keanu keanu keanu keanu keanu
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
น้องนู 1 ขวบ 2 เดือน +

Thu 3/3/2011 nu 1 year 2 months 8 days

น้องนูขวบสองเดือนแล้วเหรอเนี่ยไวจัง นูยังเป็นเด็กน้อยของแม่อยู่เลย ไม่ได้อัพเดทพัฒนาการตั้งนาน น้องนูทำอะไรได้มั่งนะตอนนี้
• ชอบเล่นเอาของเล็กใส่ของใหญ่ พวกกระบอกพลาสติก กล่องพลาสติก บางทีก็ปิดฝา แต่ปิดไม่ถูกทาง แม่เลยช่วย
• เมื่อวานให้หัดเขียนหนังสือเพราะเห็นแม่เขียนไดอารี่ถึงแม่หมู น้องนูก็จะเขียนมั่ง ทำได้คือเอาปากกาไปจิ้มๆ เป็นจุดบ้าง ลากเป็นเส้นยุ่งเหยิงบ้าง พอทำได้ก็ทำหน้าดีใจยิ้มตาหยีเลย
• ถ้าแม่ร้องเพลงจะรู้ว่าเป็นเพลงไม่ได้พูดธรรมดา คงเพราะมีเสียงสูงเสียงต่ำ เพราะจะปรบมือให้จังหวะไปด้วย
• จะมี cd เพลงประจำที่เปิดทุกวัน เพลงแรก อยากรู้แต่ไม่อยากถาม อินโทรลขึ้นเป็นเสียง ตึ๋งตึงตึ่งตึง ตึ๋งตึงตึงตึ้งตึ่ง ๆ ๆ พอแม่ทำเสียงท่อนอินโทรล น้องนูจะเดินไปที่เครื่องเล่น cd แล้วหมุนปุ่ม volume ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเครื่องเล่นเลยลูก แม่ก็จะเดินตามไปกดเปิดให้ เสร็จแล้วน้องนูก็เต้นจังหวะสโลว์เพราะเพลงมันช้า
• เอาแฟรชการ์ดอักษรภาษาอังกฤษมาวาง 6 ตัว A, S, Z, E, V, D วางเป็นแถวๆ แบบไม่เรียง แม่ถามหยิบ A Apple ให้หน่อย หยิบถูก เพราะแม่ถามเรียง พอถามสลับ ยังหยิบเรียงอยู่เลยไม่ถูก แปลว่ายังไม่รู้แผ่นไหนตัวอะไร แต่ที่หยิบเพราะทำตามคำสั่งได้ยินแม่พูดให้หยิบให้หน่อย
• ปีนขึ้นลงเตียงไวและคล่องแคล่วมาก
• นั่งเล่นคนเดียวเป็นบ้างแล้ว
• ชอบรื้อลัง cd จะหยิบออกมาอยู่ 2 แผ่นคือ cd ธรรมมะสีฟ้า กับ ไทธนาวุฒิ
• ถ้าแม่สวดมนต์ออกเสียงจะพนมมือและพึมพำตาม บางทีก็เอาหนังสือสวดมนต์ไปนั่งอีกมุมนึงแล้วทำเลียนแบบแม่
• ชอบอมขวดที่เป็นฝาจุกแบบเปิดปิดได้ เอาฟันแทะให้ฝาเปิด อันตรายมากถ้ากินพวกแชมพูเหล่านั้นเข้าไป จะแย่งคืนต้องหลอกล่อไม่งั้นอารมณ์เสีย
• ชอบบอลที่มีไฟข้างในเวลาเอามาเคาะพื้นไฟจะติดเหมือนไฟดิสโก้ แต่แม่กลัวจ้องมากจะตาเสีย แต่ถ้างอแงเจ้าบอลนี้ช่วยเหลือได้
• กำลังสอนให้ดู phonics song A-Z ใน youtube กับพวกตัวเลข แม่เพิ่งรู้จักและเปิดให้ดู ถึงได้รู้ว่าคนเราจะเริ่มออกเสียงต้องหัดประมาณนี้ เช่น อะๆๆๆ เอ, บะๆๆๆบี ตอนแรกคิดว่าคล้ายคนติดอ่าง แต่นึกถึงเด็กที่ยังพูดไม่เป็น เรียนแบบนี้น่าจะช่วยให้เขาออกเสียงได้ง่ายขึ้น แต่น้องนูชอบเอามือยุ่งกะคีย์บอร์ด บางทีคอมฯ ดับไปเลย อยากเปิดจาก cd ออกทาง tv มากกว่า

