"แจ๊ส....ฉัน"
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
20 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 

Dome Project อีกหนึ่งความพยายามของคนแจ๊สสายพันธุ์ไทย



“นี่ ได้ฟังเพลงไทยบ้างหรือเปล่า?” เสียงถามไถ่ของเพื่อนฝูงที่นานๆ จะเจอกันสักที ส่วนเรานั้นได้ชื่อมานานแล้วว่าไม่ค่อยรู้จักเพลงไทย แต่เคยเหยียบย่างไปเมืองนอกกับเขาบ้างหรือก็เปล่า!

“อ่า เอ่อ ก็พอจะได้ฟังบ้างจากที่น้องๆ ในออฟฟิศเปิดให้ฟังน่ะ” พอจะกล้อมแกล้มไปได้บ้าง แต่ก็เอ้ออ้าไปพลาง น่าอายจริงๆ ถึงแม้จะอยู่กรุงเทพ อยู่ประเทศไทยก็เถอะ แต่จะว่าไปแล้วมีโอกาสฟังเพลงไทยน้อยกว่าเพลงสากลเสียอีก

แหม....ก็เวลามีอยู่แค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น นั่นคือข้อแก้ตัวที่ใช้อยู่เป็นประจำ...

แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าถึงการขยายตัวของดนตรีแจ๊สในบ้านเรา จากที่อยู่ในกลุ่มคนที่ฟังเครื่องเสียงระดับไฮเอ็นด์ ตอนนี้ก็กลับกลายมาเป็นกลุ่มนักศึกษา แต่น่าเสียดายที่บ้านเรายังไม่มีนโยบายอะไรมารองรับการให้การความรู้กับเด็กๆ และเยาวชนในเรื่องนี้ เมื่อไม่มีห้องสมุดทางดนตรีที่เหมาะสมให้กับพวกเขา แผ่นผีซีดีเถื่อน แม้กระทั่งบิตทอร์เรนต์ก็จึงกลายมาเป็นทางเลือกที่น่าพิสมัยมากที่สุด

คงได้แต่เสียดายกลุ่มตลาดที่ควรจะเติบโตได้มากกว่านี้ กลับกลายเป็นชะลอตัวช้าลงเพราะเรื่องของราคาซอฟต์แวร์ในบ้านเรา ที่บางครั้งยัง “โอเวอร์” ไปหน่อย

ในขณะที่ตลาดเพลงแจ๊สสากลแข่งขันกันอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย หากแต่แจ๊สสายพันธุ์ไทยก็มิได้ละเลยที่จะขยับขยายพื้นที่ของตัวเองให้กว้างขวางมากกว่าทีเป็นอยู่ ทุกๆ ปีที่มีการจัดงานเทศกาลดนตรีแจ๊ส ถ้าใครได้ไปร่วมงานอยู่บ่อยๆ ก็จะสังเกตเห็นถึงจำนวนผู้ชมที่ไม่น้อยเลยในแต่ละครั้ง ถึงแม้ว่าราคาบัตรอาจจะแพงในบางครั้ง นั่นก็แทบจะไม่ใช่ปัญหาหากเทียบกับมูลค่าทางชื่อเสียงของนักดนตรีที่มาร่วมเล่นในเทศกาล ถึงแม้ว่าจะยังมีเสียงติจากผู้ชมถึงผู้จัด แต่ก็ยังถือว่าเป็นกิจกรรมต่อเนื่องที่จะนำไปสู่การเปิดโสตประสาทของคนฟังได้มากยิ่งขึ้น

อะไรคือ โดม โปรเจ็กต์?

