จากคราวที่แล้วที่ รีวิว สครับขัดผิวไป

คราวนี้เรามาดูทางฝั่งเครื่องสำอางกันมั้งดีกว่าค่ะ

เริ่มแรก

คอลเลคช่นนี้มีด้วยกัน 4 สี 4 ชุดนะคะ

ปริมาณ 14 g.  ราคา 89 บาท

(อ้างอิงราคาจากแคตตาล็อก)

แกะกล่องออกมาจะพบกับพาเลทสีต่างๆ ตัวตลับเป็นพาสติกดำ

ด้านหน้าเป็นพาสติกใสสามารถเห็นสีพาเลทได้ชัดเจนค่ะ

ในพาเลทประกอบไปด้วย อายชาโดว์ 8 สี บรัชออน 1 สี มีแปรงมาให้ด้วยค่ะ

( แต่อย่าหวังอะไรกับแปรงนะคะ ลืมมันไปได้เลยย)

มาเริ่มกันที่

No.1

พาเลทนี้สีตาออกไปทาง แดง-เทา พร้อมทั้งบรัชออนสีโทนพีท

พาเลทนี้จิกสีอายชาโดว์ติดไม่ยากค่ะ เนื้อออกแป้งๆ ร่วนและเป็นผงนิดๆ เวลาทาต้องเกลี่ยนดีๆ

แต่สีสวย เม็ดดีค่อนข้างชัดอยู่ค่ะ ในกลุ่มสีโทนเทาสีไม่เข้มมาก ส่วนสีแดงเข้มออกสีลักษณะสีเลือดหมู

 สีชัดและแน่นสุดในพาเรทนี้ เป็นสีที่เราว่าไม่ได้มีให้เห็นบ่อย ๆ เนื้อพาเลทนี้เป็นเนื้อซาตินนิดๆ

นิดเดียวจริงๆค่ะ ออกไปทางเกือบแมทด้วยซ้ำ  ส่วนบรัชออนสีพีท เนื้อถ้ามองที่ตลับจะนึกว่าแมท

แต่พอลองที่ผิวแล้วออกประกายเบาๆ ทาแล้วไม่เน้นรูขุมขนค่ะ

จิกสีติดง่าย สีสวย เนื้อร่วนเช่นกันค่ะ ต้องเบามือเวลาปัด ไม่งั้น ตูดลิงถามหาแน่ๆเลยค่ะ

No.2

พาเลทสีนี้เชื่อว่าหลายคนคงชอบ เพราะเราเองก็ชอบ แฮะๆๆ

โทน น้ำตาล-ทอง  ส่วนบรัชออกโทนแดงชมพูค่ะ

ตลับนี้สีแน่น สีชัด จิกสีติดง่ายมากๆ สีสวย ใช้ได้ทุกโอกาส เสียอย่างเดียวเนื้อร่วนไปนิด

มีลูกเล่นโทนเพิ่มเติมคือสีฟ้าและสีเขียว ( เราคงไม่ได้ใช้เท่าไหร่ ==") สีทุกสีเป็นเนื้อชิมเมอร์

บรัชออนสีออกโทนแดง ติ่งทางชมพู เราชอบนะคะ ทา ( อย่าเยอะน้า )

 แล้วแก้มจะออกแดงๆ ธรรมชาติมากๆ

ออกประกายเบาๆ คล้ายๆ มีเลือดฝาด อิอิ >//////<

No.3

พาเลทนี้เราชอบที่สุดในทั้งหมด โทน ชมพู - น้ำตาล

ทาแล้วได้ลุกสาวหวาน สีที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นสีสุดท้าย

สีน้ำตาลออกโทนม่วง สวยมากกกก  สีชัดและแน่นจริงๆ ค่ะ

เนื้อพาเลทนี้เป็นเนื้อซาตินนิดๆ เช่นเดียวกันค่ะ

บรัชออนโทนสี ชมพูกรีบกุหลาบ ออกประกายเบาๆ สวยมากกกกก

No.4

พาเลทสุดท้าย โทนสีหลากหลาย แต่เน้นไปทางสโมกกี้ น้ำเงิน-ดำ

สีน้ำเิงินอย่างที่เห็นค่ะ น้ำเงินจ๋ามากกก ค่ะ มีลูกเล่นด้วยสีเขียว เหลือง อ่อนๆ สีไม่เข้มมาก

