ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 เมษายน 2560
 
 

รักออกฤทธิ์! Seductive Smile! บทที่ ๑๔ (YURI)



๑๔

คืนนั้นพิมพ์อัปสรนอนตาค้างอยู่บนเตียง ภาพจูบแรกยังคงตามหลอกหลอนยากจะลืมเลือนไปจากสมองร่างบางไม่เคยคิดฝันว่า ชีวิตนี้จะพลาดท่าเสียทีให้กับอิสตรีมาก่อน ผิดจากภาพวาดฝันในวัยเยาว์ที่มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาจุมพิต แล้วจูงมือเข้าพิธีแต่งงานไว้ลิบลับ

โอ๊ย! จะตามมาหลอกหลอนไปถึงไหน

หญิงสาวอดที่จะสบถในใจไม่ได้ ซุกหน้าเข้ากับหมอนด้วยความหงุดหงิดที่โดนเธอคนนั้นฉวยโอกาสขโมยจูบแรกไป

หล่อนไม่เข้าใจตัวเองนักว่า ทำไมถึงได้อ่อนแอการ์ดตกยามอยู่ใกล้กับสินาถเหมือนต้องมนตร์สะกดทุกครั้งที่ผู้จัดการสาวจ้องด้วยแววตาอ่อนโยนหรือแม้แต่สุ้มเสียงนุ่มทุ้มนั้นก็ด้วย

พอพยายามที่จะข่มตานอนก็เห็นภาพหลังมือถูกประทับจูบเล่นซ้ำไปมาอยู่ในสมอง แต่น่าแปลกใจตรงที่หล่อนไม่ได้ขยะแขยงหรือนึกรังเกียจเดียดฉันท์สัมผัสของเธอคนนั้นเลยสักนิดแต่เป็นความเร้าใจเย้ายวนแบบบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่รู้จัก ที่ทำให้หัวใจเฉยชาเขย่าแรงกว่าปกติ

แต่พิมพ์อัปสรปากหนักเกินกว่าที่จะยอมรับว่า ‘ชอบ’ ใครจะไปกล้าเล่าเรื่องแบบนั้นออกมาดังๆให้อับอายขายขี้หน้าไปทั้งบาง แค่นี้ก็อยากจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว

...เสียจูบแรกให้ผู้หญิง

...ใจสั่นเพราะผู้หญิง

อย่าบอกนะว่าฉันต้องเสียตัวให้ผู้หญิงด้วย...ต้องบ้าแน่ๆ

นึกประชดประชันตัวเองในใจ หายใจเข้าออกลึกๆ หลายครั้งเพื่อข่มตาหลับให้ได้หลังฟุ้งซ่านมาเลยครึ่งคืน

วันรุ่งขึ้น พิมพ์อัปสรเข้าห้องเรียนก่อนเวลาแค่สิบนาทีซึ่งนับสายกว่าปกติมากหล่อนสัมผัสได้ถึงสายตาหลายสิบคู่ของเพื่อนร่วมชั้นที่จับจ้องมาอย่างแปลกๆหลังทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ว่างข้างนุศรา

สาวร่างเล็กเงยหน้าจากแผ่นพับที่กางอ่านมาทักทายเพื่อนสนิททันทีที่เห็นใบหน้าสวยของอีกฝ่าย

“นึกว่าจะไม่มาซะอีก”

“ตื่นสายน่ะ” หล่อนบอกเสียงหอบเหนื่อยหลังรีบจ้ำมาอย่างเร็วเพื่อให้ถึงก่อนเวลาเข้าเรียน

คนฟังทำหน้าแปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นพิมพ์อัปสรมาช้าแบบนี้จึงพึมพำแบบล้อๆ ออกมา

“ไม่น่าเชื่อ”

ร่างบางส่งค้อนน้อยๆ ให้เพื่อนเป็นรางวัล แต่ไม่คิดต่อปากต่อคำด้วยเปิดกระเป๋าหยิบสมุด หนังสือ และเครื่องเขียนมาเตรียมพร้อมเรียนวิชาแรก

“ตอนนี้หลายคนรู้แล้วนะว่าพิมพ์เป็นนางแบบ” นุศรากระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน“ลงหน้าปกหราซะขนาดนั้น เมื่อวานฉันยังไปซื้อมาเก็บตั้งห้าเล่มแน่ะ”

หา!

