ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
27 เมษายน 2560
 
 

รักออกฤทธิ์! Seductive Smile! บทที่ ๑๓ (YURI)



๑๓

พิมพ์อัปสรเดินหลบผู้คน โดยเลือกออกไปทางด้านหลังของ VK Models ก่อนโบกแท็กซี่เพื่อกลับไปบ้านให้เร็วที่สุดในใจยังคงครุ่นคิดถึงการกระทำของผู้จัดการสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

จูบแล้วขอโทษ ทำแบบนี้ได้อย่างไรกันคนบ้า!

นึกต่อว่าต่อขานสาวร่างสูงในใจอย่างหงุดหงิด

ทว่าเมื่อคิดถึงสัมผัสอ่อนโยนที่ถูกเธอคนนั้นครอบครองหล่อนเผลอยกมือแตะเรียวปากของตนอย่างลืมตัว ในใจอับอายเกินกว่าจะยอม รับว่า สินาถจูบได้ประทับใจมาก

หญิงสาวเม้มริมฝีปากอุ่นแทบเป็นเส้นตรงที่โดนใครบางคนฉวยโอกาสทีเผลอจนเสียความบริสุทธิ์ไปทั้งที่ตั้งใจว่าจะเก็บไว้ให้กับคนรักตัวจริง...แต่ก็ดันมาพลาดท่าเสียทีให้กับผู้จัดการสาว

บ้าชะมัด!

นึกสบถในใจ ด้วยถ้อยคำที่ไม่กล้าให้ดังหลุดออกมาจากปากเลยสักครั้งพิมพ์อัปสรพยายามระงับอารมณ์ให้เย็นลง ก่อนคว้ามือถือเครื่องเก่ามาเปิดแล้วพบว่ามี Miss Callหลายครั้งจากวิทวัสในเช้าวันนี้

มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?

นึกเป็นห่วงเขา ด้วยเกรงจะเป็นเรื่องวุ่นๆ เมื่อคืนจึงตัดสินใจโทรกลับ เช้านี้หล่อนแทบลืมอีกฝ่ายไปเสียสนิท ด้วยสนใจงานของ VK Models มากกว่า

“วิทโทรมามีอะไรหรือเปล่า?” ถามขึ้นอย่างเร็ว หลังเขากดรับ

“วิทต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถามพิมพ์”พูดเสียงกระด้างแบบที่ไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก หงุดหงิดไม่น้อยที่พิมพ์อัปสรไม่ยอมรับสายเขาตั้งแต่เมื่อคืนแถมวันนี้กว่าจะโทรกลับก็ผ่านไปครึ่งวัน ไม่สบอารมณ์ที่หล่อนไม่ใส่ใจเขาเท่าที่ควรทั้งที่ผ่านมาชายหนุ่มพยายามเอาอกเอาใจสารพัดแสดงออกชัดเจนมากมายว่ารักชอบขนาดไหนจนเพื่อนรู้กันหมดห้อง

...แต่หล่อนก็ยังคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน

“เรื่องอะไร?”

“เรื่องที่พิมพ์ไปเป็นนางแบบน่ะสิ” เสียงในสายพูดห้วนๆ

หญิงสาวขมวดคิ้ว ไม่ชอบโทนเสียงของเขาเอาเสียเลย ฟังแล้วเหมือนอีกฝ่ายวางตัวเป็นเจ้านาย...ทั้งที่จริงเป็นแค่เพื่อนกัน

ทำไมต้องใช้เสียงแบบนี้ด้วย?

“แล้วยังไง?”

“ทำไมพิมพ์ไม่บอกวิท ทำไมต้องมีความลับด้วย?”วิทวัสเสียงดังขึ้นกว่าตอนแรกเหมือนไม่พอใจมาก “พิมพ์เห็นวิทเป็นตัวอะไร?เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?”

ฉันไปตกปากรับคำเป็นแฟนตอนไหน?

พิมพ์อัปสรสับสนกับถ้อยคำที่ถูกส่งมาเป็นชุด

“พูดเรื่องอะไร? เราไม่ได้เป็นแฟนกันนะวิท” หญิงสาวตอบเสียงเย็นเยือกเริ่มฉุนขึ้นมากับคำพูดที่ไม่ใกล้เคียงความจริงของอีกคน

เขาแค่นหัวเราะหุหุในลำคอ

“ใช่สิ วิทมันแค่เด็ก จะไปเลิศเลอเท่ากับพวกเศรษฐีได้ยังไง”

อะไรกันนักหนา!