บรัชออนถ้ามองในตลับจะคล้ายๆ กับพาเรทที่สอง แต่ถ้าทาแล้วจะโทนแดง แต่ออกไปทางติ่งส้มค่ะ

ปัดแก้มแล้วได้ลุกธรรมชาติเช่นกันค่ะ

ในเรื่องของคุณภาพ ถึงแม้จะเนื้อจะออกแป้งไปนิด เนื้อนิ่มๆ ร่วงไปบ้างนิดหน่อยแต่ เม็ดสีชัด

 แน่นแต่ก็มีบางสีที่อ่อนเหมือนกันค่ะ เวลาใช้ต้องเคาะๆ แปรงนิดนึงก่อนจะลงที่เปลือกตา

ในเรื่องความติดทน ถ้าใช้ไพรเมอร์ก็อยุ่เช้ายันเย็นอยู่เหมือนกันค่ะ

( อาจจะมีแต่จางลงนิดเดียว นิดเดียวจริงๆค่ะ)  แต่ถ้าไม่ได้ลง ครึ่งวันก็เลือนลาง

ไหลไปไหนหมดไม่รู้สงสัยเพราะหนังตาเรามัน =="  บรัชออนนั้นถึงแม้จะเป็นเนื้อแป้งบ้าง

แต่สีชัดทุกสีค่ะและแน่นทุกสี  แตะนิดเดียวสีก็ติดแปรงแล้วค่ะ


คะแนน 7.5 / 10 ค่ะ ตลับเดียวถือว่าคุ้มอยู่ค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มหัดฝึกแต่งหน้าหรือน้องๆ นักศึกษาค่ะ

อีกทั้งราคาไม่แพงหาซื้อง่ายตามร้านเครื่องสำอางทั่วไป แคตตาล็อก 7-11 ก็มีนะคะ ^^

มาต่อกันที่

Aron Magic Plumping Tint




ทิ้นท์จิ๋ว ทาได้ทั้งแก้มและปาก

ปริมาณ 

ราคา 39 บาท เท่านั้นนน

ถูกโฮกกกกกก @_@




ตัวแท่งน่ารักจุ๋มจิ๋ม มาพร้อมกับสีสติ๊กเกอร์ บอกเบอร์พร้อมโทนสี เพื่อกันความสับสน

มีทั้งหมดสามสีนะคะ




01 สีชมพู



02 สีส้ม



03 สีแดง




ลองปาดลงบนแขนให้ดูนะคะ

ขวดเล็กพกพาสะดวก ใช้ง่ายเพราะเป็นหัวแปรงแบบจิ้มจุ่ม เนื้อออกกึ่มๆ เจล

สีค่อนข้างชัด ทาปากแล้วได้ทุกใสๆ  ติดทนในระดับนึงค่ะ แต่ถ้ากินอะไรไปมันก็หลุดนะคะ

ช่วงนี้เราไม่ค่อยแต่หน้า เราจะใช้ทิ้นอันนี้อันเดียวอยู่ค่ะ ทาทั้งแก้มและปากหน้าดูมีสีสันขึ้น ไม่ซีดไม่ป่วย

ทิ้นท์ค่อนข้างแห้งเร็ว แนะนำถ้าทาแก้มให้รีบๆ เกลี่ยค่ะ ไม่ควรทาทิ้งไว้ไม่งั้นหน้าเป็นปื้นๆ

อยู่อย่างนั้น ลบไม่ออกด้วย T^T

จากภาพที่สองเราทาทิ้งไว้ซักพัก พยายามเช็ดออกหลายรอบมันออกได้แค่นี้ค่ะ T^T

เราทาแก้มได้ลุกธรรมชาติมากๆค่ะ ( ไม่ต้องเยอะนะคะ เริ่มแต่น้อยถ้าไม่พอค่อยเติมค่ะ)

