มกราคม 2560

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
ปายยย ด้วยกัน... ฉันกับเธอ 9-10 ตค.59



ไปเชียงใหม่อีกแระ ไม่เบื่อหรือ ? มักได้ยินคำถามนี้บ่อย ๆ จากคนรอบข้าง เพราะว่าใน 1 ปี เราไปเที่ยวจังหวัดนี้บ่อยมาก และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี ที่จองตั๋วมาเชียงใหม่อีก แต่ ขอบอกว่ามาครั้งนี้ จุดมุ่งหมายของฉัน ไม่ได้เที่ยวเชียงใหม่โดยตรงนะจ๊ะ แต่จะมาเที่ยวปาย แทน เอิ๊ก ๆๆๆๆ  



ทำไมเราถึงมาเชียงใหม่บ่อย ก็เป็นเพราะ เจ้านี่เลย ก็เธอเล่นออกโปรฯ ราคาถูก ถูกกว่ารถทัวร์ มาล่อบ๊อย บ่อย ไอ้เราก็บ้าของถูกเสียด้วย  และก็เป็นอีกครั้งที่ได้จองตั๋ว 0 บาท นานข้ามปีก็ยอมเนอะ หุ หุ จะได้มีเวลาเก็บเงิน และวางแผนหาที่พักถูก ๆ ได้อีกนาน 






 การจองตั๋วนาน ๆ ก็มีข้อดีมากมายสำหรับเรานะ พอดีเวปเวปนี้ ออก code ลด 50% ไม่มีขั้นต่ำอีกต่างหาก เลยเสร็จเรา อิ ๆ การใช้ชีวิตติดโปรฯ นี่ก็ดีนะ ของดีราคาถูก ยังมีให้แย่งชิง ถ้าคุณใช้โซเชียล และบัตรเครดิต ด้วยการมีสติค่ะ Smiley   เกือบไม่ได้มาแล้ว เพราะคนรอบข้างโดนพิษสง ของการใช้บัตรเครดิตแบบผิด ๆ จริง ๆ แล้วบัตรมันมีคุณอนันต์ โทษมหันต์ ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ว่าจะวางแผนการใช้มันอย่างไร Smiley








ก่อนเดินทางก็โทร.ไปคอนเฟิร์ม ที่พัก โทร.ครั้งแรก ไม่มีคนรับ เลยหาเบอร์โทร.กับอากู๋ ก็ไม่มี เอาว๊ะ โทร.ไปอีก ก็ไม่รับอีก ที่กังวล เพราะเวปนี้ เราไม่เคยใช้บริการ ปกติจะใช้แต่ AGODA / BOOKING / EXPEDIA  ปล่อยเวลาอีกสักพัก กดโทร.ไปอีก เฮ้อ... มีคนรับแล้ว Smiley


แต่ตรูจะดีใจ หรือเสียใจดี เพราะปลายสายเป็นฝรั่ง speak english มาทั้งดุ้น เหี้ยแล้วกรู พอจะทราบมาว่า เจ้าของที่พักเป็นฝาหรั่ง เพราะอ่านจากรีวิว ของหลาย ๆ คน แต่ไม่คิดว่าเค้าจะมารับสาย ซวยแว้วว Smiley


ดึงสติ โง่ ๆ ออกมาคุย แต่ท้ายสุด ก็ผ่านไปได้ด้วยดี สามารถคอนเฟิร์มบุ๊คกิ้งได้ และยืนยัน ชื่อผู้เข้าพัก ได้ถูกต้อง ฮ้า ๆๆๆๆๆ  

จึงย้อนกลับมามองตัวเอง และการศึกษาของไทย (เมื่อก่อน) ตั้งแต่เรียนมาจนจบปริญญาตรี ทำไมเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ฟ๊ะ  เราเป็นคนรุ่นเก่าเนอะ อายุก็เลข 4 แล้ว เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตอน ป.5 (มันช้าไปนะ สมัยนี้จึงต้องเรียนตั้งแต่อนุบาล) หลังจากนั้นก็ มัธยม 1-3 ก็เรียนแค่งู ๆ ปลา ๆ ต่อ ปวช. 1-3 ยิ่งแทบจะสอนแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ผ่าน ๆ ไป ปวส.1-2 ก็ไม่ต้องพูดถึง และมาต่อปริญาตรี อีก 2 ปี นี่มีแต่สอนเขียน จม.ต่างประเทศ ไม่ได้เน้น การพูด และสอนโดยเจ้าของภาษา และเราก็ไม่ได้มีการเรียนพิเศษ หรือเพิ่มเติมอะไรเลย เพราะเงินกินก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว 555

