มือของแม่
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปรวดเร็วจนทำให้หลายคนหลงลืมเรื่องราวที่มีคุณค่าบางอย่างในชีวิต


คนเราจะมีอะไรมากไปกว่าการหมกมุ่นอยู่กับการทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความเจริญก้าวหน้าของตัวเอง ... น้องๆ ว่าจริงรึเปล่าคะ ?
จะมีใครบ้างที่จะให้ความสำคัญ และยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคนอื่นได้อย่างสุดจิตสุดใจ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จะมีใครสักกี่คนที่จะทำแบบนี้ได้ ... หากคนคนนั้นไม่ใช่ "ผู้ให้กำเนิด" เราให้ลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้

................. มื อ ข อ ง แ ม่ .....................
ภาพหญิงชรา ที่เดินหาบขนมขายอยู่ริมถนน ทำให้ผมหยุดชะงักอยู่ชั่วขณะ แม้ว่าแกจะเดินจากไปแล้ว แต่ภาพหญิงแก่ที่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อเดินฝ่าเปลวแดดออกไปนั้น ยังคงติดตรึงอยู่ในสายตาของผมจนยากที่จะสลัดออก
มือหยาบกร้านที่มีแต่เส้นเอ็นปูดโปนของหญิงแก่ ทำให้ ผมนึกถึง มือของผู้หญิงคนหนึ่ง ... ผู้หญิงซึ่งทำทุกอย่างเพื่อลูกน้อยของตนได้โดยไม่หวังอะไร นอกจากรอยยิ้มของลูก
ผู้หญิงคนนั้น.... คือ แม่ของผมเอง
แม่เป็นแม่ค้าที่หาบขนมขายอยู่ข้างถนน วันไหนขายดีก็มีเงินพอจับจ่ายตามอัตภาพ หากวันไหน ขายไม่ได้ ก็ต้องใช้เงินอย่างกระเบียดกระเสียร แต่แม่ก็ไม่เคยยอมให้ผมรู้จักกับความหิวโหย อะไรที่อยากกินแม่มักหามาให้ผมเสมอ ไม่ว่าของสิ่งนั้นมันจะทำให้แม่ต้องอดสักกี่มื้อก็ตาม
เวลาที่ผมนั่งกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย แม่มักจะมองดูเงียบๆ ริมฝีปากของแม่ปรากฏรอยยิ้มน้อยๆอย่างมีความสุข ตอนนั้นผมไม่เคยสนใจเลยว่าขนมชิ้นเล็กราคาแพงที่แม่หามาให้นั้ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของแม่กี่หยดไม่เคยนึกสงสัยด้วยซ้ำว่า หลังจากที่ผมกินขนมจนอิ่มจะมีอะไรเหลือตกถึงท้องแม่ไหม ?
ผมรู้เพียงอย่างเดียวคือ แม่เป็น หญิงแก่ที่หาบขนมขาย
ยามใดที่มโนธรรมมาย้ำเตือนให้ผมคิดถึงความเหน็ดเหนื่อยของแม่ สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอด ก็มักจะหลบเลี่ยงความรู้สึกผิดในใจด้วยการบอกว่า ในเมื่อแม่เกิดผมมามันก็เป็นหน้าที่ของแม่ที่ต้องหาบขนมขายเพื่อหาเลี้ยงผม ถ้าไม่มีอะไรกินขนมที่เหลือจากการขายมันก็ช่วยให้แม่อิ่มได้นี่นา
สองมือของแม่แตกระแหงหยาบกร้านเพราะกรำงานหนัก มือที่หยิบจับงานสารพัด ทั้งงานบ้าน งานครัว และงานเร่ขายของ มือที่เหลาไม้กลัด เจียนใบตอง ห่อขนม แล้วจัดเรียงใส่ลังนึ่ง มือที่จับพร้าผ่าฟืน ก่อไฟนึ่งขนม แต่เช้าตรู่ มือที่จับไม้คาน หาบกระจาดหนักอึ้งไปเร่ขายขนมจากเพลาสายจนบ่ายคล้อย
แล้วมือนั้นอีกนั่นแหล่ะ ที่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ คอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เมื่อลูกชายนอนซมเพราะพิษไข้
ยามเด็กเมื่อผมมองมือของแม่ บางครั้งผมต้องแอบเมินหน้าหนีด้วยนึกรังเกียจ มือแม่มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน หยาบ หนา เต็มไปด้วยริ้วรอยไม่น่ามอง ผมไม่ชอบความรู้สึกยามที่มือสากๆ มาจับต้องผิวอ่อนบางของผมเลย
ความมีสติ ทำให้ผมไม่กล้าเอ่ยความรู้สึกนี้ออกมาให้แม่ได้ยิน แต่มันก็ปิดบังแม่ไม่ได้หรอก ยามใดที่มือนั้นยื่นมาจับต้องดึงผมไปกอดไว้แนบอก ยามนั้นผมก็มักจะเบี่ยงตัวหนีด้วยความรู้สึกขยะแขยง