สาวแว่นนึกรำคาญกับนิสัยเด็กๆของเพื่อนชายที่โวยวายตัดพ้อแบบเหตุผลข้างๆ คูๆ จึงพูดตัดบท

“ถ้าไม่มีอะไรก็แค่นี้นะ” พูดจบ กดวางสายไปทันที

ชายหนุ่มรีบโทรกลับมา

จะโทรมาทำไมอีก?

คิดในใจเมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้า จึงปิดเครื่องไปไม่อยากทะเลาะด้วย นับวันยิ่งไม่เข้าใจความคิดของเพื่อนชายมากขึ้นทุกที หลับตาลงเอนหลังพิงเบาะรถ เพื่อไม่ให้อาการปวดหัวกำเริบมากขึ้นกว่าเดิม

เฮ้อ! วันนี้มันวันอะไร ถึงมีแต่เรื่องยุ่งๆ

เมื่อกลับไปถึงแถวบ้านเกือบสามโมงเย็น สาวแว่นลงแท็กซี่เพื่อแวะซื้อของที่ปากซอยสายตาพลันเหลือบไปที่แผงหนังสือหัวใจดวงน้อยแทบหล่นไปกองตาตุ่มเมื่อเห็นหน้าปกของนิตยสารชื่อดัง ภาพหล่อนในชุดไทยโชว์หราอยู่บนนั้น ภาพนิ่งชุดแรกในฐานะนางแบบซึ่งได้รับสำเนามาเก็บไว้เป็นที่ระลึกแล้ว

ตายแน่ฉัน!

พิมพ์อัปสรรีบคว้ามาเล่มหนึ่งแล้วจ่ายตังค์ ขณะที่คนขายรับเงินพลางจับจ้องใบหน้าของหล่อนอย่างพินิจพิจารณาแล้วพูดกับตัวเองออก มาดังๆ

“หน้าเด็กคนนี้คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”คนขายพยายามนึกแต่ยามกะทันหันจึงคิดไม่ออก

ร่างบางไม่พูดอะไร รับถุงหนังสือ แล้วรีบเดินไปโดยเร็ว ก่อนที่จะถูกจำหน้าได้แต่ที่กังวลใจมากกว่าในยามนี้ก็คือ บิดาจะแสดงอาการอย่างไรกับเรื่องนี้ได้แต่คิดมองโลกในแง่ดีเอาไว้ก่อน

หวังว่าพ่อคงยังไม่รู้เรื่องนะ

ขณะที่หล่อนก้าวเข้าประตูบ้าน เด็กๆ ที่เรียนรำอยู่เห็นเข้าชี้นิ้วมายังพิมพ์อัปสรแล้วร้องเรียกดังๆ อย่างดีอกดีใจออกนอกหน้า

“ครูพิมพ์กลับมาแล้ว”

“ครูพิมพ์” / “พี่พิมพ์” เหล่าเด็กๆ วิ่งมาล้อมหล่อนไว้ทั้งหน้าหลังไม่ใส่ใจที่จะเรียนรำกับครูสองสามีภรรยาอีกต่อไป การเรียนการสอนจึงต้องหยุดชะงักลงโดยปริยาย

“สวัสดีค่ะทุกคน แต่พี่ว่าไปเรียนต่อก่อนดีไหมคะเดี๋ยวโดนครูดุเอา” ร่างบางพูดเสียงนุ่ม พลางทักทายด้วยการเอามือลูบหัวน้อยๆของเด็กเกือบทุกคนที่มาใกล้

“ก็ได้ค่ะ” / “ครับ” เด็กน้อยทุกคนรับคำอย่างว่าง่าย ก่อนพากันวิ่งกลับไปเรียนต่อกับครูของตน

พิมพ์อัปสรยกมือไหว้สองสามีภรรยา ซึ่งทั้งคู่รับไหว้ตอบ แล้วเดินเลี่ยงเข้าไปยังด้านข้างของบ้านเมื่อก้าวไปยังห้องรับแขก ก็เจอะกับพิชิตที่นั่งกอดอกทำหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาตัวเก่าซึ่งมีร่องรอยปุปะหลายแห่งตามอายุการใช้งาน

ทำไมต้องทำหน้าดุขนาดนี้ด้วย?

