1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
Jazz On The Road To New Year!
ขอมาแจ๊ส ออน เดอะ โรดปีใหม่ 2550 กันหน่อย เพราะเดี๋ยวจะต้องไปต่างจังหวัดแล้ว... จะออน เดอะ โรดหรือออน เดอะ ร็อกยังไงก็ติดตามอ่านได้ในบรรทัดถัดไปเลยทีเดียว!! จริงๆ แล้วก็ตั้งชื่อหัวข้อให้สวิงสวายแบบวัยรุ่นนั่นแหละ อิ๊ๆๆ ตามประสาคนที่เพิ่งจะย่างออกจากวัยเยาว์ Jazz On The Road ของพาคุณๆ เข้าสู่การย่างเท้าออกนอกบ้านด้วยอารมณ์แบบแจ๊สๆ กันหน่อย แจ๊สเก่าแจ๊สใหม่ไม่ต้องถือสาเน้อ เป็นรสนิยมโบราณๆ ของเราเองแหละ อิอิอิ แต่เดี๋ยวก่อน.... เอาเป็นว่าเราขอเอาอกเอาใจมวลชนที่ไร้ยานพาหนะเป็นของตัวเองอันเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศก็แล้วกัน! อรุณสวัสดิ์พระอาทิตย์ เอาล่ะ ก่อนจะออกจากบ้าน มันก็ต้องตื่นนอน อาบน้ำอาบท่าแต่งตัวกันก่อนที่จะทำกิจกรรมอื่น สำหรับอากาศแปรปรวนแบบนี้ เสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงยีนส์ซีดตัวเก่งท่าจะเวิร์กเป็นที่สุด เพราะนี่คือยามเช้าในสไตล์ของ เจมี คัลลัม ศิลปินแจ๊สลูกผสมแผ่น Catching Tales ฮ่ะๆๆ แหม ดูเหมือนว่า Photograh เพลงที่สามของอัลบัมนี้มีมีพลังด้นสดเปียโนที่ทำให้เช่าวันนี้มันเบิกบานอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ เลยล่ะ I Only Have Eyes For You สแตนดาร์ดแจ๊สที่ยืนยงคงกระพันมานาน แต่พ่อเจมีก็ล่อโปรแกรมมิงซะจนวิญญาณคนแต่งเพลงเกือบจะพุ่งออกจากโลง แต่เอาเถอะ เราว่ามันก็เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมข้ามรุ่นที่คนบางคนอาจจะไม่เข้าใจและไม่มีทางเข้าใจเลยก็เป็นได้ถ้าไม่ยอมเปิดใจ รูปแบบและการเล่นของเจมีทำให้เรารู้สึกสดชื่นในยามเช้า เช่นเดียวกับการฟังอัลบัมก่อนหน้านี้ของเขา Twentysomething ย่างเท้าออกจากบ้าน วันนี้ต้องเดินระวังหน่อยแฮะ เพราะใส่รองเท้าผ้าใบอะดิดาสสุดหรูซีรีส์ 35th Anniversary เป็น Music Series คว้ารุ่น Red Hot Chilli Peppers มาได้ (แหม น่าจะมีซิกเนเจอร์ศิลปินแจ๊สมั่งเนอะ ไอ้ที่มีก็เห็นแต่นาฬิกาโอริส รุ่นชาร์ลี ปาร์กเกอร์ ราคาแพงโคตร) แต่ก็กระเป๋าเกือบฉีกด้วยราคา 4,550 บาท เอื้อก... ใครมาเหยียบเท้าวันนี้มีเคืองแน่!
