|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
30 กรกฏาคม 2553
|
|
|
|
ความสุขของคนเราไม่เท่ากัน...
เดือนก่อนผมมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตเป็นชาวสวนที่ระยอง สิบกว่าวัน...
เนื่องจากสวน(ของคนอื่นแต่ต้องไปดูแลหน่อย!!)มีการเปลี่ยนแปลง เลยถือโอกาสลองเป็นชาวสวนไปด้วยในคราวเดียวกัน จึงต้องไปพักพิงกับ เจ้าของสวนข้างๆ ซึ่งคล้ายจะเป็นผู้จัดการสวนกลายๆ ทั้งๆที่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆให้ เขาช่วยเป็นธุระปะปังหลายๆอย่าง โดยปฎิเสธรับเงินค่าดูแล
ประโยคเดียวที่ได้ยินบ่อยๆ
"แว่ะมาทีมีขนมถุงสองถุุงมาฝากก็ดีใจแล้วค่าาา..."
ยิ่งอยู่หลายวันผมยิ่งรู้สึกปลอดและรู้สึกโปร่งมากขึ้น...และมากขึ้น...
ปลอดจากเสียงโทรศัพท์ใดๆมากระทบหู เพราะที่ตรงนั้นไม่มีสัญญาณของค่ายใดๆ...
โปร่งจมูกกับกลิ่นป่าที่โชยมากับสายลมและโปร่งสายตาเมื่อมองไปรอบๆมีแต่ต้นไม้และธารน้ำ เสียงนก "กะแต-แต้แว๊ด" (ผมได้ยินชื่อครั้งแรก อดยิ้มไม่ได้กับคนตั้งแล้วก็ ยิ้มมากขึ้นไปอีกเมื่อพบว่า นกมันร้องออกมาตรงคำต่อคำทีเดียว!! และยิ่งไปกว่านั้นนานๆทีจะมีนกที่คาดว่าเป็นนกรุ่นใหม่ร้องว่า กะแต-แต-แต-แต-แต้แว๊ดด!! คล้ายๆจะเป็นนกแรพกันทีเดียว เอ..หรืออาจเป็นนกติดอ่างเพราะแถวนั้นไม่มีช่องเพลงสากล!?) ซึ่งอาจจะมีชื่ออื่นที่เป็นทางการ ร้องให้ได้ยินเป็นระยะๆ...
มีกลิ่นอับชื้นของหญ้าแห้งที่จมหมักอยู่ในน้ำฝนที่ขังค้างเป็นแอ่งๆ ให้ได้สูดดมเวลาที่ขุดดิน...
ได้กินกะปิทำเอง...ที่หอมมาก ตำใส่ระกำ ซึ่งเดินไปเด็ดเอาเองหลังบ้าน...และอีกสารพัดอย่างที่ทำเอง...
กินข้าวตรงเวลา พักกลางวัน 2 ชั่วโมงเผื่อเวลาสำหรับ งีบหลับเอาแรงไว้ทำงานตอนบ่าย...
เลิกงานไม่เย็นมากนักแต่เป็นเจ้าของก็เดินตรวจตราคุยขอความรู้ไปเรื่อยๆ
พอถึงตอนเย็นก็หมดแรงเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เดินกลับมาก็สอยมะพร้าวลงมาเฉาะกินกันตรงนั้น...
แย่หน่อยที่ผมแพ้น้ำบาดาลที่เขาขุดขึ้นมาใช้...ช่วงใกล้จะกลับบ้าน หน้าตาผมจึงมีสารพัดเม็ดขึ้นเต็ม โดยเฉพาะช่วงใกล้ๆปาก แสบเป็นพิเศษ...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่กรุงเทพฯ ปากดีไว้กับคนอ่ืนไว้เยอะหรือป่าว!? --"
ค่ำหน่อยก็ไม่มีอะไรทำ นอนครับนอนเอาแรง จะได้ตื่นเช้าๆมาทำงานต่อ...
