Bloggang.com : dfh : ตายโหงหนังดีที่ไม่ควรมองข้ามเพียงเพราะมีอคติกับผู้กำกับ

ตายโหงหนังดีที่ไม่ควรมองข้ามเพียงเพราะมีอคติกับผู้กำกับ

หากท่านลองเปิดใจอ่านซักนิด เกี่ยวกับความเห็นของคนดูหนังเพียงคนหนึ่ง ซึ่งได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับหนังเรื่อง “ตายโหง” ไว้ ก็จะได้เป็นทางเลือกให้ท่านอีกทางหนึ่งที่เลือกจะเดินหนีหรือเข้ามาเสพกับหนังเรื่องนี้

สำหรับเราไปดูรอบpress มาเมื่อวานนี้พร้อมกับคุณ joblovenuk ค่ะ ขอออกตัวไว้ก่อนปกติเราจะไม่อวยหนังมากมายที่ผ่านมาที่อวยเวอร์ๆนั้นมีเรื่องเดียวคือ district 9 การที่เราอวยเพราะ

1.เป็นหนังที่กระแสน้อย
2.เป็นหนังที่ดีมากจริงๆ

ฉะนั้นหนังที่เราอวยไม่มีทางห่วยแน่นอน และก็ไม่ได้มีอคติเอนเอียงว่า เป็นหนังของผกก.ที่ชอบแล้วจะต้องชอบทุกเรื่อง สำหรับเรามันไม่ใช่ และก็ไม่ได้คิดว่า เราเคยดูเรื่องนี้ของผกก.คนนี้แล้วไม่ชอบทำให้ไม่อยากไปดูหนังเรื่องอื่นของผกก.คนนี้อีก เราว่า การคิดแบบนี้เป็นเหมือนทัศนคติแคบเกินไป เพราะเค้าอาจจะปรับปรุงผลงานของตัวเองให้ดีขึ้น หรือ เปลี่ยนมุมมองความคิดของหนังไปคนละทางกับหนังเรื่องเก่าๆของเค้าก็ได้ ฉะนั้น การคิดอย่างนี้แหละที่ทำให้หลายๆคนไม่มีโอกาสได้รับชมผลงานที่ดีดีของผกก.นั้นๆเพียงเพราะ คิดว่าจะอย่างนั้น คิดว่าจะอย่างนี้ แต่จริงๆแล้วมันแค่การการคิด หรือ การคาดเดา หนังจะเป็นยังไงเราไม่มีทางรู้เลยจนกว่าเราจะได้เข้าไปชมด้วยตัวเอง ฉะนั้น หากกระแสวิภาควิจารณ์เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ที่มีมาตั้งแต่แรก ต่างคนก็ต่างคิดว่าหนังจะห่วยอย่างนั้นจะห่วยอย่างนี้ ปลุกปั้นเป็นกระแสต่อต้านหนังเรื่องนี้ทั้งๆที่ยังไม่เข้าฉายเลยด้วยซ้ำ อย่างนั้นเราว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก สำหรับคนที่เข้ามาอ่านความเห็นแล้วกลับได้พบเจอความเห็นของหลายๆคนที่มีอคติกับหนังตั้งแต่ที่ยังไม่ได้ดูเสียแล้ว มีเหตุผลเพียงเพราะไม่ชอบผกก. เท่านั้นเอง

แต่สำหรับเรื่องนี้ คือทางเลือกใหม่สำหรับคอหนังผีที่ไม่ได้มีแค่ผกก.แค่เพียงคนเดียว (หลายคนอาจจะคิดว่า หนังเรื่องนี้เลียนแบบหนังเรื่อง 5 แพร่งของGTH แต่สำหรับเราเราไม่ได้มองอย่างนั้น หนังใครอยากทำก็ทำได้ มีความคิดแบบไหนก็ทำแบบนั้น แต่มันขึ้นกับว่า คุณจะทำหนังออกมาได้ดีแค่ไหนเท่านั้นแหละ แต่อย่าให้ดูเหมือนจงใจ “ลอก” เกินไปเท่านั้นเอง เพราะGTH ก็ไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของการทำหนังผี ความคิดที่จะทำหนังผีโครงเรื่องแบบนี้อาจจะมีพร้อมกันแต่หนังเสร็จและฉายช้ากว่าเท่านั้นก็ถูกมองว่าเป็นของก็อปปี้ เราว่ามันก็ดูไม่ยุติธรรมจนเกินไป)

