ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
6 เมษายน 2560
 
 

รักออกฤทธิ์! Seductive Smile! บทที่ ๔ (YURI)



หลังเลือกซื้อนิตยสารได้ตามต้องการสินาถชำระเงินแล้วคว้าถุงออกจากร้านหนังสือ เสียงดนตรีไทยดังกระหึ่มจากชั้นล่างเรียกความสนใจจนร่างสูงต้องเดินไปใกล้ราวที่มีคนยืนแน่นเอียดอาศัยที่ตัวสูงจึงมองผ่านลอดช่องไปดูว่า ชั้นล่างมีการแสดงอะไร?

เด็กสมัยนี้เก่งจัง

นึกชมเชยในใจที่เห็นเด็กตัวน้อยมีความสามารถเกินวัย บ่งบอกว่าผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จนอดนึกเปรียบเทียบวัยเด็กของตนกับเด็กเหล่านั้นไม่ได้

เธอเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่จำความได้ชีวิตนี้มีแต่คุณยายเท่านั้นที่เป็นญาติสนิท คอยดูแลเอาใจใส่มาตลอด ส่วนญาติห่างๆที่ร่วมนามสกุลกัน คงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีเธออยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้ด้วย

ช่างมันเถอะ

สินาถบอกกับตัวเองก่อนจะหดหู่ใจไปมากกว่านี้ หมุนตัวไปจากตรงนั้น โดยไม่ทันเห็นพิมพ์อัปสรซึ่งเดินมาด้านหน้าเวทีเพื่อดูเหล่าศิษย์ตัวน้อยของหล่อน

...คลาดกันแค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น

สาวผมสั้นหวนนึกถึงผู้มีพระคุณตั้งใจจะแวะไปหาหลังไม่ได้เจอมาเกือบอาทิตย์ แม้จะคุยกันผ่านมือถือเกือบทุกวันแต่ก็ไม่เหมือนกับเจอตัวเป็นๆ

ซื้ออะไรไปฝากคุณยายหน่อยดีกว่า

ผู้จัดการสาวถือถุงหนังสือก้าวยาวๆไปทางประตูด้านหลังของห้างฯ ทะลุไปยังลานจอดรถชั้นที่เธอจอดพาหนะไว้ รถมินิคูปเปอร์สีแดงหลังคาสีขาวที่ใช้มาสองปีเศษหญิงสาวขึ้นนั่ง แต่ไม่ทันบิดกุญแจสตาร์ทรถ เสียงมือถือก็ดังขึ้น

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

สินาถหยิบมือถือออกมาดูชื่อคนโทรเข้า‘พิจิตรา’ที่เพิ่งแยกจากกันไปเมื่อไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว

มีอะไรอีกล่ะเนี่ย?

อดที่จะสงสัยไม่ได้จึงรีบกดรับสายของเพื่อนสนิท

“ว่าไงจิต?”

“เมื่อกี้ฉันลืมบอกอีกสองอาทิตย์ที่มหา’ลัยจะมีงานเลี้ยงศิษย์เก่า แกจะไปไหม?” เสียงของพิจิตราถามดังกว่าปกติโดยมีเสียงเซ็งแซ่ลอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ...เสียงโฆษณาขายสินค้า

โดยปกติสามสาวจะไปงานศิษย์เก่าไม่ขาดเพื่อพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงและครูบาอาจารย์อย่างน้อยปีละครั้งและช่วยบริจาคเงินให้ กับอดีตสถานศึกษาของตนตามกำลังทรัพย์

“ทำบุญตามกำลังทรัพย์มีน้อยทำน้อย อย่าทำบุญเอาหน้า แล้วมานั่งเครียดทีหลังนะลูก”คุณยายสุดาสอนสินาถอย่างอ่อนโยน ไม่ให้โอ้อวดแข่งขันในเรื่องไร้สาระโดยเฉพาะในเรื่องความมั่งมีในวัตถุ “เงินในกระเป๋ามีมากมีน้อย เรารู้อยู่แก่ใจคนอื่นไม่ได้มารู้กับเรา”