ขึ้นรถเมล์ครีมแดงสาย 97 ชีวิตเรายังดีที่ไม่ต้องสมัผัสรถร่วมฯ มากนักในแต่ละวัน ไม่งั้นได้เจอร่วมกตัญญูเข้าสักวันเป็นแน่แท้ เพราะพนักงานขับรถแต่ละท่านล้วนแต่ต่ำด้วยวิจารณญาณและวุฒภาวะทั้งสิ้น ถ้ายังไม่อยากเสียชีวิตก็ต้องเลือกรถนั่งกันหน่อย วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน ไอพ็อดตัวโปรดก็เลยได้เล่นเพลงจากอัลบัม Its Time ของไมเคิล บูเบล หนุ่มคนนี้ดูเหมือนว่าจะด้อยกว่าเจมีเล็กน้อยในแง่ของงานสร้างสรรค์ แต่ถ้าในเรื่องเสียงร้องละก็... ไม่แพ้กันเลยล่ะ เอาเถอะ ก็แนวทางแตกต่างกันอยู่แล้วนี่นา แค่เสื้อผ้าก็บอกยี่ห้อ เพราะหนุ่มบูเบลคนนี้เน้นการเจริญรอยตามคุณปู่แฟรงค์ สิเนตราอะไรทำนองนั้นมากกว่า ก็เลยโอเคอยู่ที่จะได้ฟังเพลงสวิงจากน้ำเสียงของชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าๆ มีเพลงหลายเพลงที่ทำให้การขึ้นรถเมล์เช้านี้มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว Quando, Quando, Quando เพลงน่ารักๆ เพลงนี้สอดไส้บอสซาโนวาเข้าไปหน่อยหนึ่ง แล้วก็เสียงของเนลลี เฟอร์ทาโด โอ้ว...ทำไปได้... น่ารักจริงน้อ (ในพันทิพกำลังระอุ หาว่าเอกสุระเชษฐ์เอาเพลงนี้มาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพลง "ฉันขอโทษ" โอ๊ววว งง) แล้วก็เพลง Home ที่หนุ่มบูเบลทำให้เราเกิดความรู้สึกอยากจะกลับบ้านนอนซะงั้น ด้วยท่อนกีตาร์โซโลหวานหูฝีมือของไบรอัน กรีนนี่เอง แต่ไม่ได้หรอก เพราะนี่ยังเช้าอยู่เลยนะ ทั้งเจมี คัลลัมและไมเคิล บูเบลจะทำให้เช้าที่ขมุกขมัวได้กลายเป็นวันที่สดใสไปโดยปริยาย... ในรูปแบบของแจ๊สของคนรุ่นใหม่ แดดเปรี้ยงเลี้ยงกาแฟ วันนี้ออกมาทำงานข้างนอก โอ้ย แดดร้อนเปรี้ยงราวกับดวงอาทิตย์เข้ามาจ่ออยู่ที่เหนือเส้นผมไม่กี่หุล... นึกว่าไมเคิล บูเลบและเจมี คัลลัมจะช่วยประคับประคองอารมณ์เราไปได้ทั้งวัน แต่ก็เปล่า เพราะอากาศที่ร้อนคลั่งแบบนี้ ทำให้เราต้องสาวเท้าและรองเท้าเรด ฮ็อตฯ คู่เก่งไปยังร้านกาแฟที่ใกล้ที่สุด!! ช่วงนี้เป็นช่วงต้นเดือน ยังไงก็ขอเยี่ยมเยือนสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟกระเป๋าตุงสักหนเหอะ ว่าแล้วก็เข้าไปข้างในสั่งกาแฟม็อคคา แฟรปปูชิโน อุ้ย...เสียงอะไร? กีตาร์หวานๆ กับงานเพลงแจ๊สลอยมากระทบเข้าหูอย่างจัง วันนี้มีเล่นดนตรีเหรอจ๊ะน้อง หันไปถามพนักงานขาย ค่ะพี่ วันนี้วันสุดท้ายแล้วค่ะ ตอบมาว่างั้น ก็เลยขอออน เดอะ โรดโดดงานซะงั้น ได้นั่งฟังเพลงจากวงดนตรีซึ่งเป็นคนไทย 3 ชีวิตนั่งเล่นกันอย่างเมามัน ร้านกาแฟเล็กๆ แบบนี้เหมาะเหม็งกับวงทริโอ หนุ่มเหน้าผมยาวสยายทั้งสามคนเล่นสแตนดาร์ดแจ๊สในรสชาติแบบที่คุณคุ้นลิ้นมานาน บทเพลง Fly Me To The Moon ที่เล่นกันมานับร้อยเวอร์ชัน แต่ด้วยการปรับเสียงกีตาร์ให้อ้วน หนา และนุ่มเหมือนขนมปังเพิ่งอบใหม่ๆ ทำให้เพลงนี้อบอุ่นน่าฟังเหมือนบรรยากาศร้านที่กำลังนั่งละเลียดอยู่ เออ...