เบิกตาโตกว้าง หลังรู้ว่าความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไปฝ่ามือเย็นเฉียบ หน้าซีดเผือด เมื่อคืนหล่อนกังวลถึงแต่เรื่องจุมพิต จนลืมเลือนเรื่องอื่นไปหมดสิ้น

แต่แล้วมือถือราคาแพงส่งเสียงดังออกมา หล่อนจึงคว้าออกมาดูเป็นข้อความจากสินาถ

Sinard :หายโกรธพี่หรือยังคะคนสวย?

พิมพ์ : ไม่

Sinard : แย่จัง!

(ส่งสติกเกอร์ทำหน้าเศร้าตามมา)

พิมพ์ : อย่ามากวนประสาทนะฉันมีเรียน

Sinard : โอเค ตั้งใจเรียนนะคะ

พิมพ์ : ไม่ต้องมาอวยพร

Sinard : เย็นนี้พี่จะแวะไปหาที่บ้านมีชุดให้ลองค่ะ

พิมพ์ : (ส่งสติกเกอร์ตัวแลบลิ้นไปให้)

แล้วเก็บสมาร์ทโฟนราคาแพงใส่กระเป๋าตามเดิม แม้ว่ามันจะส่งเสียงดังอีกครั้งก็ไม่คิดจะตอบกลับ

“ท่าทางจะสนิทกับพี่สินาถแล้วสิ” นุศราที่เฝ้าจับตาดูอยู่เอ่ยขึ้นลอยๆหลังเห็นอีกคนพิมพ์คุยกับผู้จัดการของตัวเองเสร็จ ด้วยรู้ว่ามือถือนี้เป็นของใครและไม่มีใครมีเบอร์นี้แม้แต่เพื่อนสนิทแบบเธอ

“เปล่าสักหน่อย ก็เหมือนเดิม”หล่อนยักไหล่ปฏิเสธอย่างเร็ว

ใครจะไปสนิทกับคนกวนประสาทนั่น

สาวร่างเล็กไม่ค่อยเชื่อถ้อยคำจากปากอีกฝ่ายนัก แต่ไม่คิดเค้นถามอะไรตอนนี้ไว้ให้มีหลักฐานคาหนังคาเขาค่อยจัดการก็ยังไม่สาย

“พระบิดารู้แล้วหรือยังเรื่องเป็นนางแบบ?”

“รู้เมื่อวานนี้”

“แล้วท่านไม่โกรธเหรอ?” คนเป็นเพื่อนถามอย่างเป็นห่วงด้วยรู้ว่าพิชิตเป็นพวกอนุรักษ์นิยมมาก หากให้ลูกสาวแต่งชุดไทยตลอดเวลาได้เขาคงทำไปแล้ว

“ตอนแรกโกรธมาก แต่คุณสินาถไปช่วยพูดน่ะ ตอนนี้ก็โอเคขึ้น แต่พ่อจะให้ฉันเลิกเป็นหรือเปล่ายังไม่รู้?” เล่าโดยสรุป ไม่อยากเอ่ยชื่อของผู้จัดการตัวเองนัก ไม่พยายามทำตัวสนิทสนมกับอีกฝ่ายเกินความจำเป็นจึงไม่ยอมเรียกเธอคนนั้นว่าพี่ แต่เรียกคุณทุกคำมากกว่า

“ฉันว่าเธอโชคดีมากเลยนะ ดีกว่าพี่รมเสียอีก”นุศราพูดประโยคหลังเบาๆ ให้ได้ยินแค่สองคน

ทำไม?

ร่างบางเลิกคิ้วเรียวบางขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

“ก็ได้ผู้จัดการไม่เก่งเท่าไหร่ ได้ถ่ายรูปลงเล่มเดียวกับเธอแต่อยู่กลางเล่มน่ะ มีอยู่สี่ห้าหน้าเอง” สาวร่างเล็กเฉลยเธอเปิดดูนิตยสารนั้นอย่างละเอียดไปหลายรอบ

หล่อนทำหน้าจ๋อยๆ แค่พลิกดูเฉพาะรูปของตัวเองยังไม่ได้เปิดอ่านทั้งเล่ม

“เหรอ ฉันไม่เห็น แค่ดูผ่านๆ”

เฮ้อ! ไม่ได้รู้อะไรเลย คุณพิมพ์อัปสร

นึกบ่นสาวแว่นในใจ ก่อนพูดเสียงเนือยๆ

“น้อยมากนะที่นางแบบใหม่จะได้ขึ้นปกหนังสือแบบเธอเว้นแต่มีกำลังภายในดีจริงๆ”

กำลังภายใน?