หล่อนคิดอย่างหวาดๆ ด้วยไม่เห็นบิดาทำหน้าเคร่งขรึมขนาดนี้บ่อยนักได้แต่ทำใจดีสู้เสือ ก้าวเข้าไปหาเช่นทุกครั้ง

“กลับมาแล้วค่ะพ่อ”

ชายสูงวัยเอียงคอมองลูกสาวด้วยสายตานิ่งๆแต่ทำเอาคนถูกมองใจสั่นไม่น้อย คำถามแรกถูกยิงมาทันทีหลังหญิงสาวทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้เดี่ยวข้างๆ เขา

“ทำไมลูกต้องมีความลับกับพ่อด้วยพิมพ์?”

แย่แล้วสิ พ่อรู้แล้ว!

นางแบบสาวกลืนน้ำลายลงลำคออย่างยากเย็นไม่ทันเตรียมใจที่จะเจอกับการสอบสวนใหญ่ของบิดา ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันอับโชคที่สุดในรอบปีของหล่อนเลยก็ไม่ปาน

“เอ่อ พ่อ พ่อหมายถึงเรื่องอะไรคะ?” ย้อนถามออกไปเสียงตะกุกตะกัก เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน

พิชิตโกรธแทบควันออกหู จ้องหน้าลูกสาวเขม็งที่มาทำไขสือไม่ยอมรับตรงๆ ซึ่งเป็นนิสัยที่เขาไม่ชอบอย่างมาก

“อย่ามาเล่นลิ้นกับพ่อ!” ชายสูงวัยตวาดหล่อนเสียงดัง แบบที่ไม่เคยแสดงออกมากับลูกสาวเลยสักครั้งด้วยปกติอีกฝ่ายเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทของเขาเสมอ แต่ไม่ใช่ครั้งนี้

พิมพ์อัปสรเม้มเรียวปากแทบเป็นเส้นตรง กำสองมือที่ถือถุงอยู่แน่นก้มหน้าต่ำ แล้วกล่าวเสียงแผ่วกว่าปกติ

“พิมพ์แค่ไปทำงาน หาเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระพ่อบ้างพิมพ์ทำผิดหรือคะ?”

เหตุผลของหล่อนทำให้พิชิตอึ้งไปชั่วขณะความขึ้งโกรธที่มีก่อนหน้าเลือนหายไปพอสมควร แต่ยังต้องตำหนิลูกสาวในฐานะที่ไม่เคารพเชื่อฟังเขา

“ผิดสิ ผิดที่ลูกไม่บอกพ่อก่อน ไม่ปรึกษาพ่อสักคำ”

“แต่พ่อคะ-” หญิงสาวพยายามจะเถียง แต่คนเป็นพ่อยกมือห้ามเอาไว้หล่อนจึงได้แต่ปิดปากสนิทและเงี่ยหูฟัง

“ลูกมีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือให้จบก่อน แล้วค่อยทำงานไม่ใช่มาแอบทำงานโดยไม่บอกพ่อ เข้าใจไหม?” พิชิตให้เหตุผลด้วยเสียงดุๆ ยังไม่หายขุ่นเคืองกับการกระทำของหล่อนที่ทำเหมือนไม่เห็นหัวเขา

...สำหรับคนอื่นจะไม่สนใจเขาไม่เป็นไรแต่พิมพ์อัปสรต้องอยู่ในโอวาทของเขา

ชายสูงวัยจ้องหน้าสายเลือดเพียงหนึ่งเดียว ที่แทบจะเหมือนกับภรรยาที่เสียไปหยั่งกับฝาแฝดเหมือนเสียยิ่งกว่าพรพรรณ ทำให้เขาหวงแหนหล่อนมากขึ้นไปอีก

“เล่าให้พ่อฟังว่าไปทำอะไรมา?” ชายอาวุโสถามขึ้น โดยไม่ได้ลดเสียงดุดันลงเลยเขาต้องการรู้ทุกอย่างที่อีกคนไปเป็นนางแบบ แม้เรื่องจะผ่านมาหลายสัปดาห์แล้วก็ตาม

แต่ไม่ทันที่พิมพ์อัปสรจะปริปากอะไร จู่ๆก็มีเสียงใครคนหนึ่งขัด จังหวะขึ้น

“ให้นาถเป็นคนเล่าแทนน้องพิมพ์ดีกว่าค่ะคุณอา”

สองพ่อลูกหันขวับมองแขกไม่ได้รับเชิญหล่อนเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนที่ไม่น่าอยู่ที่นี่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าประตูห้องรับแขก

...คนที่พิมพ์อัปสรตบหน้าหันไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน

จะมาทำไมอีก!

