Group Blog
All Blog
|
เรื่องเล่าของมือใหม่ ย้อนมองกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนที่พึ่ง”หลง”เข้ามาห้องความงามครั้งแรก มีนพึ่งรู้ว่าตัวเองแต่งหน้าไม่เป็น เคยเข้าใจว่าการแต่งหน้า คือแค่เอาเมคอัพไปตกแต่งที่หน้าให้ออกมาสวยเท่านั้น เมื่อก่อนแค่โป๊ะแป้ง ทาลิป ทาแก้มแค่นี้ ไปตามเรื่องตามราว ไม่รู้เรื่องเบส รองพื้น ที่ดัดขนตา ฯลฯ แต่ไม่ใช่ค่ะ การแต่งหน้ามันมีมากกว่านั้น มันเป็นโลกของศิลปะเต็มรูปแบบ ไม่ใช่เพียงทำให้เราผู้หญิง”สวย”เท่านั้น มันทำให้เรารู้สึก”เคารพ”และ”รัก”ตัวเองมากขึ้น พอเรารู้วิธีที่จะดูแลตัวเองภายนอกให้ดี ภายในของเราก็จะรู้สึกดีไปด้วย ภายนอกและภายในมันเชื่อมโยงกันอย่างแยกกันไม่ได้ ศิลปะของการแต่งหน้าเป็นโลกที่พอย่างก้าวเข้าไปแล้ว กลับออกมาไม่ได้ง่ายๆ หลังจากที่แอบอ่านห้องความงามมานาน จนได้เก็บประสบการณ์อะไรต่าง ๆ ไปมากมาย (แต่ก็ยังโง่อยู่ดี) ความรู้เรื่องการแต่งหน้าเพิ่มขึ้นพร้อม ๆ กับกรุสมบัติบ้า เลยอยากเขียนเล่าเรื่องราวง่าย ๆ ของการแต่งหน้าประจำวัน เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่”เริ่ม”เข้ามาสนุกในโลกแห่งศิลปะใบเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่นี้ เรื่องเล่าของมือใหม่นี้จะเป็นเรื่องราวง่าย ๆ และ(แน่นอน!)ไม่มีสาระ ถึงอุปกรณ์ที่ใช้โป๊ะหน้าในแต่ละวันของนุ้งมีน มาดูกันว่า เจ้าของบล๊อกต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เพื่อให้ออกจากบ้าน”พอไปวัดไปวา”ได้ HOW TO START การแต่งหน้าทุกครั้งถ้าจะให้ดี ต้องเริ่มด้วย Makeup Base หรือ Primer เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง สำหรับหลายคน Makeup Base คือ MUSS-HAVE ของการแต่งหน้าเลย แล้ว Makeup Base มันคืออะไร อ่านได้ที่บล๊อกของพี่จ้อย //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nuchhut&month=08-2006&date=05&group=5&blog=6 อธิบายง่าย ๆ Makeup Base คือ ตัวปรับสภาพผิวให้ก่อนการแต่งหน้า มีหลายสี หลายแบบให้เลือกใช้ไปตามจุดประสงค์ หน้าที่ของมันคือ 1. ปรับสภาพสีผิวเราให้พร้อมกับการลงรองพื้น หรือแต่งหน้าขั้นต่อมา เช่น ทำให้หน้าสว่าง ใส ไม่แดงไม่เหลืองไป 2. ทำให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น และกันการเปลี่ยนสีของเครื่องสำอาง เช่น บลัช 3. ทำให้การลงรองพื้นง่ายขึ้นและทำให้สีรองพื้นไม่เพี้ยนระหว่างวัน (ที่เรียกว่า “หมอง”นั่นแหละค่ะ) ประมาณนี้ เลือกเมคอัพเบสที่ดีและถูกกับผิว สวยเด่นเกินหน้าใครแน่ค่ะ พอลงเบสเสร็จ ทำไรต่อไป รอสักพัก ลงรองพื้น Foundation ต่อเลยค่ะ เดี๋ยวนี้รองพื้นมีหลากหลายชนิดให้เลือก แบบน้ำ แบบมูส หรือจะแบบแป้งผสมรองพื้นก็มี เลือกตามที่ชอบและที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง รองพื้นมีหลายแบบ แต่ละแบบก็ให้ลุคที่แตกต่างกัน มีนคิดว่า การแต่งหน้าประจำวัน ให้เลือกรองพื้นที่เนื้อเบา ๆ ที่ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทาไว้ก่อน มีนจะเลือกแบบที่เป็นรุ่น natural หรือ color-adapted ไว้ก่อน