คิดไปคิดมา มันก็ตลกดีแฮะ ก็ในเมื่อรากของดนตรีแจ๊สมันเป็นของคนดำที่ถูกเหยียดสีผิวและหากินแบบคับแค้นเมื่อร้อยปีก่อน แต่ตอนนี้มันมาเชิดคออยู่ในร้านกาแฟราคาแก้วละร้อยบาท ช่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือไปเสียได้ วงดนตรีหนุ่ม 3 คนยังคงตั้งหน้าตั้งตาเล่นต่อไปตามสายตาที่อ้อนวอนของแฟนเพลงที่ส่งผ่านไปอย่างวาบหวาม (เอ๊ะ นั่นมันเรารึเปล่าวะเนี่ย???) ดูแล้วท่าทางจะยังเป็นนักศึกษาทั้งสามคนเลย หลังจากที่พวกเขาบรรเลงเพลงสแตนดาร์ดติดหูอย่าง They Cant Take That Away From Me พวกเขาเรียบเรียงแตกต่างออกไปหน่อยหนึ่งตรงที่ช้าลงจากเวอร์ชันต่างๆ ที่เคยได้ยิน ยิ่งเป็นเวอร์ชันที่เอลลา ฟิตซ์เจอรัลด์ฝากเสียงร้องเอาไว้แล้วล่ะก็ ทั้งงามและหวานนักแล แต่ด้วยฝีมือนักดนตรีหน้าละอ่อนทั้งสามคน เล่นได้เท่านี้เราก็ถือว่าความหวังเรืองรองในวงการดนตรีแจ๊สบ้านเราก็น่าจะดูดีขึ้นเยอะเลย ก่อนบ่าย...กาแฟปั่น เอ้ย ม็อคคาแฟรปปูชิโนหมดลงไปด้วยความอิ่มเอม ทั้งในรสชาติกาแฟและรสชาติแจ๊สในแบบไทยๆ ดูเหมือนว่าเจ้าหนุ่มที่เล่นกีตาร์จะกำลังเรียนกีตาร์อยู่กับโรงเรียนศุภการดนตรี ด้วยความมุ่งมั่นที่เขาอยากจะเป็นนักดนตรีแจ๊สอาชีพ ก็เลยมีการชักนำสู่การเล่นสดแบบนี้โดยเพื่อนๆ รุ่นพี่ ขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ที่กำลังต่อสู้เพื่อความฝันทุกๆ คน.... ส่วนตัวเราเองนั้น ความฝันของเราอยู่แค่เอื้อม ปี 2550 เราจะก้าวออกไปสู่ทางเดินอีกทางหนึ่งที่เราไม่เคยไป สายัณห์สวัสดิ์กรุงเทพฯ กาแฟแก้วนั้นหมด ก็รีบตั้งหน้าตั้งตากลับเข้าสู่ออฟฟิศทำงานประจำโดยด่วน แล้วคำว่าออฟฟิศก็หมายการเปิดเพลง ปาน ธนพร, เบิร์ด ธงไชย, คาราบาว, เกิร์ลี เบอร์รี แล้วก็อีกสารพัดบับเบิลกัมทั้งหลายแหล่ ดีไม่ดีเจอดอง บัง ชิง กิ, ชินวา, ตงฟางปุ๊ป้าย เฮ้ย ไม่ใช่ 555 หัวเราะร่าน้ำตาริน แต่ก็ยังคงมีแง่คิดที่ดีเสมอ เพราะมันถือเป็นการอัพเดทให้กับตัวเองเหมือนกัน วันๆ เราจะมานั่งคุยกันแต่เรื่องคอมปิง, เฟรสซิง แล้วก็ฟังแต่แซ็กโซโฟนได้อย่างไร ในเมื่อโลกยังมีมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ เพราะฉะนั้นต้องเปิดหูเปิดตารับรู้ข่าวสารด้านอื่นบ้าง (แก้ตัวที่ต้องฟังเกิร์ลี เบอร์รีเท่านั้นแหละ ฮิๆๆ) พอเลิกงานก็รีบเอาแผ่นแจ๊สที่เพิ่งซื้อมาวันนี้ยัดเข้ากระเป๋ากลับบ้าน วิก จูริสกับอัลบัม Second Look มือกีตาร์แจ๊สโพสต์บ็อปที่เราเพิ่งจะได้มีฟังผลงาน ถ้ามีโอกาสก็จะแนะนำต่อไป อะไรดีอะไรเด่นก็ต้องมาบอกต่อ รับรองว่าเยี่ยมแน่นอน แต่เรื่องหาซื้อนี่สงสัยต้องมาคุยกันอีกที เพราะไม่รู้จะหาซื้อในเมืองไทยได้รึเปล่า อิอิ แต่แล้วก็ไม่ได้กลับบ้านแล้วสิ เพราะว่าเพื่อนตัวแสบชวนไปออน เดอะ โรดอีกแล้ว เออ แต่ก็ดีเพราะมันชวนไปออน เดอะ โรดแถวร้านแซ็กโซโฟน ย่านอนุสาวรีย์ อ๊ะ ถ้าอายุไม่ถึง 18 ปีห้ามอ่านตอนนี้นะจ๊ะ เพราะเดี๋ยวถ้าอยากเข้าไป ก็จะเข้าไปไม่ได้แหละ เป็นความโชคดีของเราจริงจริ๊ง เพราะว่าวงดนตรีที่เล่นในวันนั้นเป็นวงดนตรีแจ๊สด้วย!! แหม เดี๋ยวนี้แจ๊สเราชักอู้ฟู่ อะไรๆ ก็แจ๊สไปโม้ด แหม สงสัยต้องทิ้งลุงวิกไว้ในกระเป๋าไว้ชั่วคราวก่อนแล้วสิเนี่ย เอาเถอะ ยังไงเราได้เจอกันแน่!! ร้านแซ็กโซโฟนในตอนเย็นแลดูเงียบเหงาเล็กน้อย แต่ว่าก็เข้าไปนั่งก่อนที่นักดนตรีช่วงหัวค่ำจะมาเล่นประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเอง เป็นวงเด็กหนุ่มๆ อา...