เจ้าของบ้านจำได้ว่า สินาถคือหลานของคุณสุดาเจ้าหนี้ของเขาจึงเอ่ยถามอย่างสุภาพ

“คุณรู้เรื่องยายพิมพ์เป็นนางแบบด้วยเหรอครับ?”

“ใช่ค่ะ” ร่างสูงตอบเสียงนุ่มให้ความยำเกรงในฐานะที่อีกคนเป็นผู้ใหญ่กว่า “นาถเป็นผู้จัดการส่วนตัวของน้องพิมพ์ค่ะน้องพิมพ์ไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าจะตำหนิ ก็ตำหนินาถแทนเถอะค่ะ”

เจ้าของบ้านจ้องหน้าสวยคมเขม็งอย่างไม่พอใจแต่ไม่แสดงอะไรบนสีหน้า ก่อนผายมือเชิญให้อีกคนนั่งเขาไม่อยากเสียมารยาทกับใครโดยไม่จำเป็น

“นั่งก่อนสิ”

“ขอบคุณค่ะ”

ร่างสูงนั่งประจันหน้ากับเขาด้วยมาดนิ่งๆไม่แสดงความหวาดเกรงอะไร ทั้งที่ในใจตื่นเต้นระทึก เธอไม่อยากเสียพิมพ์อัปสรไปเดิมพันนี้ถือว่ามีค่าสูงไม่น้อย

...มูลค่าที่ไม่ใช่ตัวเงิน แต่เป็นมูลค่าทางด้านจิตใจต่างหาก

เธอไม่อยากให้เขาทำลายโอกาสทอง ที่มีน้อยนิดไปจากสาวแว่น ด้วยผู้จัดการสาวเชื่อว่า‘มนุษย์ทุกคนมีอิสระในการเลือกอนาคตของตน เอง’

หากแต่พ่อแม่หลายคนไม่ยอมรับเรื่องนี้และพยายามสร้างกรอบความคิดของตนครอบทับความคิดของลูกเอาไว้เพื่อให้ลูกเป็นไปตามที่ตนเองต้องการ โดยพวกเขาลืมไปเสียสนิทว่า ลูกไม่ใช่ตัวเอง ไม่ใช่โคลนนิ่งไม่ใช่หุ่นปั้น หากแต่เป็นอีกชีวิตที่มีจิตใจ มีสมอง และมีความชอบความถนัดของตัวเอง

สินาถตั้งใจที่จะอธิบายให้บิดาหล่อนเข้าใจและยอมรับในความเป็นหล่อน เธอมองเห็นพรสวรรค์ของพิมพ์อัปสรซึ่งจะนำไปสู่ความโด่งดังและความสำเร็จได้ไม่ยาก

ฉันไม่ยอมเสียเธอไปง่ายๆ หรอกนะพิมพ์อัปสร

พิชิตซักไซ้ทุกอย่างจากสินาถ ซึ่งเธอตอบตามตรง แต่ฉลาดพอที่จะไม่ตอบบางอย่างอันจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียต่อหล่อน

ขณะที่พิมพ์อัปสรได้แต่นั่งฟังตัวเล็กลีบในใจหล่อนนึกพรั่นพรึงไม่น้อย กลัวว่าบิดาจะให้ลาออกจาก VK Models ซึ่งแน่นอนว่า สามารถทำได้ แต่ต้องจ่ายค่าผิดสัญญาก้อนมหึมาและเขาจะต้องโมโหมากหากต้องทำแบบนั้น

อันที่จริงพิชิตคล้อยตามความคิดของพรพรรณ หรือน้าพรของหล่อนหลังโดนตอกย้ำเรื่องโรงเรียนสืบสานนาฏศิลป์ ที่นับวันจะใกล้ล่มสลายเข้าไปทุกที ซึ่งอีกฝ่ายมีความเป็นนักธุรกิจมากกว่าเขามากได้พูดย้ำกลอกหูเขาหลายต่อหลายหน

แม้ชายสูงวัยรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่นาน ทว่าเขายังไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรให้เด็ดขาดหากจะบอกว่า ลึกๆ ในใจพิชิตยังคงมีความขลาดกลัวอยู่ก็คงไม่ผิดนัก

“ถึงโรงเรียนจะเป็นมรดกของตระกูลแต่คนเราต้องกินต้องใช้ ถ้ามัวแต่มายึดติดกับอดีต เราต่างหากที่จะไม่มีอนาคต” พรพรรณว่า ก่อนพูดทิ้งท้าย ให้พิชิตต้องขบคิดหนักอยู่นานทีเดียว“แล้วพี่จะให้ยายพิมพ์ มารับมรดกหนี้ของพี่ไปด้วยใช่ไหม?"

