Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 

10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่



10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่


หลายคนมักพูดว่า "การกระทำสำคัญกว่าคำพูด" แต่บางคนก็มัวแต่กระทำจนละเลยคำพูดอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคนในครอบครัวเดียวกัน เมื่อพ่อแม่ก็อยากได้ยินลูกบอกรัก อยากให้ลูกกอด หอม หรือมีแต่คำพูดดีๆ แต่ในทางกลับกันคนเป็นลูกเองก็ไม่ได้มีความต้องการที่แตกต่างจากพ่อแม่ เท่าใดนัก

ทั้งนี้นอกจากอวัจนภาษา เช่น การกอด หอม ฯลฯ ที่ทุกคนรับรู้ว่าเป็นการแสดงออกเพื่อความรักแล้ว วัจนภาษาก็ไม่ควรมองข้ามไปเช่นกัน พ่อแม่ทุกคนจึงพยายามที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและพูดแต่ สิ่งดีๆกับลูก โดยน้อยคนนักที่จะพูดจาสบถกับลูก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้ มันคือสัญชาตญาณของคนเป็นพ่อและแม่แน่นอน

ดังนั้นลองมาดูกันว่า 10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่นั้นมีอะไรกันบ้าง

1. พ่อกับแม่ "รัก" ลูกมากนะ

แน่นอนว่าลูกคือดวงใจของพ่อแม่ แต่การที่ละเลยคำพูดง่ายๆและมีค่าขนาดนี้มันก็เป็นสิ่งผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่พอ ควร เพราะคนหลายคนไม่มีโอกาสที่จะบอกรักลูกในวินาทีสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ ในทางกลับกันไม่ว่าจะเป็นลูก หรือ พ่อแม่ รวมไปถึงคนทุกคน ก็ควรให้ความสำคัญกับความรักและคำพูดไปพร้อมๆกัน ก่อนที่พ่อแม่จะไม่มีลูกให้บอกรัก หรือลูกบอกรักในวันที่สายเกินไป

ทั้ง นี้อย่ามัวแต่แสดงความรัก และเชื่อว่าลูกรู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่รักลูกมากแค่ไหน เพราะบางเวลาคำพูดก็สำคัญไม่แพ้การกระทำเช่นกัน ดังนั้นบอกรักลูกบ้าง เขาจะได้รู้ว่าจริงๆแล้ว พ่อแม่รักลูกมากแค่ไหน


2.พ่อกับแม่ "ภูมิใจ"ในตัวลูกมากนะ

มันอาจมีบางอย่างที่ลูกขทำให้พ่อแม่รู้สึกภูมิใจมากป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความเป็นสุภาพบุรษ มีน้ำใจ หรือแสดงความสามารถพิเศษให้เห็นอยู่เสมอ

พ่อแม่ทุกคนควรลอง นึกดูดีๆว่า จุดเด่นของลูกคืออะไร แล้วสิ่งใดที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวเขา ก็ใช้ช่วงเวลาดีๆบอกให้ลูกได้รับรู้บ้างว่า "พ่อกับแม่ภูมิใจในตัวลูกมากน้อยแค่ไหน" เพราะคำพูดเพียงไม่กี่คำนี้มันจะเปลี่ยนเป็นพลังและกำลังใจให้ลูกได้อย่าง มหัศจรรย์ทีเดียว


3.พ่อกับแม่ "สนับสนุน"ลูกเสมอนะ

พ่อ แม่ทุกคนควรตระหนักอยู่เสมอว่า "ลูกไม่ใช่เรา เราไม่ใช่ลูก" เพราะฉะนั้นอย่าเอาลูกไปเปรียบเทียบกับตัวเองสมัยเด็กๆ บางอย่างที่พ่อแม่ชอบ ลูกอาจไม่ชอบ มุมมองที่ต่างกัน ถ้าไม่เข้าใจกันก็ทำให้มีปัญหากันได้ และถ้าหากเด็กบางคนถูกบังคับมากๆก็จะรู้สึกว่าเขาไม่มีความเป็นส่วนตัว ไร้อิสระ ท้อแท้ และไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ขณะที่บางคนโตมาในครอบครัวนักกฎหมาย แต่ต้องการเป็นนักเขียน หรือบางคนมีความต้องการใช้ชีวิตอย่างที่อยากเป็น