ซึ่งผิดกับหลายคนในสังคมที่ชอบสร้างภาพสร้างกระแสว่าตนมั่งมีอวดร่ำรวยฟุ้งเฟ้อ ไม่เข้าตามหลัก ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙

...คำสอนที่ผู้ปฏิบัติตามจะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและมีความสุข

...คำสอนที่ทำได้ง่ายทำได้เลย และเห็นผลลัพธ์ได้จริง

...คำสอนที่มีเพื่อให้ประสกนิกรชาวไทยมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น

...คำสอนที่คนต่างชาติทั่วโลกพากันสรรเสริญว่าเป็นคำสอนที่ ‘เยี่ยมยอด’

หากแต่คนไทยส่วนใหญ่ยังคงมองข้าม‘ของดี’ นั้นไปหน้าตาเฉย ไม่ต่างจาก ‘ไก่มีพลอยเม็ดงามไว้ในครอบครอง แต่ไม่รู้ค่า’ แล้วก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตข้นแค้นลำเค็ญกันต่อไป

ถ้าคนไทยเรียนรู้หลักการนี้อย่างถ่องแท้สักครึ่งประเทศพวกเราจะเป็นประเทศที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้ไม่ยาก และจะไม่ถูกจัดเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่กำลัง ‘เยื้องย่าง ดูนุ่มนิ่ม เป็นเด็กน้อยเดินเตาะแตะ’ ในสายตาของชาวต่างชาติอีกต่อไป

สาวผมสั้นนิ่งคิดชั่วอึดใจ

“ไปสิ”

“โอเคงั้นฉันจองโต๊ะเลยนะจะได้เอาโต๊ะหน้าๆ เห็นบอกว่ามีการแสดงน่าสนใจหลายชุด” เสียงคนในสายพูดกรอกมา

“ตามใจแกแล้วกัน”

สินาถไม่เรื่องมากกับการเลือกโต๊ะเลือกเก้าอี้สักเท่าไหร่ถ้าเจอคนไม่สบอารมณ์ก็แค่นั่งทำหน้าเฉย ปล่อยให้พวกอยากคุยได้ปล่อยแมงโม้พ่นน้ำลายเต็มที่ส่วนตัวเธอฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ใครถามก็ตอบแค่สั้นๆ ตามมารยาท ไม่มีคนคุยด้วยก็ทานอาหารตรงหน้าไปเรื่อยๆดูการแสดง หมดเวลาก็กลับบ้าน

“ได้ๆ แค่นี้ก่อนนะฉันจะไปช็อปต่อ บาย” พิจิตราพูดรัวเร็วแข่งกับเสียงประกาศผ่านลำโพง ลดราคาสินค้า๕๐-๗๐%

“อือ บาย”

ทันทีที่สินาถพูดจบอีกฝ่ายกดวางสายทันที

สงสัยจิตจะเหมาเสื้อหมดกระบะแน่หุหุ

สาวผมสั้นส่ายหน้ากับนักซื้ออันดับหนึ่งที่คาดว่าคงยังไม่ยอมกลับบ้านง่ายๆ ซึ่งเธอเข็ดกับการเดินขาลากค่อนวันมาแล้ว ปล่อยให้อินทุอรไปกับพิจิตราจะเหมาะกว่า...สองคนนั้นคอเดียวกัน

เกือบบ่ายสองแล้วเหรอเนี่ยเร็วจัง

มองเวลาแล้วอดบ่นในใจไม่ได้สินาถบิดกุญแจสตาร์ทรถออกจากศูนย์การค้าทันทีมุ่งตรงไปยังร้านอาหารเจ้าโปรดของคุณยาย เพื่อหากับข้าวไปฝากสักสองสามอย่างกะว่าคืนนี้จะคุยกับคุณสุดาให้ชุ่มปอดหลังไม่เจอหน้าหลายวัน

