BANGKOK INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 09

1.Antichrist

หนังดี แต่ลองคิดดูแล้วกัน เรท 20+ อะ จะขนาดไหน เห็นอะไรต่อมิอะไรแบบไม่เซ็น สุดยอด

ส่วนตัวเนื้องเรื่องสื่อได้ดีมาก หนังเกี่ยวกับความเชื่อโบราณ และ สามารถโยงมาเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน ไม่รู้ว่ายังมีฉายอยู่อีกหรือเปล่า แต่ก็แนะนำให้ไปดู เพราะ ถือว่าทำได้ดี น่าหวาดเสียวและลุ้นระลึกอยู่ตลอดเวลา แทบจะปิดตาทั้งเรื่อง หนังมีฉากโหดอยู่พอตัวเลย ทำให้ในหลายๆฉากเราต้องถึงกับเบือนหน้าหนี และ เราคิดว่าคนอื่นที่ไปดูก็คงไม่ต่างกัน

ทำให้คิดว่าสมควรแล้วว่าทำไมในเทศกาลหนังเมืองคานส์ถึงมีคนบอกว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่อื้อฉาว และ ถูกวิภาควิจารณ์เป็นอย่างมาก

คำโปรย

Antichrist เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง (นำแสดงโดย Willem Dafoe น่าจะรู้จักเขามาแล้วใน Spiderman ในบท Green Goblin และ Charlotte Gainsbourg) ที่สูญเสียลูกชายเพราะอุบัติเหตุ(ตกตึก) ในขณะที่พวกเขามีอะไรกัน ทั้งคู่เสียใจและย้ายหนีเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าลึก ภรรยาของเขาก็ได้พบเหตุการณ์แปลกประหลาดต่างๆ จนในท้ายที่สุดเธอก็ต้องเป็นบ้า!! หนังเน้นไปในเรื่องของกาม ตัณหา ที่สองสามีภรรยาทิ้งมันไม่ได้ จนในที่สุดพวกเขาก็ต้องเจอแต่เรื่องร้ายๆ อย่างไมคาดคิด!! จากการกำกับของ Lars von Trier

หลังจากที่บากบั่นไปดูอย่างยากลำบาก แต่ออกมาแล้ว ความรู้สึกคืออึ้ง ไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะ แต่ บอกได้คำเดียวว่า หนังเรื่องนี้ " แรง "

แนะนำว่าใครที่ยังไม่ได้ดู ให้รีบไปดูนะ เพราะหนังแบบนี้หาได้ยาก แต่เค้าจำกัดห้ามอายุต่ำกว่า 20 เข้านะ มีตรวจบัตรประชาชน

ไม่รู้ว่ายังมีฉายในเทศกาลหนังนานาชาติอยู่หรือเปล่า พรุ่งนี้เราก็มีโปรแกรมดูต่ออีก 3 เรื่อง i killed my mother , vincere , a prophet วันอังคารเรื่อง dogtooth รีบๆไปดูเข้านะ หนังเทศกาลจะฉายถึงวันที่ 30 นี้เท่านั้น ส่วนหนังดีดีที่แนะนำหนะ หากพลาดวันพรุ่งนี้แล้วก็หาดูยากแล้วหละ เพราะวันธรรมดาไม่ค่อยมีฉาย มีฉายแต่เรื่องที่ไม่น่าดู

กรรไกรในภาพนี้ทำให้เราเกิดอารมณ์หวาดเสียวยังไม่หายเลยสิ เสียวช่วงล่างหละ ใครที่ไปดูคงจะรู้ว่าทำไม

ถ้าพลาดเรื่องนี้จากเทศกาลหนังแล้ว ไม่รู้ว่าค่ายไหนจะเอามาฉายไม๊ ถ้าไม่ใช่เฮาส์คงยากอะ เพราะหนังแรงมาก สังคมไทยคงรับไม่ได้ หากเข้าโรงปกติสงสัยโดนตัดจนหนังเหลือแค่ ไม่ถึง 10 นาที เพราะ ฉากเอ็กซ์กับฉากโชว์เยอะมาก สมจริงสุดๆ




สปอยล์

สปอยด์เรื่อง antichrist เพราะเห็นเจ้าของบล๊อคบอกว่าดูยาก ซึ่งคนอื่นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เลยขออธิบายนะคะ เอามาจากกระทู้