Wed. 09/03/2011 Nu 1 year 2 months and 14 days

นูของแม่เกือบจะขวบสามเดือนแล้วสินะ วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพานูไปมีทติ้งกับเพื่อนๆ ธ.ค. 52 และใกล้เคียง เราไปถึงช้าไปหน่อยนึงเพราะออกจากบ้านช้า ไปรับ aunt แวะเซ็นทรัลรามอินทรา aunt เอาของชำร่วยและซื้อของกินติดไม้ติดมือไปมีทติ้ง

แล้วพอยูเทิร์นรถหน้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว มีแท่งเหล็กกั้นชิดซ้ายเลยไม่ได้ พ่อเลยต้องไปเข้าซอยสวนรถไฟ แต่เรานัดกันสวนจตุจักร ลองเลี้ยวเข้าไปในสวนรถไฟวนดู คนเยอะมาก แม่มองหาไม่เจอ คิดว่าพอไปถึงปุ๊บมองเห็นเลย ไม่นึกว่าคนเยอะแบบนี้ พ่อขับรถวนออกมา วิ่งสวนเลนเข้าสวนจตุจักร จอดรถ มองไปปุ๊บเห็นเลยโดดเด่นมากกลุ่มมีทติ้ง เห็นแต่ไกลมีรถเก๋งคันเล็กๆ กับมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆ และกลุ่มพ่อแม่อุ้มลูกเดินไปเดินมา แม่รีบดิ่งตรงไปตรงนั้นเลย บอกเพื่อนๆ พี่ๆ ว่าไปผิดสวน ตอนแรกนึกว่าฟาล์วไม่ได้เจอเพื่อนซะแล้วสิ

ไปถึงแม่เห็นเด็กๆ ห้อมล้อมรถเก๋งของเปาอยู่ มีมะเดี่ยวยืนเต้นในรถ ล้อมๆ อีกหลายคน และลูกแก้วแปะอยู่ตรงฝากระโปรง รถมอเตอร์ไซค์ก็มีเด็กๆ ห้อมล้อม ขี่อยู่คนนึง นูดูตื่นคนมากมาย คิ้วขมวดตลอด แม่พาไปยืนระหว่างรถเก๋งกับมอเตอร์ไซค์ก็เหมือนไม่กล้าเล่นกล้าจับของเพื่อนเอามือไปแตะๆ นิดหน่อยแล้วก็ยืนขมวดคิ้ว ในขณะที่เพื่อนๆ ซนกันเต็มที่ นูคงตื่นคนและสถานที่เพราะไปถึงหลังคนอื่นเขาที่คุ้นเคยกันแล้ว

สนุกดีนะเสียดายไปถึงแป๊บเดียวก็มืดแล้ว น้องนูสลบในรถเลยขากลับ ไว้คราวหน้าจะไปเร็วๆ

Fri. 18/03/2011 Nu 1 year 2 months and 23 days

น้องนูชอบงอแงกับแม่เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ พอกลับจากบ้านปาป้า แม่จะล้างมือ ล้างเท้า ล้างหน้า แล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนให้ จังหวะนี้แหละที่จะร้องไม่ชอบเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว อะไรมาหุ้มแขนขาไม่ได้เลย จะดึงๆๆ แล้วก็ร้องๆๆ บางทีแม่ก็งอนน้องนูเพราะพอพ่อแด๊ดมาก็หยุดร้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมถึงร้องแต่กับแม่นะ ทำให้แม่เกรงเวลาอยู่กันสองคนจะรบกับน้องนูยังไงดี

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพาน้องนูวิ่งเล่นหน้าบ้านและป้อนข้าวไปด้วย น้องนูวิ่งซนกับพี่พี ไล่กันไปมา บางทีน้องนูก็ไปซ่อนข้างรถที่จอดอยู่ พอพี่พีเดินตามหาจนเจอ น้องนูก็เข้าไปกอดแล้วหัวเราะใหญ่ คงจะเหมือนเล่นจ๊ะเอ๋ เพียงแต่ยังพูดจ๊ะเอ๋ไม่เป็น เล่นไปเล่นมาสะดุดขาตัวเองยังไงไม่รู้พลาดล้มลงหน้าคว่ำ จมูกมีเลือดออก และเป็นแผลถลอกใต้จมูกขวา และหน้าผากด้านขวา หน้าบากเลยน้องนู

