พฤศจิกายน 2558

2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ทัวร์เกาหลีไม่ถึงหมื่น... มันจริงหรือหลอก ด้วยความอยากลองจึงต้องพิสูจน์
                                                             อัน นยอง ฮา เซ โย





  ทริปเกาหลี เป็นทริปที่ได้คุยกะน้อง ๆ ไว้เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว ว่าตั้งใจจะไปเที่ยวให้ได้ สำหรับเรา ไม่ได้ติดซีรีย์เกาหลีแบบคนอื่นเค้าหรอก แต่ที่เลือกไปเพราะ มันใช้เงินไม่มาก ซึ่งไปกะทัวร์จะถูกกว่าเราไปเอง ดังนั้นจึงเริ่มฝากประจำ 1000/เดือน มาตลอด ฮึ้บ ๆ 

แต่ก็มีอันต้องล้มเลิกการไป เพราะไม่มีคนไปด้วย  Smiley  แถมน้องที่ทำงาน ก็เบิกเงินที่ฝากกันไปแล้ว 555  ความหวังไปเที่ยวต่างประเทศ (ยกเว้นลาวนะ) จึงต้องล้มเลิกไป Smiley


แต่ด้วยเพราะความบังเอิญ หรือโชคชะตา ฟ้าลิขิต ให้เราต้องได้ไป เรากลับมาเจอเพื่อน เก่า สมัย พธ. ไอ้ก๊วนเที่ยวบ้านบู่แหละ  พอดีเจ้ากอฟล์ กะ ต๋อย มีโครงการจะไปเกาหลีอยู่แล้ว ทริปแบบฉุกเฉิน ของเรา จึงฟื้นคืนชี่พ  หลังจากที่คิดว่าตายไปแล้ว อิ ๆ  Smiley


มีสมาชิกรวมเรา ก็ 3 คนแล้ว แต่การไปเที่ยวแบบนี้ มันต้องมีคู่ เพราะจะได้นอนสบาย ๆ และเวลานั่งทานอาหาร (จะจัดไว้โต๊ะละ 4 ท่าน) จะได้ทานได้สบายใจหน่อย ไม่ต้องไปนั่งรวมกับใคร เราจึงชวน พี่ผ่อง ขาเดิม ขาประจำ สรุปว่าเธอไป ทริปนี้จึงเกิดขึ้น ณ บัดนาว 

ก่อนไป ก็นัดแนะ กันไปทำพาสปอร์ต กันก่อน อิ ๆ  เล่มแรกในชีวิต เคยแต่ไปลาว ทำแค่บัตรผ่านแดนชั่วคราว ครั้งนี้เราจะได้ใช้กะเค้าแล้ววุ้ย Smiley

ส่วนเรื่องค่าทัวร์ ถ้าจองล่วงหน้า จะได้ลด 3000 บาท เหลือ 9900 บาท แต่เราขอเพื่อนไปวันที่ ติด เสาร์ - อาทิตย์ ราคาจึงเป็น 10900 บาท จะได้หยุดงานน้อยหน่อย เพื่อนกอฟล์ กะ ต๋อย โอเค รับได้ จึงได้ราคานี้ค่ะ (ค่าทัวร์ที่จอง ก็ให้เจ้าต๋อยออกก่อนด้วย เพราะว่าเงินฝากยังไม่ครบ 24 เดือน ขาดอีก 1 เดือน อิ ๆ ขอขอบคุณ คุณเพื่อนผู้ใจดีด้วยนะ Smiley





12/11/15 ถึงวันเดินทางเลยแล้วกัน ทัวร์นัดเจอที่ สุวรรณภูมิ เวลา 23.30 น. แต่เราต้องไปก่อน เพราะโทร.ไปจองแลกเงินไว้กับ แวลู่พลัส  อยู่ตรงข้ามกับ ซุปเปอร์ริช  ราคาไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ แลกได้ทั้ง 2 ที่ค่ะ  (อย่าแลกกับ ธนาคารที่อยู่ในสนามบินนะ เพราะให้เรทไม่ดี แพงมาก ๆ อ่ะ) 


23.30 น. ก็ไปเข้าแถวที่เคาน์เตอร์เช็คอิน..... รีบไปก่อนเอากระเป๋าไปจองไว้  แล้วค่อยไปเอาเอกสาร กับ จนท. ตรงที่นัดเค้าจะบอกไว้ในใบนัด  ซึ่งในเอกสารกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่เราไปกะทัวร์ เค้าทำให้เสร็จสรรพ แค่เซ็นชื่ออย่างเดียว สบายจริงวุ้ย 



กว่าเคาน์เตอร์ จะเปิดเช็คอิน ป๊าด ตี 1 กว่า รอสิคะ  ยืนให้เมื่อยทำไม 555




เช็คอิน โหลดกระเป๋าเสร็จ (ขาไปให้โหลดได้ไม่เกิน 20 kg. แต่ขากลับ ไม่อั้นค่ะ ก็เค้าจงใจพาเราไปขนเพื่องานนี้แหละ หุ หุ อืม...    .. ขอบอกไว้เผื่อใครไป เอากระเป๋าใบใหญ่ ๆ ไป และเผื่ออีก 1-2 ใบนะ เพราะว่า ขนาดเราไม่ค่อยช็อป ยังงอกกระเป๋ามาเต็มเลย Smiley )

มาเข้าแถวก่อน ก็ดีค่ะ เมื่อเช็คอินเสร็จ ก็จะได้เดินเล่นได้เลย  เจ้าต๋อย มีบัตรเบ่ง ได้เข้าเล้าจ์ ฟรี 2 ท่าน แง ๆ เลยให้เจ้ากอฟล์ไป..... ฝากไว้ก่อน ครั้งหน้าตากรุนะเฟ้ย อิ ๆ Smiley