วันนี้ท่าทางชะตาจะดี เจอแต่เด็กหนุ่มๆ ทั้งวันเลย ดนตรีแบบสวิงบิ๊กแบนด์ดูเหมือนจะเข้ากับช่วงหัวค่ำไม่น้อย Take The A Train ที่หนุ่มน้อยพวกนี้เล่นกันก็ทำให้วิญญาณแจ๊สแบบนักเริ่มฟังตื่นตัวขึ้นมาได้หน่อยแล้ว ที่พลาดไม่ได้คือเพลง Moonlight Serenade ของเกล็น มิลเลอร์ การดูวงบิ๊กแบนด์ให้สนุกต้องขึ้นอยู่กับนักดนตรีด้วย ถ้ามีการจัดท่าเวลาแสดง ก็จะออกรสออกชาติไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วการรอคอยก็สิ้นสุดเมื่อวงดนตรีที่รอคอยได้เข้ามาประจำที่เสียที ไม่รู้ว่าวงนี้ชื่ออะไร รู้แต่ว่าเล่นได้เด็ดดวงมาก ไม่แน่ใจว่าจะใช่วงแม้นศรีหรือเปล่า เพราะมีสมาชิกแปลกหน้าเข้ามาด้วย วงแม้นศรีเป็นการรวมตัวของอาจารย์ภาควิชาดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 4 คน แต่ละคนเท่ๆ ทั้งนั้น และขอตรงเข้าไฮไลต์เด็ดของการเล่นในคืนนั้นในเพลง Confirmation อะโหย... เพลงนี้เป็นของชาร์ลี ปาร์กเกอร์ บิดาแห่งบีบ็อป ซึ่งมือแซ็กโซโฟนในวันนั้นเล่นถ่ายทอดออกมาได้ตรงเป๊ะ แถมด้วยการด้นสดในแบบของเขาเองที่เป่าได้เด็ดดวงเสียจนปอดแทบจะหลุดออกมาก็ไม่ปาน ยิ่งมาได้ฟังเพลง Oh Yes (ดั้งเดิมของรอย ไอเยอร์ส) ก็ให้มั่นใจว่าคงจะได้กลับมาเยี่ยมเยียนแซ็กโซโฟน ผับในอีกไม่ช้าไม่นานแน่นอน แต่ตอนนี้ต้องขอลาสายัณห์สวัสดิ์ Jazz Day On The Road แต่เพียงเท่านี้ Jazz On The Road Album Jamie Cullum / Catching Tales Michael Buble / Its TimeSong Fly Me To The Moon / Grant Green They Cant Take That Away From Me Take The A Train / Duke Ellington Moonlight Serenade / Glenn Miller Confirmation / Charlie Parker Oh Yes / Roy Ayers ขอให้ทุกๆ คนมีความสุขมากๆ ในวันนี้และวันต่อๆ ไป ใช้ชีวิตด้วยความมีสติในทุกขณะ Animations provided by MySpaceGraphicsandAnimations.com
Create Date : 15 ธันวาคม 2549
6 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2549 22:55:20 น.
Counter : 1338 Pageviews.
โดย: nunaggie 31 ธันวาคม 2549 22:58:00 น.
โดย: vodca 5 มกราคม 2550 11:06:37 น.
โดย: nunaggie 14 มกราคม 2550 20:00:40 น.
Location :
City of Angels, Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
คุยเฉพาะเรื่องเพลง :D "I still find each day too short for all the thoughts I want to think, all the walks I want to take, all the books I want to read, and all the friends I want to see." John Burroughs Follow my twitter @nunaggie :) "มีเรื่องราวอีกมากมายให้ชีวิตต้องเดินทางไปค้นหา เราคงไม่ค้นพบทุกอย่างได้ เพียงแค่ชั่วชีวิตเดียว"
© Supada Luangsirimongkol 2015.
The following text will not be seen after you upload your website,
please keep it in order to retain your counter functionality
Free Trackers Help
แต่ก็เอาเถอะ ขอให้ประเทศชาติปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า ...หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น เรื่องร้ายๆ ขอให้หมดๆ ไปซะที เฮ้อ....