ดังนั้น สมัยนี้ พ่อ-แม่ ผู้ปกครองที่มีบุตร ต้องวางแผนชีวิต และการศึกษาลูก ๆ ให้ดี เพราะการแข่งขันจะสูงมาก และภาษาต่างชาติ โดยเฉพาะ อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น  ควรจะเป็นภาษาเหล่านี้ด้วย มิฉะนั้นโตไป อาจจะลำบาก ได้ค่ะ  ..... จบ ๆๆๆๆ มาต่อเรื่องเที่ยวดีกว่าค่ะ



ค่าตั่๋ว + ค่าที่พัก โครตถูก แต่ค่าเดินทางโครตแพง 555  ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่างเนอะ ก็จากเชียงใหม่ ไปปาย มันไกล และโค้งเยอะ จะเช่ารถขับก็แพง จะเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่ก็หน้าฝน และโค้งเยอะ เราจะไปปาย ด้วยวิธีไหนดีหนอ Smiley

อืมมม..... ก่อนเดินทางวันเสาร์ โทร.ไปที่ บจ.เปรมประชาขนส่ง สอบถามว่ามีบริการ มารับที่สนามบินไหม เราศึกษามาก่อนแล้วว่า แอร์เอเชียมีบริการเชื่อมต่อเมืองท่องเที่ยว และเป็นไฟล์ท เดียวกับที่เราเดินทางพอดี แต่อยากทราบราคา ลองโทร.ไปสอบถามดู หุ หุ เผื่อเป็นทางเลือก ของคนที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องลำบากหารถไปขึ้นที่ อาเขตค่ะ

โทร.ไป มีจนท.ผู้ชายรับสาย พูดจาดีค่ะ  แจ้งว่ามีบริการมารับที่สนามบิน แต่ต้องเป็นไฟล์ทเช้าเท่านั้น เราก็บอกไป ถึงสนามบินเชียงใหม่ 07.45 น. รถของบริษัทฯ จะมารับตอน 8.30 น. และขับมาส่งที่ อาเขต และขึ้นรถตู้รอบ 9.30 น. ไปปาย (เดินทาง 3 ชม. แวะพัก 1 จุด)  สนนราคารวม 220 บาท ค่ะ (ค่ารถมารับที่สนามบิน 70 บาท + ค่ารถตู้ไปปาย 150 บาท)

แต่ถ้าคุณเหมารถมาที่อาเขตเอง (คิด ๆๆๆๆๆ  จะเกิน 140 บาท หรือถูกกว่า คำนวนต้นทุนแป๊บ) และทันรอบ 8.30 น. ก็สามารถไปได้ก่อน 1 ชม. หุ หุ และค่ารถก็ 150 บาท เอง แล้วแต่ความสะดวกค่ะ  เราก็เก็บข้อมูล และกล่าวขอบคุณไปค่ะ  มาดูกัน ว่าวันไปจริง เราจะเลือกวิธีไหน Smiley



ถึงวันเดินทาง ขับรถไปจอดค้างคืนที่สนามบิน เพราะ บินเช้า-กลับดึก แบบนี้คงไม่มีวิธีที่สะดวกกว่านี้แน่นอน



ถึงสนามบิน โทร.นัดแนะรับรถที่สนามบินเลย รู้ยัง เราเลือกเช่ารถมอเตอร์ไซด์ กับ ไบกี้ เจ้าเดิม ครั้งนี้เราได้ line คุยกับคุณแจน (เจ้าของ) จะขอเช่ารถตอน 6 โมงเย็นเมื่อวาน และเป็นลูกค้าเก่า จึงได้ราคาดีงามมาก ๆ แค่วันละ 250 บาท แถมเป็นสมาชิก ได้ลดอีก 25 บาท ฮิ้ววว จึงจัดการจองไป 2 วัน 