สวย ๆ 



ห้องน้ำสวย ๆ  อยากนอนมากกว่าเข้าอ่ะ 




นี่มันห้างหรู ๆ หรือสนามบินหว่า 




เครื่อง ออก 02.20 น. มี delay นิดหน่อยก็เป็นประจำของเจ้านี้อยู่แล้วค่ะ หาที่นั่งเหมาะ ๆ หลับรอเลย หุ หุ บนเครื่อง นึกว่าจะลำใหญ่ แต่ไม่ใหญ่เลย นั่้งแค่ 2 แถวเหมือน หางแดง กะสิงโต  Smiley แต่ที่ไม่เหมือนคือ สจ๊วต ชาวเกาหลี โดนอ่ะ  เป๊กเลย อิ ๆ (แต่ออกจะตุ๊งติ้งไปหน่อย 55) 

อาหารบนเครื่องบิน อิ ๆ 



13/11/15 ถึงสนามบินนานาชาติเกาะเจจู/เซจู  ต้องปรับเวลาให้เร็วขึ้น 2 ชั่วโมง ตอนนี้แหละ ตรูเริ่มเสียวแล้ว เค้าบอกกันว่า ตม. เกาหลีเข้ม ......เอาสิ แล้วตรูจะผ่านไหม พาสสปอร์ต์ขาวจั๊วเลย ถ้าไม่ผ่านโดนส่งกลับนี่ร้องไห้เลยนะ ค่าตั๋วที่จ่ายไป ทัวร์ไม่รับผิดชอบด้วยสิ  ลุ้น ๆ  แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ไม่เห็นถามอะไรเลย เตรียมคำตอบมาแล้ว 555  แต่ไปกะทัวร์ คงง่ายหน่อย เพราะมีคนไทย มาเที่ยวกับทัวร์นี้ ก็เกิอบ ๆ 200 คน/วัน เค้าคงไม่เรียกเข้าห้องเย็น ถ้าไม่มีพิรุธ จริง ๆ Smiley

เมื่อถึงสนามบินจะพบกับไกด์ประจำรถเรา (รถบัส แบ่งออกเป็น 5 คัน)  ช่วงนี้ ใครจะแปรงฟัน แปลงร่างเป็นสาวเกาหลี ก็ให้รีบทำก่อนออกเดินทางค่ะ Smiley




รถพร้อม คนพร้อม สถานที่แรกที่จะไปก็คือ Hello Kitty Jeju Island  ก็เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติ เครื่องใช้ ของ kitty และขายของที่ระลึก มีร้านกาแฟ ให้ทาน แต่คนเยอะ เลยไม่ได้ทาน  ไม่ได้ชอบนะ แต่มาแล้ว ก็ต้องจัดซะหน่อย อิ ๆ 








ไม่ได้ชอบจิ๊งจิง 









เดี๋ยวเค้าจะว่ามาไม่ถึงนะ อิ ๆ 






ลืมบอกไป วันที่ไป ฝนตกอ่ะ (พยากรณ์อากาศบ้านเค้าโครตแม่น บอกตก ก็คือตก ไม่เหมือนพี่ไทย 555 ตรงกันข้ามตลอด ๆ )  เศร้าจิง  เอาเสื้อกันฝนกับร่มมาด้วย จึงทำให้ไม่เปียกอะไรมาก และฝนก็ไม่ได้ตกหนัก แค่ปรอย ๆ แต่ก็ทำเอาเซ็งนิด ๆ หุ หุ   อากาศ เย็นสบาย ๆ จะหนาวบ้างก็ตอนลมพัด  โดยรวม เย็นสบายดีอ่ะ ชอบ ๆ ไม่ต้องทรมาน

ออกจาก kitty Island ก็ไปต่อที่ พิพิธภัณฑ์ชาเขียว O'Sulloc จะเป็นสถานที่ปลูกชาของเค้า 



แหม่ ... ถ้วยชาสัญลักษณ์ ปล่อยร้างเชียว 




สักภาพ กลัวไม่ถึงอีกแล้ว 







กว่าจะได้ภาพนี้ รอรถตั้งนาน ตรูจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ไหมหนอ 



และข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นสถานที่ ขายอาหาร ขายไอติมชาเขียว  และ โรลชาเขียว ที่ใคร ๆ มาก็ต้องกิน 55  (แพงฉิปหาย)  แถมต่อแถว ซื้อกันยาวเหยียดอีกต่างหาก กว่าจะได้กิน Smiley









ด้านนอกก็มีมุมให้ถ่ายรูปได้นิดหน่อย พอเป็นกระสัย ต้องรีบ ๆ หามุมถ่ายเอง เนื่องจากเวลา จำกัด รัดตัวเหลือเกิน หุ หุ 






สวยดี แต่เวลามีไม่มากพอ 





ออกจากไร่ชา  ก็กินอาหารเที่ยงกัน หิวแล้วจร้า อาหารมื้อแรก ของเราคือ จิมดัก หรือไก่อบซีอิ้ว  กินกับกิมจิ (กิมจิไม่อร่อยอย่างแรง เค็มปี๋) หรือตรูกินไม่เป็นฟ๊ะ Smiley กับข้าวสวย  ไม่โดนอ่ะ ดีนะที่เจ้าต๋อย เอาน้ำพริกไปด้วย เลยช่วยชีวิต ไปได้หน่อย หุ หุ  มื้อนี้เติมเนื้อไก่ไม่ได้ด้วยนะ นอกจากกิมจิ ไม่อั้น Smiley