พอตกเย็นแม่พาเล่นในห้อง แล้วแม่ก็หันหลังไปล้างมือเพื่อจะชงนม แต่ก็ตะโกนว่าแม่ทำอะไรและชะเง้อดูตลอด ไม่ได้ไกลมากประมาณสองเมตร น้องนูเข้าไปนั่งในกาละมังล้างขวดนม แล้วก็ไถๆ เสร็จแล้วพลาดล้มหน้าคว่ำ หัวปูดเท่าลูกมะนาว แม่ตกใจมากแต่ทำไม่ตกใจ เพราะน้องนูร้องไห้จ้า ได้แต่กอดน้องนูไว้ รู้สึกว่าน้องนูตัวเบาไปถนัดใจเพราะความตกใจคงเหมือนคนที่ตกใจไฟไหม้แล้วแบกโอ่งได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้แม่รู้สึกน้องนูตัวหนักเหลือเกินแม่ปวดหลังไปหมดน้องนูชอบกางแขนให้อุ้มตลอดเวลา

พอแม่เรียกพ่อมาทำไงดีเจอว่าซ้ำเลยที่ปล่อยให้ลูกล้ม จะทำยังไงได้นอกจากทายาหม่อง แม่ก็ทาแซมบัคก็โทรถามน้ากุ้งที่เคยล้มเอาอะไรทา น้ากุ้งบอกดินสอพองบีบมะนาวพอกลงไปจะไม่เขียวแต่ที่บ้านไม่มีดินสอพอง แม่เลยพาน้องนูอุ้มไปบ้านลุงกบไปถามอาม่าว่ามีดินสอพองไหม ระหว่างนั้นก็นวดแซมบัคบ่อยๆ บ้านลุงกบไม่มี แม่โทรหาอ๊านเพราะมาดูบ้านอยู่แถวนี้พอดีให้มาดูน้องนูหน่อย อ๊านเลยเข้ามากับเพื่อนๆ ซื้อดินสอพองกับมะนาวมาให้ ตอนนี้แม่มีติดบ้านแล้วแต่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้อีกเลย หัวน้องนูปูดมากอีกนิดเดียวคงจะหัวแตกเลือดออกคงจะเรื่องใหญ่กว่านี้

พอเอาดินสอพองบีบมะนาวพอก น้องนูก็รู้สึกว่ามีอะไรมาแปะก็เอามือจับตลอดและเอาเข้าปากด้วย ตอนหลังแม่เลยพอกไม่ค่อยได้กลัวน้องนูกินเข้าไปจะอันตราย มีตอนนึงน้องนูขึ้นไปข้างบนชี้ตรงจุดเกิดเหตุที่ล้ม เอามือตีพื้น และเอามือมาตีที่หน้าผากแม่เบาๆ คงจะเป็นภาษาร่างกายบอกแม่ว่าล้มตรงนี้นะเอาหน้าผากลง

เล่าย้อนไปวันเสาร์ไปงานแต่งงานน้าองุ่น น้องที่ทำงานแม่มา น้องนูได้รับคำชมว่าหล่อ คงเป็นเพราะหมวกนั่นเอง ตอนไปถึงแรกๆ ก็หน้ามุ่ย คนเยอะไปหมด น้องนูไม่รู้จักใคร พอสักพักก็วิ่งเล่น แล้วก็ยืนเต้นหน้าเวทีเวลานักร้องร้องเพลง

เมื่อเช้าก่อนมาทำงานแม่ก็ล้างก้นให้น้องนูตามปกติ น้องนูตื่นมาถ่ายทุกเช้าเป็นกิจวัตร ถ่ายในแพมเพอร์สเพราะถ้านั่งกระโถนจะหดถ่ายไม่ออก ตอนยืนล้างก้นน้องนูชอบเอื้อมไปหยิบโน่นนี่ในห้องน้ำและก็ล้มตัวลง (อีกแล้ว) คราวนี้ตรงขมับไปครูดกับถังขยะเป็นรอยแดงยาวๆ ไม่ถึงกับเลือดออก ทำไมแม่ถึงปกป้องน้องนูไม่ได้นะ ไม่พลาดนั่นก็พลาดนี่ เดี๋ยวลื่นตรงนั้น เดี๋ยวล้มตรงนี้ ไม่อะไรก็อะไรซักอย่าง พอออกมาจากห้องน้ำแม่เอาครีมทาตรงรอยแดงนั้น และก็เอาถังขยะนั้นไปไว้นอกห้องน้ำซะเลย


.........................