โดม หโยดม พูดถึงชื่อนี้แล้ว บางคนอาจจะไม่รู้จักก็เป็นได้ หากแต่เขานี่แหละคือ มือเบสสายแจ๊สอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หลังจากจบการศึกษา โดม หโยดมก็เริ่มเล่นอาชีพเต็มตัวกับ อาจารย์สมเจตน์ (ปรมาจารย์และผู้บุกเบิกแจ๊สกีตาร์ในเมืองไทย ปัจจุบันท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว) หลังจากนั้นได้ร่วมงานกับผดุง ขำเลิศกุล แนวทางส่วนใหญ่จะเป็นแนว Standard Jazz โดมอยู่ในแวดวงแจ๊สมากว่า 15 ปี จนกระทั่งต่อมาได้มาร่วมงานกับ อาจารย์อานนท์ ศิริสัมบัติวัฒนา ที่ผับดนตรีแจ๊สของเมือไทยอย่าง แซ็กโซโฟน ปัจจุบัน โดมมีหน้าที่หลักคือ การเป็นอาจารย์ประจำในสาขาดนตรีแจ๊ส ณ คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ดูเหมือนว่าเหล่าคณาจารย์จากศิลปากรกลุ่มนี้จะเป็นความหวังใหม่อีกความหวังหนึ่งที่ทำให้คอแจ๊สอย่างเราๆ ท่านๆ ชุ่มชื่นขึ้นมาอีกหน่อย เพราะมีกิจกรรมการเล่นโชว์อย่างเป็นกิจลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นแคมปัสทัวร์ในนาม “แจ๊สเหอะ” ซึ่งมีมาแล้วถึง 4 ครั้ง, Unseen Jazz Free Concert เพื่อของสมาคมดนตรีเพื่อคนตาบอด, Classic Meets Jazz ทั้ง 3 ครั้ง รวมไปถึงเทศกาลดนตรีแจ๊สทั้งที่กรุงเทพและหัวหิน ในบรรดากิจกรรมเหล่านี้ ดูเหมือนว่าการเล่นดนตรีในนามวงแม้นศรี ดูจะเด่นสะดุดตาเป็นที่สุด เนื่องจากนักดนตรีหลักๆ ของทางวง ล้วนแล้วแต่เป็นมีฝีมือในระดับมืออาชีพทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโดมเอง พิสุทธิ์ ประทีประเสน (แซ็กโซโฟน), ชนุตร์ เตชะธนะนันท์ (กลอง) อีกทั้งพลวิทย์ โอภาพันธุ์ (แซ็กโซโฟน) ซึ่งคนหลังนี้มีลีลาการเป่าที่ดุเด็ดเผ็ดมันทีเดียว

แม้กระนั้นโดมก็ยังเคยปรารภไว้เล่นๆ ว่า

"แรก ๆ เราก็รู้สึกว่านี่มันตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือเปล่า มันเหนื่อยจริง ๆ แล้วไม่รู้ว่าเสียงตอบรับจะเป็นยังไง บางที่โอเค บางที่ไม่โอเค ก็ยังตรากตรำทำ ในที่สุด วันนี้ทุกครั้งที่เล่นเสร็จ จะมีเด็กมาถามว่า 'ผมอยากรู้ว่าแจ๊สเป็นยังไง' เราก็ชื่นใจแล้ว มันเป็นการหาพวกเป็นการโยงเครือข่ายถึงกันได้" (จากหนังสือ a day ปี่ที่ 6 ฉบับที่ 68 ประจำเดือนเมษายน 2549)

อีกกิจกรรมหนึ่งที่เพ่งิจัดขึ้นมาเป็นครั้งแรกและถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงก็คือ การประกวด Thailand Jazz Competition ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบางสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งงานนี้เป็นแหล่งรวมนักดนตรีแจ๊สจากหลากหลายภูมิลำเนาเข้าร่วมการแข่งขัน นับเป็นการชุมนุมชาวแจ๊สครั้งใหญ่เลยทีเดียว
โดม หโยดม ออกอัลบั้มชุดแรกในนามวง "นักเพลง" ซึ่งยังคงปักหลักที่แนวโซล ฟังกี และเป็นหนึ่งในนักดนตรีแบ็กอัพของวงสุเมธ แอนด์ เดอะปั๋ง เล่นในทุกอัลบั้มที่ผานมา และนี่คือผลงานเพลงชุดที่สองของเขาเองในฐานะโปรดิวเซอร์ที่ดูแลการผลิตทั้งหมดของโดม โปรเจ็กต์ ภายใต้สังกัดดูซ์ เร็คคอร์ดส จริงๆ แล้วค่ายดนตรีดูซ์ได้ผลิตผลงานของคนดนตรีกลุ่มนี้มาแล้วในนามของภากร รัตนาพต หรือคุณอาจจะเคยเห็นอัลบัม Flower+Love ที่มีเพลงคุ้นหูอย่าง ความคิดถึงฉันคือดาว ซึ่งมีเพื่อนๆ คณาจารย์จากศิลปากรอย่าง นุ วุฒิวิชัย เล่นเปียโนให้ด้วย ซึ่งนุเองก็เป็นหนึ่งในนักเปียโนเลือดใหม่ที่มีอนาคตไกลทีเดียว อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหารหลักสูตรดนตรีแจ๊ส คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