มีนผิวผสม เลยเลือกรองพื้นที่ oil free เสมอ ถ้าไม่มีเวลา มีนจะผสมเบสกับรองพื้นเข้าด้วยกัน และปาดในครั้งเดียวเลย อุปกรณ์ในการปาด เลือกเอาระหว่างแปรงปาดรองพื้น หรือนิ้ว แต่ชอบนิ้วมากกว่าเพราะขี้เกียจล้างแปรง (เหตุผลเจ๋งมาก!) เวลาตบให้ตบนาน ๆ อย่าใจร้อน ใช้แค่สามนิ้วกลางตบ ๆ ให้ความร้อนจากมือทำให้รองพื้นกระจายตัวและเซ็ตตัวบนผิวหน้า แป้ง ผิวผสมเช่นมีน ชอบใช้แป้งเพรสมากกว่าแป้งฝุ่น สำหรับผิวผสม ให้เลือกแป้งที่เนื้อโปร่ง กันความมันไว้ก่อน เวลาทาให้ทาสองสามชั้นนะคะ มีนจะทาแบบตบ ๆ ห้ามปาด ระหว่างวันพอเหงื่อออกก็ซับซะ ถ้าหน้าไม่เด้งก็เติมหน่อย แต่ถ้ายังมีแป้งอยู่ ก็จะไม่เติม ไม่งั้นมันจะดูเป็นคราบ ๆ หนา ๆ ไม่ธรรมชาติค่ะ คิ้ว ใครว่าไม่สำคัญ เครื่องมือที่มีนใช้ในการแต่งคิ้วมี 2 แบบ คือ แบบดินสอและแบบฝุ่น แบบดินสอ มีนจะใช้เติมหางคิ้วและวาดเฉพาะใต้คิ้วเท่านั้น แบบฝุ่น มีนใช้ eyebrow powder อาจจะใช้ eyeshadow สีน้ำตาลเข้มทาก็ได้ค่ะ จะได้ออกมาธรรมชาติ เวลาเขียนคิ้ว จะให้แบบนี้ล่ะ mix n match แล้วใช้แปรงคิ้วหัวตัด เกลี่ยให้เป็นธรรมชาติ ก็โอเคนะ การแต่งตา ไม่ชอบแต่งตาค่ะ บอกตรง ๆ เพราตาอักเสบบ่อย ห่วงตามากกว่าห่วงสวย เท่าที่มี ก็อายแชวโดว์ กับอายไลเนอร์ อายแชวโดว์ปกติจะทาแค่ 1-2 สีเท่านั้น เลือกให้เหมาะกับชุด หรือเหมาะกับโทนที่จะแต่งหน้าวันนั้น แต่ปกติไปมหาวิทยาลับไม่ค่อยชอบทาค่ะ แต่ถ้าเป็นโอกาสพิเศษก็จะแต่งประมาณ 3-4 สี จะปราณีตหน่อย อายไลเนอร์ที่มีก็หลายแบบ แบบดินสอ แบบน้ำ แบบเจล (กระปุก) ถ้าเริ่มต้นให้ลองกรีดอายไลเนอร์ด้วยดินสอก่อน แล้วค่อยขยับไปที่แบบน้ำ เท่าที่ใช้มา แบบเจลกรีดง่ายสุด แต่ต้องใช้พู่กันร่วมด้วยค่ะ ถ้าเป็นเรื่องของตา ปกติมีนจะปัดแต่มาสคาร่า อย่าลืมหาที่ดัดขนตาดี ๆ สักตัว เมื่อก่อนงกนะ ไม่ซื้อที่ดัดขนตาเพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่พอลองใช้ดู ติดใจมาก ไสยศาสตร์มีจริง ทำให้ขนตาขี้เหล่ของเราโค้งมน เด้งสวย เดี๋ยวนี้ออกจากบ้านทีไม่เคยลืมที่จะดัดขนตาเลย เวลาปัดจะปัด 3 ที จากโคนขนตาไปจนสุด กลางขนตาไปจนสุด และปลายขนตา พอแห้งแล้วก็ปัดซ้ำ จะกี่รอบก็แล้วแต่เรา แก้ม สื่อ อารมณ์ หาบลัชสักสองสามชิ้น สีของบลัชแล้วแต่ความชอบและความเหมาะของคนใช้ค่ะ มีนว่าลองเลือกบลัชแบบเนื้อด้าน และเนื้อวิ้ง ๆ มีชิมเมอร์ อย่างละชิ้นก็พอ เนื้อวิ้ง ๆ จะใช้ระหว่างวันหรือตอนกลางคืน เนื้อด้าน ๆ ก็ใช้ระหว่างวันหรือโอกาสที่เป็นทางการ บลัชนี่ปัดทับกันได้นะ ชอบ mix n match ได้อีกลุค ไม่ต้องซื้อเพิ่มเลย วิธีปัดของมีน แล้วแต่สีบลัชค่ะ บลัชแต่ละสีแต่ละเนื้อจะปัดไม่เหมือนกัน ลุคแบบธรรมชาติ จะยิ้มให้เต็มที่ และปัดตรงพวงแก้ม วน ๆ กลม ๆ ลุคแบบสร้างกรอบหน้า จะดูดปากเข้าไปเหมือนว่าเรากำลังดูดหลอดน้ำอยู่ แล้วปัดจากโหนกแก้มมาล่างแก้ม มีนมีบลัชครีมไม่กี่อัน ไม่ชอบเท่าไร แต่เอาไว้แต้มแก้ม เวลาอยากได้ลุคธรรมชาติมาก ๆ หรือว่าเอาไว้แต้มคู่กับบลัชแบบฝุ่น ถ้าผิวมันมาก พยายามเลี่ยงบลัชครีมนะคะ ว่าง ๆ จะหาวิธีการปัดบลัชมาเขียนอีกทีค่ะ เป็นคนบ้าบลัชมาก