ตามโปรแกรม ต้องพาไปนั่งเรือชมทะเล จะพบกับ "แฮนยอ" หรือผู้หญิงสูงอายุดำน้ำหาปลาให้เราดู  แต่ไกดบอกช่วงนี้ ฝนตก (นิดเดียวเอง) ทัวร์ ยกเลิก ชิ จริงป่าวว๊ะ จึงไม่พาไป บอกว่าอันตราย ไม่ปลอดภัย จะทดแทนด้วยอย่างอื่นแทน เซ็งเลย Smiley

หลังท้องอิ่ม ก็พาไป วัดซันบังซา วัดจะตั้งอยู่บนเขา หันหน้าออกทะเล ก็สวยงามดีค่ะ  








รูปปั้นพระสังกัจจายย์ เอาเงินวางไว้ แล้วลูบที่พุง แล้วจะรวย รวยทอง อิ ๆ 



และก็มีที่ให้ทำบุญ ซื้อข้าวสารถวายพระ 





วิว บนเขาก็สวยดีค่ะ  



ลูกพลับ ปลูกกันให้เกลื่อน แต่ทำไมตอนขายมันแพงจุงเบย 











ออกจากวัด ไกด์ พาเราไป พิพิธภัณฑ์ หุ่นขี้ผึ้ง (ทดแทนที่ไม่ได้นั่งเรือ) ก็ไม่มีอะไร หุ่นที่ปั้น ไม่ค่อยเหมือนตัวจริงเท่าไหร่ (สู้คนไทยไม่ได้ อิ ๆ เกิดอาการรักชาติขึ้นมาเลย)  









นึกว่าโจ นูโว 5555



โดยรวม ส่วนตัวคิดว่า ไม่คุ้ม (ลูกทัวร์นะไม่คุ้ม แต่ทัวร์คุัมอยู่ 555 ) น่าจะพาไปดูแสดงโชว์ม้า มากกว่า จะตื่นตาตื่นใจ กว่าเมื่อเข้าไปเทียบกับช่วงเวลาถัดไปของโปรแกรมอื่นอ่ะ  Smiley


ออกจากดูหุ่นขึ้ผึ้ง ก็ไปทานมื้อเย็นกันต่อ เมนูมื้อนี้ชื่อ พุลโกกิ จะเป็นหมูหมัก ชิ้นบาง ๆ ใส่ผักต่าง ๆ ลงไปเช่น กะหล่ำปลี ฝักทอง ถั่วงอก เห็ด  วุ้นเส้น ลงไปผสม ๆ กินร้อน ๆ กับข้าวสวย แกล้มผักดอง และกิมจิ  ก็อร่อยดีค่ะ 









กินอิ่ม ค่ำนี้สุดท้าย พาไปเที่ยว น้ำตกซอนจียอน เป็นแหล่งน้ำจึด สำคัญ ที่หล่อเลี้ยงคนทั่วทั้งเกาะเซจู  อือ..... จิงสินะ  เพราะว่าเราอยู่บนเกาะกลางทะเล  แต่มีน้ำจึด ให้กิน ให้ใช้ แถมน้ำไม่กร่อยด้วย แรงอีกต่างหาก  ยกย่องค่ะ 



ไปตอนกลางคืน เค้าจะเปิดไฟ ไว้ ก็สวยไปอีกแบบ แต่อยากไปตอนกลางวันมากกว่า เพราะระหว่่างทางเดินไปน้ำตก ตอนกลางวันน่าจะสวยกว่า เพราะต้นไม้เยอะดีค่ะ









มาตอนกลางคืน ร้านค้าก็เริ่มปิดร้านกันแล้ว ส่วนร้านพวกปลาหมึกย่างก็กลับบ้านไปหมดแล้วอีก 






ออกจากน้ำตก ก็พาเข้าโรงแรมที่พัก S Hotel เป็นโรงแรมไม่ใหญ่ แต่ก็สะอาดดี น้ำไหลแรง สรุปว่าโรงแรม โอเลยค่ะ    (ก่อนเข้าโรงแรม ดีนะ ไกด์สอนการใช้ห้องน้ำ 55 เป็นครั้งแรกของเรา ที่ได้ใช้ ชักโครกระบบไฟฟ้า รู้สึกดี อย่างบอกไม่ถูก ชอบอ่ะ อยากให้ที่บ้านเรามีแบบนี้บ้างจัง อิ ) 









อันนี้ช๊อบ ชอบ แขมพู ครีมนวด สบู่ ขวดเบ้อเร่อ กดสะใจดี แถมหอมด้วย ใช้แล้วผิวไม่แตกแห้งเลยอ่ะ 






**อีกเรื่อง โรงแรมที่ประเทศเกาหลี ทุกโรงแรมจะไม่มีผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้นะคะ  แต่จะให้ผืนเล็กเท่าผ้าเช็ดหัว คนละ 2 ผืน ใครที่ชอบผืนใหญ่ ๆ อย่าลืมพกติดตัวไปด้วยนะจ๊ะ 

*** ส่วนปลั๊กไฟ จะเป็นแบบกลม ให้ซื้ออแดปเตอร์ ขากลมไปใช้ด้วยค่ะ หรือไม่ก็เช่าที่โรงแรมได้ค่ะ 1000 วอน พอเช็คเอ้าท์ก็ขอเงินคืนได้ค่ะ 