เมื่อวันศุกร์ที่ 11/3/2011 มีเหตุการณ์สำคัญของโลกในต้องบันทึกไว้ในช่วงชีวิตแม่และน้องนู เหตุการณ์นี้ทำให้แม่หวั่นวิตก และต้องเตรียมความพร้อมอะไรไว้บ้าง เพราะไม่รู้ว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ และเมื่อภัยธรรมชาติผนวกซ้ำกับภัยจากเทคโนโลยี ก็ยากที่มนุษย์จะต้านทานไหว แต่ชาวโลกคงต้องผ่านเรื่องเหล่านี้ไปให้ได้

ข่าวที่แม่รวบรวมมาจากที่ต่างๆ จนถึงเมื่อวานนี้ 17/03/2011

ญี่ปุ่นแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์-สึนามิสูง 10 เมตรซัดเมืองชายฝั่ง

เอเอฟพี - ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์วันนี้ (11) ก่อคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ ซึ่งพัดพาเรือเข้าใส่ชายฝั่ง สร้างความเสียหายให้เมืองชายฝั่งแปซิฟิกของแดนอาทิตย์อุทัย ล่าสุด ทางการอินโดนีเซียประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว เจ้าหน้าที่ยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

รายงานจากจังหวัดมิยะงิ บนเกาะฮอนชู ระบุว่า มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในขณะนี้ โทรทัศน์กำลังเผยแพร่ภาพคลื่นน้ำกำลังกลืนกินพื้นที่โดยรอบชายฝั่ง

แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา แรงสั่นสะเทือนรุนแรงจนอาคารสูงในกรุงโตเกียวสั่นไหว มีรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ 6 แห่งในเมืองหลวงญี่ปุ่น ซึ่งรถไฟใต้ดินต้องหยุดให้บริการ สัญญาณไซเรนดังต่อเนื่อง ผู้คนหนีออกมาจากตัวอาคาร

สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานล่าสุด ว่า แผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ครั้งนี้ เกิดขึ้นห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 382 กิโลเมตร มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ ทั้งในญี่ปุ่น ไต้หวัน รัสเซีย และบริเวณหมู่เกาะมารินา ศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิก รายงาน

ล่าสุดมีรายงานว่า เกิดเหตุหลังคาอาคารถล่มระหว่างพิธีสำเร็จการศึกษา ในกรุงโตเกียว ซึ่งมีนักศึกษาเข้าร่วมพิธีประมาณ 600 คน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทว่ายังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หน่วยดับเพลิงโตเกียวรายงาน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือนถึง 8.9 ริกเตอร์

รัฐบาลญี่ปุ่นออกประกาศเตือนจังหวัดชายฝั่งทางตอนเหนือว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิเพิ่มเติม สื่อท้องถิ่นแพร่ภาพคลื่นสึนามิความสูง 10 เมตร โถมเข้าใส่ท่าเรือเมืองเซนได ในจังหวัดมิยะงิ สำนักข่าวเกียวโดรายงานเพิ่มเติมว่า มีคลื่นสึนามิความสูง 7 เมตรซัดเข้าใส่เมืองฟุกุชิมะ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะฮอนชูเช่นกัน

ล่าสุด ทางการอินโดนีเซียประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว โดยศูนย์เตือนภัยสึนามิสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนในขณะนี้ให้เมืองชายฝั่งแปซิฟิก ทั้งออสเตรเลีย และภูมิภาคอเมริกาใต้ เตรียมพร้อมรับมือคลื่นยักษ์สึนามิ


Sourced : PANTIP.COM : E10339546
ถาม-ตอบ
สารกัมมันตภาพรังสีในญี่ปุ่นที่รั่วออกมาคืออะไร
และจะป้องกันตัวอย่างไร??


