เมื่อเด็กหญิงสาวไหมกลายเป็นเด็กหญิงนกขุ้ม....แม่เลยชวนมาทำน้ำลูกสำรองกินกันซะเลย
ไม่ได้อัพบล็อกนานมากๆ เพราะแม่ก็ยุ่งมากๆ ก่อนหน้านี้ก็ยุ่งกับงานวิถีวิจัยของ มช พอเสร็จงานแล้วก็ค่อยโล่งมาหน่อย แต่งานอื่นๆ ก็ยังเหลืออีกเยอะแยะ
เชียงใหม่เข้าหนาวแล้วนะ หลังจากที่ผู้คนค่อนประเทศไทยอพยพมาอยู่เชียงใหม่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทำเอาบ้านเราร้อนไปเลย อากาศก็ไม่เป็นใจเล้ย แหม น่าจะหนาวจัดๆ ให้คนอื่นคนไกลได้สัมผัสความเย็นหน่อยซี้...
เพราะอากาศที่เย็นลงนี่แหละ เวลาสาวไหมไปโรงเรียน แม่ก็จะใส่เสื้อผ้าให้เต็มที่ เป็นเสื้อแขนยาวมีฮู้ด แต่ใส่แล้วทำให้แม่นึกถึงการ์ตูนชื่อ "มิโนะ" จากเรื่อง "พี่น้องคู่วุ่น" เลยอ่ะ ตัวเตี้ยๆ ตันๆ ใส่เสื้อกันฝน ช่างเหมือนตุ๊กตาไล่ฝนจริงๆ เลย
แล้วแม่ก็เพิ่งรู้ว่าเพราะหนูใส่ชุดแบบนี้พี่เลี้ยงที่โรงเรียนเลยเรียกหนูว่า "นกขุ้ม" ต๊ายยยย ลูกช้านเปลี่ยนจากปลาหมึกปิ้งไปเป็นนกขุ้มเสียแล้ว
พี่แอร์เล่าให้แม่ฟังว่าเดี๋ยวนี้เวลาเรียกชื่อ "สาวไหม สาวไหม" หนูไม่ค่อยฟังหรอก เรียกยังไงก็ไม่หยุด ต้องเรียกว่า "นกขุ้ม นกขุ้ม" หนูก็จะหยุดกึกแล้วหันมามองพร้อมกับถามกลับ "หา?" ประมาณว่า เรียกทำไมเหรอคะ มีไรกะนกขุ้มเหรอคะ
ที่ใส่นี่ไม่ใช่ยูนิฟอร์มนกขุ้มนะคะ แต่เป็นผ้าคลุมไหล่แถมจากโดฟค่า ดูไฮโซโก้เก๋ซะไม่เมี้ยะ
เดือนนี้เป็นเดือนที่ได้พบปะผู้คนเยอะแยะเลย เป็นเดือนที่ใครๆ ก็ไม่อยากทำงานกัน เอาแต่เที่ยวๆๆๆ ต้นเดือนที่บ้านเราก็รับแขกหลายคน คุณตาก็มานอนบ้านหลายหน มีลุงต้นกับอาส้มโอ เพื่อนของพ่ออีก มานอนที่บ้านอยู่ 4-5 วัน มาเรียนเจิงกับดาบ สาวไหมเลยได้คนเลี้ยงคนใหม่ เย้ๆ
ลุงต้นเป็นผู้ชายตัวใหญ่ อวบอั๋น แต่ใจดี ชอบเล่นกับสาวไหม เวลาสาวไหมทำตัวงี่เง่า แม่ไม่ยุ่งด้วย ลุงต้นก็จะมาปลอบสาวไหม พาสาวไหมอุ้มเดิน สาวไหมเลยติดลุงต้นซะไม่มีอ่ะ เวลานั่งดูทีวีกันที่บ้าน ทั้งนั่งทั้งนอนกันอีเหละเขละขละ สาวไหมก็จะเลือกไปนั่งตักลุงต้น ไม่สนพ่อเลยแฮะ
อีกคนคืออาส้มโอ เป็นผู้ชายตัวอวบล่ำขาว จริงๆ ชื่อ โอ แต่แม่เห็นว่าคนแวดล้อมพ่อน่ะชื่อโอเยอะจนไม่รู้ว่าหมายถึงโอไหนเลยให้สมญานามอาโอกรุงเทพว่า "ส้มโอ" เพราะเห็นว่าอาโอมีพี่สาวชื่อ "โม" น่าจะมาจากแตงโมนา ดังนั้นอาโอก็เลยเป็น ส้มโอ ไปด้วยเหตุฉะนี้