พิมพ์อัปสรนึกทวนคำของเพื่อนในใจ พลันนึกไปถึงวงหน้าคมของสินาถแต่ปากก็ยังคงตอบไปว่า

“คงแค่เรื่องบังเอิญน่ะ”

บังเอิญตายเลย!

นุศราส่ายศีรษะอย่างเบื่อๆก่อนหันไปสนใจหน้าห้องที่อาจารย์ประจำวิชายืนอยู่ สองสาวจึงเลิกคุยกันโดยปริยาย

สาวแว่นขยับมือจดไปตามอักษรบนกระดานดำแต่ใจเหม่อลอยไปหาใครบางคนจนแทบเรียนไม่รู้เรื่อง จนต้องเอ็ดตัวเองหลายครั้ง

มีสมาธิหน่อยพิมพ์อัปสร!

ตอนพักกลางวัน หล่อนเห็นวิทวัสที่โรงอาหารแต่เขาเดินเลี่ยงไปอีกทางแบบเจตนา ทำให้นุศราอดที่จะสงสัยไม่ได้จึงถามขึ้นหลังซื้ออาหารมานั่งทานที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้

“พิมพ์ทะเลาะกับวิทเหรอ?”

สาวแว่นนิ่งไป ก่อนยอมปริปากบอกออกมา

“อือ เขาโกรธเรื่องฉันเป็นนางแบบ แล้วไม่บอกน่ะ”

ผู้ชายอะไรใจเล็กชะมัด!

สาวร่างเล็กได้แต่ถอนใจยาวเหยียด ด้วยรู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นพวกเอาแต่ใจขนาดไหนบางครั้งก็บงการเป็นเจ้าหัวใจมากเกินไป หากเป็นเธอคงทนเป็นเพื่อนกับเขาได้ไม่ยาวนานแบบพิมพ์อัปสร

“เอาน่า เดี๋ยวหมอนั่นก็หายโกรธ” เอ่ยปลอบใจเพื่อนก่อนพูดติดตลกร้ายซึ่งเป็นความจริงสุดๆ ออกมา“ฉันไม่เคยเห็นเขางอนพิมพ์เกินอาทิตย์เลยสักครั้งเลยนะ”

“คงงั้น” หล่อนหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำกระเซ้าเย้าแหย่ที่บอกชัดว่า วิทวัสเป็นผู้ชายขี้งอนขี้ใจน้อยขนาดไหน แต่ครั้งนี้หญิงสาวไม่รู้สึกร้อนใจกับการแสดงออกของเขา

สองสาวนั่งหัวเราะคิกคักแล้วรับประทานอาหารกลางวันที่ซื้อมาอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่เคร่งเครียดกับปัญหาอะไรอีก

อย่างน้อยเรื่องที่สินาถพูดไว้ก็เป็นความจริงคือตรีภพไม่กล้าเอาเรื่องกับวิทวัสที่โดนชกหน้าคืนนั้นเพราะตรีภพเองก็ต้องรักษาชื่อเสียงของตนเองเอาไว้ ทำให้หล่อนสบายใจขึ้น ไม่เช่นนั้นเพื่อนชายหล่อนอาจต้องถูกพักการเรียนหรือร้ายแรงสุดชายหนุ่มอาจมีข้อหาทางกฎหมายติดตัว แต่สินาถก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะช่วยวิทวัสเต็มที่

ทำไมวันนี้ต้องคิดถึงคนนั้นนักนะ?

นึกสงสัยตัวเอง ที่มักครุ่นคิดไปหาผู้จัดการสาวบ่อยเกินไป และที่สำคัญคือหญิงสาวรีบกลับบ้านเร็วกว่าทุกวันโดยไม่คิดเถลไถลไปไหน

ก่อนสี่โมงเย็นเล็กน้อย พิมพ์อัปสรพบว่ารถมินิคันน้อยได้จอดสนิทอยู่นอกรั้วบ้าน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครมา...มีอยู่คนเดียว

มาเร็วดีจริงๆ

นึกประชดในใจ หญิงสาวผลักประตูเล็กของรั้วเข้าบ้านไปทรุดตัวลงนั่งพักไม่ทันหายเหนื่อย พลันได้ยินเสียงคุ้นเคยทักทายออกมาจากด้านหลัง

“กลับมาแล้วเหรอคะน้องพิมพ์”

หล่อนเหลียวมองสินาถที่แย้มยิ้มเต็มหน้าดูอารมณ์ดี จึงถามขึ้นตามมารยาท

“มานานแล้วเหรอคะ?”