บ้านคุณยายอยู่ไกลออกไปทางชานเมืองหลวงห่างจากตัวเมืองพอสมควร ซึ่งยามนี้เจริญผิดหูผิดตา มีแต่ตึกสูงเกือบตลอดสองข้างทางจากเดิมที่เป็นท้องนาท้องไร่เสียส่วนใหญ่ราคาที่ดินขยับขึ้นหลายสิบเท่าในเวลาเพียงไม่นาน เมื่อความเจริญไปถึงที่ใด รถคันงามก็หนาแน่นตามไปด้วยประหนึ่งเป็นการอวด ‘ศักดินา’ กลายๆ ตามประสาคนมีฐานะ

ด้วยความที่เธอไม่ชอบอยู่บนท้องถนนนานๆจะไปไหนทีก็ต้องออกจากบ้านแต่ไก่โห่ นับเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและเสียสุขภาพจิตมากจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สินาถซื้อคอนโดอยู่ในย่านธุรกิจหลังมีรายได้เลี้ยงตัวเองระยะหนึ่ง

เธอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนซอยที่ปากทางมีร้านสะดวกซื้อก่อนหาที่จอดรถ แวะร้านประจำซื้อกับข้าวสามอย่างสองชุด ซึ่งส่วนใหญ่ทานกับข้าวต้ม และขนมถ้วยสองชุดแล้วขึ้นรถขับเข้าไปกลางซอย จอดหน้าประตูรั้วอัลลอยด์สีขาว อันเป็นอาณาเขตบ้านคุณยายที่มีต้นไม้หนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นตัวบ้านที่ตั้งอยู่ด้านใน

สาวร่างสูงกดรีโมทเปิดประตูอัตโนมัติก่อนเคลื่อนรถไปจอดยังโรงรถ โดยไม่ลืมกดปิดประตูรั้ว สายตาจับจ้องเบนซ์สีดำสองประตูป้ายแดงที่จอดอยู่อย่างสงสัยแสดงว่าคุณยายกำลังมีแขก

ใครมาล่ะเนี่ย?

นึกสงสัย คว้าถุงข้าวของทั้งหมดลงมาด้วยก้าวยาวๆ เข้าไปยังด้านในบ้านไม้สักหลังใหญ่ ทันทีที่เข้าไปเธอก็จ๊ะเอ๋กับใครบางคนที่ปรายตามองมาด้วยสายตาคมกริบ

“คุณนาถมานานแล้วเหรอคะ?”อุ่นเรือน แม่บ้านที่รับใช้คุณยายมานานตั้งแต่ก่อนสินาถเกิดเอ่ยเสียงเข้มกึ่งตำหนิกลายๆเธอเป็นคนเจ้าระเบียบ เข้มงวด และตรงต่อเวลาอย่างมาก

โดนแล้วฉัน

สินาถทำหน้าเจื่อนๆรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่มาช้าไปกว่าที่บอกไว้กว่าครึ่งชั่วโมง พนมมือขึ้นทำความเคารพผู้อาวุโสผู้ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของตน

“สวัสดีค่ะป้าเรือนขอโทษที่มาช้านะคะ”

หญิงสาวสอดแขนคล้องกับแขนที่เหี่ยวย่นของอีกคนแบบอ้อนๆก่อนยื่นถุงหิ้วหลายใบในมือให้แม่บ้าน

“กับข้าวกับขนมค่ะจากร้านหน้าปากซอยสองชุดค่ะ”

แม่บ้านส่งค้อนวงโตให้อย่างรู้ทันรับถุงเหล่านั้นไปถือไว้ เพื่อแบ่งจัดสำรับทานมื้อเย็นและในวันถัดไป

“เอามาปิดปากป้าใช่ไหมคะ?”