เธอสงสารหลานสาวคนเดียว ที่ถูกพ่อเคี่ยวกรำให้ซ้อมรำตั้งแต่ตัวน้อยๆวันละหลายชั่วโมง จนตอนนี้พิมพ์อัปสรเป็นนางรำที่มีฝีมือหาตัวจับได้ยากยิ่งแต่พรพรรณรู้ว่า การรำเก่งรำสวย ใช่ว่าจะร่ำรวย หรือประสบความสำเร็จเสมอไป และจะเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมอย่างมากหากพิชิตโยนภาระก้อนใหญ่นี้ไปให้กับลูกสาวอีก

น้าสาวรู้แต่ว่า ธุรกิจไหนที่ไม่ดีก็ควรปิดตัวลงไม่ใช่ปล่อยให้หนี้บานเบอะ จนเจ้าของต้องตายตาม โดยเฉพาะเจ้าของที่หยิ่งยโสและทิฐิมานะสูงอย่างพิชิต

ชายคนนี้ปฏิเสธความช่วยเหลือของพรพรรณที่พยายามหยิบยื่นให้หลายต่อหลายครั้ง จนสุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะดูเฉยๆหลังอีกฝ่ายพูดอย่างเชื่อมั่นออกมาว่า

“ถึงพี่จะจน แต่พี่ก็มีปัญญาส่งลูกเรียนจบได้”

ให้มันจริงเถอะ

พรพรรณคิดประชดในใจ แล้วไม่พูดถึงเรื่องโรงเรียนอีกหลังบ่นจนปากเปียกปากแฉะไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี ขณะที่เธอขยายสวนผลไม้ไปได้อีกหลายไร่ทำกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี แม้จะอยู่คนละที่แต่เธอคอยช่วยเหลือสองพ่อลูกบ่อยๆด้วยการแวะเวียนหาของกินไปฝาก และแอบให้เงินหลาน สาวเสมอ โดยห้ามไม่ให้บอกบิดาซึ่งพิมพ์อัปสรก็ว่านอนสอนง่าย

เขายังดื้อรั้นที่จะดำเนินกิจการที่ไม่มีอนาคตต่อไปงบติดตัวแดงไปเรื่อย จนถึงขั้นควักเงินเก่าเก็บมาใช้จนเกลี้ยงยกเว้นแต่ของเก่าที่ตัดใจขายไม่ลงก็เก็บเอาไว้ แล้วเริ่มกู้หนี้ยืมสินเพื่อให้อยู่รอด

ผ่านมาสิบกว่าปี พิชิตมีหนี้ก้อนโตสะสมงอกเงยเงินแต่ละงวดที่ผ่อนจ่ายเป็นแค่ดอกเบี้ย ไม่สะดุ้งสะเทือนเงินต้นให้ยุบลงเท่าไหร่นักปีที่กรุงเทพฯ โดนน้ำท่วมหนักเขาจึงต้องบากหน้ากู้เพิ่มจากคุณสุดา มาเพื่อซ่อมบ้านอีกหนี้จึงพุ่งขึ้นเป็นจำนวนเกือบครึ่งล้าน

ชายสูงวัยถึงรู้ว่า ‘เขาคิดผิดอย่างมหันต์’ ที่ไม่เชื่อคำเตือนของพรพรรณ แต่ทิฐิมานะยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยมด้วยศักดิ์ศรีค้ำคอ ทำให้พิชิตจำใจต้องสู้ เพื่อรักษาสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มีอยู่ ที่ดินของบรรพบุรุษซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสอนนาฏศิลป์แห่งนี้เอาไว้

แม้มนุษย์จะปากแข็งบอกว่า เงินตราไม่มีค่าอะไร หากแต่มนุษย์ทุกคนก็ต้องการเงินและใช้เงินนั้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ผ่านไปเกือบชั่วโมง พิชิตจึงยุติการซักถามกับสินาถหลังจากได้ข้อมูลการเป็นนางแบบไม่ได้แย่อย่างที่เขาเข้าใจในตอนแรกแต่การจะให้เปิดใจยอมรับง่ายๆ ก็เกรงจะเสียฟอร์มเสียหน้า