“สักพักค่ะ นั่งคุยกับคุณอาอยู่” เธอตอบด้วยท่าทีแบบสบายๆ

คุยอะไรกัน?

หล่อนอดที่จะสงสัยไม่ได้ แต่ไม่ทันถามสาวร่างสูงก็พูดออกมาเหมือนรู้ใจ

“พี่เอาชุดมาให้คุณอาช่วยดูน่ะค่ะ ว่าชุดไหนน่าจะเหมาะกับน้องพิมพ์ที่สุด”

พิมพ์อัปสรทำหน้าสับสนมากกว่าเดิม

“ชุดอะไรคะ?”

“ชุดที่น้องพิมพ์จะใช้รำวันอาทิตย์ค่ะ”

หืม!

ความอยากรู้อยากเห็น ทำให้สาวแว่นเดินเข้าไปดูที่ห้องรับแขกแล้วอดที่จะตะลึงงันไม่ได้เมื่อเห็นชุดฉุยฉายพราหมณ์หกชุด วางเรียงอยู่บนโซฟายาว ส่วนบนโต๊ะกระจกมีเครื่องประดับสำหรับสวมรำอีกนับสิบชิ้นวางอยู่ซึ่งล้วนแล้วแต่แวววับจับตา น่าดูยิ่งกว่าร้านเจ้าประจำที่หล่อนเช่ามาใช้บ่อยๆ เสียอีกคุณภาพคนละเกรดกันเลยทีเดียว ของตรงหน้าดูเหมือนเพชรจริงมากๆ

ว้าว! สวยจัง

หญิงสาวเบิกตาโตกว้าง หัวใจดวงน้อยพองฟูยินดียิ่งกว่าตอนรู้ว่า ตนเองได้เป็นนางแบบเสียอีกทรุดตัวลงนั่งพับเพียบจับชุดที่วางอยู่ใกล้กับตนมากที่สุดขึ้นมาพินิจพิจารณาอย่างเบามือวงหน้างามผุดยิ้ม

“คุณนาถเลือกชุดได้สวยมากเลยนะลูก”พิชิตพูดชมผู้จัดการสาวทันทีที่เงยหน้าเห็นหล่อนแม้เขาเป็นเจ้าของโรงเรียนนาฏศิลป์ แต่ไม่คิดเช่าชุดสวยระดับนี้มาก่อนด้วยเกรงใจงบประมาณในกระเป๋าอย่างที่สุด กลัวจะเป็นลมล้มพับหากได้ยินราคาคาดว่าค่าเช่าคงหลายพันบาทเลย

การได้รู้ว่า ลูกสาวคนเดียวจะสวมชุดแบบนี้ออกรำโชว์นับเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งสำหรับหัวอกพ่ออย่างเขา...ยิ่งกว่าฝันไปเสียอีก

“ค่ะ” ร่างบางพึมพำตอบกับชายอาวุโส ยังคงหลงใหลกับชุดในมืออย่างไม่รู้เบื่อไม่ต่างกับเด็กๆ ที่เห็นของชอบของถูกใจ

สินาถทรุดตัวลงนั่งขอบประตู กวาดตามองสองพ่อลูกที่กำลังเห่อชุดอยู่โดยไม่คิดจะเข้าไปขัดจังหวะตาคู่คมจับไปยังหญิงสาวที่ยิ้มน้อยๆ พลอยทำให้เธอยกยิ้มตามไปด้วย สาวร่างสูงชอบแอบมองยามเห็นหล่อนแสดงความรู้สึกออกมาอย่างเป็นธรรมชาติดูใสซื่อบริสุทธิ์ที่ทำให้มองได้โดยไม่อยากละสายตาไปไหน

น่ารักชะมัด!

“ลูกลองดูนะว่าถูกใจชุดไหน ที่เหลือจะได้เอาไปคืนที่ร้าน”ชายสูงวัยรีบบอกกับลูก นึกเกรงใจสินาถมากที่ขนชุดมาให้เลือกเยอะขนาดนี้ไม่อยากให้เสียสะตุ้งสตางค์มากเกินไป

แม้จะเจออีกฝ่ายแค่ไม่กี่ครั้งแต่เขานึกถูกชะตากับผู้จัดการสาวมากที่ไม่แสดงทีท่าหยิ่งหรือถือตัวว่าเป็นลูกหลานเศรษฐีแม้แต่น้อย เธอคนนี้ไม่แสดงท่าทีดูถูกหรือดูแคลนที่เขาเป็นคนจน แถมเป็นหนี้คุณสุดา คุณยายของตนเลยจึงมองว่าเป็นคนนิสัยดีที่น่าคบหาไว้