คือมันเหมือนเป็นเรื่องเล่าโบราณตั้งแต่สมัยนานมาแล้วค่ะว่า เมื่อก่อนเค้ามีพิธีที่นำผู้หญิงมาบูชายัญที่ป่าเอเดนเพราะ คิดว่าผู้หญิงเป็นแม่มดต้องฆ่าแล้วเอามาบูชายัญ และมีความเชื่อว่าผู้หญิงมีความชั่วร้ายแฝงไว้ในตัวทุกคน ดังนั้นตอนแรกที่พระเอกเค้าต้องการบำบัดเมียเองเพราะเค้าเป็นนักจิตเวท แล้วคราวนี้ก็ให้เลิกกินยา เราว่าเพราะอย่างนี้แหละที่ทำให้นางเอกหลอนและควบคุมตัวเองไม่ได้ คือเรื่องนี้อารมณ์เหมือนด่าผู้หญิงหนะคะ ว่าจิตใจเต็มไปด้วยตัณหาและราคะ ดังนั้นเลยปล่อยให้ลูกตายทั้งๆที่ตัวเองก็เห็น คือ ในเรื่องสื่อว่า เมื่อแม่กับลูกที่ป่าเอเดนครั้งแรกก็ทำให้เปลี่ยนไปเหมือนโดนความชั่วร้ายเข้าสิง จากนั้นเลยเหมือนทำร้ายลูก ทำร้ายผู้ชาย และเมื่อพระเอกพานางเอกมาที่ป่าอีกครั้งก็เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ จิตใต้สำนึกที่เต็มไปด้วยตัณหาและราคาเพิ่มทับทวีขึ้น จึงต้องการเรื่องเพศอยู่ตลอด และ ที่ทำร้ายผู้ชายเพราะ เมื่อเข้ามาในป่าแล้ว เมียไม่ได้คิดว่าเป็นสามีอีกต่อไป ขาดสติแหละ ก็ต้องการทำร้ายผู้ชายทั้งโลก เพราะโดนป่าครอบงำ อาจจะด้วยดวงวิญญาณของคนที่เคยตายในป่านี้มาก่อนเกลียดผู้ชายเพราะฆ่าตัวเอง ดังนั้นผู้ชายคนไหนที่เข้ามาในป่านี้ก็อาจจะต้องตาย แต่ นางเอกก็ยังสำนึกหรือมีสติบางครั้งจึงรู้สึกผิดที่ตัวเองหลงตัณหามากจนทำให้ลูกตายจึงตัดของตัวเองซะ เหมือนเวลาที่ผู้ชายสำนึกผิดก็จะตัดของตัวเอง แล้ว สัตว์ทั้งสาม ตามตำราที่พระเอกไปค้นเจอ คือ เอกสารที่นางเอกค้นเพื่อทำวิทยานิพนธ์ตอนที่มาป่าครั้งแรกแล้วบอกว่าเขียนไม่เสร็จ ซึ่งด้วยความลึกลับของป่าบวกกับเอกสารที่นำมาทำรายงาน ก็ยิ่งผูกความเชื่อนางเอกกับความลึกลับของป่าอีเดน

นางเอกเริ่มสติแตกหลังจากกลับมาจากการที่เข้าป่ากับลูกเพื่อไปทำวิทยานิพนธ์ครั้งแรก แต่อาการยังไม่กำเริบเท่าไหร่ จนกระทั่ง ลูกตาย ก็ยิ่งทำให้เพ้อหนักขึ้น+ความรู้สึกผิดเห็นตอนลูกตกลงไปแต่ไม่ช่วย ด้วยความที่ถูกป่าอีเดนครอบงำ และเมื่อพระเอกนำมาบำบัดเองกลับยิ่งทำให้นางเอกเพ้อหนักขึ้นเพราะตอนแรกนางเอกกลัวป่าอีเดน แต่พระเอกกลับทำให้นางเอกรวมเป็นสิ่งเดียวกับกับป่า โดยการให้ลองย่ำลงไปบนพื้นหญ้าและนอนลงไป ดังนั้นนางเอกจึงไม่เหลือความเป็นตัวเองอีกต่อไป และทำตามคำสั่งของป่าหรือสัญญาตญาณของตัวเอง หลังจากนั้นก็ยิ่งเพ้อหนักจนถึงกับลุกขึ้นมามีเซ็กส์กลับพระเอกกลางดึก ส่วนต้นไม้ที่อยู่ตรงบ้านนั้น ก้เหมือนเป็นต้นไม้ลึกลับที่มีชีวิต ลูกมันตกลงมาเหมือนการปลุกนางเอกให้ทำตามสัญญาตญาณ คือให้หลงลืมความเป็นตัวตนของตนเองไปสิ้น

ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าหากหากเจอสัตว์ทั้งสามจะต้องมีคนตาย สุนัขจิ้งจอก อีกา กวาง ดังนั้นเมื่อ เจอสัตว์ทั้งสามตอนที่อยู่ในบ้านแล้ว พระเอกจึงรู้ว่าเมียตัวเองจะฆ่าตัว ดังนั้นเลยต้องชิงฆ่าก่อน และ ตอนที่เมียพูดว่า รอให้ถึงเวลาก่อนนั้นก็คือรอสัตว์ทั้งสามแหละ และการที่เอาเหล็กมาถ่วงขาพระเอกก้เพื่อที่ว่าพระเอกจะได้ไม่หนีไปไหนจนถึงเมื่อยามที่สัตว์ทั้งสามมาจะได้ฆ่าบูชายัญ

และตอนสุดท้ายที่มีผู้หญิงเข้ามาป่าอีเดนมากมาย เค้าไม่ได้เดินมาหาพระเอก แต่เค้าเดินเข้ามาป่าอีเดน เพราะ เหมือนพลังของป่าอีเดนนี่จะเรียกให้ผู้หญิงเข้ามายังป่า และ ก็กลายเป็นวัฏจักรเหมือนคู่พระเอกนางเอกต่อไปเรื่อยๆไม่มีวันจบสิ้น

หนังเรื่องนี้สื่อให้เห็นว่า ผู้หญิงนั้นน่ากลัวและเต็มไปด้วยตัณหาและราคะ

เพิ่มเติม สัตวืโผล่มาตลอดเรื่อง ก้สื่อเหมือนเป็นสัญญาณของความตายไง คือ สัตว์เริ่มโผล่มาให้พระเอกเห็นตลอดเรื่อยๆตั้งแต่ กวาง สุนัขจิ้งจอก และอีกาในโพรงพุ่มไม้

แล้วอีกอย่าง กวางตัวนั้น ตอนแรกท้องจะคลอดลูก แต่ไม่ได้คลอด สังเกตุที่มีอะไรห้อยๆหว่างขาตอนท้ายๆ น่าจะหมายถึง แสดงเหมือนลูกของพระเอกกับนางเอกที่ตายตั้งแต่ยังเด็ก

2.kinatay: เรื่องนี้เป็นการดำเนินเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนพ่อลูกอ่อน เพราะ ตัวเองก็ยังเรียนไม่จบส่วนเมียก็ออกจากโรงเรียนมาเลี้ยงลูก เรียกได้ว่าเป็นครอบครัววัยรุ่นนั่นเอง ทำให้การใช้ชีวิตอาจจะลำบากเพราะยังเด็กเกินกว่าที่จะสามารถหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวได้จึงต้องไปทำงานให้กับกลุ่มตำรวจชั่วๆ ตั้งแต่ระดับจ่าถึงผู้การ เรื่องนี้ทำให้เราได้รู้และได้เห็นว่าสังคมของตำรวจนั้นไม่ได้มีแต่ภาคที่ดูแลปกป้องประชาชนเท่านั้นแต่มีอีกภาคหนึ่งซึ่งคอยหากินกับประชาชนโดยทำงานในเวลากลางคืน

เรื่องนี้การดำเนินเรื่องตื่นเต้นเป็นระยะๆ ถือว่าดีแต่ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นที่ไปดูวันนี้ก็คิดว่ายังไม่สุด



3.A prophet: เด็กหนุ่มอายุ 19 ปีต้องถูกจำคุก 6 ปี ทำให้ต้องเข้าไปอยู่ในสังคมคนคุกซึ่งเสื่อมโทรมมีทั้งการค้ายาและฆ่าคน แต่เนื่องจากเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนหัวไว แม้ว่าตอนแรกเค้าอ่านและเขียนหนังสือไม่ได้ แต่เค้าก็ได้ไปเรียนหนังสือในคุก ทำให้เค้าจากที่เคยเป็นคนอ่อนแอและต้องอยู่โดดเดี่ยวในตอนแรก กลับกลายมาเป็นคนหนึ่งที่กุมอำนาจบางส่วนทั้งภายนอกและภายในคุก

ดูเรื่องนี้แล้วทำให้คิดถึงเรื่อง prison break ตอนติดคุกที่ปานามา แต่พระเอกไม่ได้ฉลาดเท่า scofield หรอก แต่ว่า หล่อเหมือนกันและสามารถผลักดันตัวเองจากที่เคยเป็นมดตัวเล็กๆในกรงขังกลับกลายเป็นคนที่มีอำนาจจนสามารถควบคุมคนอื่นๆได้

