ดาว บ้านดอน



เทียม เสิกศิริ หรือ ดาว บ้านดอน เกิดเมื่อ 4 มกราคม 2490 ที่บ้านดอนมะยาง ต.ตาดทอง อ. เมือง จ.ยโสธร เป็นบุตรนายผ่าน - นางแพง เสิกศิริ ที่มีอาชีพทำนา จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านดอนมะยาง จากนั้นก็มาช่วยครอบครัวทำไร่นา แต่เมื่อมีเวลาว่างชอบที่จะมาทำหน้าที่เด็กวัดบ้านดอนมะยาง ที่อยู่แถวบ้านเนื่องจากโปรดปรานการได้ขึ้นมาร้องเพลงลูกทุ่งบนหอระฆังของ วัด ที่เขาบอกว่าเวลาขึ้นมาที่นี่ เขารู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจดี โดยเพลงที่เขาโปรดปรานส่วนมากเป็นเพลงของโฆษิต นพคุณ

เมื่อ อายุ 12 ปีได้บวชเป็นสามเณรที่วัดนี้ และสอบได้เปรียญธรรมชั้นตรี ระหว่างนั้นเขายังคงชื่นชอบการร้องเพลงอยู่ แต่ไม่สามารถร้องได้เพราะผิดศีล เพื่อหาทาง เขาตัดสินใจสมัครเรียนการเทศน์มหาชาติ ที่ต้องอาศัยทักษะไม่ต่างไปจากการร้องเพลง เขาฝึกเรื่องนี้อยู่ 2 ปี จนช่ำชอง และกลายเป็นสามเณรเสียงดี ที่ตระเวนเทศน์ในหลายพื้นที่ จนผู้คนเรียกกันว่าเณรบ้านดอน

ต่อมา สามเณรวัย 18 ปีก็เกิดไปหลงเสียงของชาตรี ศรีชล ทำให้ต้องตัดสินใจสึกออกมาในช่วงเดียวกับที่วงดนตรีมิตรเพชรประชา วงดนตรีแถวบ้านประกาศรับสมัครนักร้อง ซึ่งดาว บ้านดอน และน้าชาย ก็มาเป็นนักร้องอยู่กับวงนี้ แต่หลังจากที่ทางวงช่วยกันเก็บเงินซื้อกลองชุดมาได้ชุดหนึ่ง และเกิดเหตุให้กลองตกลงมาแตก วงก็เลยแตกไปตามกลอง

ดาว บ้านดอน กลับมายึดอาชีพทำไร่ปอและทำนาตามเดิม เพื่อหาทุนรอนในการตามหาความฝันเรื่องการเป็นนักร้องอัดแผ่น เพราะเพื่อนชาวร้อยเอ็ดที่เป็นนักร้องวงดนตรีอุรารักษ์ในกรุงเทพฯชื่อจะเด็ด เพชรอีสาน บอกกับเขาว่ามีทางลัดในการเป็นนักร้อง นั่นก็คือการหาเงินเพื่อบันทึกเสียง ยกระดับตัวเองเป็นนักร้องอัดแผ่น แล้วค่อยเอาแผ่นเสียงไปเสนอวงดนตรีดังๆหรือครูเพลง ซึ่งจะทำให้ดูมีภาษีกว่าการไปมือเปล่าๆ

หลัง จากทำไร่ปอจนเก็บเงินได้ 8.000 บาท ดาว บ้านดอน กับเพื่อนอีกคน ก็เข้าห้องอัด โดย ดาว บ้านดอน อัดเพลงหนุ่มยโสธร ที่เขาแต่งเอง แต่เป็นการเลียนเพลงบุพเพสันนิวาส ของครูไพบูลย์ บุตรขันที่แต่งให้ศรคีรี ศรีประจวบ งานนี้อดีตสามเณร หันมาใช้ชื่อดาว บ้านดอน ที่ตั้งขึ้นเอง โดยมีที่มาจากฉายา เณรบ้านดอน สมัยยังบวชเป็นเณรอยู่ งานนี้ทั้งสองคนตกลงออกค่าใช้จ่ายคนละครึ่งคือคนละ 3,000 บาท