หากว่าใครได้ฟังโปรเจ็กต์แรกแล้ว เชื่อว่า โดม โปรเจ็กต์ น่าจะเป็นอีกผลงานหนึ่งที่ควรจะติดตามต่อไป

Dome Project : Chutima Kaewneam

โปรเจ็กต์ที่สองของค่ายดูซ์เป็นของโดม หโยดม ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลายๆ อย่างของอัลบัมนี้ จริงๆ แล้วอัลบัมนี้ชื่อว่าอะไรก็ยังเรียกไม่ถูก เพราะมีแต่ชื่อบุคคลทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นโดม โปรเจ็กต์หรือชุติมา แก้วเนียม คงจะเป็นความตั้งใจของเจ้าของโปรเจ็กต์มากกว่าที่จะเน้นให้ความสำคัญต่อเจ้าของผลงานมากกว่าชื่ออัลบัม

ถึงแม้ว่าในการแสดงดนตรีตามสถานที่ต่างๆ ของโดมและเพื่อนๆ ร่วมวงของเขาจะเป็นการแสดงดนตรีแจ๊สในแบบเข้มข้นที่คอแจ๊สจะต้องหวนคิดถึงนักดนตรีแจ๊สตำนานอย่าง จอห์น โคลเทรน, ชาร์ลี พาร์เกอร์ และอีกมากมายขึ้นอยู่กับความมากน้อยในการเปิดรับข้อมูลทางดนตรีของแต่ละคน แต่ในทางกลับกัน เมื่อมาเป็นโปรเจ็กต์ที่ต้องขายตลาดกลุ่มใหญ่ในสังกัดดูซ์ ภาคดนตรีของกลุ่มคนดนตรีกลุ่มนี้ก็ “ต้อง” เริ่มที่จะเปลี่ยนไป ไม่ใช่อุดมการณ์ที่เปลี่ยนไป หากแต่เป็นตลาดเพลงต่างหากที่ทางโดม โปรเจ็กต์จะต้องดูแลให้ทั่วถึง

ด้วยเหตุนั้น...ดนตรีของโดม โปรเจ็กต์จึงออกมาในแนวทางของป็อป แจ๊สที่มีกลิ่นอายของดนตรีป็อปตลบอบอวลอยู่ทั่วไป แต่ก็ยังเติมแต่งสีสันของดนตรีป็อปเพื่อเป็นลวดลายในวงล้อมและโครงสร้างของดนตรีแจ๊สมากกว่าที่จะเป็นในสิ่งต่างๆ ที่เขาเคยแสดงออก

เอ.... อย่างนี้ไม่แน่ใจว่าแฟนเพลงที่ติดตามการโชว์หลายๆ ครั้งของโดมจะรู้สึกผิดหวังหรือเปล่า? แต่ส่วนตัวคงต้องบอกว่ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะว่าในเมื่อมีกลุ่มแฟนเพลงที่ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทั่วไปทั้งมือใหม่มือเก่าที่พร้อมจะสนับสนุนเพลงไทย หรือกลุ่มนักศึกษาที่เริ่มติดตามดนตรีแจ๊สจากแคมปัสทัวร์ต่างๆ อันหมายถึงติดตามในสิ่งที่พวกเขา “เป็นอยู่” นั่นเอง

