สมอง "เด็กหญิง-เด็กชาย" ต่างกันอย่างไร

เรื่องสมองเป็นเรื่องที่มนุษย์พยายามศึกษาวิจัยกันมาช้านาน และก็มีผลงานวิจัยที่ทำให้เราต้องทึ่งกับการทำงานของสมองกันมากมาย เช่นกัน แม้กระทั่งความแตกต่างกันเรื่องเพศ ก็เป็นผลพวงจากการทำงานของสมองที่ต่างกัน ทำให้พฤติกรรม ความสามารถความถนัดแต่ละด้านมีความแตกต่าง ฉบับนี้มาดูข้อมูล ความแตกต่างของสมองผู้หญิง ผู้ชายเพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะมีความเข้าใจในธรรมชาติของลูกมากขึ้น

สมองเด็กผู้หญิง

ระบบการเชื่อมโยงของเซลล์สมองมีมากกว่าเด็กผู้ชาย

ใช้สมองทั้งสองซีกได้ดีมาก หากมีการทำลายสมองซีกซ้าย เด็กผู้หญิงยังสามารถใช้สมองซีกขวาในการสื่อสารได้ แต่เด็กผู้ชายทำไม่ได้หรือทำได้ช้ากว่า

ขนาดของสมองส่วนคอร์ปัส คัลโลซุ่ม (Corpus Callosum) มีมากกว่าเด็กผู้ชาย จึงมีความสามารถในการส่งข้อมูลระหว่างสมองซีกซ้ายกับซีกขวาที่เร็วกว่าเด็กผู้ชาย

ความสามารถในการแสดงความรู้สึก อารมณ์ และสร้างความผูกพันทางอารมณ์ดีกว่าเด็กผู้ชาย

รับรู้ เข้าใจ การแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง จดจำหน้าคนได้ดีสามารถรับรู้อารมณ์ที่แสดงออกทางเสียงดีกว่าเด็กผู้ชาย (ไวต่อกลิ่น รส การสัมผัส และเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงสูง)

พัฒนาการของสมองซีกขวาเติบโตเร็วกว่าเด็กผู้ชาย มีความสามารถด้านภาษา ไวยากรณ์ ลูกสาวจึงเป็นเด็กช่างพูดช่างเจรจา

มีความสามารถในการอ่าน โดยเฉพาะการอ่านที่มีข้อความสัมพันธ์กับความรู้สึกและอารมณ์

การรับรู้ทางสายตา โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดต่างๆ มีความคล่องแคล่วในการใช้กล้ามเนื้อมือ-ตา

มีความสามารถในการรับข้อมูลและนำมาคิดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะงานที่ให้เลือกตอบโดยอาศัยความเร็ว เช่น ข้อสอบแบบมีตัวเลือก

มีความสนใจในเรื่องความรับผิดชอบทางสังคม ความรู้สึกเข้าอกเข้าใจคนอื่น


สมองเด็กผู้ชาย

จำนวนเซลล์สมองมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 4% และมีเนื้อสมองมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 1 ขีด

ใช้สมองซีกซ้ายได้ดีกว่าเด็กผู้หญิง

มีทักษะในด้านมิติสัมพันธ์ที่ดี การรับรู้ เกี่ยวกับมิติต่างๆ ความลึก ทิศทาง ระยะห่าง การรับรู้วัตถุที่มีสามมิติซ่อนอยู่ในภาพสองมิติได้

เด็กผู้ชายมีความความผูกพันกับคนอื่นน้อยกว่าเด็กผู้หญิง

การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทำได้ดีกว่าเด็กผู้หญิง

สามารถคิดได้ซับซ้อน เช่น เรื่องแผนที่ ปริศนาต่างๆ

มีความสามารถในการวิจัยและค้นคว้า ทดลอง สังเกตสิ่งต่างๆ ได้ดี

มีความสามารถในการใช้ภาษาที่จะสื่อ อธิบายเหตุผล หรือความคิดทางคณิตศาสตร์

มีความคิดที่อิสระในสถานการณ์ต่างๆ มากกว่าเด็กผู้หญิง

หลักการพัฒนาสมอง

การพัฒนาสมอง สิ่งสำคัญคือการกระตุ้น ฝึกฝนทักษะจากทุกส่วนประสานกัน เพื่อให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆ รอบตัว ผ่านการเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนโดยทำความเข้าใจสิ่งที่เรียนรู้มาก่อน เมื่อมีประสบการณ์ใหม่เข้ามา ก็จะทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ให้ชัดเจนขึ้น การเรียนรู้ในขั้นตอนเดิมจะมีผลต่อการทำความเข้าใจสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา ช่วยให้เด็กเกิดความเข้าใจ จากข้อมูลที่สะสม โยงความคิดเข้าด้วยกัน ยิ่งสร้างหรือส่งเสริมเท่าไร สมองก็ยิ่งมีศักยภาพความสามารถมากขึ้น

ต่อไปนี้ คือช่วงลำดับการเติบโตของสมองในแต่ละวัยที่สำคัญ พร้อมแนวทางการพัฒนา เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่นำไปประยุกต์ใช้กับลูกน้อยค่ะ

4 เดือน : สมองเด็กทุกคนตอบสนองต่อเสียงได้ เริ่มรับรู้ภาษาจากการฟังเสียงสูง เสียงต่ำ รับรู้และปรับเข้ากับความแตกต่างของอารมณ์จากน้ำเสียงการเล่นละคร หุ่นมือ ใช้เสียงสูงต่ำเล่าเรื่อง จะช่วยกระตุ้นการเชื่อมโยงของเซลล์สมองได้ดี

8-9 เดือน : สามารถจดจำบางสิ่งบางอย่างจากประสบการณ์ที่ได้รับ เช่น จะทำให้ลูกบอลกลิ้งได้อย่างไร การเล่นกับลูกก็เป็นการเรียนรู้ สร้างประสบการณ์ที่สนุกวิธีหนึ่ง

10 เดือน : จำแนกและสร้างเสียงเฉพาะของตัวเองได้ เช่น ดาดา การเปิดโอกาสให้ลูกมีปฏิสัมพันธ์เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ได้ยิน ได้เห็นอะไรใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นเซลล์สมองให้เชื่อมโยงกันมากขึ้น

12 เดือน : สมองสามารถจดจำ เรียกความจำบางส่วนที่เก็บไว้ออกมาใช้ เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลที่ดีขึ้น ทักษะต่างๆ พัฒนามากขึ้น เช่น กล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ การเปล่งเสียงที่เริ่มพัฒนาไปสู่การพูด

ฉะนั้น ไม่ว่าลูกเพศใดก็ตาม ก็สามารถพัฒนาศักยภาพสมองได้ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ที่มีส่วนในการเลี้ยงดูที่เหมาะสม สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของลูก







ข้อมูลจาก Mother & Care



Create Date : 05 กันยายน 2552
Last Update : 5 กันยายน 2552 20:28:34 น.
Counter : 648 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
กันยายน 2552

 
 
1
7
8
9
10
11
14
16
17
18
20
21
22
23
26
29
 
 
All Blog