Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
19 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 

The Curious Case of Benjamin Button - "ไม่ว่านาฬิกาจะเดินไปทางไหน สักวันมันก็ต้องหยุดอยู่ดี"

“ผมเกิดมาในสภาวะที่ไม่ปกติ”


นั่นเป็นการเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่อง “The Curious Case of Benjamin Button”

ซึ่งดัดแปลงจากเรื่องราวของ เอฟ สก๊อต ฟิทซ์เจอราลด์ในปี 1920 ของ “Benjamin

Button” ชายที่เกิดมาด้วยเงื่อนไขชีวิตที่ไม่เหมือนคนทั่วไปเริ่มด้วยวัยแปดสิบและ

ย้อนอายุถอยหลัง เขาก็เหมือนเราทุกคนที่ไม่สามารถหยุดเวลาได้ จากนิวออร์ลีนส์ในช่วงปลาย

สงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1918 จนถึงศตวรรษที่ 21 กับการเดินทางที่ไม่ธรรมดาที่สุดเท่าที่

คนๆ หนึ่งจะเป็นไปได้ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของชายผู้ที่ไม่เหมือนคนทั่วไป

และผู้คนกับสถานที่ๆ เขาได้ค้นพบในช่วงชีวิตเขา ความรักที่ได้พบพานและสูญเสียไป

สีสันความสุขแห่งชีวิตและความโศกเศร้าแห่งความตาย และสิ่งที่คงอยู่เหนือกาลเวลา…



“The Curious Case of Benjamin Button” ถือเป็นภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างมโหฬาร

เรื่องหนึ่งก็ว่าได้ด้วยทุนสร้างถึง 150 ล้านเหรียญ ! ซึ่งส่วนใหญ่คงหมดไปกับการเนรมิต

“แบรด พิตต์” จุดเด่นของเรื่องเป็นแน่ ซึ่งนี่ยังไม่รวมอีกกว่า 100 ล้านเหรียญในการโฆษณาใน

ต่างประเทศอีก งานนี้หวังว่าการถ้าเรื่องนี้ได้เป็นราชาตัวจริงกวาดรางวัลบนเวทีออสการ์

แล้ว รายรับของหนังทั่วโลกน่าจะเพิ่มขึ้นบ้าง หลังได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้มันทำให้นึกไปถึงหนัง

อมตะอย่าง Forrest Gump อย่างเลี่ยงไม่ได้ อาจะเพราะด้วยการที่หนังทั้งคู่ เนื้อหาเกี่ยว

กับช่วงชีวิตคนๆหนึ่งตั้งแต่เด็กจนถึงบั้นปลายผ่านเหตุการณ์ สำคัญๆต่างๆของโลก , การเดิน

เรื่องแบบเล่าย้อนกลับไปยังอดีตตัดกับปัจจุบัน และแฝงข้อคิดไปกับแต่ละเหตุการณ์ บวกเสียง

บรรยายของตัวเอกที่แทรกมาเป็นระยะๆ ซึ่งหลายอย่างมีลักษณะคล้ายกันค่ะ จะบอกว่าเหมือนกัน

หมดก็ยังไงอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ต้องปรบมือให้ทางผู้กำกับ “เดวิด ฟินเชอร์” เพราะพี่แกเล่าเริ่อง

ลำดับเหตุการณ์ได้ยอดเยี่ยมจริงๆ

เรื่องของภาพต่างๆที่ปรากฎในเรื่องก็ถ่ายออกมาได้อย่างไร้ที่ติค่ะ ทั้งสวยงาม และดูอลังการ

นิดๆในตัว ทั้งนี้ในฉากยิงกันในทะเลที่นอกจากจะดูสมจริงแล้ว ระบบเสียงยังบันทึกได้ดีเช่นกัน (ให้อารมณ์เหมือนมายิงกันบนหัวเลย)

“The Curious Case of Benjamin Button” เป็น ภาพยนตร์ที่แฝงไปด้วยปรัญญาชีวิต

มากมาย และ ว่าด้วยความเป็นจริงในการดำเนินชีวิตได้อย่างสมจริงที่สุดเรื่องหนึ่ง ทั้งเรื่อง

ของการที่สังคมมองตัว เบนจามิน บัตทัน ว่าเป็นตัวประหลาดบ้าง เป็นปีศาจบ้าง ด้วยเหตุผลที่งง
ไม่เข้าใจและยอมรับกับ "เงื่อนไขชีวิต" แบบ เบนจามิน กับการยอมรับในตัวเองของเบนจามิน

ในการต่อสู้กับเงื่อนไขชีวิตนี้ที่พระเจ้า ประทานมาให้ว่าไม่ต่างจากมนุษย์ที่มีอายุตามปกติ เรื่อง

ของความรักความเข้าใจของพ่อและแม่ และ “รักแท้” ที่ทำให้เขารู้ว่าโลกใบนี้มีสิ่งที่งดงามเพียงใดอยู่