งานดีเงินดีแบบนี้ถึงยายพิมพ์จบมาก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ

ความคิดเริ่มเปลี่ยนผัน หลังจากเขารู้ว่ายอดเงินแต่ละครั้งที่ลูกสาวไปถ่ายแบบได้ในหลักหมื่นขึ้นไป และทาง VK Models กับสินาถหักรวมแล้วแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ไม่ได้เอาเปรียบอะไรกันมากมาย บวกลบคูณหารอย่างไร งานนี้พิมพ์อัปสรเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุดถือว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

“แล้วพ่อจะให้พิมพ์เป็นนางแบบ ต่อไปไหมคะ?”พิมพ์อัปสรอดที่จะถามออกมาไม่ได้ ด้วยความกระวนกระวายใจ

คุณอาคงไม่อยากให้น้องพิมพ์เลิกเป็นหรอก

สินาถพอมองออกว่า พิชิตคงลังเลใจหลังรู้เรื่องผลตอบแทนว่าสูงขนาดไหน จึงไม่ร้อนใจเท่าหล่อน แต่ทำเนียนเล่นตามน้ำไปอยากให้เขาเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน

แล้วจะตอบยังไงดี?

ยามกะทันหัน เขายังนึกหาเหตุผลไปอธิบายกับสองสาวที่นั่งจ้องตาแป๋วรอคำตอบไม่ได้จึงตอบแบบกึ่งรับกึ่งสู้กับผู้จัดการสาว

“เอาเป็นว่า ขออาคิดดูก่อนสักสองสามวัน แล้วค่อยว่ากัน”

สำเร็จ หุหุ

เธอนึกหัวเราะในใจ ด้วยรู้ดีว่าการตอบแบบนี้เป็นแค่การรักษาหน้าตาของเขาเอาไว้เท่านั้น แล้วค่อยพูดตกลงภายหลัง

“ได้ค่ะคุณอา”

“ขอบใจนะที่ดูแลพิมพ์อย่างดี ถ่ายชิ้นแรกก็ได้ขึ้นปกเลย” เขาเอ่ยชมอีกฝ่ายออกมาจากใจ

“ไม่เกี่ยวกับนาถหรอกค่ะ ฝีมือน้องพิมพ์ล้วนๆ ต่างหาก”สินาถยกคำชมทั้งหมดส่งไปให้หล่อน

“งั้นเหรอ” พิชิตไม่อยากจะเชื่อนักแต่ก็อดภูมิใจในตัวลูกไม่ได้ จึงปรายตามองไปที่หล่อนแวบหนึ่ง

มาชมฉันทำไมกันเนี่ย!

สาวแว่นนึกเคอะเขินที่จู่ๆ ได้รับคำชมแบบไม่ทันตั้งตัว

“ถ้าไม่มีอะไร นาถขอตัวกลับก่อนนะคะ บังเอิญมีนัดต่อค่ะ”เธอกล่าวขอตัวอย่างสุภาพ

เจ้าของบ้านรับไหว้อีกฝ่าย ก่อนหันไปกำชับลูกสาว

“พิมพ์ไปส่งพี่เขาด้วยนะ”

“ค่ะพ่อ” หล่อนได้แต่รับคำอย่างว่าง่ายแม้ในใจจะยังไม่หายเคืองสาวร่างสูงเรื่องเมื่อกลางวันก็ตาม

“บ้านนี้ยินดีต้อนรับคุณนาถเสมอนะครับ ถ้าว่างก็แวะมา”พิชิตเชื้อเชิญอย่างเป็นมิตร

“ขอบคุณค่ะ ขออนุญาตค่ะ”

เธอลุกยืนเต็มความสูง โดยมีลูกสาวเจ้าของบ้านตามไปส่ง

พิชิตมองตามแผ่นหลังของสินาถแล้วตัดสินใจตามสัญชาตญาณของตนเอง

ดูไปคุณคนนี้น่าจะไว้ใจได้ ปล่อยให้ยายพิมพ์ทำไปสักพักดีกว่า

“ตกลงคุณมาที่นี่ทำไม?” พิมพ์อัปสรเอ่ยถามขึ้นขณะอยู่ข้างรถคันน้อยของอีกฝ่ายที่จอดสนิทอยู่นอกรั้วบ้านหลังเด็กที่มาเรียนรำกลับ กันไปหมดแล้วเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน

สินาถหันกลับมามองหน้าสวยหวานของนางแบบสาว แล้วฝืนยิ้มออกมา

“จริงๆ พี่จะมาเพื่อขอโทษน้องพิมพ์แล้วบังเอิญเข้าไปขัดจังหวะตอนที่คุณอากำลังดุน้องพิมพ์อยู่ พี่แค่ทนดูไม่ได้ก็แค่นั้นเอง”

แปลก!

