เสียงหมาที่เห่า-หอนเป็นช่วง ๆ ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแปลกแต่อย่างใด
ถ้าฉันอยู่บ้านแม่หรือบ้านของตัวเองที่อำเภอเมือง
ฉันคงต้องออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่สำหรับที่นี่ ฉันไม่ต้องออกมาดูก็รู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เด็ก ๆ ก็คงออกมาเล่นกันเหมือนเดิม จะเอาอะไรกับเด็ก
บางทีเด็ก ๆ ก็เล่นกันที่สนามเด็กเล่น บางทีก็เล่นกันใต้ถุนเรือนพยาบาล
ครอบครัวของณีกับเอซึ่งพักอาศัยอยู่บนเรือนพยาบาล เล่าให้ฟังว่า
บางวันเล่นกันเสียงดังขึ้นไปถึงบนเรือนพยาบาล
จนบางครั้งก็ต้องตะโกนปรามกันทีเดียว
เด็ก ๆ ออกมาเล่นกันเป็นบางวัน
จนตอนหลังณีกับเอต้องขนของเล่นใต้ถุนบ้านไปไว้ที่อื่น
ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นอันนอนกัน
เด็ก ๆ หลาย ๆ คนไม่มีที่จะไป ไม่รู้จะไปไหน
บางคนก็จำบ้านตัวเองไม่ได้
บางคนก็รู้สึกว่าที่บ้านไม่ต้อนรับ
ขนาดมาลากันครั้งสุดท้ายยังไม่มาเลย
มีอยู่วันนึงฉันมีธุระที่จะต้องเดินไปเรือนพยาบาล
พอฉันเดินไปเสียงหมา เสียงเครื่องเล่น และเสียงเด็ก ก็เงียบเป็นปลิดทิ้ง
เอบอกว่า คราวหลังกลางคืนอย่าออกมาบ่อยนัก สงสารเด็ก
นาน ๆ จะได้ออกมาเล่นที ยังโดนขัดจังหวะ
ฉันฟังก็ได้แต่ขำ ๆ แล้วพูดกับเอว่า
นี่ขนาดตายไปแล้วยังไม่เลิกกลัวชั้นเลยหรอ
แต่บางคืนฉันออกมาเดินเล่นริมระเบียง
ก็ยังได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเครื่องเล่น
ยังแลเห็นชิงช้าไหว ๆ อยู่
ฉันก็ได้แต่ตะโกนบอกไปว่า
เล่นกันไปเถอะ เดี๋ยวพี่ปอจะไปนอนแล้ว
แต่อย่าเสียงดังนักล่ะ คนอื่นจะนอน....
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ยินเสียงเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ว่าพ้นทุกข์
หรือว่ารู้แล้วว่าควรจะไปอยู่ที่ไหน
แต่ฉันและทุกคนที่นี่ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เด็ก ๆ ทุกปี
ฉันคิดเองว่า เด็กบางคนยังไม่ถึงเวลาของเค้า
แต่ร่างกายไม่ไหวแล้ว เลยต้องไปก่อนวัยอันควร
ถ้าวันนึงถึงเวลาของเค้าแล้ว เค้าก็จะไม่มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เรา
เพราะเค้าจะมีที่....ที่เป็นที่ของเค้าชั่วนิรันดร์
ขอให้ทุกดวงวิญญาณ ไปสู่สุขคติ
ขอบคุณที่มาทำให้ชีวิตพี่ปอมีค่าขึ้น
พี่ปอรักพวกหนูนะ และไม่เคยลืม
ปล. เด็กทุกคนที่อยู่ในรูปยังมีชีวิตอยู่