สาวไหมไม่ค่อยถูกกะอาส้มโอเท่าไหร่ เพราะอาส้มโอชอบแกล้งสาวไหม อาส้มโอบอกว่าเฉียใจ ใครๆ ก็ไม่รัก เด็กก็เกลียด พ่อเลยบอกว่า ถ้าหลานอาส้มโอไม่ใช่หลานจริงๆ มันก็คงไม่ยอมเล่นกะอาส้มโอหรอก
นอกจากลุงต้นและอาส้มโอแล้ว สาวไหมก็ยังได้เจอคนอีกเยอะแยะเลยเพราะแม่พาหนูไปงานวิถีวิจัยด้วย ที่ทำงานแม่จัดบูธให้บริการเขียนชื่อด้วยอักษรธรรมล้านนา วันที่แม่พาหนูไปเป็นวันสุดท้าย วันที่ลุงต้นกับอาส้มโอจะกลับกรุงเทพ พ่อก็เลยสบายไปวันหนึ่ง ไม่ต้องดูแลหนู เหอๆ
พอแม่กับหนูไปถึงงาน หนูก็วิ่งไปหาน้าปุ้ย วันนี้บูธของแม่มีน้องๆ ของแม่มา 2 คนคือน้าน้องกับน้าปุ้ย สาวไหมติดน้าปุ้ยน่าดูเลย น้าปุ้ยคงตามใจสิท่า แม่เห็นน้าปุ้ยอุ้มหนูไปๆ มาๆ ตั้งนาน ซักพักก็พาหนูมานั่งที่โต๊ะ ทำท่าหยิบปากกาเหมือนจะเขียนเองเลยนะ มีแต่คนมาแซวว่าเป็นนักวิชาเกินตั้งแต่เด็ก เขียนชื่อให้หน่อยสิ เหอๆๆ อยากได้ลายเส้นของหนูไว้ขีดฆ่าชื่อเหรอค้า...
มาดดีไหมคะ
ไม่มีใครมาให้สาวไหมเจิมชื่อเลยแฮะ เขียนเองก็ด้าย
สาวไหมเริ่มพูดได้มากขึ้น รู้เรื่องมากขึ้น เป็นเด็กโตมากขึ้นละ บางคำก็ไม่รู้ว่าหนูรู้ได้ยังไง เช่น บางทีพ่อเผลอตดหนูก็พูดขึ้นว่า "โตะ" อ่านะ....มานับคำที่หนูพูดได้ดีกว่า ทำสถิติหน่อย
1. ป้อ ... จะเรียกเสียงดังเป็นพิเศษเวลาที่พ่อเดินไกลออกไปจากชีวิตหนู 2. แม่ ... ใช้เรียกพ่อเวลาเราออกไปนอกบ้าน 3. เปอะ ... หมายถึง เปิด 4. ปิ๊ ... หมายถึง ปิด 5. เกะ ... หมายถึง แกะ 6. ไม่ ... ปฏิเสธสุดชีวิต 7. โน ... ความหมายเดียวกับข้อ 6 แต่ใช้เวลาที่หนูอยากโกอินเตอร์ 8. นม ... เวลาหิว 9. หน้ำ...หมายถึง น้ำ 10. โน้~ง ... หมายถึง น้อง 11. บี่บี๋ .. หมายถึง เบบี๋ 12. หมา 13. ป๋า ... หมายถึง ปลา แต่ส่วนใหญ่หนูเห็นอะไรก็เรียก ป๋าหมดเลยอ่า 14. หมี ... เมื่อก่อนใช้เรียกพี่ป่าน พี่ร่วมสาบานของสาวไหม 15. หมู ... สาวไหมชอบนิทานเรื่องลูกหมูสามตัวมากๆ ตอนนี้หนังสือเยิน เต็มไปด้วยลายเซ็นของหนูทั้งเล่มแล้ว 16. โตะ ... หมายถึง ตด 17. โตะ ... หมายถึง ตก 18. เหนาะ .. หมายถึง นอน กิริยาประกอบคำนี้คือ จะดึงแขนแม่ให้เหยียดแล้วหนูจะได้นอนหนุนแขนแม่ 19. เจะ... หมายถึง เจ็บ 20. เจะมะ ... หมายถึง เจ็บมือ 21. ฮับ ... หมายถึง รับ ใช้เมื่อเวลาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง หนูก็จะหันรีหันขวางมาบอกพ่อหรือแม่ว่า