มีผจญภัยหน่อยตรงที่ต้องนำ ฝูงหมา(ค่อนข้างแคระแกร็น เนื่องจากเจ้าของสวนเลี้ยงเป็นแค่สัตว์เลี้ยงมิได้เป็นเพื่อน...และชอบไปกินน้ำยางพาราที่มีน้ำกรดผสม...) ไปกัดกับฝูงหมาสวนข้างๆที่เข้ามาประกาศศักดาเนื่องจากมันตัวใหญ่กว่า ฝูงหมาสวนเราตัวเล็กจึงไม่ค่อยกล้าสู้แต่พอมี 'จ่าฝูง' (ผมเอง!!)ฝูงหมาแคระแกร็นเหล่านี้จะรู้สึกมีกำลังฮึกเหิมขึ้นมาทันที เวลาที่เดินออกไปที่สวน เหล่าหมาแคระแกร็นก็จะเห่ากรรโชกอย่างมีกำลังใจและกระโจนออกไปอย่างรวดเร็ว!! แต่พอมองกลับมา 'จ่าฝูง' ยังค่อยๆเดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่ เหล่าหมาฯก็หยุดกึกในทันทีเปลี่ยนยุทธวิธีเป็นใช้วิธีเห่าอย่างเดียวแทน!?
ผมเกือบโดนหมาหมู่ (ตัวอย่างหนา) ฟัดอยู่เหมือนกันดีที่ใส่รองเท้าบูตและมีไม้อยู่เยอะแถวๆนั้น จึงวิ่งพลาง หยิบไม้ขว้างพลาง จนเหล่าหมาหมู่(พวกตัวเอง)มาช่วยไว้ทัน!!
สำหรับบางคนอาจคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ แต่สำหรับผมคนที่เกิดในเมืองคอนกรีต โตมากับต้นไม้ไม่กี่ต้น เห็นฝุ่นที่เกิดจากเขม่าไอเสียรถยนต์ต่างๆอยู่เสมอ ฟังแต่เสียงรถไม่ขาดตอนแม้ในยามเที่ยงคืนตีหนึ่ง... แม้จะมีบ้างที่ได้ออกค่ายฯ ได้อยู่กับวิถีชีวิตธรรมชาติแต่ก็ไปเป็นหมู่คณะและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงส่ิงรอบๆเล็กๆน้อยๆเพื่อความสะดวกสบายกับ ชาวค่ายฯ!
ผมยอมรับว่าสิบกว่าวันนี้เป็นเรื่องพิเศษทีเดียวครับ
วันและวันที่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน...
ผมได้สัมผัสความแตกต่างบางอย่างที่มีผลต่อ ความสุข...
ความสุขของคนเราไม่เท่ากัน...
Create Date : 30 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 2 สิงหาคม 2553 14:24:37 น. |
|
1 comments
|
Counter : 946 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: aenew วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:22:18:12 น. |
|
|
|
| |
|
|
เงามืดในประวัติศาสตร์ |
|
|
|
|
อ่านแล้วขนลุก หมารุมนี้น่ากลัวคะน้องเงา ฯ แค่หมาแยกเขี้ยวเราก็ต้องระวังแล้วล่ะ แม่จะบอกไว้เสมอว่าอย่าไว้ใจสัตว์หน้าขน ขนาดที่บ้านเลี้ยงทั้งหมาและแมวนะ แต่หมาที่อื่น เชื่อใจไม่ได้ หมาบ้านเราน่ะอย่างไรมันก็ไม่กัดเจ้าของอยู่แล้ว
อยากไปแบบนี้ละ ไปเป็นชาวสวนดูบ้าง แต่ด้วยผู้หญิงตัวคนเดียวครั้นจะออกไปผจญภัยแบบนั้นหาโอกาสได้น้อยเหลือเกิน นอกจากจะกลับบ้านและไปบ้านคนพิเศษที่เชียงใหม่ ได้สัมผัสบรรยากาศเสียงนกร้องตอนเช้า กลิ่นอายดิน จนหลงใหลไม่อยากกลับกรุงเทพเลยค่ะ
ช่วงนี้งานเข้าก็เลยไม่ได้แวะมาหาค่ะน้อง ...น้ำบาดาลพี่ก็แพ้น่ะค่ะ ขึ้นผื่นเลยล่ะ