แผ่นดินไหวผ่านไป เรื่องใหม่เข้ามาแทน
น่าสงสารประเทศญี่ปุ่นมากๆ

และแล้วสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดมันก็เกิดขึ้น
เคยมีคนกล่าวประโยคสุด classic ที่ว่า
“If anything can go wrong , it will”
บางครั้งไม่ว่าจะมีการป้องกันและเตรียมการอย่างดีที่สุดแค่ไหน

สิ่งที่ไม่อาจจะคาดเดาก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

หลายคนเริ่มสงสัยว่า
การที่มีฝุ่นควันกัมมันตรังสีพวกนี้แพร่กระจายในชั้นบรรยากาศ
มันจะไปได้ไกลแค่ไหน
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโดนเข้าให้แล้ว
หรือ ถ้ามีความจำเป็นจะต้องไปในพื้นที่
ที่อาจมีการปนเปื้อนจริงๆ จะทำอย่างไร

ก่อนที่จะเข้าใจวิธีการปฏิบัติตัว
เรามาย้อนดูประวัติศาสตร์ และเรียนรู้ไปด้วยกัน
กับเหตุการณ์ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่ Chernobyl
ประเทศยูเครนกันก่อนซักนิดนึง


เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่เชอร์โนบิล
เกิดขึ้นในวันที่ 26 เมษายน ปีค.ศ. 1986
เหตุการณ์วันนั้นเกิดจากกระแสไฟกระชากเกิน
มีการปิดเครื่องไปแล้ว
และรอจนเครื่องเย็น พอเจ้าหน้าที่ทำการ boost
เปิดเครื่องใหม่
แต่เนื่องจากว่าตัว core ที่เพิ่งปิดไปยังไม่เสถียร
และ ระบบหล่อเย็นยังไม่สามารถควบคุมให้อุณหภูมิคงที่ได้
จึงเกิดการระเบิดขึ้น (ขออธิบายแบบง่ายๆแล้วกันนะคะ)

จะเห็นได้ว่าการระเบิดที่เชอร์โนบิล แทบจะเรียกได้ว่าเป็น
man error ล้วนๆ
เพราะว่าพนักงานสองกะ ทำงานกันไม่ประสาน และ ไม่ได้ทำตาม
protocol ที่ได้ร่างไว้
(คนอนุมัติในการเปิดเครื่องใหม่ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่กำหนด)

ในการระเบิดครั้งแรก เกิดจากห้องระบายไอร้อนระเบิด
เพราะว่ามีความดันสูงเกินกว่าจะระเหยได้ทัน
ซึ่งทำให้น้ำในระบบหล่อเย็นรั่วออกทันที
ทุกคนคงคาดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบหล่อเย็นไม่ทำงาน
การระเบิดลูกที่สองอันเกิดจากปฏิกิริยาปรมาณูเกิดขึ้นตามมาอีก
2 วินาที

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สารกัมมันตรังสีกระจายออกมากขึ้นคือ
ตัวแกรไฟต์ที่ใช้บรรจุเกิดลุกติดไฟในอากาศ
ความร้อนและลมเป็นส่วนส่งเสริมอย่างดีให้สารกัมมันตรังสีกระจายไปทั่วประเทศ
สารในตอนนั้นคือ Xe (xenon isotope) และ I-131

มีคนตายทันทีทั้งสิ้น 50 คน และ ตามมาหลังจากนั้นอีก 4000
คนจากมะเร็
ที่คาดว่าเป็นผลพวงจากสารกัมมันตรังสี

กลับมายังประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่
fukushima
สาเหตุมาจาก ธรรมชาติ หลังเหตุการณ์สึนามิ
ตัวระบบหล่อเย็นหยุดทำงาน
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตัว “แกน” ระเบิด
จึงได้ใช้น้ำจากทะเลปั๊มเข้าเพื่อหล่อเย็นแทน ทั้งตัวเตาที่
1 และ 3 ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้


แล้วสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วออกมาคือ สารอะไรล่ะ??

สำหรับสารกัมมันตรังสีที่ออกมาคราวนี้คือ I-131
ซึ่งเป็นตัวต้นปฏิกิริยา ก่อนที่จะกลายเป็น Xe (ซีนอน)
(สารที่รั่วออกมาที่เชอร์โนบิลนั่นแหละ)
ถ้าใครเรียนแพทย์ หรือว่าเคยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ จะร้อง
“อ๋อ” ทันที
สาร I-131 เป็นสารกัมมันตรังสีที่เราคุ้นเคยในวงการแพทย์มากๆ

เราใช้ในการรักษาคนไข้ไทรอยด์เป็นพิษ โดยการให้กลืนแร่นี้
เพื่อไปหยุดการทำงานของต่อมไทรอยด์

