จากวังน้ำเขียว สู่ เขาใหญ่

จากวังน้ำเขียว สู่ เขาใหญ่

หลังจากเราออกเดินทางจากที่พักมาแล้ว ก็มิวายเลี้ยวรถเข้าวัดจนได้ ด้วยกระแสแห่งแรงศรัทธา ตามคอนเซ็ป “เที่ยวไปทำบุญไป” วัดที่แวะชื่อว่า “วัดไทยสามัคคี” ที่วัดกำลังสร้างเมรุเผาศพพอดิบพอดี ก็เลยช่วยกันสมทบทุนสร้างเมรุด้วย จากนั้นเราก็ออกเดินทางตระเวนเที่ยววังน้ำเขียวกันก่อนที่จะอำลาเพื่อเดินทางสู่เขาใหญ่

เช้านี้ที่แห่งแรกของเราก็คือ “สวนลุงไกร” แวะซื้อผักปลอดสารพิษหลายอย่างเลย น่ากินทั้งน้าน ยิ่งผักสลัดนะคะ ซ้ดสด..โลละ 50 บาทเอง หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อขอลุงไกรมาบ้างแล้ว ลุงไกร ชมน้อย ปราชญ์เดินดินหากินอย่างพอเพียง มีความสุขกับการร้องเพลงให้ผักฟัง

ออกจากสวนลุงไกร เราก็มุ่งหน้าสู่เส้นทางเขาใหญ่ เพื่อไปชื่นชมกับบรรยากาศของขุนเขายามหน้าวสันตฤดูว่าจะเขียวชอุ่มชุ่มชื่นสักแค่ไหน  ก่อนถึงเขาใหญ่แวะชมสวนดอกหน้าวัวสุชาดา สวนกล้วยไม้ และไร่องุ่นธันยพร ได้เห็นไร่องุ่นกว้างใหญ่จนสุดลูกหูลูกตา ได้เห็นพวงองุ่นสดๆ ที่ห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด แต่น่าเสียดาย ..ห้ามเด็ดชิม!! ได้แค่ถ่ายรูปเท่านั้น

มื้อเที่ยงเราทานข้าวกันที่ “ภูฟ้าอิงน้ำรีสอร์ท” อยู่ตรงอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง บรรยากาศดีมั๊กมาก จัดซุ้มจัดร้านเหมือนเรามางานแต่งงานอย่างนั้นแหละ

ในที่สุดก็มาถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จนได้ พอถึงก็ชำระค่าธรรมเนียมตามระเบียบ คนละ 20 บาท ค่าพาหนะ 4 ล้อ คันละ 50 บาท ก่อนขึ้นเขาต้องสักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่กันซะก่อน เพื่อขอพร ขออนุญาต และขอขมาล่วงหน้าหากบังเอิญเราเผลอทำอะไรที่ไม่ดีโดยไม่ได้เจตนาเข้าค่ะ

นั่งรถกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ สองข้างทางก็มีแต่ต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม วิวทิวทัศน์ที่สร้างความรู้สึกสบาย พักผ่อนสายตา ผ่อนคลาย ฯลฯ รวมๆ แล้วรู้สึกดีอ่ะ ดีมากๆ เลย

น้ำตกเหวสุวัต เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่อยากแวะมาก เพราะได้ยินชื่อมานานแล้ว เป็นน้ำตกที่มีช้างหล่นลงมาตายน่ะค่ะ เราต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณกิโลกว่าๆ และต้องไต่บันไดอีกกว่า 200 ขั้น ชันมากๆ เลย แต่ก็สู้ค่ะ พอลงไปถึงแล้วหายเหนื่อยจริงๆ (แต่ขอบอก..ตอนขากลับต้องปีนขึ้น เหนื่อยอีกเป็น2เท่าเลยอ่ะคิดดู..แฮกๆๆ)

และแล้วเราก็อำลาเขาใหญ่กัน่โดยใช้เส้นทางลงมาปราจีนบุรี-นครนายก จบทริปด้วยอาหารเย็นที่ “ครัวลูกปลา” นครนายก จากนั้นก็เข้ากรุงเทพฯ ทริปนี้กลับบ้านไม่ดึกเลยประมาณทุ่มกว่าๆ เท่านั้นเอง เป็นไงกันบ้างคะ? สำหรับทริปวังน้ำเขียว-เขาใหญ่ “สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน” มีโอกาสก็ลองไปนะคะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ได้โอโซนมาเต็มปอดเลยค่ะ เจอกันทริปหน้านะคะ..

Create Date : 13 กันยายน 2552		0 comments
Last Update : 13 กันยายน 2552 14:59:49 น.
Counter : 1347 Pageviews.
Share Tweet