สินาถหัวเราะเบาๆแก้เก้อหลังโดนพี่เลี้ยงดักคอ แล้วกล่าวเสียงอ่อนหวาน

“แหมนาถไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย”

“ให้มันจริงเถอะ”

จะรู้อะไรขนาดนั้นปิดไม่ได้เลยจริงๆ

ร่างสูงนึกบ่นในใจตั้งแต่เด็กจนโต คนตรงหน้าดูจะอ่านความคิดเธอได้เกือบหมดทุกอย่างเหมือนมานั่งอยู่ในสมองของเธอ

“คุณยายมีแขกเหรอคะ?”เธอเอ่ยถามขึ้น เมื่อนึกถึงรถคันงามที่ไม่คุ้นตามาจอดสงบในโรงรถ

“อ๋อ เขามาติดต่อจะขอซื้อที่ค่ะเห็นบอกอยากได้ไปสร้างบ้าน” สตรีสูงวัยตอบตามที่ทราบ เธอนั่งอยู่ในช่วงแรกของการสนทนาก่อนออกมา ปล่อยให้มดหลานสาววัยสิบสองของเธออยู่คอยรับใช้แทน

หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคุณยายมีที่ดินตรงไหนบ้าง รู้แต่ว่ามีพวกนายหน้า พวกทำธุรกิจบ้านจัดสรรหรือแม้แต่ชาวบ้านจนๆ แวะเวียนมาคุยธุระกับคุณสุดาอยู่บ่อยๆ จนแทบเป็นเรื่องปกติ

“ค่ะ”

สินาถแค่พึมพำรับรู้แต่ไม่แสดงความใส่ใจเป็นพิเศษ ด้วยถือว่าตนไม่ใช่เจ้าของที่ดินคงไม่ใช่เรื่องดีงามที่จะไปก้าวก่าย หรือเสนอหน้าออกความเห็นใดๆด้วยคิดว่าคุณยายฉลาดรอบคอบกว่าเธอมาก

...ไม่อยากอวดโง่เกินความจำเป็น

“งั้นนาถขอกลับห้องก่อนนะคะป้าเรือน”

ก่อนที่หญิงสาวจะปลีกตัวไปอุ่นเรือนก็พูดขึ้นอย่างเร็วว่า

“เดี๋ยวค่ะ ท่านสั่งไว้ว่าถ้าคุณนาถมาให้ไปพบด้วยค่ะ”

หืม?

คนฟังทำหน้าไม่เข้าใจก่อนถามย้ำเพื่อความชัดเจน ด้วยไม่คิดว่าตนต้องไปรับรู้อะไรด้วย

“ตอนนี้เหรอคะ?”

“ใช่ค่ะ ท่านคุยกับแขกอยู่ที่ห้องสมุด”อุ่นเรือนตอบเสียงเรียบราบจริงจัง

มีเรื่องอะไร?

สาวร่างสูงทำหน้าประหลาดใจแต่ก็ผงกศีรษะรับคำโดยดี แม้จะไม่รู้ว่า ตนถูกเรียกไปพบด้วยเรื่องอะไรก็ตาม

“เข้าใจแล้วค่ะ”

สินาถสาวเท้าผ่านห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่มีชุดรับแขกหรูหราสไตล์วิคตอเรีย เพดานสูงประดับด้วยโคมไฟระย้าส่องประกายวิบวับไม่ต่างจากบ้านของเศรษฐีรุ่นเก่า ก่อนเดินทะลุผ่านไปยังห้องขวามือ หยุดเคาะประตูเบาๆสองครั้ง พอได้ยินเสียงขานรับ เธอจึงเปิดเข้าไปโดยไม่ลืมปิดลงตามเดิม

หญิงสาวยกมือทำความเคารพเจ้าของบ้านอาวุโสที่นั่งประจำที่ตรงโต๊ะหนังสือไม้สักแกะสลักประดับมุกตัวใหญ่

“คุณยายหานาถเหรอคะ?”