หนังเรื่องนี้มีผกก. และนักแสดง ดังต่อไปนี้

- ผับไฟไหม้ - แนต ชาติชาย เกษนัส (กำกับ) / กอล์ฟ อัครา, กบ พิมลรัตน์ (นำแสดง)

- คุกกองปราบ – ตูน มานุสส วรสิงห์ (กำกับ) / หนุ่ม อรรถพร, เต๊ะ ศตวรรษ (นำแสดง)

- ผีแท้งค์น้ำ – กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ (กำกับ) / กระแต ศุภักษร, ดิว อริสรา, อัญชลี สายสุนทร (นางเอก Wonderful Town) (นำแสดง)

- ม่านรูด – พจน์ อานนท์ (กำกับ) / ใหม่ เจริญปุระ, มดดำ คชาภา (นำแสดง)

ขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ม้า และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ขอให้ทุกๆคนอย่าคิดว่าใครที่มาตั้งกระทู้ “ตายโหง” จะเป็นม้าเสมอไป เพราะมันไม่จริง เราเองเป็น 1 คน ใน ห้องเฉลิมไทยนี้ที่แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา และ เรียกได้ว่า หนังผีเรื่องไหน เราไม่เคยพลาด ทั้งหนังผีไทย ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม หนังผีฝรั่ง(อันนี้เลือกเรื่องดู) และ หนังผีญี่ปุ่นเกาหลี (อันนี้ดูทุกเรื่องชอบเพราะความหลอน) ฉะนั้นเราคิดว่าในเมื่อเราเป็นคอหนังผี และมีประสบการณ์การดูหนังผีมามาก เราน่าจะสามารถวิเคราะห์วิจารณ์หนังเรื่องนี้ได้อย่างเป็นกลางโดยไม่มีอคติเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะ ผกก.แต่ละคนหน้าใหม่ทั้งหมดยกเว้นคุณ พจน์ เราเองไม่เคยเห็นผลงานของผกก.เหล่านั้นมาก่อน ฉะนั้นความคิดเห็นต่อผลงานของเขาเหล่านั้นจึงเป็นศูนย์

เริ่มด้วยตอนแรก ซานติฆ่า(ชื่อเรื่องอาจจะดู สร้างกระแสให้คนวิภาควิจารณ์นิดหน่อย)---แนต ชาติชาย เกษนัส (กำกับ)

หนังเรื่องนี้หลายๆคนพอเห็นชื่อเรื่องคงทำให้คิดถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ผ่านมา ที่ทุกคนยังไม่ลืมเลือนที่เกิดขึ้นช่วงปีใหม่ 1 ปีก่อน หลายต่อหลายคนได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปจากเหตุการณ์นี้ ทำให้บ้างก็ทำใจและคงยังลืมไม่ได้ และ เมื่อเห็นชื่อหนังเรื่องนี้จึงทำให้ไปกระตุกความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น่าสลดใจในวันนั้น และ ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องตั้งชื่อล้อเลียนอย่างนี้ เราตอบว่า เราเห็นด้วยที่ไม่ควรตั้งชื่อแบบนี้เพราะเนื่องจากเราไม่ได้รู้จักกับผู้สูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราไม่ได้รู้สึกอะไรเมื่อได้ยินชื่อเรื่อง แต่ สำหรับคนที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ คงจะคิดไม่มากก็น้อยว่า ทำเหมือนลบหลู่คนตาย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของคน ห้ามกันไม่ได้ ซึ่งการตั้งชื่อแบบนี้บอกตามตรงก็คือมันมีผลในแง่ของการตลาด เรื่องนี้มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะต้องการเป็นกระแส พูดอย่างนี้น่าจะถูกต้องที่สุด

เรื่องราวคร่าวๆของหนังตอนนี้ก็คือ

ชาย หญิง คู่หนึ่งที่มีความรักให้กันมานานจากความรักที่หวานฉ่ำเลยกลายเป็นความรักที่จืดจางและจืดจางลงจนกระทั่งฝ่ายหญิงเริ่มสังเกตได้ จนมาวันหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คนคู่นี้ได้ไปผับตามคำชักชวนของเพื่อน และโศกนาฏกรรมครั้งนี้ก็ทำให้ฝ่ายหญิงต้องตายลง ในระหว่างที่ฝ่ายชายกำลังเศร้าเสียใจจากการจากไปของฝ่ายหญิง เค้ากลับได้เจอเหตุการณ์อันแปลกประหลาดในห้องของเค้าที่เค้ารู้สึกได้ว่า เค้าไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวแต่กลับมีคนอีกหนึ่งคนซึ่งอยู่ในห้องร่วมกับเค้าตลอดเวลา