14/11/15  wake up call  6.00 น. ให้เวลาอาบน้ำแต่งตัวและ 7.00 น. ลงไปทานอาหารเช้ากันค่ะ อาหารมื้อเช้า เค้าบอกกันว่า ไม่อร่อย แต่สำหรับเรา ก็โอนะ กินได้ แต่ที่ขัดใจอย่างแรง คือ ไม่มีบริการกาแฟอ่ะ  (ต้องต้มดื่มเองบนห้องแถมกาแฟประเทศนี้ ขอบอก ยังกะน้ำล้างแก้ว รู้งี้พกมาเองดีกว่า Smiley )  ส่วนอาหารไม่เลวร้ายอะไร ชอบตรงมีส้มไว้บริการทุกเช้า (เค้าบอกว่าส้มเค้าอร่อย แต่กินแล้วโครตเปรี้ยวเลย แถมแพงอีกต่างหาก เลยไม่ได้ซื้อเป็นของฝากอ่ะ ได้แต่กินตุน ๆ เอง อิ ๆ)






8.00 น. ออกเดินทางไปที่แรก ร้านน้ำมันสนเข็มแดง  ระหว่างทางแวะเข้าห้องน้ำกันสักหน่อย .... 
แม้เจ้า นี่ห้องน้ำเค้าหรือ สวยจังวุ้ย  แถมไม่เห็นมีคนทำความสะอาด แต่สะอาดอ่ะ  (สงสัยไม่มีทัวร์จีนลง Smiley ไม่งั้นคงไม่น่าเข้าแบบนี้แน่นอนอ่ะ)   






กังหันก็มา






อากาศวันนี้ ไกด์บอกไม่มีฝน แต่พวกเราดูมาว่ามีนะ ชิ บอกตรูผิดอีกแล้ว หุ หุ บนรถ ไกด์จะพูดเกี่ยวกับสุขภาพ แน่หล่ะ บนรถจะมีผู้สูงอายุ อากง อาม่า อาอี้ พวกกระเป๋าหนัก ๆ ทั้งนั้นเลย 555  ซึ่งโน้มน้าวได้น่าเชื่อถือ ได้ระดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ พอถึงร้านน้ำมันสน ก็ปิดประตู เข้าไปฟัง ฟัง ฟัง (ห้ามถ่ายรูปนะ)   และให้ชิมน้ำมันสนแหละ  พอถึงเวลาก็กรูกันเข้ามาขายของ ตอนนี้ เหมือนนกกระจอกแตกรังมาก ๆ อ่ะ  ในคณะเรา ซื้ัอกันหลายชุดเลย ส่วนมากจะซื้อ 1 แถม 1 เกือบทุกร้านที่ไปอ่ะ  ที่แรก ก็ละลายกันไปหลายล้านวอน เป็นเงินไทย ก็หลายแสนเลยนะ  หุ หุ 



ส่วนเราก็เบี้ยน้อย หอยน้อย  แอบ ๆ ออกมาด้านนอก และข้ามถนน ไปถ่ายรูปกะต้นส้มดีกว่า อิ ๆ  
ถ้าตรูไม่หนีออกมา ตรูจะได้ภาพวิวไหมหนอ Smiley












ต้นส้มบ้านเค้า ต้นเตี้ย ๆ ก็ออกลูกแล้ว แถมดกเสียด้วย เพราะดินเค้าดี  แถมปลูกเป็นรั้วบ้าน ไม่มีอะไรกั้น ก็ไม่หาย เพราะประเทศเค้าไม่มีขโมย หรือคนมักง่าย ชอบหยิบของคนอื่นมากินเหมือนบ้านเราค่ะ 




ต่อไปก็ไปเที่ยวกันต่อที่ AQUA PLANET  พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  




ด้านใน ก็จะเลี้ยงปลา สัตว์ ต่าง ๆ ในตู้กระจก เล็ก ๆ 








และก่อนออกก็จะเดินลอดอุโมงค์กระจก มีปลาว่ายผ่าน มีโชว์ ให้อาหารปลา ให้ดูด้วย 











ต่อ ๆ ๆ  วันนี้เค้าจะพาเราเที่ยวนี่ ที่ต่อไปที่พาไปก็คือ ยอดเขาซองซาน อิลจุลบง เป็นภูเขาไฟ ที่ระเบิดขึ้นกลางทะเล และลาวาไหลรวมตัวกับเกาะเจจู ปากปล่องภูเขาไฟจะเหมือนมงกุฏซึ่งจะใหญ่มาก เท่ากับ 6 สนามฟุตบอลเลยนะจ๊ะ  ของเค้าใหญ่จริง  และได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกเรียบร้อยโรงเรียนเกาหลีใต้แล้วค่ะ







เพื่อนตรู ..... เดินได้ถึงตรงนี้ 555 



ส่วนเจ้ากอฟล์ก็อาสา อยู่เป็นเพื่อนต๋อยอยู่ด้านล่าง Smiley



การเดินขึ้นเขา ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที  ทั้งคันรถ มีแค่เรา กะ พี่ผ่อง 2 คนที่เดินขึ้นไป 555 ถูกอาอี้ คนหนึ่งหลอกว่าจะเดินขึ้น ไหง เดินไป เดินไป เหลือแค่ 2 คนเอง 555








ยิ่งเดิน ก็เหนื่อย ขึ้นเรื่อย ๆ แต่อากาศดีสุด ๆ ขอบอก จากใส่เสื้อกันหนาว  ต้องเริ่มถอดแล้ว มันเริ่มร้อน Smiley







เดินไป ๆ คนหาย ไปไหนกันหมด อิ ๆ 



พอเดินมาจุดสูงสุด โอ้แม่เจ้า มันช่างใหญ่ สมคำร่ำรือ จริง ๆ อากาศเย็นสบาย ๆ  สวยดีค่ะ  คุ้มแระ  ไอ้เราก็เป็นประเภท เที่ยวสบาย ๆ ไม่ชอบ ขอให้มีออกกำลังบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี อิ ๆ 


