“ใช่นั่งก่อนสิลูก” สุดาเอ่ยอย่างอ่อนโยนกับหลานสาว

“ค่ะ”สินาถก้าวไปนั่งเก้าอี้ว่างข้างแขกของคุณยาย แต่ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย ด้วยเกรงจะเป็นการเสียมารยาทได้แต่ทำตัวสงบเสงี่ยมกว่าปกติ

เจ้าของบ้านเบนสายตามองไปยังแขกที่นั่งตรงข้ามกับเธอก่อนพูดแบบคนอารมณ์ดี

“แนะนำตัวหน่อยสิยายคิดว่า ยายนาถคงจำเธอไม่ได้”

“ครับคุณยาย”เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มสวมแว่นหนาสีดำรับคำกับผู้อาวุโส แล้วหันหน้ามามองสินาถที่เหลียวหน้าไปสบตาด้วยเขายิ้มแบบมีเสน่ห์ให้เธอ

“จำพี่ได้ไหมครับ?”

เราเคยเจอกันด้วยเหรอ?

สินาถยอมรับว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาจัดว่าดีเลยทีเดียว ใบหน้าคมเข้ม คิ้วหนาเป็นปื้นนัยน์ตาสีเข้มซ่อนอยู่หลังกรอบแว่น จมูกมีเนื้อบอกว่ามีฐานะการเงินไม่ใช่คนจน ริมฝีปากหนาทั้งบนล่างแต่รับกับใบหน้าได้พอเหมาะพอเจาะ ดูเผินๆ เขาน่าจะแก่กว่าเธอสักสามหรือห้าปี

ผู้จัดการสาวขมวดคิ้วเรียวแทบเป็นปมพยายามนึกอยู่หลายสิบวินาที แต่ใบหน้าแบบนี้ไม่อยู่ในฐานข้อมูลใดๆ ของสมองเลย

“คิดว่าไม่ค่ะเราเคยเจอกันด้วยเหรอคะ?”

ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆเหมือนผิดหวังที่ได้รับคำตอบแบบนี้ หันไปสบตากับสุดาที่หัวเราะเบาๆ ในลำคอ แล้วเขาพูดทำนองตัดพ้อน้อยใจออกมา

“ท่าทางน้องนาถจะลืมผมแล้วจริงๆนะครับคุณยาย”

“ก็เราเล่นหายไปนานขนาดนั้นไม่ลืมสิแปลก” หญิงอาวุโสเอ่ยเหมือนเข้าข้างหลานสาว

“ขอโทษครับ” เขาพึมพำออกมาเบาๆ

เรียกฉันว่าน้องนาถเหรอ?

สินาถกระพริบตาถี่ๆหลายครั้ง คุ้นเคยกับคำเรียกแบบนี้มาก่อนจากใครบางคนเมื่อนานมาแล้วแล้วภาพของเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็แวบผ่านเข้ามาในความทรงจำ

“พี่วัต?”

เขายิ้มกว้างเต็มหน้าจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบดูแล้วอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงหลายปี

“ในที่สุดก็จำพี่ได้นะครับ”อนุวัตพูดแบบล้อๆ

ผู้จัดการสาวยิ้มอายๆให้ชายหนุ่ม รู้สึกผิดที่ลืมเลือนอีกฝ่ายไปเสียสนิทหลังไม่ได้ติดต่อกันนานเกือบสิบปีอันเนื่องจากเขาไปเรียนต่อต่างประเทศที่ห่างกันไปคนละซีกโลก

“ขอโทษค่ะที่นาถจำพี่ไม่ได้” สินาถกล่าวเสียงอ่อย “พี่วัตเปลี่ยน ไปเยอะมาก”

เขายิ้มมุมปากใช้สายตาลอดแว่นพินิจพิจารณาวงหน้าของหญิงสาวอย่างละเอียดเหมือนชื่นชมของมีค่าไม่วางตา

ทำไมต้องจ้องกันขนาดนี้ด้วย?

