คุณเคยรู้สึกผิดกับการกระทำของตนเองบ้างมั้ย? ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการกระทำที่เราคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แต่ผลที่ออกมาคือ เราได้ทำร้ายจิตใจของคนอีกหลายๆคน โดยที่เราไม่รู้ตัวคนที่เป็นหัวหน้างานต้องทำการประเมินบุคลากร ส่งผลการประเมินไปให้ผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจเพิ่มเงินเดือนประจำปีปีนี้...เมื่อฤดูกาลแห่งการปรับขึ้นเงินเดือนมาถึง ทุกคนต่างใจจดใจจ่อกับผลงานตนเองๆว่าจะช่วยให้เงินเดือนขึ้นเท่าไหร่หลังจากช่วงต้นเดือนที่ทุกคนรู้ผลแล้ว มีบุคลากรท่านหนึ่งมาขอคุยด้วยผู้หญิงที่ตั้งใจทำงานคนหนึ่ง นั่งตรงหน้า น้ำตารินไม่ขาดสาย พยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้น ถามว่า ..."พี่ผิดตรงไหน พี่ตั้งใจทำงานทุกอย่าง พี่ส่งงานตามที่ต้องทำ พี่พยายามที่จะพัฒนาตัวเอง แต่สิ่งที่พี่ได้รับมันไม่ใช่อย่างที่พี่ตั้งใจ และมันไม่ใช่ครั้งแรก ...พี่ทำงานที่นี่มา 4 ปี นี่เป็นปีที่ 5 แรกๆ พี่ได้ขึ้นเท่านี้ พี่มองว่พี่อาจพยายามไม่มากพอ เอาใหม่ และพี่ก็พยายามมากที่จะทำงานทุกอย่าง แต่ผลของสิ่งที่พี่ตั้งใจมาตลอด มันกลับเหมือนเดิม มันเป็นเหมือนเดิมทุกปี แม้ว่าพี่จะพัฒนา ไม่ว่าพี่จะพยายามแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครเห็นเลยใช่มั้ย...พี่นอนร้องไห้มาหลายวัน พี่ไม่ได้เสียใจที่เงินเดือนพี่ขึ้นน้อย แต่พี่เสียใจที่ว่า ทำไมสิ่งที่พี่ทำ สิ่งที่พี่พยายามไป มันสูญเปล่า พี่ยังอยู่ในเกรดต่ำ มีคนบอกพี่ว่าพี่อยู่ในขั้น C- ซึ่งพี่ฟังแล้วพี่เสียใจมาก มันต่ำเกินกว่าที่พี่จะรับได้ กับความพยายามตลอดปีของพี่ พี่เกรดต่ำขนาดนั้นเลยเหรอ พี่แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ พี่อยากรู้ว่า พี่ผิดตรงไหนเหรอ พี่ต้องพัฒนาตรงไหน พี่ต้องปรับอะไร ที่พี่ปรับตัวเองที่ผ่านมามันยังไม่ตรง พี่จึงขอรู้ว่า พี่บกพร่องตรงไหน"จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ได้ข้อคิดเตือนใจตัวเองว่า การตัดสินคนอื่นอย่างสะเพร่า ไม่พิจารณาให้รอบด้าน ไม่มีการบันทึกการทำงาน ไม่มีการประเมินหลายด้านจากหลายคน ก่อให้เกิดผลร้ายแรงต่อจิตใจผู้อื่นได้อย่างมากมายเมื่อพิจารณาตัวเองแล้ว อยากจะย้อนเวลาไปเปลี่ยนแปลงผลการประเมินของตนเองเหลือเกิน คนเรายิ่งพูดคุยกันมากเท่าไหร่ เราก็จะได้รู้ ได้เห็นมุมมองทั้งความคิด การกระทำ การทุ่มเทต่องาน การประเมินก็จะไม่ผิดพลาดมากหลายๆ คนคิดว่า ใครสนิท ใกล้ชิดกับผู้ประเมินย่อมได้คะแนนดี ... เถียงไม่ออก เพราะพอมองย้อนไปก็เป็นเช่นนั้นจริงเสียด้วยทำไมน่ะเหรอ... ก็เพราะเรามองเห็นการทำงาน เห็นผลงาน เห็นมุมมอง เห็นความคิด เห็นความทุ่มเทของคนใกล้ชิดได้ชัดเจนแต่ยิ่งห่าง ยิ่งไม่ได้คุย ก็จะยิ่งละเลย ความคมชัดของบุคคลนั้นๆ ก็จะไม่ 100% นั่นส่งผลให้ เกิดความผิดพลาดอยากจะขอโทษ... และขอแก้ตัวด้วยการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงรูปแบบ วิธีการประเมิน จะไม่ประเมินจากหัวหน้างานเพียงไม่กี่คนอย่างแต่ก่อน แต่จะมีการให้ประเมินตนเอง ประเมินจากเพื่อนร่วมงาน ประเมินจากหัวหน้างาน และเกณฑ์การประเมินก็จะมีความเป็นธรรม ละเอียด และสร้างความเชื่อถือแก่บุคลากรให้ได้ถ้ามีโอกาส...ถ้าได้อยู่ที่นี่ต่อ...ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง โยกย้าย จะสร้างความเชื่อมั่น และแก้ตัวให้เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรมแก่ทุกคนใต้บังคบบัญชาอย่างแน่นอน สัญญา!
ถ้าค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ถ้าคิดว่าทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ผลมันจะเป็นยังไงก็ช่างมัน
คิดซะว่า ใครไม่รู้ แต่เรารู้ เท่านั้นพอ
ผมโดนบ่อยๆ แบบพี่คนนี้ครับ ฝากบอกพี่เค้าด้วยนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้