เอาว๊ะ เราไม่ได้เป็นคนขับ แต่ก็ถามเจ้าฮ้อนแล้วว่าไหวไหม เจ้าตัวบอกไหว  จัดเลย เพราะว่าการนั่งรถตู้ไปปาย ใคร ๆ เค้าก็ทำกัน และสิ้นปี ก็จะไปด้วยรถตู้อีก แต่การขับมอเตอร์ไซด์ไป ไม่ค่อยมีใครเค้าเลือกวิธีนี้ แต่เราอยากลองทำอะไร ก่อนทีร่างกายจะแก่ชราไปมากกว่านี้ หุ หุ

ตรวจรับรถ และทำสัญญาให้เรียบร้อยก่อน และไปกันเลย ฟิ้ววว (อย่าลืมถ่ายรูปร่องรอย อุบัติเหตุที่ตัวรถให้ครบด้วยหล่ะ รอบคอบไว้ก่อนค่ะ ไม่ว่าจะเช่ารถจากเจ้าไหน อย่าลืมทำ)




จากที่ไม่ได้เตรียมการว่าจะไปด้วยมอเตอร์ไซด์ เลยไม่ได้ศึกษาเส้นทางไปแค่ดูแผนที่มาคร่าว ๆ (แต่จำไม่ได้อีกแล้ว หุ หุ) รู้แต่ว่าต้องออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วไปตั้งต้นที่ อ.แม่ริมให้ได้ ทีนี้สบายแล้ว ต่อไปก็แม่แตง แม่มาลัย คงไม่หลงแน่

ออกจากสนามบินมาสักพัก เอ๊ะ อ.แม่ริมไปทางไหนนะ 555  จึงจอดรถถามพี่รถแดง (เค้าว่ารถแดงโหดร้าย แต่เราว่าไม่นะใจดีจะตายไป) ถามทางพี่เค้าบอกดีมาก ๆ ให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา อย่าลงอุโมงค์ เราก็ทำตาม  แต่ขับมาได้สักพัก พี่เค้าขับตามมา และบีบแตร ตะโกนว่า ขับตามมา ๆ 


พอถึงทางแยก พี่เค้าไม่ได้ไปทางเดียวกับเรา ก็ชะลอรถ และบอกเส้นทางอีกที โอ้ว ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ทีนี้ไม่มีหลงเลย ตั้งแต่นาทีนี้จนถึงวันสุดท้าย อิ ๆ 


ขับมาสักพัก เรื่อย ๆ ก็แวะหาอะไรทานกันก่อน แถวแม่สา ทานเสร็จ สนนราคา แม่ค้ามอง ๆ แล้วพูดว่า 100 เดียวแล้วกัน เราก็จ่ายไป



เส้นทางที่จะไปปาย บางช่วงร้อน และไม่มีต้นไม้บังเงาเลย แต่เราก็เตรียมตัวมาอย่างดี มีเสืื้อแขนยาว ถุงมือ ผ้าปิดหน้ามาเรียบร้อย เลยไม่ค่อยเท่าไหร่ (แฟนถอดหมวกกันน็อค และเสื้อแขนยาวนะคะ ไม่ได้ทำผิดกฏหมายแต่อย่างใดจ๊ะ)



แต่รถที่นี่ขับกันเร็ว และเป็นรถใหญ่ด้วย ดังนั้น ถ้าใครขี่มอเตอร์ไซด์ไม่แข็ง ก็อย่ามาโดยวิธีนี้เลยค่ะ ให้นั่งรถตู้ไป แล้วค่อยไปเช่ามอเตอร์ไซด์ที่นั่นแทนค่ะ จะได้ปลอดภัย



ตอนรับรถ น้ำมันเต็มถังมา ขับ ๆ ไป ถ้าน้ำมันใกล้หมด เจอปั๊มก็ให้เติมเลยนะคะ เพราะเราให้เจ้าฮ้อนเติม  เพราะกลัวไม่มีปั๊ม (ใหญ๋) แต่ดื้อไง บอกไปอีกหน่อย ๆ สรุปปั๊มไม่มีแล้ว หุ หุ  เลยต้องเติมปั๊มหลอดแทน (มีตลอดทาง)  แต่ราคาก็แพง กว่าปั๊มใหญ่ ๆ นะคะ เกือบ 9 บาทต่อลิตรเลยทีเดียว Smiley