เรื่องนี้ประทับใจที่หน้าเอกหล่อเหลาจริงๆ มองหน้าพระเอกตลอดเรื่องเลย



4.i killed my mother: หนังเรื่องนี้ผกก.อายุเพียงแค่ 20 ปี แถมยังเล่นเองเสียอีก และเล่นได้สมจริงซะด้วยเพราะเป็นเรื่องของตัวเองล้วนๆ เรื่องนี้เน้นไปในเรื่องเด็กวัยรุ่นที่ทะเลาะกับแม่ได้ในทุกๆเรื่องและทุกๆวัน จริงๆก็เหมือนวัยรุ่นปกติทั่วๆไปแหละที่ทะเลากับพ่อแม่เพราะทัศนคติไม่ตรงกัน อาจจะเพราะความห่างกันด้วยอายุ ทำให้บางทีพ่อแม่ไม่สามารถที่จะเข้าใจจิตใจลูกๆได้ทุกๆเรื่อง

เรื่องนี้ประทับใจมากจริงๆ ถึงแม้ว่าลูกกับแม่จะทะเลาะกันมากมายขนาดไหน แต่ในจิตใจลึกๆนั้น ทั้งแม่และลูกนั้นต่างก็รักกัน เรื่องนี้คนดูเต็มโรงเลย ขนาดตามทางเดินยังมีคนนั่งสุดยอด คนดูแทบล้นโรง แถมตอนจบคนยังปรบมือกันดังมาก แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ดีและน่าประทับใจมากจริงๆ



5.VINCERE : หนังอัตถชีวประวัติของไอด้า ผู้ซึ่งเป็นเมียลับๆของมุสโสลินี ผู้เรียกร้องสังคมนิยมให้กับประชาชนอิตาลี ไอด้าซึ่งยอมทุ่มเททั้งความรักและจิตวิญญาณทุกสิ่งทุกอย่างถึงกระทั่งขายร้านและของมีค่าเพื่อให้มุสโสลินีนำเงินไปเปิดโรงพิมพ์ของตัวเองเพื่อเรียกร้องให้เกิดสงคราม เธอยอมทิ้งทุกสิ่งอย่างเพื่อตามมุสโสลินีคนที่เธอรัก แม้ว่ามุสโสลินีนั่นจะมีภรรยาอยู่แล้วก็ตามที เธอและลูกต้องใช้ชิวิตในฐานะเมียเก็บไปตลอดช่วงชีวิตของเธอ เธอต้องอยู่อย่างลำบากและโดดเดี่ยวโดยที่มุสโสลินีคนที่เธอรักเมื่ือไปสงครามแล้วก็ไม่ได้กลับมาหาเธอและลูกอีกแถมยังไปมีเมียใหม่ให้เธอช้ำใจ และ ยังไม่ยอมรับลูกของตัวเองอีกด้วย

หนังเรื่องนี้ทำให้รู้สึกสะเทือนใจมาก ว่าขนาดคนที่มีอุดมการณ์รักชาติสูงส่งเพียงใด แต่ก็ไม่ได้เอาใจใส่หรือรับผิดชอบครอบครัวของตัวเองเท่าใดนัก นักแสดงหญิงเรื่องนี้เล่นได้สมบทบาทมากๆ เธอมีทั้งความหยิ่งผยองสมกับเป็นเมียท่านผู้นำ แถมยังใช้แววตาแสดงความรู้สึกได้ดีมากๆ

จริงๆเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีมาก ชอบเรื่องมุมกล้องและภาพสวยมาก รวมทั้งดนตรีที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามนั้นจริงๆ ภาพตัดกับฉากสงครามที่เป็นสีขาว-ดำได้อย่างลงตัว แม้ช่วงแรกของเรื่องจะน่าเบื่อและเนือยไปบ้าง แถม ฉากเซ็กส์ยังนานได้ใจอีก มีถึง 2 ฉาก และช่วงท้ายยังรู้สึกหิวข้าวเพราะหลังจากเที่ยงก็ยังไม่ได้กินอะไรเพราะต้องดูหนังติดกัน ทำให้คิดว่าหนังเรื่องนี้นานมากจริงๆ




ใน 4 เรื่องนี้ชอบเรื่อง i killed my mother มากที่สุด เพราะใกล้ตัวมากๆ และคิดว่าโดนใจใครหลายๆคนที่ชอบเถียงพ่อแม่และบางคนที่มีพ่อแม่เป็นคนแก่หัวดื้อ ดูเรื่องนี้แล้วคงทำให้รู้สึกสะใจและโดนใจในคำพูดหลายๆประโยค ทุกๆประโยคฉะกันแบบกินกันไม่ลงเลยทีเดียว

คำพูดที่โดนใจมากคือ " ถึงผมจะรักแม่ของผม และ หากมีใครมาทำร้ายแม่ผม ผมคงอยากจะฆ่ามันให้ตาย แต่ก็มีคนอีกหลายร้อยคนที่ผมรักมากกว่าแม่ของผม"