ไม่ว่าเขาจะ เลือกเป็นอย่างไร หากสิ่งที่เขาตัดสินใจนั้นเป็นสิ่งที่ดี พ่อแม่ก็ควรสนับสนุนพวกเขา เพียงแค่บอกว่า "พ่อกับแม่ยังคงเข้าใจและสนับสนุนลูกทุกเมื่อ ถ้าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดีและลูกต้องการ"


4. พ่อกับแม่ "เชื่อมั่น"ในตัวลูกเสมอนะ

ช่วง ระยะเวลาหนึ่งโดยเฉพาะเมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างอาจเข้ามาจนพ่อแม่ตั้งตัวไม่ติด ลูกอาจสูญเสียความมั่นใจในการตัดสินใจหรือลงมือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หากใครเคยเจอปัญหาลูกอยู่ในช่วงสับสนแบบนี้

ลองถามตัวเองดู ว่า เคยสละเวลาบอกลูกบ้างหรือไม่ว่า "พ่อกับแม่เชื่อมั่นในตัวลูกมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อและแม่ก็จะอยู่ข้างลูกเสมอ"


5. พ่อกับแม่ "ขอโทษ"

บางครั้งการขอโทษมันอาจจะเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่จะพูด แล้วยิ่งคนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับความเป็นพ่อและแม่ค่อนข้างสูง

ดังนั้นหากพ่อแม่ทำผิด ก็จะคิดกันแต่เพียงว่า พ่อแม่ไม่ควรที่จะขอโทษลูก ยิ่งคนเป็นพ่อด้วยแล้ว อาจจะยากขึ้นไปอีกที่จะกล่าวคำว่า "ขอโทษ"กับลูก

อย่าง ไรก็ดี คำขอโทษจากพ่อแม่นั้น ลูกๆเองก็ควรมีเหตุผลและรู้จักบาปบุญคุณโทษด้วย เพราะลูกไม่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นเสียงหรืออกคำสั่งกับพ่อแม่ไม่ว่าจะประการใดก็ ตาม

ทั้งนี้การที่พ่อแม่กล่าวคำขอโทษกับลูกเมื่อทำผิดพลาด นั้นไม่ได้หมายความว่า ลูกจะดูถูกความเป็นพ่อเป็นแม่ ในทางกลับกันการที่พ่อแม่ยอมรับและกล้าขอโทษนั้น มันยังทำให้ทุกคนเรียนรู้ที่จะเคารพตัวเองเพราะกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ทำ ลงไป อีกทั้งยังเคารพความรู้สึกของผู้อื่นด้วย


6. ลูกเป็น "เด็กดี"ของพ่อกับแม่

พ่อ แม่ทุกคนควรทำความเข้าใจธรรมชาติของเด็กก่อนว่า เด็กทุกคนอยากได้รับคำชมเชยและได้ยินคำยืนยันจากพ่อแม่อีกสักครั้งว่า เขาเป็นลูกที่ดีพอหรือไม่

ดังนั้นหากลูกเป็นเด็กดี มีน้ำใจ น่ารักกับทุกคน พ่อแม่ก็ควรชมเชยลูกบ้างว่า "ลูกเป็นเด็กดีของพ่อและแม่มากเพราะการที่เขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ มันจะทำให้ลูกเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นและเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีใน ครอบครัวอีกด้วย


7. แม้เลิกกัน แต่ลูกไม่ต้องเลือกรัก

ข้อนี้จะดีสำหรับครอบครัวที่พ่อแม่มีเหตุที่ต้องเลิกลากันไป ทำให้เด็กตกอยู่ในภาวะสับสน เลือกว่าจะต้องอยู่กับใคร ซึ่งในระหว่างช่วงเวลาสับสนกับการเลือกฝั่งของพ่อและแม่แล้ว ลูกบางคนที่ตกอยู่ในเหตุการณ์แบบนั้นอาจจะต้องเลือกด้วยว่าจะรักใคร ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะกีดกันลูกไม่ให้เด็กพบอีกฝ่ายหนึ่งเช่น

หาก ลูกอยู่กับแม่ แม่มักจะสอนให้รักแม่ แต่เกลียดพ่อ หรือหากอยู่กับพ่อก็ต้องรักพ่อและเกลียดแม่เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ แม้ในที่สุดจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ควรบังคับลูกให้รักใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังไงพ่อกับแม่ก็คือบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา


8. พ่อกับแม่ "ยอมรับ" ในสิ่งที่ลูกเป็น

เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นมากเท่าไหร่ เขายิ่งต้องการการยอมรับจากพ่อและแม่มากขึ้นเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วลูกมักจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อแม่ยอมรับในตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจในความรักวัยเด็ก หรือการกระทำต่างๆ ที่ลูกอาจมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน แม้พ่อแม่จะอยู่คอยดูอยู่ห่างๆ

และการที่ลูกรู้ว่าพ่อแม่ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น และเลือกแล้วนั้น แสดงให้เห็นว่าพ่อแม่ไม่ได้ละเลยแต่อย่างใด อีกทั้งยังคงรักและเข้าใจอยู่เสมอด้วย เพียงแค่พ่อแม่บอกกับลูกว่า "พ่อแม่เข้าใจและยอมรับลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไรก็ตาม"


9. พ่อกับแม่ "ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น"...นะลูก

บาง ครั้งพ่อแม่อาจจะพูดอะไรบางอย่างที่ลูกฟังแล้วรู้สึกเสียใจกับคำพูดเหล่า นั้น ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว พ่อแม่อาจพูดไปโดยที่ไม่ได้คิดว่าลูกจะเสียใจกับสิ่งที่พูดออกไป

ดังนั้นหากพ่อแม่ทราบว่าลูกเสียใจกับสิ่งที่ๆได้พูดออกไป ก็ควรอธิบายให้เขาเข้าใจว่า หมายความว่าอย่างไรกันแน่ อย่าให้ลูกเข้าใจผิดๆ แต่ทางที่ดีก็ควรพูดจาให้ชัดเจนตั้งแต่แรกจะดีกว่า


10. ลูกคือ "คนสำคัญ"ของพ่อกับแม่นะ

จริงๆแล้ว ข้อนี้อาจเป็นคำที่สำคัญอันดับแรกๆเสียด้วยซ้ำ เมื่อในความเป็นจริงแล้ว ลูก คือคนสำคัญและคนพิเศษสำหรับพ่อแม่

แต่จะมีสักกี่ครั้งที่พ่อแม่ได้บอกให้ลูกรับรู้จากปากของพ่อแม่เองบ้าง เชื่อเถอะว่าหากได้พูดให้ลูกรู้ สิ่งที่จะได้กลับมานั้นมันย่อมมีค่ามหาศาลมากกว่าเป็นไหนๆ เพราะนั่นคือสายใยความรักระหว่างพ่อ แม่ และลูก

ทั้งนี้ พ่อแม่ทุกคนควรกอดลูกบ้างโดยเฉพาะเมื่อลูกเริ่มโตขึ้น อย่าให้วัยที่เปลี่ยนไปมาทำให้ระยะห่างพ่อ แม่ ลูกห่างกันจนรู้สึกว่าการกอดนั้นเป็นเรื่องแปลก ดังนั้นการกอดลูกแน่นๆและบอกว่าเขาสำคัญมากแค่ไหน แม้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่มันจะเป็นความทรงจำที่คนเป็นพ่อ แม่ และลูกจะไม่มีวันลืมได้เลย

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นประโยคธรรมดา จนหลายคนมองข้ามมันไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ได้เลย แม้การกระทำจะสำคัญมาก เพียงใด แต่คำพูดก็ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่า อย่าลืมว่า ในขณะที่พ่อแม่ต้องการได้ยินลูกบอกรัก เขาก็อยากได้ยินจากคุณเช่นกัน






คำพูดที่ลูกไม่อยากฟังจากพ่อแม่........


เมื่อได้พูดถึงคำพูดที่น่าฟังแล้วและเพื่อสร้างความตระหนักแก่พ่อแม่ ผู้ปกครองทั้งหลายว่า คำพูด หรือการสื่อสารในสิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ก่อน มีผลต่อผู้ฟังอย่างมาก
โดยเฉพาะวัยรุ่นวัยที่แข็งกร้าว ชอบการท้าทาย คนเป็นพ่อแม่นั้นอย่าใช้คำว่า "ห้าม" กับลูกวัยรุ่น เพราะผลการศึกษา
เราพบเด็กสารภาพว่า ถ้าการขออนุญาตกระทำสิ่งใดแล้ว พ่อแม่ห้าม เขาจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะอยากท้าทาย และอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร
ดังนั้น พ่อแม่ยุคนี้จึงต้องฟังลูกให้มาก บ่นให้น้อยลง อยู่กับเขาอย่างใจเย็น พูดคุยด้วยการดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม


เพื่อเป็นการเตือนตัวเองว่า คำพูดรุนแรง ที่จะสร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับลูก 3 อันดับแรกคือ พูดคำหยาบ คำไม่สุภาพ ตามมาด้วย การด่าทอ พูดเสียงดังโหวกเหวก พูดจาแดกดัน ไม่ยอมรับฟังเหตุผล เมื่อจำแยกเป็นประเภท จะได้ดังนี้



ลักษณะคำพูดที่รุนแรง
พูดบ่อยเกินไปซ้ำๆ ไม่มีสาระ, พูดมะนาวไม่มีน้ำ, รู้อย่างนี้เอาขี้เถ้ายัดปากตั้งแต่เด็ก, ไม่มีความเกรงใจ, ผลาญเงินเท่าไรผลาญไปเลย, ไม่รู้ว่าลับหลังเรามันจะขนาดไหน, อยู่เฉยๆไม่ตอบไม่พูดไม่จา, น้ำเสียงน่ากลัว, คะแนนห่วยแตก


พูดดุด่า ด้วยอารมณ์ที่รุนแรง
ไม่ได้เรื่อง, โง่อวดฉลาด, ไอ้ลูกนอกคอก, เถียงคำไม่ตกฟาก, กลับดึกดื่น ค่ำมืด, เลี้ยงเสียข้าวสุก, เกิดมาทำไมเรื่องมาก วุ่นวาย, ฉันยังเป็นแม่แกอยู่นะ


พูดตักเตือน ว่ากล่าว
อะไรเนี่ย อะไรถึงเป็นแบบนี้, หยุดพูดได้แล้ว, ว่ากล่าวตักเตือน, คำสั่งงานต่างๆ, เป็นลูกผู้หญิงไม่เคยช่วยงานพ่อแม่เลย, อย่าเสียมารยาทสิ, คุยอะไร โทรศัพท์บอกให้วาง, ทำไมไม่ระมัดระวังเลย ซุ่มซ่าม


พูดห้าม ออกคำสั่ง
อย่าเพิ่งมากวน, นี่อย่าส่งเสียงดังได้ไหม, ขอออกไปข้างนอกบ้าน แต่พ่อแม่ปฏิเสธ "ไม่ต้องไป", จะไปหรือไม่ไป, เป็นเด็กเป็นเล็ก เรื่องผู้ใหญ่อย่ายุ่ง, อย่าทำอย่างนั้นสิ, อย่าออกไปไหนนะ, อย่าทำอีก


คำพูดขับไสไล่ส่ง
เอาเงินกับเพื่อนแกโน่น, ตัดลูกตัดแม่กันไปเลย, เดี๋ยวตัดหางปล่อยวัด คำพูดดูถูกประณาม เหยียดหยาม สอนอะไรไม่จำ พูดจนปากเปียกปากแฉะ, ฉันจะดูว่าน้ำหน้าอย่างแกจะไปรอดไหม


คำพูดประชดประชัน


คำพูดหลักๆข้างต้นเมื่อพูดไปแล้วส่งผลต่อจิตใจ กระทบความรู้สึกกับผู้ฟัง


โดยเฉพาะคนเป็นลูกที่พ่อแม่ควรระวังอย่างยิ่ง




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2553
4 comments
Last Update : 31 ตุลาคม 2553 3:49:40 น.
Counter : 1021 Pageviews.

 

ถูกต้องที่สุดค่ะ คุณลูกว่าข้อมูลข้างบนนั้นถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง โดนใจมากมายเลย โดยเฉพาะ คุณลูกคนนี้ เหมือนจะโดนด่ามันทุกวัน จนใกล้จะเป็นโรคประสาทแล้วค่ะ จนตอนนี้คุณลูกเริ่มเมินใส่หรือเดินหนีเวลาคุณแม่แกเริ่มอ้าปากเลย (แหะ เป็นเด็กไม่ดีเลยนะคะอย่าเอาเป็นตัวอย่างนะ อย่าเดินหนีเวลาท่านด่าเหมือนคุณลูกคนนี้นะ ถ้าจะให้ดี ก็ยืนให้ท่านด่าไปเถอะ ทำเป็นหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยินอะไรก็พอ เดี๋ยวท่านก็เลิกด่าไปเอง แต่ก็ต้องทำใจนิดนึงอ่ะนะเพราะว่า พวกท่านแดกดันเจ็บมากมายเลยล่ะ 55+)

 

โดย: คุณลูก IP: 124.121.65.138 13 พฤศจิกายน 2553 16:12:13 น.  