หล่อนนึกประหลาดใจกับคำตอบที่ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมวกวนตีความยากเหมือนก่อนหน้า จึงยืนกอดอก แล้วกล่าวเสียงเย็นๆ

“แต่คุณยังไม่ได้ขอโทษฉัน”

หืม!

ร่างสูงทำหน้าสับสนกับการเอ่ยปากทวงของอีกฝ่ายราวกับเป็นเรื่องสลักสำคัญมากมาย ใช้เวลาตรึกตรองแค่เสี้ยววินาทีเธอก้าวเท้าไปหยุดยืนใกล้ๆ สาวสวย แล้วก้มหน้าลงข้างใบหูเพื่อกระซิบ

“ตอนนี้พี่เปลี่ยนใจแล้วค่ะ” สาวร่างสูงยิ้มยียวนกวนประสาทสุดๆออกมา

น่าทุบจริงๆ

พิมพ์อัปสรนึกฉุนเฉียวขึ้นมาอีกรอบ จึงยกสองมือขึ้นทุบที่ไหล่ของร่างสูงอย่างแรงหลายครั้ง

“โอ๊ย! โอ๊ย! พี่เจ็บนะคะ” สินาถร้องเสียงหลง รีบคว้าข้อมือทั้งคู่ของหล่อนเอาไว้แน่นก่อนจะประทุษร้ายเธอให้บอบช้ำไปมากกว่านี้

“มือก็เล็กแค่นี้ ทำไมถึงได้แรงเยอะนักแก้มพี่ยังไม่หายเจ็บเลยนะคะ เดี๋ยวพี่ก็ช้ำไปทั้งตัวหรอก” เธอโวยวายออกมา

“สมน้ำหน้า อยากรังแกฉันก่อนทำไม” ปากพูดออกไปแบบนั้นแต่ในใจแอบนึกสงสารอีกคนอยู่เหมือนกันจึงลอบชำเลืองมองแก้มที่โดนหล่อนซัดเสียเต็มวงเมื่อกลางวัน เห็นรอยแดงจางๆประทับไว้ก็ใจหาย

คงเจ็บมากนะเนี่ย

“ถ้าพี่ขอโทษ น้องพิมพ์จะหายโกรธไหมคะ?” ร่างสูงถามเสียงนุ่มชวนฟัง

สาวแว่นรีบเบือนหน้าไม่กล้าสบตาด้วยกลัวใจอ่อนแพ้ทางความอ่อนโยนของคนตรงหน้า แต่ไม่ได้ดิ้นรนออกจากการที่ถูกยึดข้อมือไว้

อันที่จริงแล้ว ความขุ่นเคืองที่มีเต็มเปี่ยมลดน้อยลงไปมากหลังผู้จัดการสาวมานั่งอธิบายกับพิชิตเนิ่นนาน จนเขาไม่ตำหนิหล่อนทั้งยังกล่าวชื่นชมเสียด้วยซ้ำ แม้จะไม่มั่นใจนักว่า สุดท้ายบิดาคิดอ่านอย่างไรกับการเป็นนางแบบแต่หล่อนก็สบายใจขึ้นที่ไม่มีความลับกับเขา หลังปิดบังอยู่นานหลายอาทิตย์

...ซึ่งต้องยกให้เป็นความดีความชอบของสินาถเต็มๆ แต่ร่างบางไม่คิดเอาเรื่องจูบมาหักกลบลบหนี้กับเรื่องนี้เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

“ไม่!”

“ทำไมละคะ?”

