Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
9 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
Logical Fallacy #1 - False Dilemma

วันนี้ผมจะยกเรื่อง false dilemma มาพูดนะครับ เพราะดูเหมือนจะเป็น fallacy ที่มีการใช้กันอย่างมาก
ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา

False dilemma คือการให้ "ตัวเลือกแบบจำกัด" (โดยทั่วไปเป็นสองตัวเลือก) ทั้งที่ความจริงมันมีทางเลือกมากกว่านั้น
False dilemma ก็คือ การใช้คำว่า "หรือ" อย่างไม่ถูกต้องนั่นเอง

การทำปัญหาที่โต้แย้งกัน หรือความเห็น ให้เป็น "ขาว" หรือ "ดำ" เป็นรูปแบบที่พบโดยทั่วไป สำหรับ false dilemma


ตัวอย่างของ false dilemma:

- "คุณจะเอาคนโกงหรือเอาคนโง่" (ตัวเลือกที่ให้ ละเลยข้อเท็จจริงว่า โกงมากโกงน้อย โง่มากโง่น้อย หรือตัวเลือกแบบที่ทั้งไม่โกงและไม่โง่)

- "ใครไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ ผมถือว่าไม่รักชาติ" (ไม่สนับสนุนกฎหมาย ก็รักชาติได้ ผู้พูดพยายามชี้นำว่า ถ้าคุณไม่เลือกตัวเลือก "ไม่รักชาติ" คุณก็ต้องสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้)

- "ผมว่าคุณเป็นพวกโจร" (ผู้พูดพยายามให้เลือก ระหว่างการสนับสนุนเขา หรือไม่ก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นโจร)

...

เมื่อเจอการใช้ false dilemma เราไม่จำเป็นต้องบอกเขาตรงๆ ว่ามันไม่ถูกหลักตรรกศาสตร์
แต่ให้บอกว่ามีตัวเลือกอะไรอย่างอื่นบ้าง ก็เป็นอันจบ

ประเด็นคือเราต้องรู้ว่านี่คือ false dilemma อย่าไปหลงเชื่อโดยการพยายามเลือกอันใดอันหนึ่งเป็นอันขาด
ธุรกิจขายตรงที่โฆษณาชวนเชื่อบางอัน ก็ใช้ false dilemma
คือ ให้คุณเลือกระหว่างการไปสมัครทำธุรกิจขายตรงกับเขา ไม่งั้นก็เป็นพนักงานเงินเดือนต๊อกต๋อยไปตลอดชีวิต

ซึ่งความจริงคุณไปทำธุรกิจของตนเองก็รวยได้ หรือบางคนทำงานบริษัทจนก้าวหน้าเป็นผู้บริหารเงินเดือนสูงก็ร่ำรวยกันเยอะแยะไป จริงไหม

ดังนั้นขอให้จำไว้ว่า อย่าจำกัดตัวเลือกเพียงแค่ตัวเลือกที่คนอื่นกำหนดให้ครับ
มิเช่นนั้นคุณอาจจะ "ติดกับ" ของประโยคหรือวาทกรรมที่เป็น false dilemma ได้




Create Date : 09 กันยายน 2548
Last Update : 9 กันยายน 2548 21:36:27 น. 24 comments
Counter : 5311 Pageviews.

 
มาลงชื่อเยี่ยมชมครับ


โดย: sleeper_j IP: 58.10.186.111 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:21:40:06 น.  

 
เยี่ยมด้วยครับ

blog มันคือไรหว่า ไม่ค่อยมีเวลาใช้เน็ต เคยแต่ icq


โดย: >> IP: 58.147.51.211 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:23:06:38 น.  

 
ชอบ



โดย: Theheas วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:23:15:23 น.  

 
เยี่ยม !


โดย: แฟน ไม่ประสงค์จะออกนาม IP: 203.151.140.121 วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:5:39:29 น.  