ที่ เมืองกรุง ทั้งสองไปบันทึกเสียงกันที่ห้างแผ่นเสียงกมลสุโกศล โดยมีวงดนตรีเพชรสำราญเล่นดนตรีให้ ซึ่งก็ใช้เครื่องดนตรีแค่ 4 ชิ้นเท่านั้น หลังบันทึกเสียงเสร็จ ก็สั่งตัดแผ่นออกมา 200 แผ่น เพื่อนำไปตระเวนแจกตามสถานีวิทยุ และหนึ่งในนั้น ดาว บ้านดอน ต้องการนำไปให้นพดล ดวงพร เจ้าของวงดนตรีเพชรพิณทอง อันลือลั่นที่อุบลราชธานี แต่ปรากฏว่าคำแรกที่นพดล ดวงพร พูดหลังจากให้ฟังแผ่นเสียง และดาว บ้านดอน ยื่นความจำนงอยากจะขอเป็นนักร้องหรือนักแต่งเพลงในวงก็คือ “ดายหญ้าเป็นหรือเปล่า “ ทำเอาดาว บ้านดอน ต้องผิดหวังและรีบกลับบ้านทันที

จาก นั้นดาว บ้านดอน ได้นำแผ่นเสียงไปให้นักจัดรายการเพลงลูกทุ่ง 2 คนที่สถานีวิทยุ จ.ส. ร้อยเอ็ด ก่อนที่จะนำส่วนที่เหลือออกเร่ขายในราคาถูกๆ เพื่อหาทุนคืน จากนั้นเขากับเพื่อนก็ไปสมัครเป็นนักร้องอยู่กับวงดนตรีอุรารักษ์ และต่อมาย้ายมาอยู่กับเพชรสำราญ

ในขณะนั้นเพลง “หนุ่มยโสธร “ ที่ เขานำไปฝากกับนักจัดรายการที่ร้อยเอ็ด ก็เป็นที่ชื่นชอบของนักฟังเพลงทีร้อยเอ็ด จนเพลงติดอันดับ 1 ของร้อยเอ็ดอยู่หลายสัปดาห์ ทำให้ในที่สุด เทพบุตร สติรอดชมพู เจ้าของวงดนตรีและคณะหมอลำชื่อดังของภาคอีสาน ต้องรุดมาเอาตัวดาว บ้านดอนไปร่วมงานด้วย โดยส่งเขาไปประจำคณะหมอลำเพชรสยาม ดาว บ้านดอน ในฐานะนักร้องอย่างเต็มภาคภูมิ ออกแสดงครั้งแรกที่สุรินทร์

การ เดินสาย ทำให้เพลงหนุ่มยโสธรของเขาโด่งดังมากขึ้น เขาจึงได้แต่งเพลงเพิ่มอีกหลายเพลง ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เทพบุตร สติรอดชมพู จึงตั้งวงดนตรีดาว บ้านดอนให้เขา จากนั้นในปี 2516 ดาว บ้านดอน ก็มาโด่งดังอย่างสุดๆจากเพลง ลำเพลินเจริญใจ เพลงนี้ทำให้งานเพลงเก่าๆของเขา และการแสดงหน้าเวทีได้รับความนิยมตามไปด้วย

แต่ หัวหน้าวงตัวปลอมเช่นเขาก็ยังคงได้รับเงินเดือนจากหัวหน้าตัวจริงเดือนละ 2,500 บาทเท่าเดิม ดาว บ้านดอนจึงไปขอขึ้นค่าตัว และได้รับการปรับขึ้นมาเป็นวันละ 300 บาท ใกล้เคียงกับศักดิ์สยาม เพชรชมภู เบอร์ 1 ของเครือที่ได้วันละ 450 - 500 บาท แต่นักร้องทั้งสองก็ยังรู้สึกว่ารายได้ของพวกเขาไม่เป็นธรรม ดาว บ้านดอน จึงทิ้งวง หนีตามไปอยู่กับศักดิ์สยามที่ทางภาคเหนือ ซึ่งทางเทพบุตร สติรอดชมพู พยายามตามทั้งสองคนกลับมา แต่ได้กลับมาเฉพาะศักดิ์สยามเท่านั้น ส่วนดาว บ้านดอนไม่ยอมกลับมารับค่าตัววันละ 300 บาทตามเดิม

ดาว บ้านดอนกลับมาทำไร่ปอและแตงโมที่บ้านเกิดเพื่อหาทุนตั้งวงดนตรีของตัวเอง ขณะเดียวกันก็พยายามผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้แฟนเพลงลืม ในที่สุดเขาก็ตั้งวงได้ และออกเดินสายแถวภาคอีสาน ต่อมาเขาได้รู้จักกับคมศร พรสวรรค์ นักจัดตารางการแสดงวงดนตรีในกรุงเทพฯ และก็ได้มอบหมายให้คมศรช่วยจัดตารางการแสดงของวงให้ ทำให้เขาสามารถเปิดการแสดงในพื้นที่ที่กว้างมากขึ้น