หลังจากที่ดูหนังตอนนี้จบ ทำให้เรารู้สึกเศร้าสลดและทำให้คิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นที่ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะได้รับความทุกข์ทรมานมากแค่ไหน แต่หนังก็ไม่ได้ลงลึกเหตุการณ์ในผับมากเท่าไหร่นัก แต่เค้าได้มุ่งประเด็นไปที่หลังจากเกิดเหตุการณ์ในผับนั้นต่างหากว่าเป็นยังไงต่อไป ฝ่ายชายจะต้องเชิญหน้ากับเหตุการณ์สุดหลอนในห้องพักของเค้าอย่างไร และ จริงๆแล้ว ผี ตนนั้นคือใคร แต่ที่แน่ๆเรื่องนี้มีหักมุมอย่างแน่นอน และ เรามั่นใจว่าไม่มีใครคาดเดาได้แน่ว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ยังไงเราคิดว่าคงไม่มีใครรู้สึกผิดหวังกับหนังผีตอนนี้อย่างแน่นอน เพราะผกก.ได้ถ่ายทอดความรักได้อย่างน่าเศร้าสลดและลึกซึ้งกินใจได้ดีทีเดียว

เรื่องนี้ขอให้คะแนน 8.5/10 ในแง่ของหลักเหตุผลและถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีสำหรับนักแสดงทั้ง 2 คน (กอล์ฟ อัครา, กบ พิมลรัตน์)

ผลงานของ ผกก.

..."ชาติชาย เกษนัส" ผลงานที่น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีมากที่สุดก็คือ ร่วมตัดต่อหนังสารคดีสุดบันเทิงค่ายจีทีเอชเรื่อง "365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์" ของผู้กำกับหญิง "โสรยา นาคะสุวรรณ" นั่นเอง

...จริงๆ ชาติชายเคยร่วมงานกับหนังพระนครฟิลม์มาแล้วจากการร่วมเขียนบทหนังเรื่อง "ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์" ร่วมกับ จิตติ บัวสุทธิ และ ผกก. ธีระวัฒน์ รุจินธรรม

...ล่าสุด ก่อนหน้าที่จะเข้าชื่อเป็นทีมผู้กำกับ "ตายโหง" เขากำลังปั้นโปรเจ็คต์เรื่อง "Blood Maple and the Passion of the Kid" ที่ได้รับเลือกเข้าร่วมหาทุนใน HAF (Hong Kong-Asia Film Financing Forum) ที่ประเทศฮ่องกงเมื่อต้นปีนี้

เครดิตประวัติผกก. : //www.popcornmag.com

เรื่องที่สองคือเรื่องคุกกองปราบ---ตูน มานุสส วรสิงห์ (กำกับ)

หนังเรื่องนี้ให้บรรยากาศหลอนจากความว่างเปล่าวังเวงของคุก แม้ว่าคุกจะโล่งจนดูเหมือนไม่มีอะไร ในความโล่งนี้นอกจากจะไม่ทำให้สบายใจแล้วแต่กลับยิ่งทวีคูณความน่ากลัวเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อ ชายคนหนึ่งทำความผิดจนต้องติดคุก แต่ก่อนที่เค้าจะเข้าไปอยู่ในคุก เค้าได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจลากศพชายเสื้อแดงที่ได้ผูกคอตายในห้องขังห้องตรงข้ามกับเค้า ทำให้เค้าเกิดความรู้สึกหวาดผวาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าไป และเมื่อคืนแรกที่เค้าได้ก้าวไปอยู่ในคุก เค้าก็ได้เจอกับชายเสื้อแดงที่มีพฤติกรรมประหลาดและเค้าก็ได้เกิดความสงสัยว่า ชายเสื้อแดงนี้คือคนหรือผีกันแน่

ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ได้สะท้อนสังคมด้วย สำหรับผู้ที่กระทำความผิด พวกฆ่าคนชิงทรัพย์ ข่มขืนฆ่าหรือแม้กระทั่งค้ายาเสพติด ว่าแม้ตัวเองจะกระทำความผิดไปโดยไม่ได้ตั้งใจหรือตั้งใจก็แล้วแต่ นอกจากญาติของผู้เสียหายจะเสียใจและเศร้าโศกแล้วผู้ก่ออาชญากรรมนั้นก็ไม่ได้มีความสุขและไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นจากการกระทำดังกล่าว พวกเขาเหล่านั้นบางคนอาจจะไม่ได้รับโทษทัณฑ์และหลุดรอดจากการเป็นจำเลยทางกฎหมายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ชีวิตที่ดีและมีความสุข ผลกรรมจากการกระทำเหล่านั้นไม่ว่าจะออกมาให้เห็นในรูปแบบไหนก็ตามจะคอยตามหลอกหลอนพวกเค้าไปจนกว่าพวกเค้าจะรู้สำนึกได้ด้วยตัวของพวกเค้าเอง

ให้คะแนน 8.5/10 ให้กับความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่องและจบได้อย่างดีมีชั้นเชิง

ประวัติของผกก.

ใครที่ติดตามวงการหนังสั้นไทยอยู่เป็นประจำ คงคุ้นชื่อ "มานุสส วรสิงห์" กันเป็นอย่างดี เพราะเขามีผลงานกำกับหนังสั้นมาหลากหลายเรื่องแล้วนั่นเอง

...ด้านล่างเป็นประวัติของเขาจากเว็บไซต์ //www.nike.in.th/boxing/director6.html

- จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาภาพยนตร์และภาพถ่าย เมื่อปี 2545

- เริ่มต้นงานในวงการภาพยนตร์จากการเป็นผู้ถ่ายเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง "นายอโศกกับนางสาวเพลินจิต" เมื่อปี 2546

- ปัจจุบันทำงานอิสระหลายอย่าง ทั้งงานภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์, งานถ่ายทำและตัดต่อวิดีโอต่างๆ
รวมไปถึงงานภาพยนตร์สั้น ที่ยังคงทำอยู่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่จบการศึกษามา

ภาพยนตร์ขนาดยาว

- ถ่ายเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง "นายอโศกกับนางสาวเพลินจิต" (2546) กำกับโดย ทศพล ศิริวิวัฒน์ และพีระพันธ์ เหล่ายนตร์

- ร่วมตัดต่อภาพยนตร์เรื่อง "เจ้าสาวผัดไทย" (2547) กำกับโดย มงคลชัย ชัยวิสุทธิ์

- ถ่ายเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง "พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า" (2548) กำกับโดย ฤกษ์ชัย พวงเพชร

- ร่วมตัดต่อภาพยนตร์เรื่อง "สวยลากไส้" (2549) กำกับโดย ทศพล ศิริวิวัฒน์ และพีระพันธ์ เหล่ายนตร์

- ร่วมตัดต่อภาพยนตร์เรื่อง "หนึ่งใจ..เดียวกัน" (2551) ดัดแปลงจาก "เรื่องสั้นที่ฉันคิด" บทพระนิพนธ์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี - กำกับโดย สิริปปกรณ์ วงศ์จริยวัตร

ภาพยนตร์สั้น (บางส่วน)

- Happy Bangkok (2546) - ได้รับเลือกเข้าฉาย และร่วมประกวดในสาขาภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นจากเทศกาล Bangkok International Film Festival 2004

- Post-it (2546) - รางวัล Best Short Film จากเทศกาล World Film Festival of Bangkok 2003

- Intersection (2548) - รางวัลชนะเลิศ จากการประกวดหนังสั้น ดี ดี ดี (Drink Don’t Drive) "ดื่มหรือเมาก็อย่าขับ" จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, กรมคุมประพฤติ และสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย

- เจ้าหญิงนิทรา (2548)

- รองชนะเลิศ รางวัลรัตน์ เปสตันยี จากเทศกาลภาพยนตร์สั้นครั้งที่ 9 ในปี 2548 จัดโดยมูลนิธิหนังไทย

- รางวัลหนังยอดเยี่ยม และรางวัล Popular Vote จากการประกวดหนังสั้น Fat Film ครั้งที่ 3 ในปี 2548

- ได้รับรางวัล Selected Work จากเทศกาล JVC Tokyo Video Festival 2006, ประเทศญี่ปุ่น

- ได้รับเลือกเข้าฉายในโปรแกรม Short : Asian Hot Houses จากเทศกาล International Film Festival Rotterdam 2006, ประเทศเนเธอร์แลนด์