 

"คำพูดที่ลูกไม่อยากฟังจากพ่อแม่..."
ใช่เลยค่ะ ตรงกับ"ชีวิต"ตอนนี้ของหนูเปะเลย คำพูดพวกนี้ล่ะค่ะที่หนูไม่อยากได้ยินสุดๆ หนูเคยถามแม่ด้วยค่ะ ว่า"ทำไมแม่ต้องพูดขนานนี้ด้วยล่ะ"หนูว่าใครได้อ่านคอมเม้นนี้ก็น่าจะรู้นะคะว่าทำไมหนูถึงถามแม่อย่างนั้น แต่แม่ของหนูพูดจริงอย่างที่ข้างบนนั้นลงไว้เดะๆเลยค่า บางคำพูดที่แม่จะพูดกรอกหูเป็นประจำว่า"คนอย่างแกทำไม่ได้หรอก"มันทำให้หนูรู้สึกอยากจะตายๆไปซะตั้งแต่ได้ยินครั้งแรก ไม่รู้ทำไมแม่ถึงพูดอย่างนั้นทั้งๆที่"คนอย่างแก"ที่ว่าก็คือลูกของตัวเองชัดๆ หนูว่าการที่หนูเกิดมาทำอะไรไม่ดี ก็คงได้มาจากแม่ทั้งนั้น!

 

โดย: ลูกเอ๋ย IP: 124.121.65.138 13 พฤศจิกายน 2553 16:30:30 น.  

 

แนะนำคุณลูกและลูกเอ๋ยค่ะ
หนูก็ลองเปิด web หน้านี้ให้คุณแม่อ่านดู
เผื่อว่าท่านจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง

คุณพ่อคุณแม่ยุคสมัยนี้ต้องยอมรับฟัง
ความคิดเห็นของลูกบ้างนะคะ
บ่นให้น้อยลง อยู่กับเขาอย่างใจเย็น
หากลูกทำผิดเรายังต้องการให้ลูกปรับปรุงตัว
แต่หากว่าพ่อแม่ทำผิด ซึ่งความผิดนั้นๆ
อาจจะเกิดจากความรักลูกเป็นห่วงลูก

บางครั้งพ่อแม่อาจจะพูดอะไรบางอย่างที่ลูกฟังแล้วรู้สึกเสียใจกับคำพูดเหล่านั้น ทั้งๆที่
ในความเป็นจริงแล้ว พ่อแม่อาจพูดไปโดยที่ไม่ได้คิดว่าลูกจะเสียใจกับสิ่งที่พูดออกไป
หากพ่อแม่ทราบว่าลูกเสียใจกับสิ่งที่ได้พูดออกไปก็ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจ
อย่าปล่อยให้ลูกเข้าใจผิดๆ

การที่พ่อแม่จะขอโทษลูก เมื่อทำผิดพลาด นั้นไม่ได้หมายความว่า ลูกจะดูถูกความเป็นพ่อเป็นแม่ แต่การที่พ่อแม่ยอมรับและกล้าขอโทษนั้น จะทำให้ลูกเรียนรู้ที่จะเคารพตัวเองเพราะกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ทำลงไปและยังเคารพความรู้สึกของผู้อื่นด้วย

 

โดย: admin (norbor ) 14 พฤศจิกายน 2553 14:32:26 น.  

 

แนะนำได้ดีมากครับคุณพ่อคุณแม่ควรอ่านและนำไปใช้กับบุตรหลานของท่าน

 

โดย: วิรัตน์ หอมรื่น IP: 115.67.69.65 24 สิงหาคม 2556 21:17:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


norbor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]














  • โรงเรียนสตรีนนทบุรี

  • มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว

  • ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว

  • ศูนย์ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา

  • ฟังรายการสดวิทยุเพื่อการศึกษา FM92




  • : Users Online



    Google
    New Comments
    Friends' blogs
    [Add norbor's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.