จากนั้นก็ขับไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็ถึง อช.ห้วยน้ำดัง เย้ ๆ แต่วันนี้เราไม่ได้เข้าไปข้างในนะคะ เพราะว่าสิ้นปีก็จะมาอีก เลยแค่ถ่ายรูปหน้าป้ายเอาค่ะ  .... ใกล้แล้วเว้ย อีกอึดใจก็จะถึงปายแล้ว Smiley



ช่วงที่นั่ง ๆ ไปเราเห็นเจ้าฮ้อน เกาที่คอ เราเลยมองไปที่กระจก ตกใจ เห็นหนอนเกาะที่คอเลยบอกให้จอดรถ และเอาหนอนออก เท่านั้นแหละ คอแดง 555 สงสัยจะโดนพิษเจ้าหนอนน้อยซะแล้ว ระหว่างทาง เราก็ขนลุกไป อย่าโดดมาเกาะเรานะเฟ้ย สาธุ

ถึงแล้ว ถึงประตูสู่ปายแล้ว คือ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เย้ ๆ เราทำได้ เราสามารถมาปาย ด้วยมอเตอร์ไซด์เย้





เดินถ่ายรูปเล่นซะหน่อย แต่พลขับของเรา โดนหนอนเกาะที่คออีกแล้ว 555 สรุปโดนหนอนเกาะไป 4 ตัว คอ หลัง กางเกง คันไปหมด เลยต้องซื้อน้ำเย็นมาล้าง แต่ก็ยังคันอยู่ดี 



เราเลยได้รูปที่สะพานมานิดเดียว (เพราะร้อนด้วยแหละ)  



และรอบ ๆ สะพาน อีกนิดหน่อย 



จากนั้นก็รีบมุ่งหน้าไปที่พักเลย เพราะพลขับต้องการอาบน้ำด่วน ก่อนเข้าที่พัก แวะร้านยาซื้อยาแก้แพ้และยาทามาทาที่ห้องพัก



ถึงแล้ว ที่ซุกหัวนอนของเรา น่ารักป่ะ เป็นบ้านพักไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นห้องนอนรวม (แยกหญิง-ชาย) ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติพัก เพราะเน้นราคาถูก  ส่วนเราขอเป็นชั้น 2 ดีกว่า มีแอร์ และห้องน้ำในตัว (ไม่อยากจะคุยว่าราคาที่เราได้ ถูกกว่าห้องนอนรวมเสียอีก 55555) 





ถึงห้องก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ อาบน้ำทายาแก้คัน และงีบสักหน่อย อิ ๆ ขับรถมาตั้งไกลนี่เนอะ Smiley





ตื่นมาด้วยความหิว จึงขับวนหาของกิน ไปเจอร้านนี้เข้าซึ่งเคยได้ทราบจากนักท่องเที่ยวว่าอร่อย เลยลองเข้าไปทานดูค่ะ



ราคาไม่แพง แถมอร่อยดีด้วยค่ะ ขนาดเราเป็นคนไม่ชอบทานผัดไทย ยังว่าอร่อยเลย 55



กินอิ่มเรียกแม่ค้ามาเก็บเงิน แม่ค้ามอง ๆ แล้วพูด 100 เดียวแล้วกัน หึ  เราได้ยินคำนี้มาเมื่อเช้านี่ 55  ราคาเท่ากันเลย จึงบอกไป ผัดไทย 50 บาท คิดน้ำหรือยัง แม่ค้าบอก 100 เดียว อือ ท้วงแล้วแสดงว่า 100 เดียวจริง ๆ Smiley



แล้วก็ขับย้อนมาทางเดิม เพื่อไปถ่ายรูป ที่ coffee in love  แต่ไม่ได้เข้าไปดื่มกาแฟนะ เพราะกลัวคืนนี้นอนไม่หลับอ่ะ





ต้นไม้ยังไม่เยอะ เท่าตอนหน้าหนาว ยังแร้ง ๆ อยู่ จึงได้ภาพมาเท่านี้ค่ะ 



และมาต่อที่ กองแลน ปายแคนยอน (ซื้อน้ำไปด้วยนะ เราพลาด) ทางเดินต้องเดินขึ้นบันไดไป หุ หุ ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่โรคประจำตัวเราคือเจ็บเข่าขวา มารบกวนอีกแล้ว T_T


กองแลนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการถูกกัดเซาะของลมและฝน จนกลายเป็นทางเส้นเล็กๆบนสันเขา ท่ามกลางภูเขาสลับซับซ้อน และบรรยากาศที่สวยงาม สามารถเดินสำรวจเส้นทางได้เป็นวงกลม ชมความสวยงามได้โดยรอบแบบ 360 องศา เป็นไฮไลท์ยอดฮิตอันดับต้นๆของคนมาเที่ยวปาย สำหรับดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกในที่เดียวกัน



วัดใจกัน ทางเดินแคบ ๆ น่ากลัว คนขับเรา เดินนำหน้าไป พอเห็นทางแคบ เดินกลับ ฝรั่งเดินตามหลังหัวเราะเลยอายจริง ผัวใครฟ๊ะ



ข้ามจุดแรกมาได้ พอจะถึงจุดสอง หยุดเถอะท่าน เพราะว่ามันเสียวไป รองเท้าเราไม่ดี ลื่นด้วย ถ้าหล่นไป ใครจะช่วยหนอ ยิ่งเจ้าฮ้อน แค่เดินธรรมดา ยังสะดุดขาตัวเองล้มบ่อย ๆ ถ้าตกไปใครจะขับรถพาเรากลับ หุ หุ



จึงเดินดูรอบ ๆ และกลับค่ะ ไม่ได้รอจนถึงพระอาทิตย์ตก เพราะกลัวถนนปิด และรถจะเข้าไม่ได้ค่ะ



ถึงที่พักจอดรถ และสิ่งที่เราชอบที่สุด คือการเดินหาของอร่อย ๆ พื้นบ้าน กิน รอเวลานี้มาทั้งวันแล้ว อิ ๆ

แวะมันทุกร้าน กินมันเกือบทุกเจ้าที่เดินผ่าน แต่ว่า มองบนฟ้า ทำไม่เหมือนฝนทำท่าจะตก เอาว๊ะ เดินต่อ

ท่ารถเปรมประชา อยู่แถว ๆ ที่พักเลย ถ้าใครเดินทางด้วยรถตู้สะดวกสุด ๆ ค่ะ

และก็กิน กิน กิน

มาเชียงใหม่ ต้องกินข้าวซอย และขนมจีนน้ำเงี้ยว  เรากินไปคนละชาม พอเรียกเก็บเงิน เจ้าของร้านเดินมา บอก 100 แล้วกัน เฮ้ย เราได้ยินคำนี้ 3 ครั้งแล้ว แต่รอบนี้ แพงจัง ตกชามละ 50 บาทเชียว แถมไม่ค่อยอร่อยเสียด้วยสิ .... เสียดายเงินอ่ะ


 และเดินเที่ยวได้อีกนิดเดียว ฝนเท ลงมา แง ๆ ของฝาก เสื้อผ้า ยังไม่ได้เดินดูเลย ต้องรีบวิ่งกลับเข้าที่พัก

รอจน 4 ทุ่ม ฝนหยุด ตอนแรกว่าจะเดินออกมาอีกรอบ แต่ง่วง จากการเดินทาง เลยนอนดีกว่า ZZZzzzz

ตื่น 6 โมงเช้า สายแล้วเรา รีบล้างหน้า แล้วขี่มอเตอร์ไซด์ รีบบึ่งไปดูทะเลหมอก จะทันไหมเนี่ย

ระหว่างทาง เห็นพระบิณฑบาตร และคนใส่บาตร จึงจอดรถถ่ายรูป และนั่งพนมมือไหว้ ส่วนอาหาร ก็ไม่ได้เตรียมมาใส่

ช่วงที่พระเดินผ่าน พระรูปสุดท้าย หยุดและมองดูเรา พร้อมกับมือล้วงไปในย่าม หยิบหนังสือ+ซีดี ธรรมมะ แล้วส่งให้เรา .....สาธุ อนุโมทามิ สงสัยเราจะบาปหนา พระเลยให้หนังสือมาขัดเกลาจิดใจ 555