- เพื่อนยาก (2549)

- หนังสั้น 1 ใน 10 เรื่องจากโครงการ “ชวนเด็กดูหนัง” ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ยุทธศาสตร์สื่อเด็ก และ //www.thaishortfilm.com

- ได้รับเลือกเข้าฉายในโปรแกรม Asiadeli จากเทศกาล International Short Film Festival Berlin 2006, ประเทศเยอรมัน

- ได้รับเลือกเข้าฉาย และร่วมประกวดในเทศกาล Jakarta Slingshort Fest 2006, ประเทศอินโดนีเซีย

- ได้รับเลือกเข้าฉาย และร่วมประกวดในสาขา Children Competition จากเทศกาล Sapporo International Short Film Festival 2007, ประเทศญี่ปุ่น

- ได้รับเลือกเข้าฉาย และร่วมประกวดในเทศกาล Con-Can Movie Festival 2008, ประเทศญี่ปุ่น

ตอนที่สาม ผีแท้งค์น้ำ– กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ (กำกับ)

จริงๆแล้วพูดตามตรงว่าหนังเรื่องนี้อ่อนด้อยกว่าทั้ง 4 เรื่อง ในเรื่องของการตัดหักมุมไปมาจนเวียนหัว และเรื่องของอารมณ์หลอนสั่นประสาท แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรมากจนคิดว่าหนังเรื่องนี้ห่วยจนเกินไป อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ทำให้เราอิ่มเอมใจไปกับความตลกสนุกสนานและเรียกเสียงฮาจากกลุ่มหนุ่มหน้าตาดีและกระแตที่ในเรื่องที่เธอรับบทเป็นสาวผู้ดูแลหอพักและเป็นกิ๊กกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มแก๊งค์เด็กแว๊น(ไม่รู้ว่าแว๊นหรือเปล่า แต่ดูท่าทางให้) และเนื่องด้วยมีผู้ร่วมหอพักคนหนึ่งซึ่งเป็นชายใบ้ได้ฆ่าบีบคอสาวคนรักของเขาและได้นำศพไปทิ้งไว้ในแท็งค์น้ำบนดาดฟ้า โดยไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้เลย จนกระทั่งคนในหอเริ่มสังเกตุถึงความผิดปกติของน้ำที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่ามากขึ้นทุกวันๆ แถมยังมีเศษผมและชิ้นเนื้อออกมาจากก๊อกน้ำที่พวกเขาใช้ด้วย ชายใบ้จะทำอย่างไร ในเมื่อคนในหอเริ่มสงสัยกับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น เรื่องที่เขาฆ่าสาวคนรักจะเก็บไว้ได้นานแค่ไหน และ จะมีใครรู้เรื่องนี้หรือไม่

เรื่องนี้บอกตรงๆจากที่ดูมีส่วนคล้ายคลึงและได้อารมณ์ประมาณ บุปผาราตรี เพราะหนังเรื่องนี้มีทั้งความสยดสยอง ความหวาดผวาและความรักแบบโรแมนติก และเรื่องราวก็เกิดขึ้นภายในหอพักเหมือนกัน และตัวผีสาวเองในเรื่องก็สวยไม่แพ้พลอยเลยทีเดียว คนที่เล่นเป็นผีในเรื่องก็คือ ดิว อริสรา ซึ่งทุกคนน่าจะเคยเห็นผลงานของเธอทั้งทางทีวีและตามหน้านิตยสารเป็นอย่างดี ผีสาวในเรื่องนี้ทั้งสวยทั้งน่ากลัวจริงๆ บวกกับการตามหลอกหลอนในร่างผีสาวของเธอยิ่งทำให้เราไม่สามารถลบภาพที่น่ากลัวของเธอไปจากความทรงจำได้ลงเลยจริงๆ

