” (รูปนี้แหละ) ก็ต้องคิดว่าจะไปสัมภาษณ์ใคร ไปสัมภาษณ์เรื่องอะไรบ้าง กรณีนี้คือคุณคงเดชที่เป็นผู้กำกับ ส่วนเรื่องที่ถามก็จะเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจทำหนังเรื่องนี้ คำถามที่คิดจะต้องเป็นสิ่งที่นำไปสู่คำตอบที่เราต้องการ และเมื่อต้องสัมภาษณ์แหล่งข่าว ก็อาจจะมีสื่ออื่นๆ มาร่วมสัมภาษณ์ด้วย เขาก็จะมีคำถามของเขา เราก็มีคำถามของเรา เราต้องพยายามถามคำถามของเราให้ได้ โดยต้องหาโอกาสแทรกคำถามของเราเข้าไป อ๋อ เมื่อต้องเขียนข่าว ระหว่างการใส่ความคิดเห็นส่วนตัวของตัวคนเขียนเข้าไปนะครับ จะใส่ก็ได้ครับถ้ามันไม่เยอะเกินไป แต่ก็ต้องใส่ความคิดเห็นคนอื่นด้วย เพราะมันจะไม่ใช่ข่าวครับ ข่าวคือข้อเท็จจริงเป็นหลักครับ และสำหรับผม ผมคิดว่าข้อเท็จจริงควรจะมีรอบด้าน



ผมได้ทำบทสัมภาษณ์บุคคลด้วยนะครับ ในขณะที่ข่าวเป็นเรื่องของ “ใคร อะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่” บทสัมภาษณ์จะเป็นแค่ “ใคร” มากกว่า ส่วนนี้จะเป็นเรื่องยากกว่าเพราะมันมีเรื่องของการติดต่อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มันก็จะเริ่มจากเรามีข้อมูลอะไรบ้างแก่คนที่เราต้องไปสัมภาษณ์ หรือคนที่เราอยากสัมภาษณ์ (และเสนอไปยัง บก.แล้วผ่าน) และจะต้องทำการติดต่อเขา บางคนอาจจะยากนิดนึง หากเขาเป็นคนที่งานยุ่งและมีชื่อเสียงมากกว่าคนทั่วๆ ไป ก่อนจะไปสัมภาษณ์เขาเราก็ควรจะเตรียมคำถามให้ดี ต้องรู้ว่าควรจะถามอะไรบ้างเพื่อทำให้บทสัมภาษณ์นำเสนอเรื่องในแนวทางที่เราต้องการ การสัมภาษณ์จะซักถามผู้ถูกสัมภาษณ์ง่ายกว่าทำข่าว เพราะมีเราเป็นเพียงสื่อเดียวที่ทำการสัมภาษณ์ และเราก็จะมีเวลาพอสมควรในการถาม ทำให้สามารถถามด้วยความสบายๆ กว่า เราอาจจะไม่ต้องถามเรียงลำดับคำถามก็ได้นะครับ แต่เมื่อนำมาเรียบเรียงเพื่อนำเสนอสู่สาธารณะ เราก็จะต้องเรียบเรียงให้เป็นเรื่องราว ให้คำถามแต่ล่ะคำถามอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน การอ่านบทสัมภาษณ์จะได้เป็นไปอย่างลื่นไหล อ๋อ ถ้าคุณสัมภาษณ์ใครสักคนลงเว๊ปไซต์ (แบบเป็นบทความ) ก็ไม่ควรจะให้ยาวเกินไปนักนะครับ เพราะมีแนวโน้มว่าหลายๆ คนอาจจะไม่อ่านกัน



ผมคิดว่าการเป็นนักข่าวนี่เป็นเรื่องที่สนุกดีนะครับ และผมก็ตั้งใจว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้แต่หวังว่าจะยังคงมีคนอ่านข่าวของผมไปเรื่อยๆ นะครับ




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2550
1 comments
Last Update : 7 ตุลาคม 2550 22:42:28 น.
Counter : 1111 Pageviews.

 

มาลงชื่อ ในฐานะ คนอ่าน

 

โดย: merveillesxx 13 ตุลาคม 2550 3:28:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


hotcoffee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมนิสัยดีครับ
Friends' blogs
[Add hotcoffee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.