หลังจากลงเขา ท้องร้องแล้ว เมนูมื้อ นี้ชื่อ แทจีพลูแบ็ก เป็นการนำหมูหมักกับเครื่องปรุงรส  น้ำขลุกขลิก เวลาทาน ก็นำมาห่อกับผักสด ๆ กรอบ ๆ ใส่เครื่องเคียง ข้าว กิมจิ ผักดอง ห่อคำโต ๆ ยัดใส่ปาก.... พระเจ้า อร่อยสุด ๆ พูดแล้วก็อยากกินอีกเลย Smiley






มื้อนี้เด็ดสุด บอกเลย 



เติมทุกอย่างได้ไม่อั้น คุ้มสุด ๆ ค่ะ




หน้าร้านอาหารจะมีกาแฟ หยอดเหรียญ 100 วอน ให้หยอด ถูกเว่อร์ ๆ คงเป็นราคาที่ถูกที่สุดตั้งแต่เรามาเกาหลี 555   



รสชาติใช้ได้นะ นุ่มดี อร่อยกว่ากาแฟซองในโรงแรมอีกค่ะ 




หน้าร้านอาหาร จะมีบ้านคน เรากะกอฟล์ เห็นว่าสวยดี จึงเดินไปถ่ายรูป ระหว่างรอเรียกขึ้นรถ 





สวยแบบนี้ ใครจะอดใจไหว



แต่มีใครไม่รู้ ตะโกนเรียกซะตกใจเลย ตรูแค่ยืนถ่ายรูปเฉย ๆ ไม่ได้บุกไปในบ้านซะหน่อย ตกใจหมดเลย 









แหม ... ตกใจหมด สัญลักษณ์ ไม้หน้าบ้านก็บอกว่า เจ้าของอยู่บ้าน ตรูไม่เข้าไปขโมยของหรอกนะ  Smiley






อึ่ม... ไหนๆ ก็พูดถึงสัญลักษณ์ ไม้กั้นรั้วบ้าน ชาวเซจู ก็แจ้งกันซะหน่อยว่า เค้าไม่ได้มีไว้กันขโมยนะคะ เพราะมันสามารถ ปีนหรือหยิบออกมาได้ แต่เพราะว่าประเทศเค้าไม่มีขโมย อิ ๆ ความหมายของที่กั้นมีความหมายว่า

1. หากไม้กั้น เรียงอยู่ครบ 3 อัน (ใส่ครบรู)  แสดงว่าบ้านนั้นเป็นบ้านร้าง ไม่มีคนอยู่
2. ไม้อันบน ถูกถอดออกลง 1 อัน แสดงว่า เจ้าบ้านไปข้างนอก (หาปลา) 2-3 วัน กว่าจะกลับ 
3.ไม้อันบน กับอันกลาง ถูกถอดลงมา แสดงว่า เจ้าของบ้านออกไปทำงาน เดี๋ยวกลับ
4. ไม้ทั้ง 3 ถูกถอดออกมาไว้ข้างล่าง (ตามรูปด้านบน) แสดงความเจ้าของบ้านอยู่บ้าน เข้ามาได้เลย 555


หลังจากที่ทำพิธีเรียกขวัญเอ๋ย ขวัญกลับคืนมา จึงไปต่อที่ หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ เป็นหมู่บ้านอายุกว่า 300 ปี ลักษณะหมู่บ้านจะน่ารักมากกกก  เป็นดินเหนียว และมีอิฐแปะ ๆ ด้านนอกยึดไว้ สวยงามเลยทีเดียว  และเคยเป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์ แดจังกึม เคยถูกเนรเทศ มาที่นี่นั่นเอง 




ไปถึงก็จะมี จนท. ของเค้า มาต้อนรับ พาไปชมสถานที่ และอธิบาย ความเป็นอยู่ของคนเกาหลีสมัยก่อน 




ดูการหมักน้ำโอมิจา หรือ แบล็คราสเบอร์รี่ ที่จะมีเฉพาะบนเกาะแห่งนี้ โดยชาวบ้านจะนำผลเบอรี่ป่ามาใส่ลงไปในไหพร้อมกับน้ำผึ้ง และหมักไว้ 3 ปี ก่อนที่จะนำมารับประทานได้ รสชาดหวานอมเปรี้ยว



 บรรยายถึงสรรพคุณของกระดูกม้า ,  น้ำผึ้ง (เค้าบอกวิธีดูว่าเป็นน้ำผึังแท้หรือปลอม ให้หยอดลงไปที่ภาชนะ และเทน้ำเปล่าลงไป สักพัก น้ำผึ้งจะแตกตัวเป็นรูป 6 เหลี่ยม และจะไม่ผสมกับน้ำ เมื่อเทน้ำทิ้ง น้ำผึ้งก็ยังคงสภาพเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่านะ ลองไปทดสอบกันดูค่ะ




แล้วให้ทดลองสินค้า ชิมนั่นเอง และขายสินค้า ในที่สุด 555




ซึ่งก็ได้ละลายเงินวอนกันไปเป็นหมื่น เป็นแสนเลยทีเดียว 555  โดยเฉพาะ พี่ผ่อง แลกเงินมาไม่พอ ต้องหยิบยืมเราก่อน เพราะที่นี่ รับเงินสด ไม่รับบัตรเครดิต ถ้าใครมาที่นี่ แลกเงินวอน มาด้วยนะจ๊ะ 



อืมมม...  น้ำโอมิจา ที่เค้าให้ชิม อร๊อย อร่อย เค้าบอกว่าใส่นิดเดียวผสมน้ำแล้วเขย่า พอซื้อกลับบ้าน ใส่เท่าที่บอก ไม่อร่อยเลย จึด ๆ  ต้องใส่เยอะ ๆ ถึงจะอร่อย แต่ก็เปลืองจังเลย กินจริง ๆ อาทิตย์เดียวก็หมดแล้ว 555  (35000 วอนตรูหมดเร็วมั๊กมาก) 