6.EVERYONE ELSE : หนังแนะนำ1 ใน 5 เรื่องที่ทาง เทศกาลหนังครั้งนี้แนะนำไว้

หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับ ผู้ชายเป็นสถาปนิก ส่วนผู้หญิงเป็นผู้ดูแลวงดนตรีวัยรุ่นของค่ายเพลง นิสัยและแนวความคิดของทั้ง 2 คน แตกต่างกันอย่างมาก แต่ต่างก็อยู่ด้วยกันได้เพราะต่างคนต่างก็รักกัน แม้ทั้ง 2 คนจะไม่พอใจอีกฝ่ายหนึ่งมากแค่ไหน แต่ก็ปิดปากเอาไว้ไม่พูดออกมา ได้แต่เก็บความรู้สึกอึดอัดไว้ในใจ เพราะ เกรงว่าหากพูดออกไปจะสั่นคลอนต่อความสัมพันธ์ได้ แต่บางสิ่งบางอย่างเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อมีสามี-ภรรยาคู่หนึ่งเข้ามาในชีวิต ซึ่งตัวสามีเป็นเพื่อนสมัยเรียนของพระเอกได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนทั้ง 2 มากขึ้น ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง2 เริ่มมีปัญหา เนื่องจาก นางเอกไม่ชอบที่เพื่อนของสามีที่พูดจาเหมือนสั่งสอนและดูถูกตนเอง ทำให้นางเอกเริ่มกังวลว่า เธอไม่สามารถที่จะเข้าสังคมของพระเอกได้ และ คิดว่าเธอเองก็ไม่เหมาะสมกับพระเอกเนื่องจากวิถีในการดำเนินชีวิตต่างกัน

หนังได้ชี้ให้เห็นว่า มี คู่สามี-ภรรยา 2 คู่ที่เข้ามาในชีวิตของพระเอกและนางเอก ซึ่ง พระเอกเลือกเข้าหาคู่ของเพื่อนตัวเอง ส่วนนางเอกเลือกเข้าหาคู่ที่ตัวเองไปรู้จักโดยบังเอิญและถูกชวนให้ไปแล่นเรือ หนังชี้ให้เห็นถึงความต่างในด้านความคิด สังคม การดำเนินชีวิตของคนทั้งคู่ แม้ว่าทั้ง 2 คนจะรักกันมากเพียงใดก็ตาม แต่ ทั้ง 3 สิ่งนี้ก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับคนทั้ง 2 อยู่เรื่อยไป แม้ว่าทั้ง2จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับสังคมของอีกฝ่ายเพียงใด แต่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นตัวเองได้

หนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นข้อคิดที่ดีให้กับของครองรักของคู่รักในสังคมปกติที่พบเห็นอยู่ได้ทั่วไปในท้องถนน ไม่ว่าคู่รักคู่ไหนก็ตาม ก็ต้องมีเรื่องระหองระแหงกันอันเนื่องมาจากความคิดที่แตกต่างกันด้วยกันทั้งสิ้น แต่ความแตกต่างของคู่รักแต่ละคู่ก็คือ การจัดการต่อความแตกต่างทางด้านความคิดของคู่รักแต่ละคู่ หนังเรื่องนี้ได้สะท้อนมุมมองการจัดการความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมุมมองความรักของพวกเค้าอาจจะทำให้คู่รักบางคู่ที่ได้ชมหวนกลับไปคิดถึงเรื่องของตนเองได้ไม่มากก็น้อย



7. 35 SHOTS OF RUM:

หนังเรื่องนี้มีกระแสที่ดีมากๆ จึงทำให้อยากเข้าไปดูแม้ว่าไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องราวเกียวกับอะไร

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ฉายภาพการดำเนินชีวิตของคนผิวสี ซึ่งอยู่กัน 2 คนพ่อและลูกสาวในอพาร์ทเม็นท์หนึ่ง ทั้งคู่รักกันมาก แต่ก็ยังคงมีความคิดเห็นหนึ่งที่แตกต่างกันคือ พ่อพอใจกับชีวิตที่อยู่กัน 2 คนแล้ว แต่ลูกกลับไม่ต้องการเช่นนั้น ลูกสาวได้คบกันคนข้างห้องซึ่งเป็นชายคนหนึ่งที่รักอิสระ ชอบเดินทางไปรอบโลกและกลับมายังอพาร์ทเมนท์นานๆที และ ยังมีเจ้าของอพาร์ทเม็นท์ซึ่งเป็นคนขับแท็คซี่ดูเหมือนจะมีใจให้คนพ่ออยู่ แต่ตัวพ่อเองนั้นกลับเลือกที่จะปิดโอกาสตนเอง เพราะ ต้องการอยู่ 2 คนกับลูกสาวเท่านั้น 2 พ่อลูกจึงมีความคิดที่แตกต่างกัน