มีหลายประโยคในหนังที่โดนใจแเราและสะท้อนชีวิตของคนเราได้เป็นอย่างดี อาทิ

ประโยคที่แม่(บุญธรรม) กล่าวกับเบนจามิน ว่า

“ชีวิตคนเราล้วนมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแค่เราใช้เส้นทางต่างกัน และลูกเบนจามิน ลูกก็อยู่บนเส้นทางของลูก”

ประโยคที่บอกกับเดซี่ ในคืนวันที่ฝ่ายหญิงอยากมีอะไรด้วยกับเบนจามิน

“ชีวิตคนเราล้วนเต็มไปด้วยโอกาส แม้แต่โอกาสที่เราปฎิเสธ”

และสุดท้ายกับประโยคที่แม่(บุญธรรม) มักจะบอกกับเบนจามินเสมอว่า

“You never know what’s coming for you…”

ที่สะท้อนภาพของหนังเรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น


“นาฬิกา” ถูก ใช้เป็นสัญลักษณ์ของเรื่องได้เป็นอย่างดี จากเรื่องเล่าที่ เดซี่ เล่าในช่วงต้น

เรื่องถึงชายช่างทำนาฬิกาในสมัยก่อนผู้สูญเสียลูกชายไปอย่าง ไม่มีวันกลับในสงคราม

ทำให้เขาทุ่มเทในการสร้างนาฬิกาเรือนใหญ่ที่สุดในชีวิตเพื่อไปไว้ที่สถานี รถไฟประจำเมือง

แต่ทุกคนในเมืองก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นนาฬิกาเรือนนั้นเดินถอยหลัง ! โดยชายช่างนาฬิกา

กล่าวว่า ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้หลายคนก็คงไม่ต้องพบกับความสูญเสีย และ “นาฬิกา”

เรือน นั้นก็ได้กลายมาเป็นเงื่อนไขในการดำเนินชีวิตของ เบนจามิน บัตทัน ที่เดินย้อนจากวัย

ชราไปสู่ทารกแบเบาะ อาจเพราะพระเจ้าอาจต้องการให้มนูษย์ได้รู้ว่าถึงแม้คนเราจะย้อนเวลา

ได้ก็ "ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง” และ เมื่อหนังดำเนินมาจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของเบน

จามินก็ดูเหมือนความคิด ของช่างนาฬิกาได้รับคำตอบแล้ว

เพราะไม่ว่านาฬิกาชิวิตจะเดินไปข้างหน้าเหมือนปกติที่มันเป็น หรือ จะเดินย้อนกลับหลัง

ก็คงไม่ต่างกันเมื่อฉากสุดท้ายของหนังมาถึง เพราะถึงยังไงนาฬิกาของช่างคนนั้นก็ต้องมีวันที่มัน

“หยุด” เดินอยู่ดี ไม่ต่างกับนาฬิกาเรือนปกติที่เดินไปข้างหน้าเลย

โดยสรุปแล้ว The Curious Case of Benjamin Button ถือเป็นภาพยนตร์ดราม่าเข้มข้น

ที่มีความแฟนตาซีปนอยู่เนืองๆ และให้ความบันเทิงในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้รับอีกอย่างก็คือข้อคิด

การได้รู้ว่าชีวิตของคนเรานั้นไม่ว่าจะเดินไปทางไหน มุ่งไปทางข้างหน้า หรือ ย้อนกลับไป

ก็คงไม่สำคัญอะไร เพราะสิ่งที่สำคัญจริงๆไม่ใช่ “เงื่อนไขชีวิต” แต่เป็นการเลือก “ดำเนิน

ชีวิต” มากกว่า คนเราไม่สามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ อายุไม่ว่าจะมากขึ้นทุกวัน หรือ น้อยลง ทุกวัน

มันไม่สำคัญไปกว่าการที่ วันนี้เราได้เลือกเส้นทางชีวิตที่ต้องการหรือยัง เราได้ทำอะไรเพื่อตัว

เองหรือคนรอบกายบ้างหรือยัง เพราะผลจากสิ่งเหล่านั้นคือ “ความสุข และ ความรัก” ที่เป็น

สิ่งที่จะอยู่เหนือกาลเวลาและไม่มีวันล่วงเลยไปตามอายุ แต่ถ้ามองข้ามไปชีวิตก็คงไม่ต่างไปจาก

นาฬิกาที่ทำงาน แต่ไม่เคยได้นำมาดูเวลาเลย...


width='450' height='287' border=0>




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2554
1 comments
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2554 19:05:20 น.
Counter : 2252 Pageviews.

 

แวะมาอ่านจร้าว่างๆแวะไปเยี่ยมblogเราบ้างนะ bigeye

 

โดย: NSA (tewtor ) 13 เมษายน 2554 10:24:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อ. อะตอม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




My Style... My Opinion... My Life... My Love...

MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com
Friends' blogs
[Add อ. อะตอม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.