จะบอกว่า ทัวร์ จะเน้นขายของซะเยอะนะ จะเหลือเวลาให้ถ่ายรูปน้อย มาก ๆ อย่าช้า นะถ้าชอบถ่ายรูป มีเวลาว่างตอนไหน ต้องรีบจัดค่ะ เพราะคุณจะไม่มีเวลาได้รูปเลย จริง ขอบอก หุ หุ 








ตรงนี้ กรุ๊ปทัวร์ จะมีหลายกลุ่มมาก ๆ ช่วงที่เค้าฟังบรรยายกัน เราก็แอบมาถ่ายรูปซะหน่อย (ไม่งั้นไม่มีสักรูปนะเออ)



ทอลฮารุบัง หรือหินปู่ เป็นรูปปั้นที่ชาวเกาะเชจูเชื่อว่า เป็นผู้ทำหน้าที่คอยพิทักษ์คุ้มครองชาวเกาะและสถานที่ต่างๆ ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของทอลฮารุบัง จึงมักมีผู้มาขอพรในเรื่องต่างๆมากมาย โดยมีความเชื่ออยู่ว่า หากต้องการให้ตนเองร่ำรวยให้ลูบที่ท้องของทอลฮารุบัง หากหญิงใดอยากมีสามีให้ลูบที่หัวหรือหมวก Smiley ถ้าอยากได้ลูกสาวให้ลูบที่หูและหากอยากได้ลูกชายให้ลูบที่จมูก  แต่ถ้าลูบจมูก กับหู พร้อม ๆ กัน ก็ได้ 2 in 1 ในร่างเดียวค่ะ 555




มาดู ๆ เพื่อน ๆ ลูบที่ไหนกันบ้างนะ 



















เข้ามาเลย ๆ เจ้าบ้านยินดีต้อนรับค่ะ 






ใช้เวลาเพียงนิด ให้เป็นประโยชน์ อิ ๆ 




Smiley




ไปต่อดีกว่า สถานที่ถัดมาทัวร์พาเดินทางสู่ SUMOKWON THEME PARK ข้างในจะเป็นงานแกะสลักน้ำแข็ง อุณหภูมิ หนาวเย็นกว่า -5 องศา ให้เตรียมชุดกันหนาว ถุงมือเข้าไปเลยนะคะ เค้าไม่มีให้ยืมนะ  ด้านในเย็นยะเยือก สวยดี ถ่ายรูปกันมันส์เลย







มีเครื่องเล่น สไลดเดอร์ ให้เล่นด้วย เด็ก ๆ (อดีตเคยเด็ก)  ชอบใจ เล่นกันใหญ่เลย หุ หุ 









ด้านในเย็นมั๊ก ๆ 










ต๋อย ข้องใจอะไรกอฟล์ฟ๊ะ Smiley   แต่สำหรับกอฟล์ พอดูรูปแล้ว เมิงเข้ามาทำไม 5555



ออกจากห้องแกะสลักน้ำแข็ง ก็ไปต่อกันที่ ห้องภาพวาดสามมิติ คนจะเยอะสักหน่อย ต้องค่อย ๆ เดินไปลึก ๆ คนจะเริ่มน้อย ถึงจะได้ถ่ายภาพ แบบไม่มีคนค่ะ 








ลามกอ่ะ 



หน้าทางออก สักภาพ 2 ภาพ ก่อนไปกินมื้อเย็น ไฮไลท์เลย 







เย็นนี้ เป็นมื้อไฮไลท์ คือ บุฟเฟต์ซีฟู้ด  ทัวร์เขียนว่า อิ่มไม่อั้น ขาปูยักษ์ และเบียร์ไม่อั้น พอไปถึงจริง ก็ไม่อั้นแหละ แต่ขาปูเข้าแถวได้คนละ 1 ขา เป็นบุฟเฟต์ ทานรวมกันหมด ใครเร็วใครได้ อยากได้หลายขา ต้องเวียนเทียน เราวนมาได้ 3 ขา ส่วนเบียร์ ก็ 1 แก้ว ให้เวลากิน 1 ชม. โธ่ กินไม่ทันนิ๊ เวลาหมด อาหารทะเล พวกกุ้ง พวกปู คนเกาหลีเค้านึ่งเรียบร้อยแต่เอาออกจากตู้เย็นมาเสริฟ ให้เรากินเย็น ๆ ป๊าด ไม่เหมือนที่เคยกิน อุ่น ๆ ร้อน ๆ แถมน้ำจิ้มซีฟู้ด ก็ไม่อร่อย สรุปไม่โดนเท่าไหร่ มื้อเที่ยงอร่อยกว่าเยอะเลย แหะ ๆ 









ขาปูใหญ่จริงเว้ยเห้ย บังหน้าเพื่อนต๋อยหมดเลย 55








กินเสร็จ เข้าที่พักเร็วกว่าเมื่อวาน เนื่องจากวันนี้ ตกไป 1 รายการคือ ไม่ได้ไปร้านขายเครื่องสำอางค์ แต่ไม่ต้องกลัวนะ ไกด์ ไม่ยอมตัดทิ้งแน่นอนค่ะ อิ ๆ พรุ่งนี้ เจอกัน วันสุดท้่ายแล้ว เร็วจังวุ้ย การออกนอกประเทศ ของฉันช่างผ่านไปเร็วจังเลย คืนนี้ ใครที่ทยอยซื้ออะไรมา ให้แพ็คเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยเพราะพรุ่งนี้เราต้องเช็คเอ้าท์แต่เช้าค่ะ