เมื่อลูกสาวเริ่มมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเพื่อนข้างห้องมากขึ้น พ่อกลับหวงลูกสาวและไม่พอใจมาก จนทำให้ลูกสาวเริ่มอึดอัดใจ ประกอบกับ ชายหนุ่มมีความคิดที่จะออกเดินทางอีกครั้งและไปทำงานที่ต่างแดนและขาย
อพาร์ทเม็นท์ของตัวเอง ทำให้ลูกสาวเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวและต้องการที่จะตามชายหนุ่มไปด้วย ทำให้พ่อเริ่มรู้สึกได้ว่า การมีอยู่กัน 2 คนของตัวเองและลูกสาวเริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว จึงต้องตัดสินใจว่าจะเลือกที่จะเก็บลูกสาวไว้กับตนเองหรือปล่อยให้ลูกสาวเดินไปตามทางที่ตนเองต้องการ

เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่นำเสนอเนื้อหาได้ดีมาก ถึงแม้ตอนแรกอาจจะยังงงๆกับ 35 shorts ที่ตัวพ่อพูดถึงบ่อยๆ แต่เมื่อเข้าใจความหมายก็ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายขึ้น ถ้าเทียบกับเรื่อง everyone else เราให้เรื่องนี้นำฉลุยเลย โชคดีมากที่ไม่พลาดเรื่องนี้


Q&A: อาจจะสปอยด์ ใครยังไม่ได้ดูไม่ต้องอ่านนะ



ผกก.ได้บอกไว้ว่าหนังเรื่องเป็นได้รับแรวบังดาลใจจากตาและแม่ของตัวเองที่ได้ใช้ชีวิตกัน 2 คน

ตัวแทนของเวลา คือ เลอเน่และแมว ซึ่งได้สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงของชีวิต เลอแน่แสดงถึงว่า บางคนแม้ถูกมองว่าชีวิตจะต้องมีจุบจบที่สวยงามแต่ตัวเค้าเองอาจจะไม่ได้เลือกที่จะเป็นแบบนั้น เค้าเลือกที่จะจบชีวิตของตนเองตามที่เค้าต้องการ แม้จะไม่ได้สวยงามก็ตามที ทำให้พ่อได้ฉุกคิดว่า คนเราย่อมต้องเลือกทำตามสิ่งที่ตนเองต้องการแม้ว่าสิ่งที่ต้องการอาจจะไม่ได้ดูสวยหรูแต่เมื่อเป็นสิ่งที่ตนเองเลือกแล้ว คนเราก็จะทำตามความคิดของตนเองแม้ว่าผลจะออกมาแย่ก็ตาม ถึงมีความคิดที่จะปล่อยลูกสาวให้เดินทางไปตามความคิดของตนเอง

แมว แสดงถึง การเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่ม ซึ่งเมื่อแมวตายไปแล้ว ทำให้ชายหนุ่มไม่มีสิ่งผูกมัดตนเองกับอพาร์ทเมนท์นี้อีกต่อไป จึงเลือกที่จะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ และ มีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงของ2พ่อ-ลูกอีกด้วย

การประท้วงของนักศึกษา ผกก.ต้องการแสดงความคิดเห็นของตนเองผ่านในหนังว่า ในฝรั่งเศสได้มีปัญหาอย่างมากในเรื่องที่ว่า ในฝรั่งเศสนั้นแทบจะไม่มีคนที่เป็นฝรั่งเศสเหลืออยู่เลย คนที่เข้ามาร่ำรวยในประเทศต่างก็เป็นคนต่างชาติทั้งสิ้น และ ทางมหาวิทยาลัยที่มีแต่นักศึกษาจนๆต้องการที่จะยุบคณะสังคมเพราะคิดว่า ถึงแม้ว่า นักศึกษาพวกนี้จะเรียนไปก็ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์อยู่ดี ผกก.ต้องการสื่อว่า ตัวเองนั้นไม่เห็นด้วยกับการกระทำเหล่านี้ จึงทำให้มีฉากในการประท้วงขึ้นมา

ที่สำคัญสุด ตำนานของเรื่อง 35 ช็อตนั้นมาจาก มีเรื่องเล่าของคนโบราณว่า มีพ่อคนหนึ่งยอมแลกลูกสาวด้วยเหล้ารัม 35 ช๊อต แต่ผกก.ไม่ได้เล่าไปในเนื้อเรื่อง



