บอกลา "ข้อเท้าบวม"
คุณอยากมีข้อเท้าที่เรียวได้รูปใช่ไหม ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้...
ข้อเท้าบวมเป่งเป็นสัญญาณว่ามีน้ำคั่งในร่างกาย ตามปกติระบบน้ำเหลืองจะทำหน้าที่ขับของเหลวออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง สิ่งใดก็ตามที่ขัดขวางกระบวนการไหลเวียนตามธรรมชาติ ย่อยส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำหรือไม่ก็บวมน้ำ
การบวมน้ำหรือที่เรียกว่า "oedema" มีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วยต่าง ๆ หรืออาจเกิดจากแค่อากาศร้อน เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการบวมน้ำ จึงต้องพิจารณาอาการอื่น ๆ ที่เป็นอยู่ร่วมด้วย
สาเหตุที่เป็นไปได้ : อาการบาดเจ็บ
ข้อเท้าเคล็ดหรือแตกมีผลทำให้เนื้อเยื่อบวมนานหลายเดือน เส้นเลือดขอดก็มีส่วนด้วย เช่นกัน การผ่าตัดบริเวณช่องท้อง ขาหนีบ หรืออุ้งเชิงกรานก็เป็นสาเหตุของการบวมน้ำที่อาจเกิดขึ้นได้
Action : ทำตามแผนปฏิบัติการ (ที่จะกล่าวถึงต่อไป) แต่หากยังรู้สึกวิตกกังวล ควรปรึกษาแพทย์
สาเหตุที่เป็นไปได้ : การอักเสบ
โรคเรื้อรังเช่น ข้ออักเสบและข้อกระดูกเสื่อม เป็นสาเหตุให้เกิดอาการบวม และการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอันเนื่องจากวัยทอง ทำให้กรดยูริคเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเก๊าต์ มีผลให้ข้อต่อนิ้วหัวแม่เท้าเกิดการอักเสบ ขณะที่ข้อเท้าเกิดอาการบวม
Action : ควรไปพบแพทย์
สาเหตุที่เป็นไปได้ : ความดันโลหิตสูง
การบวมน้ำอาจชี้ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคไต หรือหัวใจล้มเหลว อาการอื่น ๆ ของโรคหัวใจล้มเหลวที่พบคือ หายใจไม่ออก หายใจติดขัดและเหนื่อยง่าย หากอาการบวมเกิดร่วมกับอาการปวดที่หน้าอกหรือแขนซ้าย ควรรีบไปพบแพทย์ หรือถ้าจู่ ๆ ข้อเท้าข้างใดข้างหนึ่งเกิดอาการบวม ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เพราะอาจเกิดจากโรคหลอดเลือดดำอุดตัน หรือไขข้อติดเชื้อ
Action : ควรไปพบแพทย์
สาเหตุที่เป็นไปได้ : โรคภูมิแพ้
ยาที่ใช้ในปัจจุบันอย่างฮีสตามิน รวมถึงไอบูโพรเฟนแอสไพริน และยาในกลุ่ม ACE inhibitors (เป็นยาที่แพทย์มักจ่ายให้กับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง) ล้วนก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ทั้งสิ้น ผลคืออาการบวมที่เนื้อเยื่อผิวหนังชั้นที่ลึกลงไป นักโภชนาการกล่าวว่า อาหารบางชนิดโดยเฉพาะข้าวสาลีก่อให้เกิดการบวมน้ำ
Action : ควรปรึกษาแพทย์
ทำอย่างไรให้ข้อเท้าเรียวได้รูป
ออกกำลังกายเป็นประจำ การเดินเล่นจะช่วยให้โลหิตไหลเวียนดี
หากต้องนั่งอุดอู้อยู่ในรถยนต์หรือรถบัสเป็นเวลานาน ให้หมุนข้อเท้าและยกเท้าขึ้นลง
หากต้องนั่งเครื่องบินเป็นเวลานาน ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอย่านั่งไขว้ห้าง ให้สวมถุงเท้าและอย่านอนในท่าคุดคู้
ลดการบริโภคเกลือ โดยเฉพาะถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแช่แข็งหรืออาหารกระป๋อง เนื่องจากมีโซเดียมซัลเฟตและโซเดียมเบนโซเอตซึ่งเป็นสารกันบูด รวมถึงเกลือ (โซเดียมคลอไรด์) เป็นจำนวนมาก และอย่าลืมว่าในขนมปังก็มีเกลือเป็นส่วนผสมเช่นเดียวกัน
ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว จะช่วยให้ระบบน้ำเหลืองทำงานเป็นปกติ
นั่งยกเท้าสูงในระดับสะโพกอย่างน้อยวันละ 20 นาที
ระวังเรื่องน้ำหนักตัว อย่าสวมเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่คับแน่นจนเกินไป
ควรปรึกษาเภสัชกรทุกครั้งก่อนซื้อยาสมุนไพรขับปัสสาวะมาทาน เพราะอาจไปทำปฏิกิริยากับยาตัวอื่น ๆ ที่ใช้อยู่
ข้อมูลจากHealth Plus
มีประโยชน์มากค่ะ
ขอบคุณนะคะ