ส่วนอีกเรื่องที่เรารู้สึกว่ามีกลิ่นคล้ายๆกันคือ หอแต๋วแตกแหกกระเจิง ซึ่งก็ไม่น่าแปลกประหลาดใจนักเพราะผกก.คนนี้ก็ได้เขียนบทให้กับหนังเรื่อง หอแต๋วแตกไว้เหมือนกัน ดังนั้นทั้งมุข และสไตล์ของหนังเรื่องนี้จึงดูมีความคล้ายคลึงกับเรื่อง หอแต๋วแตกไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะกัสจังที่แสดงในหนังเรื่อง หอแต๋วแตกเป็น อาโคย ในหนังเรื่องนี้ก็ได้เล่นเป็นหนุ่มใบ้ที่ฆ่าแฟนสาวของตัวเอง แต่ความเหมือนของทั้ง 2 เรื่องก็คือ กัสจังก็ยังคงได้รับบทพูดน้อยเหมือนเดิม ส่วนเรื่องนี้ไม่มีบทพูด ทำให้เรามองไม่เห็นพัฒนาการในการแสดงของกัสจังมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าให้พูดถึงความหล่อนั้น กัสจังหล่อขึ้นมากๆ จนทำให้เราหลงเคลิบเคลิ้มไปกับฆาตรกรรายนี้เลยทีเดียว

ให้คะแนน 7.5/10 หักในความไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างและการหักมุมที่มากเกินพอดีทำให้ดูแล้วถ้าไม่ตั้งสมาธิให้ดีหรือปิดตาดู อาจจะไม่เข้าใจได้

ประวัติของผกก.

3 รางวัลหนังสั้น ครั้งที่ 12,
แอ็คติ้งโค้ช 'จูบ' มาริโอ้,
เขียนบท-แอ็คติ้งโค้ช 'หอแต๋วแตก แหกกระเจิง'

เรื่องสุดท้ายคือ-ม่านรูด – พจน์ อานนท์ (กำกับ)

จริงๆแล้วพูดตามตรงก่อนที่จะดูหนังเรื่องนี้เราแทบจะไม่มีความคาดหวังให้กับตอนนี้เลยอย่างสมบูรณ์แบบเพราะว่า เราเองไม่ชอบดูเรื่อง หอแต๋วแตก ที่คุณ พจน์เป็นผู้กำกับ เพราะมันดูเหมือนผีไร้แก่นสาร เหมือนผีเร่ร่อนไม่มีอะไรทำ เลยมาหลอกหลอนผู้คนเอาตามว่าเล่นเพราะว่าง เรียกได้ว่า เป็นหนังผีตลกที่เน้นตลกอย่างเดียว แต่ เนื้อเรื่องดูจะไม่มีเหตุไม่มีผลมารองรับอย่างสิ้นเชิง

เรื่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับตอนนี้คือ มีสาวแก่วัยใกล้จะ 40 ด้วยความที่สังขารเริ่มร่วงโรยลงทุกวัน ตีนกา ริ้วรอยต่างๆเริ่มมาเยือน ทำให้กิจการที่เธอทำ (ขายตัว) ไม่ค่อยรุ่งเรืองเท่าไหร่นัก เธอจึงต้องพยายามอย่างหนักในการหาเลี้ยงตัวเองโดยการ เข้าไปหาเหยื่อตามผับบ้างหรือไปยืนตามใต้ต้นไม้(คล้ายๆกับไก่ที่สนามหลวง) หาแขกเพื่อเลี้ยงปากท้องไปวันต่อวัน วันหนึ่งชายหนุ่ม 2 คน ขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมาคิดจะซื้อบริการสาวขายตัวเพราะต้องการเปิดบริสุทธิ์ ด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ทำให้ไปเกี่ยวเอาสาวแก่ใกล้ 40 นางนี้มา หวังว่าจะให้เป็นครูสอนเรื่องบนเตียงที่เชี่ยวชาญในคืนแรกของพวกเค้า พวกเค้าทั้ง 3 ได้เข้าไปในม่านรูดแห่งหนึ่งที่มีป้าแก่คอยดูแลอยู่ อยู่ๆป้าแก่คนนี้ก็ได้เล่าเรื่องขนหัวลุกเกี่ยวกับผู้หญิงที่เคยถูกฆ่าตายอย่างอนาถในห้องวีไอพีที่พวกเค้ามาอยู่ ชะตากรรมของพวกเค้าจะเป็นยังไงต่อไป ในห้องนี้จะมีผีตามที่ป้าแก่ได้บอกไว้หรือไม่