สิ่งที่น่าแปลกก็คือ I-131 ที่เราให้กิน ถือว่าเป็นปริมาณ
dose ที่สูง
เพราะเราหวังผลให้ไป “หยุด” การทำงานของต่อมไทรอยด์
ทางการแพทย์เราให้ “ตูมเดียวหยุด”
ขณะที่ การให้ ปริมาณ “น้อยๆแต่นานๆ”
อาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ ทำให้เกิดมะเร็งได้

ใครที่เคยกิน “แร่ไอโอดีน” จะทราบดีว่า
แพทย์จะแนะนำให้ท่าน อยู่ในรพ.ซักสองสามวัน
ในห้องที่มีฉากตะกั่วกั้นสองด้าน เพื่อป้องการกัน
“แพร่กระจาย” ของสารกัมมันตภาพรังสี
สารไอโอดีน จะถูกขับออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ
โดยทั่วไปจะแนะนำให้คนไข้ทำความสะอาดห้องน้ำบ่อยๆ

สารที่ออกมาจากร่างกายนั้นเป็นปริมาณน้อยมากๆ
แทบจะไม่มีผลต่อคนที่อยู่ด้วย
แต่เพื่อเป็นการป้องกัน รวมถึงเด็กๆที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
จึงแนะนำให้อยู่รพ.ซัก 2-3
วันและทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้งที่เข้า
รวมไปถึง (ถ้าเป็นไปได้) งดการมีเพศสัมพันธ์ 1 เดือน และ
ห้ามท้องอีก 6 เดือน

พิษของ I-131

โดยทั่วไปแล้ว ไอโอดีน (ที่ไม่ใช่ 131)
เป็นแร่ธาตุตามปกติที่เรากินกันอยู่
คงจะเคยได้ยิน ประมาณว่า มาม่าเพิ่มไอโอดีน
เนื้อปลามีไอโอดีน แจกไอโอดีนเด็กภูเขา กินกันเอ๋อ

ไอโอดีนตัวนี้
เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายจะนำไปใช้ในการผลิตไทรอยด์ฮอร์โมนออกมา

ซึ่งมีผลในการช่วยการเผาพลาญพลังงานในร่างกาย เสริมสมอง
เพิ่มการทำงานของร่างกาย

ในทางกลับกัน I-131 ที่เป็นสารกัมมันตรังสี
มีผลในการ “หยุด” การทำงานของต่อมไทยรอยด์ (และส่วนมากคือ
หยุดถาวร)
เมื่อมีการระเบิดหรือปนเปื้อน สาร I-131 มักจะอยู่ในผัก หรือ
อาหาร
และจะเข้าไปสะสมในร่างกายไปที่ต่อมไทยรอยด์เมื่อกินเข้าไป

หากได้ต่อเนื่องกันเป็นปริมาณมาก ก็จะก่อให้เกิดภาวะ
“มะเร็งต่อมไทรอยด์”
หรือ อาจจะอย่างอ่อนๆคือ “ไทรอยด์อักเสบ” (ซึ่งรักษาได้)

จากงานวิจัยพบว่า ผู้ที่มีอายุมากเมื่อเทียบกับเด็ก
หากได้รับสาร I-131 ในปริมาณเท่ากับ
จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งน้อยกว่าเด็ก
จากคุณ: CMV


จะป้องกัน I-131 อย่างไรดีละในกรณีที่จำเป็นต้องไป?

ถ้าฟังข่าวจะเห็นว่า ที่ญี่ปุ่นเขาแจก ไอโอดีน กินกัน
อย่างที่อธิบายไปแล้วว่า
ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องนำไปใช้
โดยเก็บไว้ที่ต่อมไทรอยด์
ดังนั้น การกินไอโอดีน (ธรรมดา) ก็เพื่อไป แย่งจับกับ
receptor ที่ไทรอยด์ ก่อนที่จะโดน I-131 แย่งจับ