15/11/15 wake up call  6.00 น. ให้เวลาอาบน้ำแต่งตัว ยกกระเป๋าลงมาด้านล่าง  7.00 น.ทานอาหารเช้า  8.00 น. วันนี้ไกด์จะพาเราไปละลายเงินวอน กับเงินไทยกัน หึ หึ  

ภาพยามเช้าของโรงแรมสักหน่อย  บอกเลยว่าดี นอนสบ๊าย สบาย 







ส่วนอาหารเช้า เมนูก็เหมือนเมื่อวานเป๊ะ ๆ อิ ๆ แต่ก็ทานได้ นะ อิ ๆ 




ที่แรกของวันสุดท้าย พาไปที่ ศูนย์โสม (Ginseng Center) การมาเกาหลี ถ้ามากะทัวร์ รัฐบาลเค้าจะกำหนด (บังคับ) ให้ต้องมาเข้าชมโสม ทุกที่ ไม่ว่าจะราคาถูกหรือราคาแพง ต้องเข้าชมหมดค่ะ  

ด้านในห้ามถ่ายรูป ก็จะมี จนท. คนไทยทั้งนั้น ให้ความรู้ช่วงแรก ให้ชิม และก็ขายของตอนจบ และนกกระจอกก็แตกรังเหมือนเดิม อิ ๆ  ส่วนเราก็ยังคงเป็นคนเดิม เบี้ยน้อย หอยน้อย ไม่มีปัญญาซื้อกับเค้าหรอก หุ หุ ได้แต่มอง ๆ นะ ไม่ซื้อเค้าก็ไม่บังคับนะ 555

และก็ออกจากร้านนี้ แวะร้านโน้น อาจจำไม่ได้นะ ว่าอะไรก่อนกัน ระหว่าง ร้านสมุนไพร (Korea Herb) กับศูนน์รวมเครื่องสำอางค์ ที่ร้านสมุนไพร ก็จะเป็นร้านขายเมล็ดฮอตเก ช่วยในการล้างพิษตกค้างที่ตับและลำไส้ ของพวกที่นิยมดื่มเหล้า ชา กาแฟ น้ำอัดลม ช่วยให้ตับ ไตแข็งแรงขึ้น  เลยไม่รู้ว่าจะซื้อทำไม ก็พวกกินเหล้า ตับก็แข็ง อยู่แล้วนี่ ไม่ดีอีกหรือ หุ หุ 


และก็ต่อกันที่ ศูนย์รวมเครื่องสำอางค์ (ที่เมื่อวานเราไม่ได้เข้า)  ก็จะมีสินค้าเครื่องสำอางค์ ให้ทดลองใช้ ชอบไอ้ครีมน้ำแตกนะ ลองเล่นดูแล้วสนุกดี แต่ถ้าซื้อมา กระเป๋าตังค์ตรูแตกแน่ ๆ เลยไม่ได้ซื้อ ซื้อแต่ว่านหางจรเข้ + เมือกหอยทาก และโฟมล้างหน้า กันมา มันละลายงินวอนพวกเราไปได้หลายเลย หุ หุ 



ระหว่างออกมารอรถ เรากะกอฟล์ เห็นใบไม้เปลี่ยนสีไม่ได้ ต้องหามุมถ่ายรูป ก็บอกแล้วงัย ว่าอยากมีรูป ต้องวิ่งหา และเราก็วิ่งไปหามุม ประมาณ 1 กฺิโล วิ่งไป วิ่งกลับ เกือบตาย 555



ผู้คนบ้านเค้าไปไหนกันหมดเนอะ 



วิ่งกันมาเพื่อสิ่งนี้ Smiley






ก่อนขึ้นรถอีกสักภาพ .... เหนื่อยลิ้นหอบเลย Smiley



บนรถ ไกด์จะให้ ผช. เดินแจก สาหร่าย ลูกพลับ ให้ชิม อือ อร่อย แล้วขายเราค่ะ 5555 แต่ขอบอกว่าของเค้าอร่อยจริง ค่ะ ซื้อแล้วไม่ผิดหวังค่ะ แต่ลูกพลับราคาแรงมากกก    ตรูซื้อมาได้ไงฟ๊ะ Smiley

และไปละลายกันอีก ยังละลายไม่พอ ไปช้อปกันต่อที่ Supermarket มีขนม บะหมี่ สาหร่าย เครื่องสำอางค์ (ชั้นบน มี Etude,Skinfood ฯลฯ  ราคาบางตัวจะถูกกว่าที่ดาวน์ทาวน์ แต่สินค้าจะมีน้อยกว่า ถ้ามีที่ต้องการ หรือใครฝากมาก็ซื้อได้เลยคะ่ ส่วนที่ไม่ครบ ค่อยซื้อที่ดาวน์ทาวน์)

เมื่อชำระเงินเสร็จ ก็เข็นรถมาด้านหลัง หากล่องกระดาษ และแพ็คฟรีค่ะ (ผช.ไกด์สุดหล่อ จะช่วยคุณแพ็คค่ะ อือ..... เขียนมาตั้งนาน ลืม ผช.ไกดฺ์ซะงั้น 555) อือ ร้านค้าพวกนี้ทุกร้าน ยกเว้น พวกแผงลอย สามารถใช้บัตรเครดิตได้นะคะ  ถ้ารูดเกิน 30000 วอน บอกแคชเชียร์ว่าต้องการ Rufun Tax ด้วยค่ะ อย่าลืม แจ้งเค้าด้วยหล่ะเพื่อประโยชน์ของคุณเอง