 
หึหึหึ ผู้มีอำนาจบางท่านชอบใช้ false dilemma บ่อยๆ



โดย: เด็กถอนหงอก IP: 202.129.52.203 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:2:04:32 น.  

 
มาเยี่ยมชมครับ ผมเองก็รู้สึกว่ายังมีคนที่อ่านเกมของผู้มีอำนาจที่ชอบวางอำนาจบางคนได้อย่างเฉียบขาดซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคุณริดคุงนี่แหละครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: ดยุคแห่งออสเตรีย วันที่: 5 ตุลาคม 2548 เวลา:14:40:53 น.  

 
หรือแบบนี้

ปชป. ไปไหน ออกมาพูดอะไรหน่อย
เภกจะอดตายอยู่แล้วเพราะไม่มีเรื่องจะด่า


โดย: 555 IP: 61.90.98.169 วันที่: 5 ตุลาคม 2548 เวลา:21:36:25 น.  

 
มาเยี่ยมครับ


โดย: เจไอ (เจไอ ) วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:0:26:51 น.  

 
มาลงชื่อเยื่ยมครับ


โดย: ckman IP: 203.147.4.193 วันที่: 28 ตุลาคม 2548 เวลา:11:17:57 น.  

 
กรกฎาคม 2548
เรียน คุณอานันท์ ปันยารชุน

ดิฉันเป็นคนไทยธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่เคยชื่นชม นับถือแนวความคิดของคุณและติดตามการทำงานของคุณมาช้านาน ดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ นานมาแล้วที่ดิฉันบอกใครๆว่าท่านเป้นนายกรัฐมาตรีที่ดีสุด เหมาะสมที่สุด และยังคิดเช่นนั้นอยู่ แต่วันนี้ดิฉันและคุณมีความเชื่อในสถานการณ์ภาคใต้ที่ต่างกัน ดิฉันไม่เคยมีอคติกับใครรวมทั้งคุณ ดิฉันถือว่าเราต่างคนต่างมีความเชื่อ เลยขอเรียนว่า ทำไมถึงมีความเชื่อที่ต่างจากคุณที่เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดความเลวของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ( คงต้องรวมถึงดิฉันที่เป็นข้าราชการครูด้วย )
ดิฉันขอเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเป็นครูภาคใต้มา 35 ปี
1. ชาวบ้านแท้ เป็นคนซื่อแต่เชื่อผู้นำอย่างหูหนวก ตาบอด ผู้หญิงขยันและอดทนอย่างเหลือเชื่อ ( เคยถามคนที่ไม่เคยคลุมหัวว่าทำไมเดี๋ยวนี้ต้องคลุม เธอบอกว่าผัวได้บุญ ) ในขณะที่ผู้ชาย ขี้เกียจ อ้างศาสนาเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ( มีลูกกี่คนก็ได้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า ) เชื่อในชีวิตหน้า ชีวิตนี้จะลำบากแค่ไหนก็ได้ ( ตายก็ได้ถ้าผู้นำชี้แนะ ขนาดที่มีลูกสาวสวย ผู้นำจะชี้เอาเป็นเมียก็ต้องให้ )
2. ผู้นำที่เลว ใช้ศาสนาทำให้ชาวบ้านอยู่ในระบบปิดไม่พูดภาษาไทย ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย ไม่รับรู้โลกภายนอก เพื่อให้ตัวเองเป็นคนสำคัญ และมีอำนาจเหนือชาวบ้าน ( ผู้ปกครองนักเรียนแอบมาเล่าว่าอยากให้ลูกเรียนสูงๆ บ้าง ทีลูกผู้นำเขาส่งเรียนสูงๆ แต่ลูกเราเขาบอกให้เรียนปอเนาะได้บุญ เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย คูก็ช่วยแล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่าเด็กมาเรียนจนจบปริญญาแล้วเขาไม่รู้จักเรา แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ )
3. โดยนิสัยคนพื้นเมืองที่มีความรู้และได้เป็นใหญ่ จะเห็นแก่ตัว ไม่ช่วยพัฒนาคนระดับล่างให้มีความรู้ ไม่รู้จักบุญคุณคนโดยเฉพาะคนนอกศาสนา ถ้าใครให้เขาจะรับ แต่ไม่ให้ตอบเพราะบาป นักการเมืองรุ่นเก่าจะเอื้อประโยชน์หับผู้นำศาสนาและชาวบ้าน ผ เพื่อคะแนนเสียง ) โดยยอมรับเรื่องที่ผู้นำปิดโลกของคนพื้นเมืองจากโลกภายนอก ทำให้คนพื้นเมืองอยู่ไปวันๆ อย่างไม่มีอนาคตในโลกนี้ เพราะโลกหน้าต่าง หากที่เป็นของจริง เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขายากจน ก็เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่เข้าไปดูแล เมื่อเขาพูดไทยไม่ได้และไม่รู้ว่าที่นี่คือประเทศไทย เขาก็ต้องฟังผู้นำ ในอนาคตพวกเขาจะเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ในพื้นที่เพราะมีลูกมาก และคนไทยอพยพหนีตาย จากนั้นก็เรียกร้องขอแผ่นดินที่มีแต่พวกเขา เรื่องนี้เล่นไม่ยากในเวทีโลกไม่ใช่ปรือ
4. ระยะหลังเริ่มมีขบวนการแบ่งแยกเชื้อชาติ และส่งเสริมให้ขับไล่ซือแย ( ไทยพุทธ ) ออกจากแผ่นดินรุนแรงขึ้น เนื่องจากได้เงินสนับสนุน ( จากไหนบ้างคุณน่าจะรู้ ) ได้ความฮึกเหิมของชาวอิสลามที่ร่ำรวยขึ้น และการปลูกฝังว่าอิสลามว่าเป็นพี่น้องกันทั้งโลก ( แต่อยู่ร่วมกับใครไม่ได้ ) เรื่องอย่างนี้เหมือนน้ำท่วมปาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดดังๆ ให้พวกคุณฟัง เพราะเรากลัวตาย หารฆ่ารายวันเกิดขึ้นได้ เพราะผู้ร้ายไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
เรื่องที่พูดมานี้เพื่อจะบอกคุณว่า ในเมื่อคนพื้นเมืองถูกครอบงำให้คิดว่า พวกเขาไม่ใช่คนไทย แผ่ดินนี้เป็นของเขา ทุกสิ่งที่เราให้เขารับ แต่เขาของคุณพระเจ้าที่บันดาลให้เราให้จึงไม่มีบุญคุณต่อคนนอกศาสนา ดิฉันเจ็บใจเวลาที่เห้นพวกคุณแสดงความเห็นใจคนพวกนี้และว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคนไทย คุณรู้กันบ้างไหมว่าทุกสิ่งที่เราทำ เราไม่เคยมีความคิดว่าเรื่องนี้ทำให้เฉพาะคนไทยเพราะเราทุกคนเป็นคนไทย ในจังหวัดที่ดิฉันเป้นครูมา 30 ปี ดิฉันไม่เคยเห็นส่วนข้าราชการไหนที่แบ่งเขาแบ่งเรา มีแต่เขานั่นแหละที่ทำตัวผิดแปลกแตกแยกมากขึ้นทุกวัน ถ้าคุณอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นแผ่นดินไทย คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเขาเรียกย้องเอาโน่นเอานี่มากขึ้นทุกวัน ฉันจะต้องแต่งตัวอย่างนี้ ฉันจะต้องหยุดวันนี้ ฉันจะไม่ไหว้ครูร่วมกันคนพุทธ ฉันจะไม่เรียนวิชานี้ ฯลฯ ด้วยข้องอ้างว่าเพราะขัดกับหลักศาสนา แล้วเราก็ยอมเขาทุกเรื่อง และให้เห็นความแตกแยกชัดเจนขึ้นทุกวัน นักการเมืองที่เป็นพวกเขาก็พูดเอาแต่ได้และการเอาแต่ได้ของเขาโดยอ้างศาสนา ก็กดคนของเขาให้หูหนวกตาบอด ให้ขี้เกียจ ให้ไม่มีความรู้ เพื่อเขาจะได้ใช้คนพวกนี้เป็นฐาน โดยมีกลุ่มคนที่มองภาพรวมในเรื่องความไม่เท่าเทียมที่คนในสังคมชนบทได้รับ
( อย่างพวกสิทธิมนุษยชน ) เป็นเครื่องมือ ใจคอคุณจะให้ยอมจนกระทั่งคนไทยที่อยู่มน 3 จังหวัด ต้องพูดภาษาถิ่นที่โลกนี้เขาไม่พูดหันเพื่อเข้าใจเขาแต่เขาไม่ต้องหัดพูดภาษาไทยเพื่ออยู่ในโลกปัจจุบันได้กระนั้นหรือ ( แต่คั้นก็ยังช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขาถูกสอนว่าเราเป็นคนนอกศาสนา นอกเชื้อชาติเขา ) ทำไมคนไทยที่มีภาษาถิ่นในภาคอื่น เขาไม่ทำกันอย่างนี้บ้าง ทำไมเขาถึงยอมพูดภาษากลางที่เป็นภาษาราชการ เพราะเขา