8.Dogtooth

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง แค่เคยอ่านจากหลายๆคนว่า เป็นครอบครัวที่พ่อขังลูกสาวไว้ในบ้าน เราก็เลยคิดถึงข่าวเรื่องที่พ่อขังลูกสาวตัวเองในบ้านเพื่อข่มขื่นเป็นเวลาหลายสิบปี

หลังจากที่ดูมาจากโปรแกรมนี้แล้วบอกได้คำเดียวว่า ชอบเรื่องนี้มากที่สุด
เพราะหนังแปลกและจับประเด็นในการสื่อได้ดี

{สปอยด์นิดหน่อย แต่ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ}

หนังเรื่องนี้ถ้าจะใช้คำว่า พ่อแม่รังแกฉัน ก็เห็นว่าน่าจะได้ เพราะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ที่ให้ลูกสาว 2 คนและลูกชายอยู่แต่ในบ้าน บ้านหลังนี้เต็มไปด้วย เครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง และ ยังมีสระว่ายน้ำ เรียกได้ว่า มีทุกอย่างครบครัน จนไม่จำเป็นจะต้องออกไปหาอย่างอื่นนอกบ้านมาเพิ่ม และ เหตุผลว่าทำไมในบ้านนี้ถึงมีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เพราะ พ่อแม่ไม่ต้องการให้ลูกของตัวเองออกไปนอกบ้าน เนื่องจากคิดว่า โลกภายนอก(ซึ่งก็คือนอกบ้านนั่นแหละ แค่พ้นเขตบ้านก็ออกไม่ได้ละ) มีแต่สิ่งชั่วร้าย ไม่อยากให้ลูกไปรับอิทธิพลความชั่วจากภายนอก และ คิดว่าหากลูกอยู่แต่ในบ้าน ลูกก็จะเจอแต่สิ่งที่ดีดี และเป็นคนดี

การสอนลูกบ้านนี้แปลกมากคือ ทุกๆวัน ลูกจะต้องแข่งกันเล่นเกมส์หรือปัญหาต่างๆที่พ่อแม่ตั้งขึ้นมา ถ้าหากว่าใครชนะก็จะได้รับรางวัล และ รางวัลคือสามารถเลือกวิดิโอได้ แต่วิดิโอนั้นก็ไม่ใช่หนังทั่วไปแบบที่คิด วิดิโอนั้นคือ วิดิโอครอบครัวที่พ่อเป็นคนถ่าย เรียกได้ว่า พ่อแม่ ไม่ต้องการให้ลูกรับรู้เรื่องราวภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียว ทีวีก็ไม่มีช่องอื่นให้ดู เวลาพ่อแม่จะฟังเพลงก็ต้องใส่หูฟังเพื่อไม่ให้ลูกได้ยิน หรือแม้แต่โทรศัพท์ยังแอบซ่อนไว้ในตู้เก็บอย่างดี เพื่อไม่ให้ลูกได้รับรู้เรื่องราวภายนอกเลยแม้แต่อย่างเดียว และเพื่อเป็นการตอกย้ำไม่ให้ลูกมีความคิดที่จะออกนอกบ้าน ก็สร้างเรื่องว่า ภายนอกบ้านมีอันตรายมาก หากยังไม่พร้อม ถ้าออกไปนอกบ้านอาจจะตายได้ โดยการถูกสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "แมว"ทำร้าย จนทำให้ลูกชายได้พลั้งมือฆ่าแมวเพราะคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมและจะมาทำอันตรายตน

แต่วันนึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนพ่อได้พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา ผู้หญิงคนนี้คือยามในโรงงานที่พ่อได้ทำนอยู่ พ่อได้ให้ค่าจ้างเธอเพื่อแลกกับการนอนกับลูกชายตัวเอง แต่ระหว่างที่พาเธอมา พ่อก็ได้ให้ที่ปิดตากับผู้หญิงคนนั้นเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน และการเปลี่ยนแปลงก็เริ่มเกิดขึ้นจากตัวผู้หญิงคนนี้เองนี่แหละ เพราะ เวลาเธอมา เธอก็จะมาพูดคุยกับลูกสาวทั้งสอง และ ทำให้ลูกสาวทั้ง 2 ได้พบเห็นอะไรใหม่ๆที่เธอนำติดตัวมาด้วยจนทำให้ลูกสาวคนโตที่ได้สนิทสนมกับผู้หญิงคนนี้เริ่มมีความคิดอยากที่จะออกไปนอกบริเวณบ้าน