หากเป็นเช่นนี้ก็หมายถึงว่า แฟนเพลงที่ติดตามโดมอาจจะต้องทำใจสักนิดหน่อย เพื่อที่จะให้โอกาสเขาในการแจ้งเกิดในกลุ่มคนฟังส่วนใหญ่ เหมือนกับที่แมว จีระศักดิ์ ปานพุ่มได้พิสูจน์ตัวเองในแนวทางร็อก เพื่อมาสู่แจ๊สที่ถนัดในยามที่ตัวเองมีชื่อเสียงติดลมบนแล้ว ซึ่งหากวงจรชีวิตทางดนตรีของนักดนตรีต้องเป็นอย่างนี้แล้ว เราอาจจะต้องยอมรับกับกลยุทธทางการตลาดที่ตอนนี้ล้อมรอบตัวเราอยู่ทุกอณูเสียแล้วกระมัง

โอ๋ ชุติมา แก้วเนียม เป็นนักร้องที่เติบโตมาจากการร้องเพลงประกวดตั้งแต่สมัยเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จนกระทั่งมาชนะเลิศรางวัลโค้ก มิวสิก อวอร์ดส ในภายหลังเธอจึงได้มีโอกาสแสดงความสามารถในการร้องเพลงให้กับกลุ่มดนตรีซิตี คอรัสและร้องประสานเสียงให้กับนักร้องดังๆ อย่าง โฟร์ท, เอิร์นและชรัส เฟื่องอารมย์ หากให้เทียบเคียงน้ำเสียงของโอ๋งกับเสียงของธุรดี อารีรอบ นักร้องจากดูซ์ โปรเจ็กต์ Flower+Love ในความดูแลของภากร รัตนาพตแล้วล่ะก็ อาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง เรียกว่าเด่นกันคนละทาง ซึ่งแล้วแต่รสนิยมจริงๆ เสียงของโอ๋ออกไปทางหม่นเล็กน้อย ไม่แหลมใสสว่างกระจ่างใจอย่างธุรดี เรียกว่านุ่มละมุนละไมหูจะเหมาะกว่า

เพราะรักเธอ เพลงเด่นที่น่าจะตัดเป็นเพลงโปรโมตได้ ถึงแม้ว่าเนื้อหาจะออกไปทางอกหักรักคุดสักหน่อย แต่ว่าเหมาะแก่การให้โอ๋แสดงออกถึงอารมณ์ผ่านทางน้ำเสียงของเธออย่างแจ่มชัดถึงความตรอมตรม กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอันเกิดมาจากความรักที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง ซึ่งเธอก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว แนวทางของดนตรีให้น้ำหนักกับป็อปมากกว่าแจ๊ส ซึ่งก็คงตั้งใจเอามาเป็นเพลงเพื่อประชาสัมพันธ์อยู่แล้วด้วย นอกจากเล่นเบสแล้ว โดมยังรับหน้าที่บรรเลงกีตาร์สายไนลอนอีกไลน์หนึ่งด้วย

มนต์ทะเล เพลงเบาๆ ที่มีกลิ่นอายของบอสซาโนวาคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ ด้วยเสียงกีตาร์สายไนลอน (แต่โดมไม่ได้แสดงฝีมือเองในเพลงนี้) ที่แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของบอสซาโนวาไปแล้ว ไลน์การโซโลของกีตาร์ค่อยๆ ลื่นไหลไปทีละตัวโน้ต ไม่เน้นเทคนิกซับซ้อน หากแต่เน้นเพียงความเรียบง่าย ไพเราะ และความสวยงามของแต่ละโน้ตที่เล่นออกมา ประกอบกับเสียงเพอร์คัสชันที่แผ่วพลิ้วเป็นเนื้อเดียวกันกับเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ ช่วงท้ายแผ่นจะมีเพลง มนต์ทะเล แถมมาให้อีกครั้ง แต่กลายเป็นเสียงเด็กน้อยสองคนช่วยกันร้อง (ด.ญ.ภิญญ์ และด.ญ.ภาวน์ รัตนาพต) ได้อารมณ์ทะเลในอีกแบบหนึ่ง