คิดว่าเป็นคนไทย แต่คนพวกนั้นไม่เคยคิดใช่ไหม แล้วเราจะยอมให้เขาคิดต่อไปหรือให้เขาเลิก คิดกันเสียที ให้เขาได้หลุดพ้นจากการครอบงำของคนที่หาประโยชน์จากความไม่รู้ของพวกเขาจะดีกว่าไหม ถ้าหวังดีกับคนพื้นเมืองจริงๆ

ดิฉันแปลกใจที่คนในกลุ่มคุณพร่ำพูดแต่เรื่องกรือเซะ เรื่องตากใบ ทำไมไม่เคยพูดถึงผลที่มาจากเหตุ คุณตัดตอนมาแต่ความผิดของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร ทำไมคุณไม่พูดบ้างว่าคนที่พาคนพวกนี้มาตายมีความผิดไหม บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์กติกาในการอยู่ร่วมกันอย่างไร คนระดับคุณไม่เข้าใจพวกบ้าคลั่งลัทธิเชียวหรือ ทำไมต้องดูแลเอาใจคนพวกนี้ให้ฮึกเหิมว่ามีคนดีๆ ในสังคมอย่างพวกคุณคอยหนุนหลังอยู่ เขาใช้ประโยชน์จากพวกคุณ (ที่พวกดิฉัน แอบเรียกว่าพวกซื่อบริสุทธิ์) เพื่อสร้างภาพว่าเขาเป็นฝ่ายถูก ทั้งที่เขาก่อเหตุร้ายขึ้นในแผ่นดิน
ถ้าคุณเป็นครูมานานเท่าดิฉันที่เป็นคนภาคกลาง แต่ไปอยู่ที่นั่น คุณจะรู้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวขนาดไหน ดิฉันเคยไปไหนมาไหนในจังหวัดอย่างคนที่เป็นครู เจอลูกศิษย์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เจอผู้คนที่มีอัธยาศัย แม่ค้าในตลาดพูดกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง แต่ต่างฝ่ายต่างพยายามสื่อสารกัน จนดิฉันเชื่อว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่นี่ได้ แต่สิบปีที่ผ่านมานี้ สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง จากการเรียกร้องของผู้ที่อ้างศาสนาทุกวันนี้ เราต้องอยู่ท่ามกลางการไม่ไว้ใจกัน ทุกอย่างเห็นชัดว่าเลวร้ายมากขึ้นจากการแยกตัวของพวกเขาที่เข้มงวดเรื่องการแต่งกาย เรื่องภาษา เรื่องศาสนา และจากเด็กที่เกิดเป็นจำนวนมาก จนน่าตกใจ เขาเชื่อว่าลูกคือของขวัญจากพระเจ้า ยิ่งมีมากยิ่งดี แต่ไม่สนใจว่าจะเลี้ยงให้มีคุณภาพได้อย่างไร (รัฐบาลดูแลแก้ไขไปซิ) สังคมของเขาปัจจุบันนี้ผู้ชายก็ยังแสดงโวหารตามร้านน้ำชา ทำงานอืดๆเอื่อยๆ นึกจะพักก็พัก นึกจะเลิกก็เลิก (อันนี้ผู้พิมพ์เห็นด้วยกับครูผู้เขียน เพราะเพื่อนไปทำถนนที่ปัตตานี ต้องเอาคนงานอีสานไป เพราะคนที่โน่นไม่อดทนทำงาน ดีแต่เรียกร้อง)ไม่มีเงินก็ตั้งวงด่าว่าสังคมไม่เป็นธรรม ใครจะทำธุรกิจก็มีใบปลิวมาขอค่าคุ้มครองแล้ว ใครจะอยากมาลงทุน เขาพร่ำสอนกันว่าพวกคนเจ๊กคนไทยเอาเปรียบเขาทั้งที่มาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ คนที่เคยเป็นมิตรกันก็มองกันอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ทักทายปราศรัยกันเหมือนเดิม ครูอิสลามบางคนที่ไม่ใช่คนที่นี่บอกว่าคงอยู่ไม่ได้ เพราะเขาไม่คลุมหัวก็โดนมองแปลกๆ จากพวกศาสนาเดียวกัน แต่พวกที่ไม่ใช่อิสลามก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ
ดิฉันเชื่อว่าในคณะกรรมการสมานฉันท์ที่เป็นฝ่ายอิสลาม จะต้องแสดงความคับแค้นนานับประการที่ได้รับจากบ้านเมือง ช่วยถามเขาด้วยนะคะว่าทุกวันนี้เขาโดนกดขี่จากใครเขาทำตัวกดขี่คนระดับล่างของเขาเองหรือใครทำ มีเรื่องอะไรบ้างที่ภาครัฐปิดโอกาสเขาไม่ให้ได้รับแล้วให้แต่ซือแย (ไทยพุทธ) จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เคยบ้างไหมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า จะทรงคิดว่าเขาเป็นคนอื่น ท่านทรงมีเมตตากับทุกคนทุกหมู่เหล่าอย่างไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง อย่างนี้แล้วข้าราชการของท่านจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร แผ่นดินนี้ประเทศนี้ให้ชีวิตกับเขาได้เจริญก้าวหน้ากว่าคนศาสนาเดียวกัน เขาควรสำนึกในบุญคุณ ของแผ่นดินและช่วยพัฒนาคนของเขา แต่เขากลับเลือกใช้ความกลัว ความไม่รู้ของชนชาติเดียวกับเขาเป็นฐานให้เขาได้เป็นใหญ่ต่อไป เขาทำลายผู้อื่น เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการเขาคิดว่าทำถูกต้องแล้วหรือ แล้วพวกคุณก็พลอยเห็นดีเห็นงามสนับสนุนเขาไปด้วยทั้งที่คุณรู้เห็นอยู่เต็มตาว่า ประเทศที่ผู้นำแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน
ดิฉันขอประณามและสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังความไม่สงบ จงประสบแต่ความวิบัติในชีวิตและขอให้บาปทั้งมวลสือต่อไปถึงลูกหลาน ให้เป็นผู้ที่ไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัย สมกับที่บรรพบุรุษได้เนรคุณต่อแผ่นดินเกิด ขออย่าให้ได้รู้จักกับความสุขสงบเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ และเมื่อล่วงลับไปสู่โลกหน้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสรวงสวรรค์ย่อมรับรู้ในบาปชั่ว ไม่รับวิญญาณขึ้นไปอยู่กับพระองค์ ต้องตกนรกหมกไหม้จนชั่วนิรันดร์ เพื่อชดใช้ความผิดอันเลวร้ายที่ทำต่อมนุษย์ผู้บริสุทธิ์และแผ่นดินที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน

