My first death
"Nobody'll die on my shift"

เป็นประโยคที่แม่พูดบ่อยๆ คนไข้ของแม่ไม่เคยตายในกะของแม่

ถ้าแม่ไม่ส่งไป ICU ก่อน ก็ตายกันทีหลังจากกะแม่หมด

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม แม่เข้ากะตามเวลาปกติ หนึ่งทุ่มตรง

แม่ไปก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงกว่าๆเหมือนเคย

วันนี้แม่ทำกับ Chris, Pat ส่วน Eryn, Sarah, Ryan ส่วน CJ in charge

แพทกับคริสนั้นเป็นพยาบาลมากันนานแล้ว ทำให้แม่สบายใจไปอีกเปลาะหนึ่ง

แม่ได้รับช่วงต่อจาก Lucy Day shift ซึ่งเป็นพยาบาลจากเอเจนซี่ไม่ใช่พยาบาลของโรงพยาบาล

ลูซี่ report off หลังจากฟังรีพอร์เสร็จ แม่กุมขมับ

คนไข้คนนึงของแม่ ออตโต้ เบคเกอร์ คือชื่อของเค้า

ออตโต้อายุ 88 ปี health history ของออตโต้ยาวเหยียด

ออตโต้อยู่โรงพยาบาลเพราะ aspiration pneumonia หรือปอดบวมเพราะสำลักอาหารไปที่ปอด

ก่อนที่จะเป็น aspiration pneumonia ออตโต้เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะ hip fracture

ให้เรื่องมัน complicate ไปมากกว่านั้น ออตโต้เป็น เบาหวาน เป็นคนไข้ล้างไต

แต่เป็นการล้างไตแบบทางท้องไม่ใช่ทางเลือด

ภรรยาของออตโต้และออตโต้ refuse ที่จะทำการล้างไตแบบทางเลือด

จริงๆแล้วออตโต้ต้องการจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ พูดง่ายๆคือไปรอการตายที่บ้านนั่นเอง

แต่หมอที่ดูแลออตโต้ ไม่ให้ออตโต้ไปถ้าไม่รับ hospice หรือมีการดูแลโดยพยาบาลที่บ้าน

ถ้าออตโต้จะออกวันนี้คือต้องออกค่ารถพยาบาลกลับบ้านเอง คงหลายร้อยเหรียญ

สรุปง่ายๆคือ ออตโต้ติดอยู่ที่โรงพยาบาลคืนนี้หนึ่งคืน แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะออกจากโรงพยาบาล

หลังแม่รับเปลี่ยนกะ แม่ก็เข้าไปดูออตโต้ ตอนแม่เข้าไปภรรยาของออตโต้กำลังช่วยออตโต้ขึ้นมานั่ง

แม่เห็นออตโต้แล้ว แม่ก็ส่ายหัว เพราะถ้าฟังเสียงปอดของออตโต้แล้วเหมือนกับมันมีแต่น้ำเต็มไปหมด

พูดง่ายๆเหมือนกับจมน้ำอยู่ในตัวของเค้าเอง

ออตโต้บอกว่าเจ็บไปทั้วตัว ทำอย่างไรก็ไม่สบายตัว นั่ง นอน

ตอนแรกออตโต้บอกเจ็บออกปวดหัวใจ แม่จะเอา ไนโตรกลิเซอริน ซึ่งเป็นยาสับหรับช่วยการปวดหัวใจ

เพราะยาตัวนี้จะช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้หายปวด

แต่ออตโต้ refuse

แม่เลย offer ยาแก้ปวดแบบเม็ดให้

แต่ภรรยาของออตโต้ refuse บอกว่า "he goes crazy with pain medications"

สุดท้ายตกลงกันได้ที่ไทลินอลไปก่อน

แม่คอยดูออตโต้อยู่ แต่ก็ไปดูคนไข้คนอื่นก่อน

สามทุ่มแม่กลับมาเช็คน้ำตาลในเลือดของออตโต้ 380 ค่อนข้างสูง แต่ภรรยาออตโต้ refuse insulin

สี่ทุ่มครึ่งภรรยาออตโต้บอกว่า ขอยาแก้ปวดอย่างอื่นได้ไหม

แม่ถามออตโต้ ให้ออตโต้เลือกระหว่างแบบเม็ด หรือแบบเข้าเส้นเลือด

ออตโต้เลือกแบบเข้าเส้นเลือด แม่โทรหาหมอที่ดูแลออตโต้ หมอสั่ง มอร์ฟีนมา

แม่ต้องรออีกเพราะ ต้องเริ่ม IV ใหม่

ห้าทุ่มกว่าแม่ฉีดยาให้ออตโต้ทางเส้นเลือด แล้วภรรยาของออตโต้ก็ปิดประตูเพื่อทำการล้างไต