ฮับๆๆ ให้รับโทรศัพท์เสียที ถ้าไม่มีใครอยู่แถวนั้น หนูก็จะถือโทรศัพท์ไปยื่นให้ 22. คับ .. หมายถึงครับ เวลาที่แม่บอกว่าเวลาจะรับของให้ทำยังไง หนูก็จะพนมมือก้มหัวแล้วบอกว่า คับ หมายถึง ขอบคุณคับ 23. เจ้า ... หมายถึง ค่ะ ใช้เมื่อต่อจากข้อ 22 ถ้าแม่บอกว่า ไม่ใช่ครับ หนูเป็นผู้หญิงต้องพูดยังไง หนูก็จะพนมมือไหว้ ก้มหัวแล้วพูด "เจ้า" 24. "บ่เอา" ... หมายถึง ไม่เอา 25. ตี๋ ... หมายถึง ตี 26. เงบ ... หมายถึงเงียบ หนูใช้คำนี้หนหนึ่ง ตอนที่แม่ร้องไห้เพราะดูทีวี แล้วหนูก็มากอดแม่ เอามือตบเอวด้วยนะ แต่แม่ก็ยังร้อง หนูก็เลยลุกขึ้นมาชี้นิ้วแล้วพูดว่า "เงบ เงบ" ก๊ากกกก ไปจำมาจากไหนฟะ
จริงๆ ก็ยังมีอีกหลายคำนะ แต่นึกตอนนี้ไม่ออกละ แต่ถ้าแม่พูดก่อน หนูก็พูดตามได้เกือบหมดแหละ ถูกบ้างผิดบ้างตามประสา เอาฟะ อย่างน้อยก็พูดได้ละ ค่อยโล่งใจไปหน่อย
หมู่นี้แม่ฮิตกินน้ำลูกสำรองกะเค้าเหมือนกัน ป้าเล็กแม่พี่วินท์เอามาให้ชิมก่อน บอกว่ามีคนเอามาขายที่ทำงานของป้าเล็ก ขวดละ 10 บาท รสชาติดี แม่ก็ลองชิม เออ อร่อยดี พอสั่งมาซัก 10 ขวด น้านันก็เอาลิงค์ในพันทิพมาให้ดู เขาทำน้ำสำรองกินเอง เออ ดูท่าจะไม่ยากแฮะ แต่ติดตรงลูกสำรองนี่แหละ
แม่ก็ฝากน้านันซื้อลูกสำรองจากเยาวราช แต่สุดท้ายน้านันก็ฝากเพื่อนซื้อมาจากจันท์ ว่าแล้วก็ยังไม่ได้โอนตังค์ให้น้านันเลยแฮะ น้านันเพิ่งแต่งงานไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขอให้มีความสุขมากๆ น้า น้านันน้า...
สาวไหมขออวยพรให้น้านันมีความสุขมากๆ กับชีวิตคู่ที่กำลังเริ่มต้นนะค้า
เอาละ...ไหนๆ ก็ทำน้ำสำรองมา 2 รอบแล้ว ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เสียที ลองดูดีกว่านะว่าทำกันยังไง นี่แม่ก็เก็บความรู้ตามพันทิพนี่แหละ ลองทำตามเขานั่นแหละ
นี่แหละค่ะ ลูกสำรอง ลูกหนึ่งพอแช่น้ำ แตกออกมาเยอะแยะเลย ลูกแห้งนี่ไม่ใหญ่เท่าไหร่ เบาๆ โลหนึ่งนี่ได้หลายร้อยเม็ดเลย
แช่น้ำ ลูกสำรองจะเริ่มปุดๆ ออกมาตามตัวแล้ว
เริ่มพุงทลายออกมาแล้ว
แม่ลองเอาลูกสำรองที่เริ่มพองตัวมาใส่ถ้วยเพื่อเปรียบเทียบดูปริมาณ
หนึ่งลูก มีส่วนประกอบดังนี้แหละค่ะ ข้างนอกจะเป็นเหมือนวุ้นแผ่นๆที่หุ้มเนื้อไว้ ส่วนที่วุ้นแผ่นนี้จะมีเสี้ยนค่อนข้างน้อยค่ะ แต่ถ้าใกล้ขั้วเข้าไปจะมีเสี้ยนเยอะขึ้น
แยกเม็ดใน เปลือกบางๆ และเสี้ยนใหญ่ๆ ออกก่อน