ปิ๊ง เพลงนี้เด่นตรงที่ใช้เครื่องดนตรีน้อย หากแต่ได้ความไพเราะออกมาแบบโดนใจจริงๆ เนื้อดนตรีเน้นไปที่ความเป็นแจ๊สเป็นสำคัญ โรเบิร์ต เอสปาเกาเล่นอิเล็กทริกเปียโนเลียนเสียงออร์แกน โชว์เดี่ยวช่วงกลางเพลงได้อย่างเพราะพริ้ง นัยว่าจะเป็นการอิมโพรไวส์สักหน่อยพอเป็นกระษัย ส่วนไลน์เบสของโดมเองก็เด่นไม่น้อยกับการเดินนิ้วอย่างต่อเนื่องไปกับเสียงออร์แกน แถมด้วยเสียงดีดนิ้วให้จังหวะของสุเมธ องอาจ แห่งวงสุเมธ แอนด์ เดอะปั๋ง ที่โดมเล่นเป็นแบ็กอัพให้ ส่วนเนื้อหาของเพลงนั้นก็น่าหยิกแกมหยอกทีเดียว กับผู้หญิงสมัยใหม่สักคนหนึ่งที่มีสิทธิที่จะตกหลุมรักและแสดงความทรักกับผู้ชายได้เหมือนกัน!

ภาพวาดสีน้ำที่เราเห็นทั้งปกหน้าและปกในเป็นฝีมือของนักดีดนิ้วอย่างสุเมธด้วยเช่นกัน

เกือบทั้งหมดของงานแต่งเนื้อร้องและทำนอง เป็นหน้าที่ของโดม ยกเว้นเพียงบางเพลงอย่าง ใกล้ใจ ที่มีดลสิริ ธนภัทรเป็นคนเขียนเนื้อร้อง ทำให้ความลื่นไหลในเนื้อร้องมีมากขึ้นทีเดียว ซึ่งนี่เป็นหนึ่งจุดอ่อนของโดม เพราะถ้าลองฟังทั้งอัลบัมหลายๆ ครั้ง เราอาจจะรู้สึกขัดเขินกับเนื้อร้อง (มิได้หมายถึงเนื้อหา หากแต่เป็นการเข้าวรรค เข้าจังหวะของคำ) ที่อาจจะดูไม่เหมือนกับที่เราเคยรับเข้าโสตประสาทมา รวมไปถึงเนื้อหาในบางเพลงด้วยเช่นกันทียังดูไม่ลงตัวนัก ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่เป็นแบบนี้ เพราะถ้ามองภาคดนตรี ก็แน่นอนว่าความแน่นและลื่นไหลมีมากกว่าภาคเนื้อร้อง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมทางดนตรีที่มีมากกว่าเช่นกัน

หากว่าได้ทีมเขียนเนื้อร้องที่มีความชำนาญเหมือนกับที่โดมชำนาญการเล่นเบส อัลบัมต่อไปน่าจะลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยถ้าเปรียบเทียบแล้ว Flower+Love น่าจะมีความลงตัวในเนื้อร้องมากกว่า ในขณะที่มาตรฐานทางภาคดนตรีก็ยังคงมีอยู่อย่างเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตาม ในนาทีนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโดม โปรเจ็กต์ยังคงเป็นอีกหนึ่งการเดินทางและความพยายามของคนดนตรีแจ๊สสายพันธุ์ไทย ที่เดินเข้ามาสู่จุดที่คนส่วนมากจะมองเห็นพวกเขา และเรายังหวังว่านอกจากจะมองเห็นแล้ว จะต้องลองฟังด้วยเช่นกัน



Dome Project และชุติมา แก้วเนียม

ดูแลการผลิต โดม หโยดม

นักดนตรี
โดม หโยดม เบส
ชุติมา แก้วเนียม ร้อง
เปียโน โรเบิร์ต เอสปาเกา
กีตาร์ สมพล ผดุงแสง
กลอง พรชัย นุชจำนงค์
เพอร์คัสชัน โชติรส วิบูลย์ลาภ
แซ็กโซโฟน พิชญัญ ทับทิม
ทรัมเป็ต พัชรพงษ์ จันทาพูน