ชอบปัดเพราะรู้สึกมันแสดงอารมณ์ของเราในแต่ละวัน แต้มสีริมฝีปาก ลงลิปมันก่อนทุกครั้งก่อนลงลิป พยายามแมชลิปสติกหรือลิปกลอสให้เหมาะกับการแต่งหน้าวันนั้น ๆ โดยเฉพาะให้เข้ากับบลัช ถ้าไม่มีสีที่ต้องการ ให้ผสมลิปกันเอง ได้ลิปสีใหม่ขึ้นมาอีก ใช้ที่ปาดเนยหรือหลุมสีน้ำเป็นฐาน แล้วใช้พู่กันลิปสติกผสมลงไป จะใส่เพิ่มกลอสเพิ่มอะไรแล้วแต่เราค่ะ ปกติมีนจะใช้แต่กลอสนะ ไม่ค่อยใช้ลิป เพราะมันเบาดี ใช้คู่กับลิปก็ได้ ใช้เดี่ยวก็ได้แล้วแต่เรา ไปไหนต้องพกกลอสตลอด ติดเป็นนิสัยแล้ว พวก Extras เท่าที่มีก็ Finishing Powder Guerlain - Meteorites กับ Highlighter Bobbi Brown - Shimmerbrick จะใช้หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้ว ปัดพวก Finishing Powder ทำให้หน้าดูนวล สว่าง ๆ เด้ง ๆ ดีค่ะ ส่วน Highlighter ใช้เอาไว้ทำให้หน้ามีมิติ ทำหน้าที่อย่างที่ชื่อมันบอก คือ “Highlight”สามารถป้ายทับบลัช ป้ายเฉพาะจุด เช่น โหนกแก้ม สันจมูก ปลายคาง หน้าผาก หรือเอาไว้แต่งตา เป็น multi-function ค่ะ ข้อเสียคือ คนผิวมันควรระวังอย่าป้ายมากไป หน้าจะมันเยิ้มหมองได้ จะเป็นการไฮไลท์ความมันของผิวหน้าแทน พวกนี้เราไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องมี เรียกว่าเป็น option เสริมค่ะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่ดัดขนตาดี ๆ สักอัน แปรงปัดแก้มขนนุ่ม ๆ ที่ปัดง่าย ๆ กระจายสีได้ง่ายสักอัน ถ้าใช้แป้งฝุ่น ก็อย่าลืมแปรงแป้งด้วย นี่คืออุปกรณ์เบื้องต้นของนุ้งมีน ถ้าใครเข้ามาห้องความงามบ่อย ๆ รับรองเดี๋ยวอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนกระทู้ที่คลิ๊กอ่านแน่นอน เรื่องเล่าของคนพึ่งเริ่มแต่งหน้าขอจบลงแค่นี้ |
นู๋ ม.
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] กรุณาอย่าคาดหวังอะไรจากบล๊ิอกนี้ เขียนขึ้นตามความพอใจ มีอยู่เพื่อความพอใจ มีแต่ของเล่นๆ ของไร้สาระ เรื่องเรื่อยเปื่อย เรื่องบ้าๆของเจ้าของบล๊อก นู๋ ม. เป็นคนสาวหมวย สวย เอ็กซ์(วายเเซต)กินเก่ง บ่นเก่ง ด่าเก่งด้วย หาใครที่เจ้าอารมณ์ ขี้โวยวาย คิดอะไรสไตล์เด็กเเนวมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ความฝันในอนาคต คือ อยู่อย่างสงบ โดยไม่มีใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว อารมณ์ตอนนี้ = กำลังเซ็ง เนื่องจากโดนยุ่งเรื่องชีวิตรักเหลือเกิน เกิดมาสวย(ยี้)ก็งี้ มีแต่คนอยากรู้อยากเห็นเรื่องเรา Life of Mine เปิดให้อ่านเฉพาะ Friend's Blogs นะจ๊ะ ใครมีชื่ออยู่ทางขวาแล้ว ล๊อกอินแล้วอ่านได้เลยจ้า ********************************** สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด หลังไมค์ถึงนู๋ ม. ใครนำรูปหรือบทความอะไรเราไปใช้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ผิดกฎหมายนะคะ และเราเอาจริงนะ แบบว่ารวยอ่ะ มีเงินจ้างทนาย จะค้าขายอะไร ให้ไปเสริช์รูปจากเว็บเจ้าของผลิตภัณฑ์เองนะคะ Friends Blog
|
หวานแหววน่ารักดีจังเลย สีชมพูๆ
เราใช้อายไลเนอร์แบบดินสอไม่เป็นล่ะ ทาทีไร''เลอะเทอะ&เละเทะ''ทุกทีเลย