หนึ่งในครูภาคใต้

ปล. ดิฉันไม่มีความกล้าพอจะลงชื่อจริง เพราะเกรงจะเดือดร้อนไปถึงญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง บรรยากาศในจังหวัดที่ดิฉันอยู่เป็นอย่างนี้จริงๆ ถ้าจะกรุณาในฐานะที่ดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ โปรดอย่าได้ทำร้ายคนไทยที่อยู่สามจังหวัดภาคใต้อีกต่อไป ท้ายที่สุด ดิฉันขอเรียนว่าพี่น้องถามทุกวันว่าทำไมไม่กลับบ้าน แก่ป่านนี้แล้วจะทนอยู่ทำไมให้เขาเป็นห่วง ดิฉันก็บอกว่า ขออยู่บนผืนแผ่นดินไทยจนกว่าจะถึงวันที่ไม่ใช่แผ่นดินไทยอีกต่อไป และเมื่อถึงวันนั้นคงมีคนไทยที่มีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน ได้รับการจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังรู้ว่าเขาสมานฉันท์ เขาปกป้องสิทธิมนุษยชนกันจนคนไทยต้องถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย
อ่านแล้วโดนใจเลยพิมพ์ให้แพร่หลาย


โดย: Fcuk IP: 131.217.6.6 วันที่: 28 ตุลาคม 2548 เวลา:13:04:45 น.  

 
แวะมาดู


โดย: Mr. Hution IP: 82.122.248.83 วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:11:24:41 น.  

 
จะแวะมาบ่อยๆนะคะ ไงก็ up บ่อยๆจะได้มีอะไรๆดีๆอ่านเวลามาเยี่ยมไง


โดย: พันนาม IP: 202.28.245.101 วันที่: 4 ธันวาคม 2548 เวลา:10:37:24 น.  

 
เข้ามาอีกรอบนึงคับ ตอนนี้ผมได้อัพบล็อกของผมแล้วนะคับ อย่าลืมเข้าไปชมคับ


โดย: ดยุคแห่งออสเตรีย วันที่: 4 ธันวาคม 2548 เวลา:19:38:49 น.  

 


แวะมาเยี่ยมค่ะ ^^

Merry X'mas and Happy new year 2006



โดย: plezilla IP: 58.9.30.119 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:3:03:26 น.  

 
ว้าววววววววววววววววววววววววววววววววววว


โดย: Elrond วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:23:27:54 น.  

 
จริงของคุณครับ...


โดย: หวานหูไม่รู้หาย IP: 203.152.12.2 วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:16:43:48 น.  

 
เข้ามาสวัสดีครับ
ปล.เนื้อหาแจ่มครับ


โดย: แนวสกา IP: 58.136.198.237 วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:3:16:32 น.  

 
สนธิ สู้ๆครับ


โดย: bittelangsam1987@yahoo.de IP: 193.170.227.177 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:7:02:49 น.  

 
มาเยี่ยมด้วยเหมือนกัน
ไปเยี่ยมเรามั่งนะ อิอิ


โดย: ลั่นทมสีแสด (ลั่นทมสีแสด ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:0:37:41 น.  