แต่ หลังจากคบค้ากันมานาน ดาว บ้านดอนก็ได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คมศร พรสวรรค์ก็คือธุรกิจสายหนึ่งของเทพบุตร สติรอดชมพูนั่นเอง ทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่ต้องกลับมาอยู่ภายใต้อิทธิพลของเจ้านายเก่า แต่ก็ทำใจได้ และเดินหน้าทำงานกับเจ้านายต่อไปตามเดิม

ปี 2525 ดาว บ้านดอน ออกผลงานชุด ยอดตำลึงชุมแพ ก่อนที่จะประกาศปิดวง นำรถอุปกรณ์ และเครื่องดนตรีให้วงดนตรีของนักร้องหน้าใหม่เช่า ส่วนตัวเองก็หันไปเป็นนักร้องรับเชิญกับวงดนตรีหน้าใหม่เหล่านี้ แต่ก็ยังคงผลิตผลงานเพลงของตัวเองออกมาเรื่อยๆ ร่วมทั้งตั้งหน้าตั้งตาแต่งเพลงปั้นนักร้องแนวหมอลำหน้าใหม่ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างมากกับสมจิตร บ่อทอง และฮันนี่ ศรีอีสาน และอีกหลายคน

นอกจากนั้น ก็ยังแต่งเพลงให้นักร้องมากมายทั้งศักดิ์สยาม เพชรชมพู , จินต หรา พูนลาภ , พิมพา พรศิริ , สันติ ดวงสว่าง , สดใส รุ่งโพธิ์ทอง , สาธิต ทองจันทร์ , ลูกแพร - ไหมไทย อุไรพร , พิมพ์ใจ เพชรพลาญชัย , ศรเพชร ศรสุพรรณ

สำหรับชีวิตครอบครัวนั้น ดาว บ้านดอน แต่งงานตอนอายุ 21 ปีคือก่อนตอนเป็นนักร้องกับสาวบ้านเดียวกันและลูก 1 คน ก่อนจะเลิกรากันไป พอถึงปี 2518 ช่วงที่กำลังดังเต็มที่ก็แต่งงานอีกครั้งกับสาวร้อยเอ็ดชื่อบุญเรือง และมีลูก 5 คน และในปี 2521 ก็แต่งงานอีกครั้งกับสาวร้อยเอ็ดอีกคนชื่อคำพัน และมีลูกอีก 1 คน ปัจจุบัน ภรรยาทั้งสอง และลูกๆใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน

ดาว บ้านดอนได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำพระราชทานปี 2519 จากเพลงคนขี่หลังควาย และได้รางวัลในเพลงเดียวกันจากโครงการ กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยครั้งที่ 2 ปี 2534



คนขี่หลังควาย - ดาว บ้านดอน

กลุ้มใจจริงๆ รักผู้หญิง หญิงก็ ไม่สน
เรามันคนจน แม่หน้ามนจึงไม่มอง
เราคนจน ไร้เงิน ไร้เงินไร้ทอง
สาวก็ไม่มอง เพราะเราจนกระเป๋าแบน

คนรวยๆ เขาคงซื้อน้องด้วยเงินแสน
เรามันคนจนคงไม่ได้น้องเป็นแฟน
คนมีเงิน เขาขี่รถเบ็นซ์รถแวน
เราขี่หลังควาย ตามท้องนามันน่าขำ

ฝนตกมา ต้องไถนาดำนาหน้าดำ
งานจะหนักไม่หวั่น ทำทั้งวันแต่เช้ายันค่ำ
ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ทำเรื่อยไปไม่เคยบ่นซักคำ
โธ่เอ๋ยเวรกรรม ไม่ทำก็ไม่มีกิน

โอ้โชคชะตา วาสนาเราเกิดมาจน
คิดขึ้นมาน้ำตามันไหลริน
จะมีสาวใด สนใจรักไม่สูญสิ้น
ขอเป็นทาสเธอ จะรักเธอเพียงคนเดียว



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2554 10:32:13 น.
Counter : 1507 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

notbao
Location :
เชียงราย  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



พฤศจิกายน 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30