รายชื่อเพลง
1. เหงา
2. เพราะรักเธอ
3. มนต์ทะเล
4. ปิ๊ง
5. รอลมหนาว
6. ไม่เสียดาย
7. ใกล้ใจ
8. รักในฝัน
9. เลือก
10. มาร้องเพลง
11. มนต์ทะเล (พิเศษ)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก //domehayodom.com/ ของน้องเอ๋ PKA ที่สุดแสนขยันไว้ ณ ที่นี้ด้วย








 

Create Date : 20 ตุลาคม 2549
5 comments
Last Update : 21 ตุลาคม 2549 6:44:53 น.
Counter : 1987 Pageviews.

 

เห็นที่ร้านบีทูเอส ว่าจะหยิบหลายทีแล้ว
พออ่านและฟังเพลงก็มั่นใจที่จะหยิบเสียที ขอบคุณที่แนะนำครับ

 

โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 22 ตุลาคม 2549 14:51:41 น.  

 

ยินดีค่ะ ไม่รู้ว่าอัลบัมนี้จะขายได้ดีมากน้อยแค่ไหนนะคะ เอาใจช่วยด้วย

 

โดย: nunaggie 23 ตุลาคม 2549 19:44:19 น.  

 

สไตล์ดนตรีของอัลบั้มนี้ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผมไปสักหน่อย คือ มันเป็นป๊อบมากไปหน่อย อันนี้ก็เกี่ยวกับรสนิยมในการฟังเพลงของผมเองล่ะครับ แต่ก็ซื้อมาฟังครับ

ฟังไปไม่เกิน 3 รอบมั้ง และคิดว่าต้องฟังสัก 5 รอบ กว่าจะเก็ตดนตรีและเนื้อเพลง มันไม่ใช่ฟังยากนะ แต่มันเข้าหูช้า ไปสักหน่อย แต่ว่ายังไม่ได้ฟังสักเท่าไร ด้วยเหตุที่ว่า มีเวลาแค่ 2-4 ชั่วโมงในการฟังเพลง ฟังพวกคลาสสิกเล่นๆไปก็ 2 ชั่วโมงแล้ว ที่เหลือบางทีเปิดไว้เป็นเพื่อนหู ไม่ได้ฟังจริงจัง

ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนทำงานด้านดนตรีอย่างจริงจังแล้วกันครับ ของมีคุณค่าคนก็ต้องเห็นวันยังค่ำน่ะ ผมว่า.. เพียงแต่งานศิลป์ มันแยกกลุ่มคนเสพค่อนข้างจะชัดเจน แล้วก็เกี่ยวโยงไปถึงเรื่องแฟชั่นด้วย ดนตรีเป็นแฟชั่น ผมชักจะเชื่อแบบที่ ศิลา โคมฉาย เขียนไว้แล้วสิเนี่ย


 

โดย: นอนเปล (ชายลังเล ) 26 ตุลาคม 2549 8:41:51 น.  

 

ขอบคุณมากครับที่แนะนำสู่กันฟัง แต่ผไม่ค่อยใช่แนวผมเท่าไร

 

โดย: merveillesxx 28 ตุลาคม 2549 4:39:24 น.  

 

แวะมาทักทายนะฮะ

ดูจากรูปแล้วได้อารมณ์ดีจัง

 

โดย: chal2t 30 ตุลาคม 2549 23:20:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


nunaggie
Location :
City of Angels, Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




คุยเฉพาะเรื่องเพลง :D

"I still find each day too short for all the thoughts I want to think, all the walks I want to take, all the books I want to read, and all the friends I want to see." John Burroughs

Follow my twitter @nunaggie :)

"มีเรื่องราวอีกมากมายให้ชีวิตต้องเดินทางไปค้นหา เราคงไม่ค้นพบทุกอย่างได้ เพียงแค่ชั่วชีวิตเดียว"
Creative Commons License
© Supada Luangsirimongkol 2015.
qrcode
Friends' blogs
[Add nunaggie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.