 
ผมแนะนำให้คุณ โทร.ไปหา คุณวีระ ธีรพัฒน์ FM 97 ช่วง บ่าย 2 - 5 โมงเย็นนะเรื่องนี้ผมได้ฟังมาเหมือนกัน แต่ คุณธีระ ฯ เล่าว่า นายเรืองไกร ฯ ไปขอยื่นเสียภาษีเอง ไม่ใช่กรมสรรพากรเรียกเก็บอย่างที่คุณเล่า ซึ่งสรุปสุดท้ายสรรพากร คืนภาษีให้ เท่าเทียมกันหรือยังครับ โธ่ ถ้า ประเทศชาติ มีแต่ฟังไม่ศัพท์ จับเอามาเล่า วุ่นวายตาย ขอจริงหน่อยครับข้อมูลอย่ามั่ว


โดย: คนบางสนาน IP: 58.136.103.96 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:21:09:03 น.  

 
พอดีเห็นตอบในกระทู้แบบนี้ สรยุทธ "แสดงแทน" เป็นฝั่ง ทรท. ได้เหมือนมาก
ตีบทแตกมาหลายครั้ง จนผมชักจะเชื่อซะแล้วว่าแกเป็น ทรท. จริงๆ
แล้วก็อีกกระทู้หนึง คิดคล้ายๆกัน
เลยตามมาเยี่ยมครับ


โดย: IP: 203.114.100.226 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:40:17 น.  

 
สวัสดีทุกท่านนะครับ
ไม่ได้แวะเข้ามาดูนานเหมือนกัน

ส่วนคุณ #20 ที่บอกว่านายเรืองไกรจ่ายเองนั้นผมก็เคยได้ยิน
แต่ประเด็นสำคัญมิได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ใน "การตีความ" ในส่วนที่เหลือมากกว่า
และเงื่อนเวลาที่ตีความครั้งสุดท้าย มันช่างเหมาะเจาะกับการขายหุ้นชินเหลือเกิน
คือบอกว่านายเรืองไกรไม่ต้องเสียภาษี ก่อนหน้าการขายหุ้นเพียง 1 เดือน
ผมขออนุญาตนำมาแปะเลยแล้วกัน
(ถ้าข้อมูลเรื่องเรียกเก็บ/จ่ายเอง ไม่ถูกต้อง ก็อ่านส่วนที่เหลือแล้วกันนะครับ)

* * * * * *

เรื่องนี้ มีตัวละครสำคัญ คือนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักบัญชีหุ้น บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ

เรื่องของเรื่องคือ นายเรืองไกรคนนี้ได้ ซื้อหุ้นจากบิดา ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด
ฟังดูคุ้นๆ ไหมครับ "ซื้อหุ้นจากบิดา ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด"

[b]เสร็จแล้ว ปรากฎว่า นายเรืองไกร โดนเรียกเก็บภาษีจากส่วนต่างนั้น[/b]

นายเรืองไกร ด้วยความที่เป็นนักบัญชี บัญชีหุ้นด้วยนะครับ ก็โวยสิครับ

[b]ก็ทีตระกูลชินวัตรซื้อขายกันเองเป็นกี่ร้อยกี่พันล้าน ไม่เห็นเสียซักสลึง[/b]

เมื่อถูกโวยดังนี้ กรมสรรพากร แทนที่จะไปจัดเก็บภาษีกับตระกูลชินวัตร ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

[b]กรมสรรพากร กลับคืนเงินภาษีให้กับนายเรืองไกร (โอ้ววววว)[/b]

ยังครับ ยังไม่จบ กรมสรรพากรเขามีเหตุผลนะครับ ว่าทำไมนายเรืองไกรจึงไม่ต้องเสียภาษี
ทั้งที่ซื้อหุ้นจากบิดาในราคาถูก (ราคาตลาด 22 บาท ซื้อมา 10 บาท)