เปรียบเทียบกัน ระหว่างที่ยังเป็นเม็ดแห้งกับที่แปลงร่างสมบูรณ์
แม่ไปอ่านกระทู้ในพันทิพนี่แหละ บางคนบอกว่าให้เอาใส่จานขาวแล้วค่อยๆ เขี่ยเสี้ยนออกจะเห็นง่าย เออ ก็ง่ายจริงๆ แฮะ ครั้งที่ 2 ทำ 50 ลูก ใช้เวลาครึ่งวันเอง 55555
พอคัดเสี้ยน เม็ดใน เปลือก ออกแล้ว ก็คัดรอบสอง เอาเสี้ยนชิ้นเล็กๆ ออกอีก
คัดเสร็จแล้ว จะได้วุ้นละเอียดๆ แบบนี้
ทำยากนัก ถ่ายอีกรูปละกัน
ได้เวลาตัดใบเตยจากข้างบ้านมาแล้ว
แม่ลองจดสูตรไว้ นี่เป็นสูตรที่ทำครั้งที่สองนะ ถ้าลูกสำรอง 50 ลูก แกะเสร็จแล้ว ใช้น้ำใส่ขวดพลาสติก 2 ขวด น่าจะประมาณ 3 ลิตรกว่าๆ ได้นะ ต้มน้ำใบเตยให้หอมเสียก่อน แล้วช้อนใบเตยทิ้งไป จากนั้นก็เอาวุ้นลูกสำรองลงไปต้มต่อ
ต้มวุ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ทำไมถึงต้องครึ่งชั่วโมงนะ อ่านกระทู้เขาว่างี้ก็ทำงั้นมั่ง แฮ่ๆ
จากนั้นใส่น้ำตาลกรวดประมาณทัพพีครึ่ง ทัพพีบ้านเราไซส์ขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ ใส่ในปริมาณนี้แล้วก็จะหวานปะแล่มๆ พอให้ไม่ใช่รสจืดอ่ะ แต่ก็ไม่หวานมาก
เย้ๆ เสร็จแล้ว ทำหนนี้รสชาติดีกว่าหนแรก เพราะหวานน้อยกว่าและไม่ค่อยมีเสี้ยน เย้ๆๆ
จะผอมแล้วว้อยยยยยย
เล่าปิดท้ายอีกหน่อย เพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆ ตอนเย็นว่าจะไปตลาดรวมโชคไปหาข้าวเหนียว ปลาดุกย่างให้สาวไหมซะหน่อย ไปเจองานเทศกาลอาหารที่รวมโชคพลาซ่าพอดี ก็เลยว่าจะกินกันแถวนี้ มีร้านหมูสะเต๊ะร้านหนึ่ง เขียนติดไว้ว่า ไม้ละ 2 บาท ชุดละ 20 พอนับดูชุดที่เขาขาย ทำไมมี 9 ไม้ฟะ ไม่ว่าในถุงหรือจาน ก็เลยถามไป คนขายชักสีหน้าทันที
อ่ะฮ้า...ขี้โกงกันนี่หว่า เลยถามเสียงดังๆ ให้คนทั่วไปได้ยินว่า
"สงสัยจังว่า เขียนว่าไม้ละ 2 บาท ชุดละ 20 แล้วทำไมชุดหนึ่งถึงมีแค่ 9 ไม้ อีกสองบาทเป็นค่าน้ำจิ้มกับอาจาดเหรอ"
พ่อค้า 3 พ่อลูกรีบไปกระซิบกันใหญ่ แม่ได้ยินคนเป็นพ่อบอกว่า ใส่ให้มันไป 12 ไม้
หนอยจะปิดปากตรูเรอะ......
ถ้าคิดจะทำมาหากินกันอย่างซื่อสัตย์น่ะ ไม่ต้องคิดปิดปากใคร ค้าขายตรงไปตรงมา ใสซื่อจะเวิร์กกว่านะลุงนะ...
สาวไหมเกลียดคนขี้โกงโดยสันดานเจ้าค่ะ!!!!
Create Date : 17 ธันวาคม 2549 |
|
15 comments |
Last Update : 23 ธันวาคม 2549 0:57:50 น. |
Counter : 3203 Pageviews. |
|
|
|
คิดถึงป้านัดกะน้องสาวไหมม๊ากเค๊อะ ^-^