แม้ไม่เอื้อนเอ่ยออกมาเป็นวาจา แต่แววตาที่ผมแสดงออกมันก็บอกถึงความรู้สึกภายในอย่างโจ่งแจ้ง แววตาที่ทำให้แม่ชะงัก แม่มองหน้าผมอย่างเข้าใจ แล้วก็มีท่าทีงกๆ เงิ่นๆ อย่างคนรู้สึกผิด แม่ไม่พูดอะไรสักคำ มือหยาบกร้านนั้นกำแน่นค่อย ๆ ตกอยู่ข้างลำตัว ไหล่ของแม่ลู่ลง ... หลังจากวันนั้น มือของแม่ไม่กล้าที่จะเอื้อมมากอดผมอีกเลย
ตอนนั้นผมรู้สึกสบายใจนะ ที่ไม่ต้องสัมผัสกับมือที่หยาบกระด้างที่น่ารังเกียจนั่น แต่เมื่อ เวลาผ่านไป ผมกลับเกิดความรู้สึกที่ต่างจากเดิม...
จริงๆ แล้วสิ่งที่น่ารังเกียจไม่ใช้มือหยาบกร้านของแม่หรอก มือที่เนียนสวยราวกับลูกผู้ดีของผมต่างหากที่น่าขยะแขยง
ขณะที่มือแม่กร้านเพราะกรำงานหนักเพื่อเลี้ยงผม แต่มือที่อ่อนนุ่มของผมไม่เคยทำประโยชน์เพื่อใครเลยนอกจากตัวเอง
น่าขันนะ เมื่อผมเติบใหญ่และประสบความสำเร็จในชีวิต หลายครั้งหลายคราที่มีโอกาสจับต้องมือของผู้หญิงมากหน้า มือที่ นิ่ม หอมกรุ่นกับเล็บเคลือบสีสด และเรียวปากนุ่มสวยช่างฉอเลาะนั้นไม่ได้ทำให้ผมโหยหาเลยสักนิด
สิ่งที่ผมร่ำร้อง กลับเป้น มือที่หยาบกระด้างของผู้หญิงเพียงคนเดียว ... ผู้หญิงที่หาบคอนกระจาด เดินเร่ขายขนมอยู่ข้างถนนเพื่อเลี้ยงลูกชาย ผู้หญิงไม่ค่อยพูด ที่มักใช้สายตาเฝ้ามองผมอยู่เงียบ ๆ สายตาที่สื่อความรู้สึกของแม่คนนึงซึ่งมีต่อลูก สายตาอ่อนโยนคู่นั้น เหมือนกับจะบอกผมเสมอว่า ผมคือ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของแม่...
อาจจะเป็นเพราะพ่อจากไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นตั้งแต่ผมยังเล็กก็ได้ ทำให้แม่พยามทำทุกอย่างเพื่อชดเชยความเป็นลูกไม่มีพ่อให้ผมเท่าที่แม่ค้าหาบขนมขายอย่างแม่จะทำได้ แม่คงกลัวว่าผมจะกลายเป็นเด้กมีปัญหาเพราะขาดพ่อล่ะมั้ง แต่แม่ไม่เคยรู้หรอกว่าในสายตาของผม ผู้ชายที่ทำให้ผมเกิดมาไม่ได้มีความสำคัญกับผมเลยสักนิด ผมเกลียดผู้ชายคนนั้น .....
ตาแก่ที่กินเหล้าจนเมาเอะอะโวยวายทำร้ายแม่ผม หลายครั้งที่ผมเห็นพ่อใช้คำพูดถากถางระราน อาละวาดใส่แม่ แม่ผู้น่าสมเพชของผมก็ไม่เคยลุกขึ้นมาต่อต้านเลยสักนิด แม่มักยอมพ่อเสมอ ยอมถูกซ้อมเป็นกระสอบทราย แล้วก็แอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวเงียบๆ ยอมทำงานหนักเดินขายของวันละหลาย ๆ กิโล เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ส่วนเงินเดือนของพ่อน่ะหรือ? มันจมลงในขวดเหล้าหมดแล้ว
สภาพของแม่ที่ผมเห็นทำให้ผมได้แต่นึกในใจว่า ถ้าผมแต่งงาน ผมจะหาเมียอย่างแม่ แต่ถ้าผมเป็น ผู้หญิง ผมจะไม่ยอมมีชีวิตที่น่าเวทนาแบบแม่ เด็ดขาด !
ผู้หญิงที่ยอมเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ของผู้ชาย ผู้หญิงที่ยอมให้สามีโขกสับอย่างกับทาสในเรือนเบี้ย ยอมทำงานบ้านจนดึกจนดื่น ยอมตื่นแต่เช้ามาทำขนมขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ยอมแม้กระทั่งให้ผู้หญิงอื่นมาแย่งผัวตัวเองไปต่อหน้าต่อตา
แม่ยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นโดยไม่เคยคิดจะต่อสู้เรียกร้องสิทธิอะไรเลย
แม่มีปากเสียงกับพ่อเพียงครั้งเดียว ตอนที่พ่อจะเอาผมไปอยู่ด้วย ตอนนั้นผมเห็นแม่สู้ยิบตาราวกับ หมาจนตรอกเลยทีเดียว พ่อยอมให้ผมอยู่กับแม่อย่างไม่คิดจะเยื้อแย่ง
" น้ำหน้าอย่างเธอ จะเลี้ยงลูกได้สักแค่ไหนกันเชียว
อีกหน่อยลูกมันคงต้องหาบขนมขายทั้งชาติ เหมือนเธอ นั่นแหล่ะ "
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่แม่และผมได้ยินจากปากของพ่อ มันเป็นคำพูดที่ทำให้แม่ฮึดสู้ แม่ทำงานหนักตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินส่งผมเรียนสูง ๆ

ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำให้แม่ผิดหวังเลย การเรียนของผมอยู่ในขั้นดีเยี่ยมจนได้รางวัลจากทางโรงเรียนเสมอ เปล่าหรอกนะ ผมไม่ได้ตั้งใจเรียนเพื่อแม่หรอก ตลอดเวลาผมไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเพื่อแม่เลยสักครั้ง แต่ที่ผมตั้งใจเรียน ก็เพราะรู้ว่าการศึกษาเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ผมหลุดพ้นจากบ้านในสลัมโทรมๆ แห่งนี้ต่างหาก

ความทะเยอทะยานในอดีตเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในชีวิต โดยมีโอกาสดีๆ ที่โชคชะตาหยิบยื่นให้ เป็นตัวช่วยสนับสนุน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมหลงระเริงอยู่นานทีเดียว มันทำให้ผมหยิ่งผยองคิดว่าตัวเองนั้นเก่งกล้า สามารถก้าวจากจุดศูนย์ขึ้นมายืนผงาดอยู่ได้ด้วยขาตัวเอง ทั้งๆ ที่ ความจริงแล้วความสำเร็จของปริญญาระดับด๊อกเตอร์ที่แปะข้างฝาบ้านของผมนั้นมีแม่อยู่เบื้องหลังเสมอ แม่ผู้จบ ป. 4 แต่ไม่มีเงินซื้อใบสุทธิ
ขาของผมยืนผงาดออยู่ได้ ด้วยการเหยีบบ่าของแม่โดยแท้ และผมก็ไม่เคยสนใจเลยสักนิดว่าบ่าที่เหยียบเป็นฐานนั้นจะชอกช้ำเพียงใด เพราะเจ้าของบ่าไม่เคยปริปากบอกผมเลย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร แม่ก็ยังคงเป็นคนพูดน้อยทำมากเสมอ
แม่เป็นผู้ฟังที่ดีมาตั้งแต่ผมยังเด็กแล้ว ทุกครั้งที่ผมมีความกังวล แม่จะคอยรับฟังเสมอ เวลาที่ผมระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจ หลายครั้งที่แม่ฟัง จำนวนเงิน ที่ลูกชายเอ่ยขอ ยามต้องการจะซื้อ ของต่าง ๆ เพื่อให้มีเหมือนลูกคนอื่น
แม่ไม่เคยแย้งแต่จะ นิ่ง...ฟัง...

หลังจากวันนั้น แม่ขายของจนค่ำมืดกว่าปกติอยู่หลายวัน และวันหนึ่งแม่ก็ยื่นเงินให้ผม เพื่อไปซื้อของที่อยากได้ ยามที่ผมรับเงินจากมือของแม่ ผมรู้สึกว่า มือของแม่หยาบกร้านกว่าเคย....
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก เพราะถึงมือมือนี้จะต้องหยาบกร้านเพิ่มขึ้นสักแค่ไหนมันก็ยังคงหยิบยื่นมความสะดวกสบายให้ผมได้เหมือนเดิม และมันก็เป็นเช่นนี้เสมอมาไม่ว่ายามที่ผมสุข หรือ ทุกข์ มือของแม่จะอยู่เคียงข้างคอยช่วยประคับประคองผมเสมอ
ตราบชั่วชีวิตของแม่ จนกระทั่ง วันนี้...
หลายสิ่งในชีวิตของผมเปลี่ยนไป ... ผมมีชื่อเสียง มีเกียรติยศ มีคนนับหน้าถือตา มีบ้านหลังใหญ่ มีรถคันงาม มีเงินทอง มีมือนุ่มนิ่มของผู้หญิงสวย ๆ คอยคลอเคลีย
ทุกสิ่งที่ผมเคยต้องการล้วนมากองอยู่แทบเท้าของผม
แต่สิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุดกลับขาดหายไป ณ วันนี้ ข้างกายของผม ไม่มีมือของแม่.....




ซึ้งงงงง


ข้อมูลจาก //www.dek-d.com



Create Date : 07 สิงหาคม 2552
Last Update : 7 สิงหาคม 2552 2:50:52 น.
Counter : 610 Pageviews.

1 comments
  
น้ำตาซึมเลย
โดย: skylion วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:12:14:03 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
สิงหาคม 2552

 
 
 
 
 
 
1
2
3
6
12
14
15
18
19
20
22
24
25
26
27
28
 
 
All Blog