อยู่ทั้งวันจริงๆค่ะ ทนมากๆๆ ทาตั้งแต่ 8 โมงเช้า กลับมาประมาณ 2 ทุ่ม ยังอยู่ค่ะ

(ถ้าทาตัวนี้ ส่วนใหญ่เราไม่ปัดแก้มเพิ่มนะคะ กลับสีจะเข้มไป)

 ถึงแม้จะจางๆ ลงไปบ้าง แต่ก็อยู่ค่ะ ปลื้มมากกก ช่วงนี้พกไปไหนมาไหนแท่งนี้ตลอดค่ะ

อยู่ที่ว่าวันนั้นอยากได้โทนอะไร ที่สำคัญกลิ่นหอมหวานมากๆ ค่ะ


ให้คะแนน 10/10 เลยค่ะ ราคาถูก คุณภาพดี หาซื้อก็ง่าย ที่ 7-11 ^^



ตัวต่อมา

เป็น Eye liner ค่ะ

Aron เราว่าขึ้นชื่อเรื่อง eyeliner อยู่นะ

ส่วนตัวเคยใช้รุ่นนึง ขวดสีแดงๆ เป็น liner ตัวแรกที่ใช้ในการกรีดตาเลยค่ะ

ใช้ง่ายมากกก เขียนง่าย เนื้อเป็นฟิมฟ์ ไม่เลอะ ล้างง่าย ชื่อรุ่นอะไรจำไม่ได้แล้ว

ที่สำคัญ ถูกมากกก จำได้ซื้อไม่เกิน 50 บาท  แต่หาซื้อไม่ได้แล้วแถวบ้านไม่มีเลย

คราวนี้เรามาดูดีกว่า ว่าตัวใหม่ๆ ของทาง Aron จะทำออกมาดีมั้ย ^^


Style eyeliner




หน้าตาแพคเกจกล่องโดนเด่นสะดุดตามาก @_@




หน้าตาขวดลักษณะกลมๆ อ้วนๆ ป้อมๆ

เป็น eyeliner ประเภทจิ้มจุ่มนะคะ

ปริมาณ 5 g ราคา 89 บาท

(อ้างอิงราคาจากแคตตาล็อก)




หัวแปรงปลายพู่กันเรียวแหลม ไม่แข็ง เวลากรีดจึงไม่ทิ้มหรือระคายเคืองตาค่ะ




เส้น eyeliner สีดำสนิทจริงๆ ค่ะ (แต่ไม่แมทซ่ะทีเดียวนะคะ)

ด้วยความที่หัวเป็นแบบพู่กัน จึงทำให้ควบคุมมือ ในการกรีดได้ง่าย

จะเขียนเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ได้สะบายๆ อีกทั้งยังแห้งเร็วค่ะ

เสียอย่างคือเรื่องกลิ่นเจ้าตัวนี้กลิ่นค่อนข้างแรงอยู่นะคะ =.,=

ในเรื่องของการกันน้ำนั้น


ภาพที่ 1 เรากรีด liner ทิ้งไว้ซักพัก

ลองเอานิ้วถู ๆ ก็ไม่หลุดมาเป็นฟิมฟ์นะคะ


ภาพที่ 2 เราฉีดน้ำแบบชุ่มๆ ยังอยู่ดีนะคะ


ภาพที่ 3 เราเอากระดาษทิชชูซับน้ำออกจนหมด (ซับนะคะไม่ใช่ถู)

eyeliner เลือนหายไปนิดนึงค่ะ สังเกตไดจากตรงปลายๆ ถือว่าผ่านอยู่ค่ะ


ในเรื่องการทำความสะอาดก็แสนง่าย อันที่จริงไม่ใช่ eye remove เลยก็ได้ค่ะ

แค่ใช้โฟมล้างหน้าหรือไม่ถ้าโดนน้ำ เราก็ใช้มือ วนๆ ถูๆ ซักแปปก็ออกหมดเช่นกันค่ะ

( ถ้าไม่ถูแค่ซับออกอย่างที่เราบอกตอนแรก eyeliner จะไม่หลุดค่ะ แต่ถ้าถูก็ไม่เหลือนะคะ)