อธิบายง่ายๆ ก็เหมือนกับ ร่างกายเรามีโกดังเก็บไอโอดีนอยู่
100 แห่ง
โดยเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เอาไอโอดีนมาเก็บจากท่าเรือ
ไม่ทราบว่า กล่องไหนที่จะเอาไปเก็บ เป็น ไอโอดีนธรรมดา หรือ
I-131 (ไอโอดีนที่เป็นสารกัมมันตรังสี)
ดังนั้นเพื่อเป็นการดักทางไว้ เราก็เลย รีบๆ “เติม”
ไอโอดีนธรรมดา
ให้เจ้าหน้าที่เอาไปเก็บๆให้เต็มโกดังซะ
เมื่อเวลาที่ดันกิน I-131 เข้าไปโดยไม่ตั้งใจ
เจ้าหน้าที่จะได้ไม่เอาไปเก็บเพิ่ม เพราะว่ามัน “เต็มแล้ว”

เหตุเกิดที่เชอร์โนบิล มีคนเป็นมะเร็งเยอะ
ก็เพราะส่วนหนึ่งไม่ได้รับแจก “ไอโอดีน” กัน
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 54 12:03:16


พิษของ Caesium (Cs) ซีเซี่ยม

สารกัมมันตรังสีอีกตัวที่ตรวจจับได้ที่ fukushima คือ Cs
(ซีเซี่ยม ต่อไปนี้ขอย่อว่า Cs)
ตัว Cs เองมีถึง 39 isotope มีตั้งแต่ Cs 135
ที่มีค่าครึ่งชีวิตถึง 2.3ล้านปี!!
แต่ Cs ที่รั่วออกมาคือ Isotope 137 ซึ่งมีค่าครึ่งชีวิต 30
ปี (ยาวอยู่ดีแหละ)

ส่วนมากแล้ว Cs จะมีพิษและผลรุนแรงน้อยกว่า I-131
ดังที่กล่าวข้างต้น
ในกรณีที่ได้รับสาร Cs ตรงๆเป็นปริมาณมาก
จะทำให้เกิดอาการแพ้ คัน อย่างรุนแรง หรือชักเกร็งกระตุก

การปนเปื้อนของ Cs-137 มักจะตกข้างในพืชผัก
แต่ไม่ต้องห่วงปกติแล้ว Cs
ไม่ใช่สารกัมมันตภาพรังสีที่จะสามารถสะสมได้ในร่างกาย
เหมือนกับ I-131
เมื่อกิน Cs-137 เข้าไป
ร่างกายจะขับออกมาอย่างรวดเร็วในรูปเหงื่อและ ปัสสาวะ
โอกาสที่จะเป็นมะเร็งจาก Cs คือต้องกินสารปนเปื้อนนั้น
เป็นระยะเวลานานๆต่อเนื่องกันมากกว่า


ที่มาข้อมูล

เหตุการณ์ chernobyl :
//en.wikipedia.org/wiki/Chernobyl_disaster

อธิบายเกี่ยวกับ Cs:
//en.wikipedia.org/wiki/Caesium

เกี่ยวกับ I-131
//en.wikipedia.org/wiki/Iodine-131


เราจะถือว่าสารรังสีตัวนั้นๆตายแล้ว เมื่อผ่านไป 10 half
life ในกรณีของ I-131 คือ 80 วัน (จริงๆแล้วแค่ซัก 5 half
life ก้แทบจะหมดแล้ว)
ไม่ว่าจะมี Activity เริ่มต้นสูงแค่ไหนก็ตาม

และจากข้อมูลที่ได้รับมาคร่าวๆ ปริมาณรังสีที่รั่วไหลออกมา
ถือว่าไม่สูงมาก
ถึงแม้จะสุงกว่าค่าปกติประมาณ 100 เท่า
แต่ก็อยุ่ในระดับที่ยอมรับได้
เพราะยังต่ำกว่าระดับที่บุคคลทั่วไปรับได้
และต่ำกว่าระดับที่จะทำอันตรายมนุษย์อยู่เป็นพันเท่า




………………………………………


พอข่าวเรื่องรังสีเริ่มแพร่
ตอนนี้ทุกคนก็แห่ไปซื้อไอโอดีนทาแผลไว้บ้าน
เอ่อ.... (กลุ้มใจพอๆกับเหตุการณ์เจลลดไข้อวกาศเลย)

หลังจากมีคนสงสัยเยอะจริงๆว่า กินไอโอดีนก่อนไปเลยดีไหม
เราพยายามไปหามาแล้วนะคะ ขออนุญาตเขียนเพิ่มเลยแล้วกัน