“ค่ะพ่อ” ลูกสาวรับคำ

“ไม่ต้องรีบก็ได้ค่ะคุณอา มะรืนนาถค่อยเอาไปคืนก็ทันค่ะ”สาวร่างสูงรีบบอก ไม่ชอบที่จะรีบเร่งจนเกินไป สินาถมองว่าการเลือกชุดให้ถูกใจต้องใช้เวลาประกอบกับชุดเหล่านี้หยิบยืมมาจากเจ้าของร้านที่คุ้น เคยกันดี จึงได้ราคาพิเศษ

“ไม่ดีหรอกครับ ผมเกรงใจน่ะ” พิชิตเอ่ยอย่างสุภาพเขาไม่ใช่คนที่จะเอารัดเอาเปรียบใคร ไม่ใช่พวกได้คืบเอาศอก ก่อนหันไปบอกร่างบาง“ไปลองเลยลูก”

นางแบบสาวหยิบชุดไปลองในห้องด้านหลังสวมแล้วมาให้บิดากับสินาถช่วยดูทีละชุด ผ่านไปชั่วโมงกว่าจึงตัดสินใจได้

ขณะเดียวกันกับที่อีกคนลองชุดชายสูงวัยนั่งเลือกเครื่องประดับที่พิมพ์อัปสรต้องใช้ในการรำฉุยฉายได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่มองปราดเดียว ก็เลือกได้อย่างสวยงามครบถ้วน

“ที่ต้องแต่งจริงๆ มีแค่นี้ครับ ที่เหลือคืนได้เลยครับ”

“ค่ะคุณอา” สินาถเก็บเครื่องประดับที่เหลือใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมไปคืนที่ร้าน

หลังได้ชุดที่ต้องการแล้วพิมพ์อัปสรนั่งพับชุดที่เหลือใส่ถุงอย่างเรียบร้อยในใจนึกขอบคุณสาวร่างสูงเป็นอันมาก และคิดว่าจะหาจังหวะพูดดีๆ กับอีกฝ่าย หล่อนไม่เคยคิดเลยว่าสินาถจะเป็นคนช่างเอาอกเอาใจขนาดนี้ เรียกว่าได้ใจของบิดาหล่อนไปเต็มๆ

ดูเหมือนเย็นชา แต่จริงๆเป็นคนใจดีมากเลย

เมื่อหมดธุระเกือบหกโมงเย็นผู้จัดการสาวขอตัวกลับแม้เจ้าของบ้านจะชวนทานข้าวเย็นแต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพไม่ทำให้เสียน้ำใจกัน พิชิตได้แต่ตามใจและชื่นชมคนตรงหน้ามากขึ้น

“พิมพ์ช่วยคุณนาถเอาของไปเก็บด้วยนะลูก”

“ค่ะพ่อ” หญิงสาวรับคำ แล้วถือถุงหลายใบเดินออกนอกบ้านไป

สาวผมสั้นยกมือทำความเคารพชายอาวุโส

“สวัสดีค่ะคุณอา”

เขารับไหว้ด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีครับคุณนาถ ขอบคุณที่คุณช่วยดูแลยายพิมพ์อย่างดี”

เธอส่งยิ้มให้กับพิชิต แล้วพูดจาหนักแน่นประดุจคำสัญญา

“นาถทำด้วยความเต็มใจค่ะคุณอา นาถกลับก่อนนะคะ”

“ครับ” บิดาของพิมพ์อัปสรผงกหัวมองแผ่นหลังบอบบางที่ถือกระเป๋าเครื่องประดับออกไปด้วยความรู้สึกไว้วางใจบางอย่างเขาเหลือบตามองไปยังรูปถ่ายของภรรยาที่ผนัง

“ดูเหมือนลูกสาวเราจะมีอนาคตดีกว่าที่คิดไว้มากผมไม่อยากให้ลูกต้องมาลำบากเหมือนเรา” พิชิตรำพึงรำพันกับรูปภาพนั้นเพียงลำพัง ...หากแต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆออกมา

สินาถเปิดประตูหลังของรถมินิแล้วรับถุงชุดจากมือของหล่อนไปวางเรียงอย่างเรียบร้อย โดยไม่ลืมที่จะแอบเนียนสัมผัสกับมือนุ่มๆของอีกฝ่ายอย่างตั้งใจหลายหน ก่อนปิดประตูลง