คะแนน 7/10 เราว่าเหมาะสำหรับสาวๆ ที่อยากหัดเขียน eyeliner แบบจิ้มจุ่ม

เขียนง่าย ล้างง่าย อยู่เช้ายันเย็น ( มีหลุดเล็กน้อยมากๆ ค่ะ ) ไม่เป็นแพนด้าระหว่างวัน อีกทั้งหาซื้อค่อนข้างง่าย

ปริมาณเยอะ ราคาไม่แพง แต่ๆๆๆ เดี๋ยวเราอีกตัวที่เราจะรีวิว ปลื้มกว่าตัวนี้อีกค่าาาา

เลยขอกั๊กๆ คะแนนตัวนี้หน่อย 555


คอลเลคชั่นต่อมา มาด้วยกัน 2 ชิ้น

Duo Feature Eye Liner





ตัวกล่องสีชมพู มาพร้อมลวดลายน่ารักมากๆ ค่ะ

เมื่อแกะกล่องออกมา ทั้ง มาสคาร่าและอายไลเนอร์แพคเกจสีชมพูหวานแหว๋วมากกก




ขวดลักษณะจะเรียวและเล็กกว่าตัวแรกที่รีวิวนะคะ พกพาสะดวกแถมสีชมพูหวานแหว๋วมากกก

>//////<

เป็น eyeliner ประเภทจิ้มจุ่มนะคะ

ปริมาณ 5 g ราคา 89 บาท

(อ้างอิงราคาจากแคตตาล็อก)




หัวแปรงปลายพู่กันเรียวแหลมและเล็กกว่าตัวแรกและ ไม่แข็ง เวลากรีดจึงไม่ทิ้มหรือระคายเคืองตาเช่นเดียวกันค่ะ





เส้น eyeliner สีดำสนิทลักษณะคลายๆ ตัวแรก

 ต่างกันที่ปลายพู่กันที่เราบอกว่าตัวนี้จะปลายแหลมกว่าทำให้เขียนเส้นได้เล็กกว่า

รือเส้นใหญ่ไม่มีปัญหาเช่วยเดียวกันค่ะ อีกทั้งยังแห้งเร็ว

แต่กลิ่นเจ้าตัวนี้กลิ่นค่อนข้างแรงไม่ต่างกันเลยค่ะ =.,=

ในเรื่องของการกันน้ำนั้น


ภาพที่ 1 เรากรีด liner ทิ้งไว้ซักพัก

ลองเอานิ้วถู ๆ ก็ไม่หลุดมาเป็นฟิมฟ์หรือขุ่ยๆ ค่ะ


ภาพที่ 2 เราฉีดน้ำแบบชุ่มๆ ยังอยู่ดีนะคะ ไม่ไหลหรือละลาย


ภาพที่ 3 เราเอากระดาษทิชชูซับน้ำออกจนหมด (ซับนะคะไม่ใช่ถู)

eyeliner แบจะไม่เลือน ไม่หายเลยค่ะ สีไม่ดรอปลงยังคงดำสนิทเหมือนเดิมค่ะ

สำหรับเรา เราว่าตัวนี้ ทนกว่าตัวแรกอีกค่ะ


เราเขียนตัวนี้ตอนวันไปเที่ยว ดันโชคร้ายฝนตก  =="

ตัวเปียกปอนเป็นลูกหมาเลยค่ะ กลับมานำผ้าขนหนูซับหน้า ซับผม

ส่องกระจกก็เแปลกใจ อายไลเนอร์ยังอยู่ค่ะ !!!

ไม่ไหล ไม่ย้อย มีหลุดๆไปบ้างแค่นั้นเองค่ะ จากนั้นเราเอามือกวักน้ำ

ถูกตรงบริเวณอายไลเนอร์เบาๆ มันค่อยๆ หลุด

ทำความสะอาดเหมือนตัวแรกเปี๊ยบๆๆๆ เพียงแค่ตัวนี้ทนกว่า เขียนง่ายกว่า แค่นั้นเองค่ะ


คะแนนให้ 7.5/10  เขียนง่าย ล้างง่าย อยู่เช้ายันเย็น แทบไม่มีหลุดร่วงและไม่เป็นแพนด้าระหว่างวันค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ

^_____________________________________^

Sponsered Review

ขอบคุณ Aron ที่ส่งเครื่องสำอางมาให้ลองค่ะ