ทางที่จะไปชมทะเลหมอกหยุนไหล ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านสันติชล ถ้านักท่องเที่ยวขับรถมาเอง ต้องมาต่อรถของชาวบ้าน เหมารถขึ้นไป แต่เรามามอเตอร์ไซด์ เลยสามารถเข้าได้เลยค่ะ


ถึงแล้ว จะเสียค่าเข้าคนละ 20 บาท เอาบัตรไปแลกชามาได้ 1 เหยือกค่ะ คุ้ม สุด ๆ อ่ะ แถมมีกล้วยฟรี ให้บิดกินได้ด้วยค่ะ

เรามาช้าไป พระอาทิตย์ กลับบ้านไปแล้ว หุ หุ แต่ภาพที่เห็นก็ยังสวยงามอยู่มากค่ะ

คนน้อย ๆ อากาศเย็น ๆ สดชื่น

หมอกลอยมาปะทะ เป็นพัก ๆ

อยากเกิดเป็นแมวที่นี่จัง วิวสวย บรรยากาศดี๊ดี

ตอนแรกจะกลับ แต่หมอกมาอีกหลายลูก ก็ต้องอยู่ต่อ 555 สรุปเราใช้เวลา อยู่ที่นี่นาน 1 ชม. แบบไม่เบื่อเลยค่ะ

ลืมบอก ทางขึ้น-ลง มีอันตรายอยู่ 1 ช่วง ก่อนจะถึงจุดชมทะเลหมอกนะคะ ขับระวัง ๆ กันด้วยค่ะ

หินก้อนเล็ก ๆ อาจทำให้ล้มได้ ต้องระวังค่ะ

ลงจากจุดชมวิว ก็แวะเที่ยวต่อ ที่บ้านดิน ในหมู่บ้านสันติชล ต่อ วันนี้ไม่ได้โล้ชิงช้า เพราะเคยนั่งแล้ว และเจ้าฮ้อน ไม่ยอมนั่ง (สงสัยจะกลัว)


เดินเข้าไปเที่ยวข้างใน สวยดีนะ

มีกำแพงเมืองจีนจำลอง

มีร้านขายของฝากจำพวกบ๊วย สารพัดรสชาติ อร่อย ดีค่ะ

และร้านเช่าชุดจีน ไว้สำหรับถ่ายรูปค่ะ

ขากลับแวะไหว้พระที่วัดน้ำฮู้ เพื่อเป็นสิริมงคล สักหน่อย

และเข้าที่พัก กินกาแฟ ขับรถออกมากินผัดไทย อีกรอบ และทำธุระ แถว ๆ ที่พัก และเช็คเอ้าท์ค่ะ


ขากลับ ใช้เวลาไม่นาน ก็ถึงเชียงใหม่ เวลาเหลือเยอะ เพราะนัดส่งรถตอน 18.00 น. จึงแวะไปไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยคำ

คนเยอะมาก ๆ ขนาดวันจันทร์นะเนี่ย ภายในวัดมีร้านขายของเยอะแยะเลย และร้านขายสลากกินแบ่งก็เยอะเช่นเดียวกัน 55

เราก็ได้ทราบข่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทันใจ มาบ้างตามสื่อ ว่ามีคนมาขอ แล้วสมดั่งหวัง และต้องนำดอกมะลิมาถวาย

ดอกมะลิเยอะมาก ๆ แสดงว่าคนสมหวังกันเยอะ

เรากับฮ้อน ก็ขอบ้างเลย พอขอเสร็จ ก็เดินออกมาจะ ข้างนอก ตาไปเห็นแบงค์ 100 หล่นอยู่ จึงตามหาเจ้าของ แต่ก็ไม่มีใครอยู่แถวนั้น จึงนำเงิน ไปใส่ซอง และร่วมทำบุญไปอีก คนละ 50 บาท เขียนชื่อเรา ฮ้อน และผู้ที่ทำเงินหล่น ให้พระสวดให้พร

เดินกระหยิ่มยิ้มย่องออกมาเลย งวดนี้กรูรวยแน่ ออกมาปุ๊ป ปรี่ไปหาแผงลอตเตอรี่ ในทันที่ 555 ได้มา 1 ชุด รวยแล้ว

ใครอยากบุญหนัก ก็สามารถเดินเท้าขึ้นมาได้นะ หุ หุ

และขับไปสนามบิน ก่อนเข้าก็แวะ 7-11 ซื้ออาหาร กล่องไว้ทาน ก่อนขึ้นเครื่อง และส่งรถ 18.00 น.