“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” หล่อนใช้วิธีดาบนั้นคืนสนองกับอีกฝ่ายก่อนยิ้มยั่วลอยหน้าลอยตา

เฮ้อ! ดูติ๋มๆ แต่ร้ายกาจกว่าที่คิด

เธอได้แต่บ่นในใจ หลังโดนประโยคเดียวกันย้อนเอาคืน

“ไม่หายโกรธพี่ก็ไม่เป็นไรค่ะ พี่จะตื้อ จะง้อน้องพิมพ์ไปเรื่อยๆสักวันน้องพิมพ์ต้องใจอ่อนแน่ๆ”

“ไม่มีทาง!” พิมพ์อัปสรยังคงปากแข็งพลางส่งค้อนเต็มวงให้คนตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้เต็มประดา

ปากนิ่มๆ น่าจูบเหลือเกิน...เสียดาย!

เธอจ้องริมฝีปากอุ่นตรงหน้าที่เพิ่งได้เชยชิมไป แม้จะติดอกติดใจรสชาติมากมายแต่ไม่กล้าเสี่ยงกับฝ่ามือพิฆาตของสาวสวย ประกอบกับสถานที่ไม่เอื้ออำนวยเดี๋ยวพ่อของเจ้าหล่อนจะเอาลูกปืนมาฝังในหัวคิดแล้วไม่คุ้มค่านัก จึงได้แต่อดใจไว้

“หน้าฉันมีอะไรติดเหรอคะ?” นางแบบสาวอดถามขึ้นไม่ได้หลังเขินที่โดนสายตาคู่คมจับจ้องนานหลายวินาที โดยเฉพาะที่ริมฝีปาก

“ไม่มีค่ะ...พี่กลับก่อนนะคะ”

แล้วสินาถก็ทำสิ่งที่คนตรงหน้าคาดไม่ถึงด้วยการยกข้อมือสองข้างของหล่อนที่ยึดกุมไว้ขึ้นจรดเรียวปาก ประทับจูบแผ่วเบาบนหลังมือทั้งสองอย่างไม่ลำเอียงก่อนปล่อยข้อมือเล็กเรียวเป็นอิสระอย่างอิดออดเสียดาย

“แล้วพี่จะเขียนไลน์มาง้อนะคะคนดี บายค่ะ” สาวร่างสูงเคลื่อนตัวไปขึ้นรถยนต์แล้วสตาร์ทเครื่องขับออกไปโดยเร็ว

พิมพ์อัปสรมัวแต่ตกตะลึงงัน สติหลุดลอยออกจากร่าง ได้แต่ยืนมองตามหลังรถมินิที่เลี้ยวหายมุมถนนไปยามนี้ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นกระหน่ำรัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตื่นเต้นไม่แพ้จูบแรกเมื่อกลางวันนัก ใบหน้าสวยหวานแดงซ่านร้อนผ่าว

หลายวินาทีจึงตั้งสติได้ จึงสะบัดหน้ากลับเข้าบ้านโดยเร็วโดยไม่ลืมที่จะต่อว่าสินาถทิ้งท้ายในใจ

คนบ้า!

ไม่ไกลจากรั้วบ้านของพิมพ์อัปสรมีรถยนต์ญี่ปุ่นคันหนึ่งจอดอยู่ คนในรถกระหยิ่มยิ้มย่องกับกล้องติดเลนส์ซูมในมือ ที่เพิ่งเก็บภาพความประทับใจไปได้หลายสิบรูป

...โดยที่ทั้งคู่ ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าโดนแอบถ่าย

“แค่นี้ก็ได้เงินก้อนโตแล้ว หุหุ”

นักแอบถ่ายคนนั้นกดส่งรูปช็อตเด็ดไปหาเกตุมณี เจ้าของค่าย The Cute ทันที

เศร้า

งามเอยนุชแห่งข้า กลอยใจ

ทรวงพี่สุดหลงใหล ใฝ่จ้อง

ปรารถนาชิดใกล้ ครองเสน่ห์

อกพี่โอดร่ำร้อง แน่งน้องตัดรอนฯ

OoXoO

ขอบคุณสำหรับ 5 ดาวและทุกความเห็นใน MEB ค่ะ

ถ้าอยากอ่านฉบับเต็ม E-book โหลดได้ที่ MEB แล้วนะคะ

หนังสือจองได้ถึง 30 เมษายนค่ะ

ถ้าชอบผลงานของไรท์ อย่าลืมบอกต่อด้วยนะคะ

ขอบคุณอีกครั้ง

นาง

OoXoO






 

Create Date : 27 เมษายน 2560
1 comments
Last Update : 27 เมษายน 2560 13:16:21 น.
Counter : 1043 Pageviews.

 

สวัสดีนะจ้ะ แวะมาเยี่ยมนะจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4057910 23 สิงหาคม 2560 17:32:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com