เรามาดูข้อมูล และ guideline ของเมืองนอกกันดีกว่า
ว่าจริงๆเขาทำไงกัน


การป้องกันการได้รับสารปนเปื้อนในกรณีอาศัยอยู่ในที่ๆสารกัมมันตรังสีแพร่หรือกระจายถึง

อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น การปนเปื้อนของ I-131 ในอากาศ
เข้าสู่ร่างกายโดยการสูดหายใจ หรือ กินเข้าไป
(ไม่ใช่ซึมผ่านเนื้อ!!)
ดังนั้น หากอยู่ในสถานที่ใกล้แหล่งรังสี
ให้ปิดประตูบ้านและหน้าต่าง
เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี
การใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัวเปียกยัดตามซอกรูหรือช่องที่ต่อนอกตัวบ้านจะพอป้องกันการกระจายมากับลมได้

Ki (โปตัสเซียมไอโอไดด์) คืออะไร กินแล้วแก้ได้เหรอ?

อย่างที่ได้อธิบายหลักการการแทนที่และแย่งจับของไอโอดีนแล้ว
ในคห.ที 6 เราจะไม่ขอพูดซ้ำ
สารที่ใช้ในการกินเพิ่มไอโอดีนจะมาในฟอร์ม KI

KI หรือที่อ่านเต็มว่า
โปตัสเซียมไอโอไดด์เป็นสารที่คนไทยต่างจังหวัด
โดยเฉพาะภาคเหนือคุ้นเคยดี
เพราะเราใช้สารตัวนี้ในการเติมลงไปใน
เกลือสินเธาว์ในกรณีที่ต้องการจะป้องกันโรคคอพอกในคนที่ขาดสารไอโอดีน

แต่อย่าเพิ่งตื่นตูมซื้อเกลือไอโอดีนมากินกัน
เพราะว่าจริงๆแล้ว เกลือไอโอดีนที่ขายกันอยู่นั้น
เขากำหนดให้มีปริมาณไอโอดีนที่ 30 mg / เกลือ 1 kg
แต่ปริมาณที่กินเพื่อป้องกัน I-131 นั้นอยู่ที่ 130 mg
ดั้งนั้นใครอยากอุตริกินเกลือไอโอดีนป้องกันสารกัมมันตรังสีนี่ละก็
ต้องกินเกลือประมาณ 4 kg (สงสัยไตวายพอดี)


KI ใช่เมื่อไหร่ อย่างไร และได้ผลจริงหรือ?
หากโดนสารกัมมันตรังสีภายใน 2-4 ชม. การกิน KI
จะสามารถช่วยป้องกันการเก็บ I-131 ที่ไทรอยด์ได้ถึง 90%

แต่หากนานเกิน 3 ชม. ผลจะลดเหลือแค่ 50%
และหากเกิน 4 ชม. ก็จะแทบไม่ได้ผลแล้ว


กินมากแค่ไหน กินนานเท่าไหร่
ในเด็กเล็กถึงวัยรุ่น ปริมาณจะแตกต่างกันไปตามอายุ
แต่ในเด็กวัยรุ่น(12ปี) ถึง ผู้ใหญ่ (40 ปี) ปริมาณ คือ 130
mg (1 เม็ด)
กินนาน 7-14 วัน หรือจนกว่าบริเวณที่อาศัยจะไม่ปนเปื้อนI-131
ในระดับที่เป็นอันตราย


***ช้าก่อนอย่าซี้ซั้วกิน ผลร้ายอาจจะมากกว่าดี****
อย่างที่กล่าวไปกระทู้บนๆ ในผู้ที่อายุมากแล้ว
โดยเฉพาะมากกว่า 40 ปี
ผลที่สารกัมมันตรังสีจะก่อให้เกิดมะเร็งไทรอยด์นั้นมีน้อยมาก
น้อยจนเมื่อเทียบกับผลข้างเคียงจาก KI
มันอันตรายซะมากกว่าอีก
เพราะอาจก่อให้เกิดโรคไทรอยด์อื่นๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ หรือ
ไทรอยด์อักเสบได้



ที่มาข้อมูล : agency for toxic substances and disease
registry
//www.atsdr.cdc.gov/csem/iodine/treatment_management2.html

//www.querycat.com/question/e351eb53f907084b22b039af3cafb0d3





Create Date : 18 มีนาคม 2554
Last Update : 18 มีนาคม 2554 15:20:57 น. 0 comments
Counter : 548 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

NongNuDaddy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add NongNuDaddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.