19 ตุลาคม 2550 ได้โอกาสมาแวะเยี่ยมเยียนค่ายสุรสีห์ ที่มีที่ตั้งของกองถ่ายหนังเรื่องพระนเรศวร ต้องบอกก่อนว่าเสียดายที่มีเวลาแค่ 2 -3 ชั่วโมง เลยเก็บรายละเอียดอะไรไม่ได้มาก เพราะที่นี้กว้างใหญ่มากและมีอะไรให้ดูมากมาย ต้องไว้ไปเก็บรายละเอียดกันอีกทีตอนนี้เอาเท่าที่เก็บได้ไปก่อนแล้วกัน
ก่อนอื่นเราก็ต้องเสียค่าผ่านประตูกันก่อน คนไทย 100 คนต่างชาติ 200 บาท เค้ามีแผนที่ให้เราด้วยว่าอะไรอยู่จุดไหน ตอนนี้เองก็สร้างเสร็จไปแล้วกว่าครึ่งแต่ก็มีฉากอีกหลายฉากที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง อีกหน่อยจะมีที่พักและที่จัดสัมมานาที่นี้ได้ด้วยนะ (แต่ไม่รู้ปีไหนนะ เห็นแผนอยู่) ในบริเวณนี้ มีทั้งที่เป็นศิลปะแบบพม่า และ ไทย มีบริเวณที่แสดงถึงวัด ห้องเก็บอาวุธ ประตูเมือง พระที่นั่งทั้งของพม่าและไทย มีตัวอย่างการแต่งกายของคนเผ่าต่างๆ ทั้งชาวบ้าน นักรบ และเจ้า ว่าเค้าแต่งกายกันอย่างไร
สำหรับสถานที่ต่างๆก็สร้างขึ้นมาอย่างดีสะท้อนวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่า มีตัวอย่างของคุกในสมัยโบราณให้เห็น สำหรับท่าเรือ ก็มีการขุดสระขึ้นมากันจริงๆและทำเรือรบขึ้น ส่วนฉากที่เป็นห้องบรรทม ท้องพระโรง ต่างๆก็มีการจำลองสร้างขึ้นมาได้ตามประวัติศาสตร์ ต้องนับถึอท่านมุ้ย และทีมงานมาก ที่หาข้อมูลและสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาได้เป็นอย่างดี ในโรงถ่ายมีการเก็บอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในแต่ละฉากไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่ระดับชาวบ้านไปจนถึงเจ้าต่างๆ และพวกอุปกรณ์แต่งตัวของนักรถ รถลาก อาวุธ ฯลฯ
ที่นี้มีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายในบริเวณต่างๆให้เราดูด้วย และมีช้าง ม้า วัว ควาย เอาแบบตัวเป็นๆให้เห็นกันเลยเชียว คิดว่ามาเที่ยวที่นี้สามารถที่จะอยู่เที่ยวชมธรรมชาติ ความสวยงามและศึกษาประวัติศาสตร์ไปด้วยได้ ใช้เวลาหนึ่งวันอาจจะไม่พอด้วยซ้ำถ้าจะเอากันอย่างละเอียดนะ อ้อ มีช้าและม้า รวมถึงเกวียนให้ได้รองนั่งด้วย ถ้าใครอยากจะลองดูว่าวิธีโบราณนั้นมันเป็นอย่างไร
สำหรับบริเวณทางออก หรือจะเรียกว่า shop บริเวณติดๆกับทางเข้าก็ได้มั้งนะ เพราะมันเดินถึงกันได้ ก็มีของที่ระลึกต่างๆขายมากมายไม่ว่าจะเป็นอาวุธโบราณ เสื้อ หมวก VCD DVD หนังสือ พวกกุญแจ ที่คล้องมือถือ ที่คล้องกล้อง การ์ดเล็ก หุ่นพระนเรศวร อะไรอีกละ จำไม่ได้แล้ว แต่มีแยะละกัน
สำหรับการไปเที่ยวกาญจนบุรีครั้งหน้า จะมีสองที่ที่ต้องไปแน่นอนก็คือ ค่ายสุรสีห์ เยี่ยมกองถ่ายพระนเรศวรและซาฟารีเวร์อ อันนี้พึ่งรู้ว่าย้ายจากกรุงเทพไปอยู่ที่กาญจนบุรี แต่ว่ายังไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน คงต้องหาข้อมูลซะก่อนว่าไปทางไหน แต่ที่รู้ว่าอยู่ที่กาญจนฯ ก็เพราะว่าเห็นรายการย้อนรอยนำมาออกอากาศ และที่สำคัญคือเห็นแล้วสงสารสัตว์พวกนั้นจัง แล้วก็รู้สึกประทับใจเจ้าของและลูกจ้างของที่นี้ ที่ถึงแม้ว่าทำแล้วจะขาดทุนแต่ก็คงจะทำต่อไปเพื่อให้สัตว์พวกนี้ยังได้อยู่สบายและกินอิ่ม เงินที่ได้มาบอกว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือ นำเงินไปซื้ออาหารให้สัตว์ก่อน อืม..ประทับใจ แต่ยังไงซะก็อยากจะไปให้เห็นกับตาว่าสัตว์ที่นั้นเป็นอยู่กันอย่างไรบ้าง ไว้ได้ไปเมื่อไรจะเก็บความประทับใจมาบันทึกเอาไว้อีกนะจ๊ะ
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2550 9:54:08 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1843 Pageviews. |
|
ดี.มีบัตรเข้าชมอยู่
แต่ยังไม่มีเวลาไปเลย
เห็นแล้วอยากไปจริงๆเลย