"...นายสุเทพ พงษ์พิทักษ์ สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3 ทำหนังสือ ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2548
(ที่ กค.0709.03 (ภค.) / 12123) ถึงนายเรืองไกร เรื่องแจ้งคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2546
โดยระบุว่า [u]ในกรณีดังกล่าว ยังไม่อาจถือได้ว่าท่านมีเงินได้พึงประเมินเพราะเป็นเพียงขั้นลงทุน
หาใช่ผลประโยชน์ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินลงทุน ตามมาตรา 40 (4) (ช) ท่าน (นายเรืองไกร)
จึงยังคงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับตัวเลขผลประโยชน์จากการซื้อหุ้น จนกว่าท่านจะได้ขายหุ้นดังกล่าวไป
โดยได้รับผลประโยชน์ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้ เกินกว่าเงินลงทุน[/u]"

สรุปตามที่ขีดเส้นใต้ คือ นายเรืองไกร "ยัง" ไม่ต้องเสียภาษี
ย้ำนะครับ... "ยัง" ไม่ต้องเสียภาษี เพราะ "ยังไม่ได้ขาย" จึงทำให้ "ยังไม่มีกำไร"

[b]หนังสือระบุชัด "จนกว่าท่านจะได้ขายหุ้นดังกล่าวไป" แปลว่า กำไรส่วนนั้น ต้องจ่ายภาษี[/b]

เอ้า อ่านถึงตรงนี้ ท่านอาจจะคิดว่า กรมสรรพากรสองมาตรฐาน!
นายเรืองไกรขายหุ้น ต้องเสียภาษี ...

[b]แต่ชินวัตรขาย 73,000 ล้าน ไม่ต้องเสีย??[/b]

หามิได้ เพราะกาลต่อมา ทั้งที่ได้สรุปเรื่องนี้ไปแล้ว และนายเรืองไกรก็มิได้ติดใจอะไร
แต่กรมสรรพากร ก็มีหนังสือมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2548...

[b]ก่อนหน้าดีล 73,000 ล้าน ไม่ถึง 1 เดือน???[/b]

[b]บอกว่า นายเรืองไกร ถึงจะขายหุ้น ก็ไม่ต้องเสียภาษีแล้ว[/b]

ดังนั้น สรุปว่า กรมสรรพากร ไม่ได้สองมาตรฐานเลยครับ
เพราะถึงแม้ตอนแรกจะตีความว่า เมื่อซื้อหุ้นมาถูก เวลาขายหุ้น จะต้องเสียภาษีส่วนต่าง
แต่สุดท้าย ก็พลิกคำตีความเดิม ไม่เก็บภาษี ทั้งนายเรืองไกร และตระกูลชินวัตร

[b]จึงนับเป็น "มาตรฐานเดียว" ที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจ ให้คนไทยที่เสียภาษีถูกต้องยิ่งนัก[/b]

ปล. อยากเจอสรรพากรแบบนี้บ้างจัง หาได้ที่ไหนเนี่ย?


โดย: ridkun (ridkun ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:50:32 น.  

 
อืม False Dilemma
ขอบคุณครับสำหรับความรู้


โดย: Plin, :-p วันที่: 6 มีนาคม 2549 เวลา:11:16:48 น.  

 
หึๆ เพิ่งมาเห็นบลอกนี้
ที่ คห.20 ว่าไว้เรื่องนายเรืองไกร ผมไม่ทราบว่าพวกคุณคุยกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่อยากจะมาบอกว่่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาแสดงความเห็นไว้
ประชาชนผู้มีเงินได้ มีหน้าที่ยื่นเสียภาษี ไม่ใช่ว่าสรรพากรต้องมาเรียกเก็บ
ใครมีเงินได้ที่ต้องเสีย ถ้าไม่ยื่นเสีย แล้วสรรพากรไม่รู้ ก็อาจรอดไป
แต่ถ้าสรรพากรรู้ ก็มีอำนาจเรียกให้ไปทำการเสียภาษี


โดย: <เซ็นเซอร์> วันที่: 18 มีนาคม 2549 เวลา:2:57:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ridkun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ridkun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.