วันนี้จะไม่มีเที่ยวนะ ไกด์จะพาไปซื้อของอย่างเดียว ที่ต่อมาก็สินค้าปลอดภาษี Lotte Duty Free  จะเป็นห้างใหญ่ ๆ มีสินค้าแบรนด์เนม เครื่องสำอางค์ก็มี  แต่คนไทย ไม่ค่อยซื้อ ยกเว้น พวกราชวงศ์ชิง ซึ่งจะมากันเป็น คัน ๆ รถ หลายร้อยคน คนจีนพวกนี้ พลังการซื้อเค้าเยอะนะ  เห็นแต่ละคน หอบหิ้ว กันเป็นกระสอบ ๆ เลย รวยจริงวุ้ย 

ส่วนพวกเรา ก็เดินออกมาด้านนอก หามุมถ่ายรูปดีกว่า  เพราะรถจะจอด ไกลจากห้าง Lotte เลยถือโอกาส เดินเล่นด้านนอกดีกว่า  




ระหว่างทาง ก็จะมีร้านขายของ ริมถนนมากมาย  ให้เลือกจับจ่ายใช้่สอย กันได้ตลอด ๆ  






ใกล้จุดจอดรถ มีสวนสาธารณะ เดินไปถ่ายรูปสักหน่อย ดีกว่า อิ ๆ 




มุม ตรงจุดจอดรถ สวยดีอ่ะ  ไม่ถ่ายไม่ได้แล้ว Smiley



สวย ๆ 











ได้เวลานัด ไกด์จะพาเราไปทานอาหารเที่ยง เป็นมื้อสุดท้ายของทัวร์นะคะ มื้อเย็นต้องออกเอง ดังนั้น ก็ยัดให้เต็มที่นะเจ้าคะ 

มื้อท้ายสุด หรือมื้อสุดท้ายของทัวร์ คือ ชาบู ชาบู (Shabu Shabu) เป็นเมนูหม้อไฟ ก็ไปเดินตักอาหาร ผักต่าง ๆ เบคอน ส่วนปลาหมึก มีให้ที่โต๊ะ โยนใส่หม้อ ต้มกิน จะมีน้ำจิ้มพันท้าย จากพี่ไทยให้ผสม อร่อยดีค่ะ เมนูนี้ ผักบ้านเค้าสดดี 






หลังทานเสร็จ ไกด์ก็จะให้เราทำ Tax Refund กันที่โรงแรมเลย สะดวกมาก ๆ ค่ะ (แต่อย่าลืมนำใบสีเหลืองไปคืนที่สนามบินด้วยหล่ะ) 

และจ่ายค่าทิปไกด์ คนละ 20000 วอน ใครเงินหมด สามารถให้ เป็นเงินไทย 700 บาทได้ค่ะ 

ส่วนบนรถ น้อง ผช.ไกดฺ์ (จะคัดคนหน้าตาดี เด็ก ๆ มาบริการ) เค้าจะคอยอำนวยความสะดวก ยกกระเป๋า แอบถ่ายรูป เรา และทำเป็นอัลบัม มาขายเราบนรถ จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ค่ะ ใบละ 5000 วอน สรุป ทั้งคันรถซื้อกันทุกคนแหละค่ะ แถมจ่ายมากกว่าทิปไกด์เสียอีก 555  แต่ก็เต็มใจให้ค่ะ 

จากนั้น ไกด์จะพาเรามาปล่อย ... ที่ดาวทาวน์เมืองเซจู ให้เวลาเราเดินช็อปปิ้งกันตามสบาย หลาย ชม. เลยแหละ (ทำไมตอนที่วิวสวย ๆ ไม่ปล่อยเวลาเยอะแบบนี้บ้างน้าาา) 



เราก็ได้เดินซื้อของ ตาม order ที่ใครได้รับมา คนละไม้คนละมือ เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ฯลฯ มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด อิ ๆ 









 กอฟล์ ก็ได้รองเท้าคู่ใจเพิ่มอีก 1 คู่ Smiley   .... ไม่ค่อยเห่อเท่าไหร she ใส่เลย 55



และก็หาอะไร ง่าย ๆ เบา ๆ กินกันตลอดทาง 










ยังแอบมีถ่ายได้อีกนิดหน่อย แถวที่จอดรถ 55










พอได้เวลา ก็ไปเจอกันที่รถ  และไกด์นำเราไปส่งสนามบิน  มีเวลามากพอที่จะจัดกระเป๋ากันอีกรอบค่ะ  





ไกด์จะดูแลดี ส่งเราจนนาทีสุดท้าย ประทับใจในการบริการนะ  โชคดีที่ได้ไกด์ดีด้วย  Smiley

ถึงประเทศไทย น้องต๋อย มารับที่สนามบิน และมาส่งที่บ้าน ขอบคุณสำหรับน้ำใจงาม ๆ  มิตรภาพ ดี ๆ ทริปนี้ จบด้วยความประทับใจ กินอิ่ม นอนหลับ อาหารอร่อย บรรยากาศดี  บริการเยี่ยม ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปค่ะ   แล้วพบกันใหม่ การออกนอกประเทศคงไม่ใช่ครั้งแรก และครั้งสุดท้ายแน่นอน ไว้เจอกันอีกทริปถัดไป บาย  Smiley




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2558 19:46:37 น.
Counter : 3642 Pageviews.

1 comments
  
ขอบคุณนะ ที่อุตส่าห์เขียน blog นี้ขึ้นมา จะได้เก็บเป็นบันทึกความทรงจำในการท่องเที่ยวรอบนี้
โดย: Rinee jung IP: 27.145.74.6 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2558 เวลา:23:44:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nuch9981
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



ไปทุกที่...ที่มีทาง