..·ஐ.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ แวะมาคุยด้วยกัน...มาเป็นเพื่อนกันนะจ๊ะ ..·ஐ.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ
Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
ใหม่แกะกล่อง:มีอะไรเกิดขึ้นที่ใจ



มีอะไรเกิดขึ้นที่ใจ


เมื่อเราเรียนรู้สภาวธรรม อาการต่างๆ ที่ปรากฏที่กายพอเข้าใจแล้ว เราลองมาเรียนรู้ธรรมชาติของจิตใจของเราดูบ้างดีมั๊ยครับ เราสามารถรู้อะไรที่เกิดขึ้นกับจิตใจนี้ได้บ้าง

ท่านที่อยู่ทางขวารู้สึกอะไรได้บ้างครับ...ความสุข ความทุกข์ เฉยๆ เก่งมาก
ท่านที่อยู่ทางซ้ายบ้างล่ะครับ ความโกรธ ความโลภ ความหลง ความรัก ความชัง

ท่านที่นั่งเท้าคางข้างหลังล่ะครับ...ความอิจฉา พยาบาท ความกลัว ความเหงา ความเซ็ง ความเบื่อ ความหงุดหงิด ความฟุ้งซ่าน ความรำคาญ ความคิด เมตตา กรุณา ความสงบ ความลังเลสงสัย
ไหนท่านผู้อ่านลองตอบบ้างซิครับจิตที่เป้นกุศล จิตเป็นอกุศล

แหม..ท่านนี้ตอบสั้น แต่กินความกว้างนะครับ จิตเป็นกุศลก็เป็นจิตฝ่ายดี จิตเป็นอกุศลก็เป็นจิตฝ่ายไม่ดี นี่เราจะเห็นได้ว่า เวทีใจมีตัวละครมากมายออกมาแสดงให้เราได้รู้จักหน้าตาตัวละครแต่ละตัวที่มันแสดงให้ดู มันมีลักษณะอาการที่แตกต่างกัน เกิดแล้วก็ดับ เหมือนดั่งวิ่งออกมาแสดงหน้าโรง แล้วก็วิ่งกลับเข้าหลังโรง สลับกันกับตัวละครอื่นที่จะออกมาแสดงให้เราได้รู้ได้ดูอยู่อย่างไม่ขาดสาย

จิตหรือใจ ยังมีสิ่งหนึ่งที่น่าเรียนรู้ จิตเป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ จิตไม่ชอบอยู่นิ่ง จิตชอบหนีเที่ยวเป็นประจำ จิตเขาหนีเที่ยวได้กี่ทางท่านพอเดาได้มั๊ยครับ... จิตเขาหนีเที่ยวได้ ๖ ทาง คือทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

๑. จิตหนีเที่ยวทางตา หนีอย่างไร

เวลาตาเห็นรูปสวยๆ ใจมักไหลไปอยู่กับรูปนั้นๆ จนลืมเนื้อลืมตัว กายเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ใจเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แทนที่จะรู้ว่าใจกำลังมีอาการชอบปรากฏขึ้น แต่กลับส่งใจไหลไปอยู่กับรูปสวยๆ ภายนอก โดยไม่รู้สภาวธรรมที่กำลังปรากฏขึ้นกับใจ ณ ขณะปัจจุบันนั้นๆ นี่แหละเขาเรียกว่าหลงทางตา ในมุมกลับกันถ้าเห็นรูปที่ไม่สวย ใจก็ไหลไปอยู่กับรูปนั้นเหมือนกัน เมื่อตาเห็นรูปไม่สวย ใจก็เกิดอาการไม่ชอบ ก็รู้ไม่ทันจิตใจ แทนที่ควรจะมารู้อาการที่เกิดขึ้นกับใจ กลับปล่อยไหลออกไปภายนอก และคิดปรุงแต่ง ตีค่าตีราคาว่าสิ่งนั้นดี หรือไม่ดี แล้วก็หลงไปยินดี ยินร้ายไปกับสิ่งนั้น

๒. จิตหนีเที่ยวทางหู หนีอย่างไร

เมื่อหูได้ยินเสียง ก็หลงไปกับเสียงที่ได้ยิน จนลืมเนื้อลืมตัว พอเขาชมก็ใจฟู พอเขาด่าก็ใจแฟบ แล้วก็ตีค่าตีราคาว่าชอบหรือไม่ชอบ แทนที่จะรู้ว่ามีอาการชอบ (ฟู) หรือไม่ชอบ (แฟบ) ปรากฏขึ้นที่ใจ

๓. จิตหนีเที่ยวทางจมูก หนีอย่างไร

พอจมูกได้กลิ่นก็หลงไปกับกลิ่นว่าหอมหรือเหม็น แล้วก็ตีค่าว่าชอบหรือไม่ชอบ แทนที่จะเข้ามารู้ถึงความรู้สึกที่ชอบใจ หรือไม่ชอบใจ ที่กำลังปรากฏที่จิต

๔. จิตหนีเที่ยวทางลิ้น หนีอย่างไร

พอลิ้นลิ้มรสก็หลงในรส ใจมีอาการหรือสภาวธรรมชอบหรือไม่ชอบปรากฏขึ้นที่ใจก็ไม่รู้ มีแต่หลงไปในรสที่ดื่มกิน สังเกตมั๊ยความจริงเรากินเพื่อแก้หิวหรือแก้ทุกข์ ถ้าอาหารอร่อยกว่าจะรู้ตัวก็จุกเสียแล้ว เพราะเราไม่ได้กินเพื่อแก้หิวหรือแก้ทุกข์ แต่เรากินเพราะแก้อยาก