หกทุ่มยิ่สิบภรรยาออตโต้ออกมาบอกให้แม่เข้าไปดูออตโต้

แม่เข้าไปดู ออตโต้หายใจแผ่วๆ หรือที่เค้าเรียก agonal breathing เป็นการหายใจของคนที่ใกล้เสียชีวิต

แม่ลองจับ pulse ดู ฟังเสียงหัวใจ ตรวจความดัน หาอะไรไม่เจอสักอย่าง

ใจแม่อยู่ที่ตาตุ่ม ภรรยาของออตโต้เริ่มร้องให้

ออตโต้สินใจซะแล้ว เราไม่ต้องเรียก code blue เหมือนคนที่จะเสียชีวิตทั่วไปเพราะออตโต้ เป็น DNR

หรือ do not resucitate

ในเคสนี้ คริสกับแพทเนื่องจากทำกับแม่เลยเข้ามาช่วยดู

แพทเห็นสภาพในห้องแล้วบอกว่า "He is gone"

ตัวของออตโต้ยังอุ่นๆอยู่ แม่รีบวิ่งไปดูที่ cariac monitor

(วอร์ดแม่มีมอนิเตอร์ควบคุมระบบหัวใจของคนไข้ทุกคน)

เนื่องจากออตโต้มี pacemaker มอนิเตอร์เลยไม่ alarm

แม่รีบวิ่งไปหา eryn อีกฝั่งนึง เพื่อยืนยัน eryn กำลังกินข้าวอยู่เลย

แม่รีบกวักไม้กวักมือบอกว่า มาช่วยดูคนไข้แม่หน่อย สงสัยว่าจะตายแล้ว Eryn ทำหน้าเหวอ

สรุปทุกคนลงความเห็นว่า ออตโต้สิ้นใจ

ตอนนี้ภรรยาของออตโต้ ร้องให้โฮ

เธอบอกว่าเธอเผลอหลับไปนิดเดียว ตื่นมาออตโต้ก็ไม่ขยับซะแล้ว

เธอพร่ำโทษตัวเอง แม่ใจหาย ทำอะไรไม่ถูก

จะปลอบก็เดี๋ยวยิ่งทำให้เธอร้องให้ไปใหญ่

แม่เลือกที่จะให้ความเงียบเป็นคำตอบ

ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก

แม่โทรรายงานแพทย์เจ้าของไข้

คุณหมอบอกว่าให้เขียนรายงานให้คลอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่เริ่มกะ

ให้เขียนว่าออตโต้และภรรยา refuse treatment อะไรบ้าง

แม่รู้ว่ามันเป็นการปกป้องตัวแม่เองด้วย

ตอนนี้ปัญหามันก็ไม่น่ามีแล้วใช่ไหม ออตโต้ต้องการให้ร่างของเค้าโดนเผา เหมือนคนไทย

ปกติคนที่ฝังอย่างเดียว

แต่ มันไม่ง่ายอย่างงั้น

ออตโต้และภรรยาเพิ่งแต่งงานกันมาสิบหกปี

ออตโต้มีลูกกับภรรยาเก่า ซึ่งไม่กินเส้นกันอย่างแรงกับภรรยาใหม่ ขนาดไม่ยอมอยู่ในห้องเดียวกัน

แต่สิทธิ์ทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่กับภรรยาใหม่มากกว่า

ทางภรรยาใหม่ คนปัจจุบัน ต้องการเอาร่างออตโต้ไปเผา

แต่ลูกๆ ต้องการให้มีการพิสูจน์ศพ << อันนี้แม่ได้ยินมาตอนวันรุ่งขึ้นอีกวัน

ฟังแล้วยุ่งยากดัพิลึก

แม่ก็ได้แต่หวัง ว่าออตโต้ไปสบายแล้ว ไม่ต้องมานอนสะดุ้งว่า ภรรยาและลูกจะทะเลาะกันอย่างไรเมื่อเค้าตายไปแล้ว

มองกลับมา แม่อละพ่อคงต้องทำพินัยกรรมบอกทุกอย่างว่าเราต้องการอะไร

เพื่อที่จะไม่มีปัญหาเมื่อเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้น

ทุกอย่างมันไม่แน่นอน

เหมือนที่เค้าว่าไว

"ความแน่นอนมันคือความไม่แน่นอน"



หลับให้สบายนะออตโต้



Create Date : 12 มิถุนายน 2554
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 14:21:13 น.
Counter : 838 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

April_Gal
Location :
ปทุมธานี  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



มิถุนายน 2554

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
12 มิถุนายน 2554