หนังตอนนี้ทำให้เรามองภาพผิดไปหมด หลังจากดูทั้งหมดแล้วตอนนี้สามารถเรียกเสียงฮาจากผู้ชมทั้งโรงและเราได้มากที่สุดแล้ว จากการแสดงขั้นเทพของ ใหม่ เจริญปุระ จากการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของพี่ใหม่เจริญปุระครั้งนี้ ทำให้เราอึ้งเป็นอย่างมากว่า หนึ่ง ...เธอกล้ามารับบทแบบนี้ได้ และ สอง..คือ เธอสามารถเล่นบทที่เธอได้รับได้อย่างน่าทึ่งมาก เราไม่เคยเห็นเธอในการแสดงแนวนี้มาก่อนเลย ครั้งนี้เธอต้องมาแสดงเป็นสาวขายตัว ซึ่งก็ต้องมีความแรงและ RAD อยู่มากมายจนทำให้คนดูเชื่อได้ว่า ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงขายตัวจริงๆ วิธีการเรียกแขก หรือ บุคลิคการวางตัว เรียกได้ว่า พี่ใหม่สอบผ่านในบทบาทของผู้หญิงขายตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์และเราว่าตำแหน่งนักแสดงนำยอดเยี่ยมฝ่ายหญิงเหมาะสมกับเธออย่างไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น และที่สำคัญกว่านั้น บทที่เธอเล่น มีความปัญญาอ่อนอยู่ซึ่งขัดกับบุคลิคและภาพที่เธอสร้างไว้มาโดยตลอด

สำหรับหนังในตอนนี้เราว่า เป็นตอนที่ทำให้ผู้ชมได้คลายความตึงเครียดจากตอนที่ 1 และ 2 ความน่ากลัวเริ่มลดหลั่นลงมาจนถึงตอนสุดท้าย ที่ทางผกก. คงต้องการให้ผู้ชม ได้กลับบ้านไปอย่างมีความสุข ตอนนี้เน้นความน่ากลัวแบบทำให้ตกใจมากกว่าความกลัวที่เป็นภาพแนวสยดสยองเหมือนตอน ศพแท็งค์น้ำ และ จุดเด่นของตอนนี้อย่างที่บอกก็คือ การแสดงของพี่ใหม่ และที่จะลืมไม่ได้อีกคนก็คือ วาสนา ชลากร ที่เคยเล่นเป็นป้าที่จิตผิดปกติในเรื่องแปดวันแปลกคน ป้าเคยแสดงไว้ได้อย่างน่าขนลุกและแนบเนียนจนทำให้เราต้องเสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้ และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ ป้าวาสนา ต้องแสดงเป็นป้าที่ดูไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่ในตอน ม่านรูด ป้าแสดงได้หลอน และ จิตมากๆ ไม่แพ้กับเรื่องแปดวันแปลกคนที่ ป้าได้ทิ้งลวดลายฝีมือเอาไว้อย่างเต็มที่ เรื่องนี้ก็ไม่แพ้กัน ป้ายังคงรักษามาตรฐานในการแสดงที่มีอย่างล้มเปี่ยมโดยฝีมือไม่ตกเลยทีเดียว อีกทั้ง ป้าก็ยังทำให้หนังตอนนี้ดูมีสีสันมากขึ้นอีกด้วย

หนังเรื่องนี้ดูแล้วอาจจะไม่มีสาระอะไร ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงคิดถึงเรื่อง คนกอง จากเรื่อง 5 แพร่ง ที่สไตล์คล้ายๆกัน ที่เป็นหนังผีแนวตลกและเสียดสีหนังผีทั่วไปในหลายๆจุดและนำมุขที่เข้ากับยุคสมัยมาใช้ในหนังเรื่องนี้ด้วย เช่น “นาธาน” ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้มีจุดที่เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ เอานักแสดงที่ดูภาพภายนอกว่าเป็นผู้ดีสูงส่ง สาวสวยเซ็กซี่ มาเล่นเป็นแนวตลกโปกฮาแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และ หลุดจากภาพที่เคยสร้างเอาไว้อย่างสิ้นเชิง โดยหนังผีตอนนี้จะออกแนวหักตลบหลายมุมให้อารมณ์เดียวกับ 5 แพร่งตอนคนกอง นอกจากจะเรียกเสียงกรี๊ดด้วยความตกใจหวาดผวาได้แล้วก็ยังคงไว้ซึ่งความสุขสนุกสนานเรียกเสียงหัวเราะกับคนทั้งโรงได้ หากจะให้เทียบการแสดงของพี่มาช่ากับพี่ใหม่ในเรื่องนี้ เราขอยกให้พี่ใหม่เป็นสุดยอดของนักแสดงที่สามารถฉีกคาแรกเตอร์ได้อย่างสิ้นเชิง เหนือชั้นกว่านักแสดงคนไหนๆอย่างแน่นอน