สินาถรู้สึกแปลกๆที่โดนอีกฝ่ายจ้องมองนานเกินไป

“หน้านาถมีอะไรติดเหรอคะ?”

ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา

“เปล่าครับพี่แค่คิดว่า น้องนาถเองก็เปลี่ยนไปเยอะ...สวยกว่าที่พี่เห็นในรูปมาก”

ชมอะไรกันแบบนี้!

สินาถอึ้งกับคำชมที่หลุดโพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยหน้าร้อนจนต้องหลบสายตาต่ำ เขินอายขึ้นมาทั้งที่เธอก็ได้รับคำชมมาบ่อยๆจนแทบเป็นปกติ ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆ

“พี่วัตพูดเกินไปแล้วค่ะจะผ่านไปกี่ปี นาถก็ยังเป็นนาถคนเดิม” สาวร่างสูงรีบกล่าวแบบถ่อมตัวแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องพูดไปสนทนากับคุณสุดาแทน“เห็นป้าเรือนบอกว่าคุณยายมีธุระกับนาถ?”

“ก็ไม่เชิงธุระของยายหรอกนะตาวัตมีอะไรอยากคุยกับลูกน่ะ” ผู้อาวุโสบุ้ยบ้ายไปให้อีกคนพูดธุระเองและทำตัวเป็นเพียงสักขีพยานที่ดี

หืม?

ผู้จัดการสาวเอียงคอมองไปยังชายหนุ่มที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยเด็กอย่างสงสัย

“เรื่องอะไรคะ?”

เขาทำหน้าเคร่งขรึมสูดหายใจลึก ทำราวกับจะพูดเรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ได้มีท่าทีพูดเล่นแม้แต่น้อย

“เรื่องแต่งงานครับน้องนาถ”

แต่งงาน?

สินาถทำหน้าสับสนงงงวยไม่เข้าใจคำพูดของเขา จึงต้องการคำอธิบายที่ชัดเจน

“เอ่อ ใครแต่งงานกับใครคะ?”เธอถามแบบไม่เต็มเสียง กลอกตามองสองคนในห้องไปมาเพื่อของคำตอบ

ชายหนุ่มหันสบตาเจ้าของบ้านซึ่งผงกศีรษะเป็นเชิงอนุญาตเขาจึงหันกลับมามองหน้าคนถาม

ผู้จัดการสาวกระพริบตาถี่ๆอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชาย ถึงได้จ้องหน้าเธอนานเกินจนผิดสังเกต

เกี่ยวอะไรกับฉัน?

“พี่วัตจะพูดอะไรคะ?”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น หลังเขานิ่งเงียบไปเกือบนาที ด้วยเธอไม่เคยศึกษาโทรจิตมาก่อนจึงไม่อาจรับรู้สิ่งที่อีกคนพยายามบอกผ่านทางสายตา

“นะ น้องนาถครับเอ่อ แต่งงานกับพี่นะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยปากออกมาเสียงสั่นๆ แต่ดังฟังชัดแบบไม่ต้องแปลอีก

เฮ้ย!

ร่างสูงอ้าปากค้างตาโตกว้างแตกตื่นยิ่งกว่าตอนได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดเวทีนางแบบครั้งแรกเสียอีกช่างเป็นอะไรที่เกินคาดเสียเหลือเกิน

“อะไรนะคะ!”

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ

พรุ่งนี้จะโชว์รูปของแถมที่จะแจกเฉพาะท่านที่จองหนังสือ 20 ท่านแรก

สนใจดูได้ที่แฟนเพจ 'นิ้วนาง' นะคะ

นาง

OoXoO




 

Create Date : 06 เมษายน 2560
1 comments
Last Update : 6 เมษายน 2560 17:41:17 น.
Counter : 824 Pageviews.

 

สวัสดีนะจ้ะ แวะมาเยี่ยมนะจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4057910 23 สิงหาคม 2560 17:38:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com