๕. จิตหนีเที่ยวทางกาย หนีอย่างไร

พอกายถูกต้องสัมผัสของนิ่มนวล อากาศเย็นสบายก็หลงไปกับสิ่งที่กระทบ สัมผัส กระทบสิ่งชอบก็ดีใจ กระทบสิ่งที่ไม่ชอบก็เสียใจ จึงหลงยินดียินร้ายในสิ่งนั้น โดยไม่รู้เท่าทันว่า ความยินดี ยินร้ายกำลังปรากฏที่ใจแล้ว

๖. จิตหนีเที่ยวทางใจ หนีอย่างไร

จิตแอบไปคิดก็ไม่รู้ จิตฟุ้งซ่านก็ไม่รู้ จิตเผลอก็ไม่รู้ จิตเพ่งก็ไม่รู้ จิตมักหลงไปอยู่ในโลกของความคิดก็ไม่รู้ รู้แต่เรื่องราวที่คิด แต่ไม่รู้ว่าจิตคิด จิตมักเผลอเหม่อลอย คิดอะไรก็ไม่รู้ นี่เรียกว่าหลงแบบสุดๆ อีกประเภทหนึ่ง รู้เรื่องทุกอย่างที่คิด จมแช่อยู่ในโลกแห่งความคิด แต่ลืมตัวเอง เป็นต้น

ทวารทั้ง ๖ นี้ ถ้าสังเกตให้ดี วันหนึ่งๆ เราจะหลงไปกับความคิดทางใจมากที่สุด ถัดมาก็หลงไปทางตากับทางหู ดูๆ แล้วน่าเหนื่อยนะ หลงยินดียินร้าย เมื่อใดจิตหลงใหลไปในอารมณ์ ความทุกข์ก็เกิดเมื่อนั้น หากเพียงแค่รู้ด้วยใจที่เป็นกลาง รู้แบบไม่มีส่วนได้เสีย รู้แบบไม่หวังสิ่งตอบแทน การรู้แบบนี้จึงเป็นการรู้ที่ไม่ทุกข์

การศึกษาเป็นแค่ความ รู้จำ สภาวธรรม เปรียบเสมือน การอ่านแผนที่
การปฏิบัติเป็นการเข้าไป รู้จัก สภาวธรรม เปรียบเสมือน การเดินทาง

ดังนั้น เรามิอาจบรรลุธรรมหรือเข้าถึงธรรมได้ เพียงแค่การฟัง การอ่าน หรือการคิดพิจารณา แต่เราเข้าถึงธรรมะได้ด้วยการเข้าไปรู้จัก หรือประจักษ์ตามความเป็นจริงด้วยการปฏิบัติ

ท่านอาจจะมีโอกาสทำบุญให้ทาน รักษาศีล ทอดกฐิน ผ้าป่า สารพัดงานบุญ สร้างกุฏิ วิหาร โรงทาน โบสถ์ ศาลา มาตลอดชีวิต ก็เปรียบเสมือนเอาบุญใส่กระบุงแบกไว้ด้านหลัง หากท่านไม่ออกก้าวเดินเลย ก็มิอาจถึงจุดหมายปลายททางได้เลย ท่านจะบรรลุถึงจุดหมายปลายทางได้ด้วยการปฏิบัติเท่านั้น

ถ้าหากท่านมีเสบียงบุญที่ดีด้วย มีทั้งทานกุศล ศีลกุศล ก็ย่าลืมภาวนากุศลนะครับ การปฏิบัติ คือ การเดินทาง ทุกครั้งที่ท่านออกก้าวเดิน เส้นทางหรือจุดหมายก็จะเริ่มหดสั้นลงและเข้ามาใกล้ท่านทุกทีๆ

อุปมาเสมือนหนึ่งท่านพายเรือทวนกระแสน้ำ เมื่อใดท่านยังพายอยู่ ท่านก็กำลังมุ่งหน้าสู่จุดหมาย เมื่อใดที่ท่านหยุดพายเรือ ท่านก็จะถูกกระแสน้ำสาดซัดพัดพาให้ถอยหลังไปอีกไกล นั่นหมายถึงเส้นทางของท่านยิ่งทอดยาวไกลออกไปอีก

จงเป็นผู้ไม่ประมาทเถิด แล้วสิ่งประเสริฐจะเกิดกับท่าน




บทต่อไป รู้กาย รู้อย่างไร คลิกที่ all blog ที่ซ้ายมือค่ะ





Create Date : 16 มกราคม 2553
Last Update : 23 มกราคม 2553 12:51:15 น. 0 comments
Counter : 270 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nootikky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




lozocat♥ ยินดีต้อนรับค่ะ ♥ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ ♥ แล้วแวะมาใหม่นะคะ ♥

ขอขอบคุณ
ของแต่งบล็อกสวยๆ
จากความเอื้อเฟื้อของ
พี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ
ใน bloggang นี้ค่ะ

lozocat
User Online...
Google

clock counter
อีโมดุ๊กดิ๊ก
หมีน้อยแพนด้า
กระต่ายแสนซน
X
X
X
COLORS COD E
Friends' blogs
[Add nootikky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.