ให้คะแนน 8.5/10 ในความฮาและการแสดงอย่างมีคุณภาพของ ใหม่ และ ป้าวาสนา

โดยรวมทั้งหมด 4 ตอนนี้ เราสามารถรับประกันได้ว่า หากใครที่ประทับใจไปกับเรื่อง 5 แพร่ง (ซึ่งส่วนตัวคิดว่าดีสู้ 4 แพร่งไม่ได้ ) หากมาดูเรื่องนี้รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ไม่มั่นใจในการตั้งกระทู้ของคุณ joblovenuk และคิดว่าเค้าเป็นหน้าม้า อาจจะไม่เชื่อตามที่เค้าได้อวยเอาไว้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นสุดยอดหนังประจำปีนี้ เราสามารถรับประกันได้ว่า หนังเรื่องนี้ไม่ห่วยเหมือนที่ใครต่อใครได้คิดเอาไว้อย่างแน่นอน และไม่มีใครที่คิดว่าจะผิดหวังว่าเข้าไปดูแล้วเสียดายเงิน หรือไม่คุ้มราคา แต่หากใครที่ไม่ชอบหนังผีและคิดว่า 5 แพร่งห่วยก็อย่าไปดูเลยแล้วกัน คิดว่าหนังประเภทนี้คงจะไม่ถูกจริตกับคุณ

หนังเรื่องนี้ได้ครบทั้งความตลก ความสยอง และ ความรัญทด ซึ่งหาได้ยากสำหรับหนังผีที่ให้ครบทุกอารมณ์เช่นนี้ แถมหนังเรื่องนี้อาจจะเป็นหนังที่ทำให้นักแสดงหน้าใหม่ได้เกิดอีกหลายรายก็เป็นได้

คะแนนรวมกับหนังเรื่องนี้ 8/10

อยากให้ทุกคนลองไปชมผลงานหนังผีของคุณพจน์ อานนท์ในเรื่องล่าสุดนี้ก่อน ค่อยมาตัดสินว่าหนังเรื่องนี้ดีไม่ดีอย่างไร และ ถูกใจหรือไม่ แล้วหลังจากที่ไปดูแล้ว เราจะได้มาวิภาควิจารณ์กันถึงข้อข้องใจของหนังเรื่องนี้เหมือนกับเรื่อง 5 แพร่งที่เคยเป็นมาแล้วในเฉลิมไทย

---อาจเป็นเพราะเราคู่กัน มาแต่ชาติไหน จะรัก ..รักเธอตลอดไป เป็นลมหายใจของกันและกัน---

เครดิตรูปและประวัติผกก.จาก //www.popcornmag.com/bbs/index.php?showtopic=7296

Create Date : 21 มกราคม 2553

Last Update : 21 มกราคม 2553 15:29:57 น.

6 comments

Counter : 2026 Pageviews.

Joblovenuk คอนเฟิร์ม หนังพี่เค้าดีจริงๆ อิอิ
ไปดูมาแล้ว

โดย: joblovenuk

วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:21:52:28 น.

ว่าจะถามถึงอยู่เหมือนกัน ไว้ได้ดูแล้วค่อยคุยอีกที

โดย: จุใจ

วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:13:01:56 น.

ชอบใหม่ที่สุด สุดยอดมากๆเลยและตลก ฮา กระจายมากๆด้วย ทั้งเรื่องชอบใหม่ที่สุด

โดย: go IP: 117.47.133.217 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:33:54 น.

-.- เราว่าไม่หนุก แต่ก็แล้วแต่คนชอบอ่ะเนาะ

โดย: bimon IP: 118.174.3.163 วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:19:57:33 น.

"ซึ่งการตั้งชื่อแบบนี้บอกตามตรงก็คือมันมีผลในแง่ของการ ตลาด เรื่องนี้มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะต้องการเป็นกระแส พูดอย่างนี้น่าจะถูกต้องที่สุด''

พูดแบบนี้ถ้าให้พ่อแม่พี่น้องทั้งตระกูลของ จขกท. คือคนที่ตายบ้าง
จะมีความคิดแบบนี้อีกไหม

โดย: อย่าเห็นแก่ตัว IP: 61.90.97.150 วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:1:56:33 น.

^
^

เราไม่ได้เป็นคนตั้งจะมาด่าเราทำไม ไร้สาระ

โดย: dfh

วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:9:54:25 น.