“เรื่องชุดที่จะแสดง ถ้าขาดอะไรอีกก็บอกพี่นะคะน้องพิมพ์”

สาวร่างสูงกำชับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่ชวนฟังไม่อยากให้พิมพ์อัปสรแบกรับภาระต่างๆ มากเกินไปเธอพร้อมจะช่วยแบ่งเบาทุกความทุกข์เต็มความสามารถ

“คงไม่มีอะไรแล้วมั้งคะ” หล่อนตอบเสียงแผ่ว หายใจสะดุดไปนิดเมื่อเงยหน้าสบตาคู่คมของอีกคน“ขอบคุณค่ะ”

ชอบจริงๆ เวลาน้องพิมพ์พูดคะขาเนี่ย

สินาถยิ้มน้อยๆ มุมปากอย่างพึงพอใจเอื้อมมือไปคว้ามือเนียนนุ่มมาเกาะกุมไว้อย่างถือวิสาสะ

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหมคะรับรองว่าพี่ไม่ขออะไรมากค่ะ แค่...”

คนฟังขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อยเหมือนโดนทิ้งให้ค้างคาใจแต่ไม่ได้ดิ้นรนดึงมือออกให้เป็นอิสระ

“แค่อะไรคะ?”

ผู้จัดการสาวไม่ตอบ ยกมือเรียวนั้นขึ้นจรดเรียวปากฝากจุมพิตเบาๆ ที่หลังมือนั้นหนึ่งหน แล้วเงยหน้าสบตากับเจ้าหล่อน

“แค่นี้ค่ะ”

อ๊าย!

ใบหน้างามของพิมพ์อัปสรแดงซ่าน ร้อนผะผ่าวไปหมดหล่อนไม่คิดว่าอีกคนจะอาจหาญทำแบบนี้ จึงรีบชักมือออกอย่างเร็ว ด้วยความเคอะเขินเฉสายตามองไปทางอื่น

“คนฉวยโอกาส” หล่อนตัดพ้อออกมาแบบไม่เต็มเสียง

จะน่ารักไปไหนคะ

สาวร่างสูงยิ้มกว้าง ไม่คิดจะรังแกอีกคนเกินไปนักแค่ไม่โดนตบอีกทีก็ดีมากแล้ว

“กลางอาทิตย์นี้มีวันว่างตอนบ่ายใช่ไหมคะ?”

สาวแว่นหยุดคิดถึงตารางเรียนของตัวเอง ก่อนผงกหัว

“ค่ะ สองวัน”

“วันไหนเรียนเสร็จแวะไปหาพี่ที่ VK ด้วยนะคะ ต่อไปน้องพิมพ์ต้องซ้อมเดินแบบแล้วล่ะ”

ทำไมต้องซ้อมด้วย?

คนฟังทำหน้าสับสนว่าเกี่ยวอะไรกับตนเองเพราะคิดว่าการเป็นนางแบบถ่ายภาพนิ่งแบบนี้ก็พอใจมากแล้ว

“ทำไมคะ?”

“คืออย่างนี้ค่ะ อีกไม่นานน้าวิ จะคัดเลือกนางแบบในบริษัทเราส่งประกวดเวทีใหญ่น้าวิอยากให้น้องพิมพ์ลองลงสมัครด้วยค่ะ” สินาถบอกตามที่วิรากรได้เรียกคุยหลังประชุมวันนั้นแต่ไม่ทันบอกกับหล่อนก็มาทะเลาะกันเสียก่อน

ประกวด!

พิมพ์อัปสรตาโตกว้าง หัวใจร่วงไปกองยังตาตุ่มไม่คิดว่าจะโดนมอบหมายเรื่องที่โหดหินมาให้ทำ การเดินแบบคือจุดอ่อนที่ทำให้หล่อนหน้าแตกยับเสียความรู้สึกมากมายจึงโวยวายปฏิเสธเสียงหลงออกมา

“ฉันไม่ทำ!”

OoXoO

สนใจอ่านเรื่องนี้โหลดซื้อได้ทั้ง E-book หรือสั่งจองหนังสือได้ค่ะ

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ถ้าชอบ อย่าลืมบอกต่อด้วยนะคะ

นาง

OoXoO




 

Create Date : 29 เมษายน 2560
1 comments
Last Update : 29 เมษายน 2560 17:33:25 น.
Counter : 1084 Pageviews.

 

สวัสดีนะจ้ะ แวะมาเยี่ยมนะจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4057910 23 สิงหาคม 2560 17:32:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com