{ข้อคิดที่ได้}

หนังเรื่องนี้เสียดสีครอบครัวหัวโบราณ ซึ่งคงเคยเห็นครอบครัวคนจีนบางครอบครัว ประเภทที่ต้องการให้ลูกอยู่กับตัวเองตลอด ไม่ให้คบค้าสมาคมกับใคร ปิดกั้นทั้งความคิดและพฤติกรรม ลูกต้องเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ทุกอย่าง ขนาดคู่ครองพ่อแม่ยังเลือกให้ พ่อแม่จำกัดเวลาเข้าออกนอกบ้านลูก บังคับลูกให้แต่เรียนหนังสือ ส่วนหนังสือการ์ตูนและหนังคิดว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระ หากเจอก็จะถูกทำโทษหรือโยนทิ้งขยะ บังคับลูกปฏิบัติตัวตามกฎหรือกรอบที่พ่อแม่วางไว้ให้ เพราะ เชื่อว่าความคิดของตัวเองนั้นเป็นสิ่งถูกต้องที่สุด และ สิ่งที่ตัวเองทำเป็นการหวังดีต่อลูก ซึ่งจริงๆนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดก็ได้ หากว่า สุดโต่งเกินไป การที่ลูกกระทำตามการชักใยของพ่อแม่อาจจะส่งผลร้ายต่อลูกในอนาคตก็ได้

ซึ่งตัวเราเองก็มาในครอบครัวแบบนี้เหมือนกัน ฉะนั้นเวลาช่วงแรกๆของชีวิตนั้นจะคิดอะไรนอกกรอบไม่เป็น เวลาจะทำอะไรต้องอาศัยการตัดสินใจของพ่อแม่ประกอบด้วยทุกครั้ง และพอโตขึ้น เมื่อได้สัมผัสกับโลกภายนอกก็จะตื่นเต้นและต้องการที่จะสนุกกับมัน เพราะ ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และ เมื่อไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน จึงไม่เคยเรียนรู้วิธีการที่จะจัดการกับมัน ดังนั้นจึงต้องลองผิดลองถูกหลายๆครั้งจนทำให้ชีวิตเกือบพังพินาศไปแล้ว

ฉากจบของเรื่องนี้ทำให้ สามารถพูดคำเดียวว่า "พ่อแม่รังแกฉันจริงๆ" จบด้วยความอึ้งและช๊อคไปชั่วขณะหนึ่ง ความคิดเอาแต่ใจของพ่อแม่ อาจจะทำให้เกิดสิ่งเลวร้ายกับลูกได้เหมือนกัน

ดังนั้นไม่ว่าจะเลี้ยงลูกหรือทำอะไรก็ตาม ต้องอยู่ในทางสายกลางหรือความพอดี อย่าสุดโต่งจนเกินไป เพราะเห็นในหลายครอบครัวแล้วที่ พ่อแม่ใช้ความคิดของตัวเองมากะเกณฑ์ลูก จนทำให้ลูกเครียดถึงกับฆ่าตัวตายหรือหนีออกจากบ้าน ทำให้ ชีวิตพังพินาศไป อย่างนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่า หวังดีหรือหวังร้ายกับลูกกันแน่

หากมองในแง่ของการปกครองประเทศชาติ ก็มองได้อีกแง่หนึ่งว่า เปรียบพ่อแม่เหมือนผู้นำประเทศที่ปกครองโดยสังคมนิยม หรือ คอมมิสนิสต์ และ ลูกทั้ง 3 เปรียบเสมือนประชาชนในประเทศ ทำให้เราคิดถึงประเทศจีนอีกแล้ว ที่มีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์จำกัดการศึกษาและความสามารถของประชาชนในประเทศไม่ไห้ล้ำหน้ามากเกินไปกว่าตัวเอง เพราะว่า กลัว ประชาชนมีความรู้สูงและมีความคิดที่จะกล้ามาต่อสู้กับรัฐบาล ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ เมื่อผู้นำสั่งอะไรก็ต้องเชื่อฟังตามนั้น หากไม่เชื่อฟังก็จะมีบทลงโทษที่รุนแรง

ดูจากในภาพโปสเตอร์ลูกถูกปิดตาอยู่ในสระว่ายน้ำ ขนาดปิดตาแล้วยังถูกขังในสระว่ายน้ำอีก สื่อว่า ถูกปิดกั้นทั้งความคิด การกระทำ แถมยังถูกกักบริเวณอีก ก็คล้ายๆกับ นกในกรงทองนั่นแหละที่เหมือนมีปีกแต่ก็บินไม่ได้

Create Date : 29 กันยายน 2552		1 comments
Last Update : 1 เมษายน 2553 14:48:02 น.
Counter : 1535 Pageviews.
Share Tweet