กลับถึงบ้านโดยปลอดภัย แล้วเราจะกลับมาอีกนะ ปอ อา ยอ ปาย วันที่ 10-13 ธันวาคม 59 นี้อีกรอบจ๊ะ บาย


ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ (ไม่รวมของฝาก) ตกคนละ 1336.20 บาท เห็นไหมเที่ยวเมืองไทย ไม่ได้แพงอย่างที่คิด


*** ต่อเรื่องแบงค์ ที่เจอ งวดแรก 16 ตค. 59 หวยออก 98 โดนแดรกเรียบ หมดไปเยอะเลย (จริง ๆ 6 กับ 9 ตัวเดียวกัน แต่เราโง่เองนะ) พองวด 1 พย.59 ออก 86 โดนสิคะ แม้จะแทงไม่เท่างวดที่แล้ว แต่ก็ถือว่าได้ทุนคืน กราบ หลวงพ่อทันใจ ที่ยังให้โชคกับเรา แล้วหนูจะกลับไปไหว้ท่านอีกครั้ง วันที่ 13 ธันวาคม 59 ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ***




Create Date : 18 มกราคม 2560
Last Update : 18 มกราคม 2560 22:28:34 น.
Counter : 2386 Pageviews.

7 comments
  
เล่าได้สนุก..ครับ ไปเที่ยวปาย ได้มากแห่งด้วย...

มา งง..ตอนสุดท้าย รวบรัด จนตั้งตัวไม่ติด จาก ปาย มาที่วัดดอยคำ
นะครับ สงสัย หวยจะ กินเรียบ 555

ไปละครับ ถ้ามีอัพบล๊อกอีก ไปเคาะประตูบอกบ้างนะครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 18 มกราคม 2560 เวลา:13:09:21 น.
  
สวัสดีคะ...

แวะมาอ่านด้วยคนคะ..เขียนสนุกดี

รูปถ่ายก็สวยมากคะ..น้องแมวน่ารักดีคะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 18 มกราคม 2560 เวลา:13:46:49 น.
  
คิดถึง ปายยยย เขียนรายละเอียดได้ดีมาก ฟินตามเลย
โดย: Rinee Jung IP: 27.145.74.244 วันที่: 18 มกราคม 2560 เวลา:14:30:09 น.
  
น่าสนใจจัง
ไม่แพงเลย
บินไปยินมาซะด้วย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 มกราคม 2560 เวลา:15:26:20 น.
  
ขอบคุณทีเสียสละเวลาแวะมาอ่านนะคะ

@คุณไวน์กับสายน้ำ กลับขึ้นไปอ่าน งง จริง ๆ ด้วยเขียนสรุปไปหน่อยเพราะขากลับ กลับเส้นทางเดิม ไม่มีอะไรแวะแล้วค่ะ ตรงดิ่งอย่างเดียวเลยรวบรัดซะเลย

@คุณอ้อมแอ้ม ขอบคุณค่ะ อิจฉาน้องแมวเหมือนกัน อยากเกิดเป็นแมวบนนี้เลยค่ะ

@คุณRinee Jung ขอบคุณค่ะ อยากไปอีกเหมือนกันค่ะ ชอบ สงบดีค่ะ

@คุณเริงฤดีนะ ใช่เลยค่ะ พอได้โปรฯ บินถูก ๆ เลยได้เที่ยวบ่อยขึ้น เลยนำข้อมูลมาแบ่งปันกันค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ บ้างค่ะ
โดย: nuch9981 วันที่: 18 มกราคม 2560 เวลา:22:16:08 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 19 มกราคม 2560 เวลา:4:31:37 น.
  
เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่น่าไป "ซ้ำ" ค่ะ

เคยไปปายแล้ว,อยากปายอีกหลายๆๆ ครั้ง
โดย: ดาริกามณี วันที่: 20 มกราคม 2560 เวลา:20:18:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nuch9981
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



ไปทุกที่...ที่มีทาง