นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 6 ศรีนาคา จามมู Jammu)
ย้อนดูวันที่ 5 ศรีนาคา-โซนามาร์ค Sonamarg //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&group=12&month=26-04-2017&gblog=65 วันศุกร์ 14 เม.ย.60 เช้านี้ตื่นตีห้าอากาศประมาณ 8 องศา เรานั่งเรือชิคาร่าไปชมตลาดน้ำ ที่ทะเลสาบดาลครับ นั่งเรือฝ่าความมืดแบบหนาวๆไป
ไปทางเดียวกับเมื่อวาน แต่พายไปอีกไกลใช้เวลาไปกลับ 2 ชั่วโมง
เริ่มเช้าแล้ว
บ้านอยู่บนแพลอยน้ำไม่ได้ปลูกเสาลงดินนะครับ
พายกันต่อไป
ประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงตลาดน้ำ
ตลาดน้ำที่ทะเลสาบดาล จะเอาพวกผักผลผลิตของตัวเองมาแลกและขายกันเอง จะเริ่มตั้งแต่เช้ามืด สายๆประมาณ 7.30น.ตลาดก็วายแล้ว อาจไม่ค่อยมีอะไร แต่ดูวิถีชีวิตเค้าแล้วคล้ายๆตลาดดำเนินสมัยก่อน มันมีเสน่ห์
หกโมงเช้าได้เวลากลับที่พัก
มีโรงเรียนกลางน้ำด้วย
เช้านี้เรือเราเปิดประทุน
ลอดใต้สะพานพายไปไม่ไกลก็ถึงที่พักเราแล้วครับ
ลำนี้มาหาปลา
ใกล้ถึงที่พักเราแล้ว
มาถึงที่พัก 7 โมงพอดีนั่งเล่นท้ายเรือซักพัก เรือสินค้าขึ้นมาขายของ ต่อราคากันมันมาก ได้กำไลข้อมือมา 5 เส้น
เวลา 08.00 น.พ่อบ้านเรียกมากินข้าวมื้อเช้านี้ไกด์ไทยจัดหนัก จัดเต็มแบบทุบหม้อข้าว หม้อแกง ไม่ขนกลับ
มีแกงส้มไกด์ไทยลงทุนตื่นตีสี่มาทำกับข้าวให้เรารสชาติเข้มข้นมาก ปลากระป๋องขนมาจากเมืองไทย ผัดผักชิมไปสองคำ น้ำพริกปลาดุกฟู ยำวุ้นเส้นไก่ยอ ปลาช่อนแดดเดียว ยำหัวไชโป้ว สตูแพะ อร่อยๆทั้งนั้น
อิ่มเสร็จเข้าไปเก็บของเตรียมตัวไปสนามบินศรีนาคา ก่อนไปขอแนะนำที่พักก่อนครับ ป้ายทางเข้าที่พัก จะอยู่ตรงฝั่งบนถนนขับรถเข้ามาได้
ขับเข้ามาประมาณ 10 ม.จะมีที่จอดรถ เดินเข้ามาหน่อยเป็นเรือที่พัก ผมนอนเรือมหาราช
เรือมหาราชอยู่ซ้ายมือครับ
ท้ายเรือมีระเบียงให้นั่งเล่นพร้อมบันไดลงทางท้ายเรือ
ตรงท้ายเรือเป็นลายไม้แกะสลักสวยงามมีประตูเลื้อนปิด-เปิดได้ ถ้าต้องการความส่วนตัวก็ปิดประตู
เข้าไปเป็นห้องรับแขกตกแต่งด้วยไม้ฉลุ พื้นปูด้วยพรมส่วนเจ้าท่อกลมๆที่อยู่กลางห้องเป็นเครื่องทำความอุ่นครับ เค้าจะเอาฟืนมาเผาในเตาทำให้ไอความร้อนระอุอยู่ในห้อง
มองจากห้องรับแขกไปท้ายเรือ
ถัดไปเป็นห้องอาหารจะมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับอาหารมื้อเช้าและเย็นของเราที่อยู่ตลอด 3 วัน
เดินจากห้องอาหารเข้าไปในเรือด้านซ้ายมือเป็นทางออกไปท่ารถที่เราเข้ามา
ด้านขวามือเป็นห้องเตรียมอาหาร มีจานช้อน แก้วน้ำ กาน้ำร้อน หยิบใช้ได้ตลอด
เดินไปหน่อยเป็นห้องนอนผมแล้วครับในเรือมี 3 ห้องนอน อีกสองห้องครอบครัวพี่เค้า 5 คน พ่อ แม่ ลูก ครบพอดีเป็นครอบครัวที่น่ารักมาก ได้คุยตอนทานข้าวด้วยกันทุกมื้อ มาดูห้องผมดีกว่า ข้างในห้องไม่แคบไม่กว้างมาก มีเตียงเดี่ยวขนาด 6 ฟุต ไม่มีแอร์ให้เพราะอากาศที่นี่หนาวตลอดปี ไม่ต้องสนใจกองขยะบนเตียงครับ วันนั้นเหนื่อยมาก มาถึงก็จับโยนๆกองไว้ก่อน
ปลายเตียงมีเก้าอี้ให้สองตัวมีพื้นที่พอสมควร ไว้จัดกระเป๋าเดินทางได้สบายๆ
เพดานมีพัดลมให้ 1 ตัวไม่ได้ใช้เลยสวยเนอะ
ด้านหัวเตียงมีประตูเล็กๆเป็นห้องน้ำครับก่อนเข้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้าและกระจกไว้ให้ดู ส่วนปลั๊กบนเรือเป็น 3 ขากลมต้องใช้ปลั๊กอินเตอร์ ขาปลั๊กบ้านเราใช้ไม่ได้ครับ
เข้าไปดูห้องน้ำกัน เปิดประตูเข้าไปเห็นชักโครกแต่ไม่มีสายชำระให้
อ่างล้างหน้าพร้อมกระจก น้ำอุ่นน้ำเย็นพร้อม
เปิดม่านเป็นอ่างอาบน้ำ มีฝักบัวน้ำร้อน น้ำเย็นใช้ได้ปกติ น้ำร้อน ร้อนมากกก
ส่วนในห้องนอนสามารถเปิดหน้าต่างมีหน้าต่างเป็นมุ้งลวดให้อีกชั้น หรือเปิดออกไปนั่งชมวิวได้ถ้าอยากเป็นส่วนตัวก็ปิดม่าน มันดีตรงนี้ สำหรับที่พัก สวยดีครับเสียอย่างเดียวไม่ค่อยเก็บเสียง นอนในเรือไม่มีโคลงเคลง หลับสบาย
เปิดหน้าต่างจากห้อง สามารถนั่งชมวิวได้ มุมนี้เหมือนนั่งอยู่แถวอัมพวา 555
แนะนำห้องเสร็จได้เวลาไปสนามบินศรีนาคาแล้วครับ เวลา 11.30 น.เดินทางไปสนามบิน ถึงสนามบินศรีนาคา 12.25 น.ขั้นตอนเข้าสนามบินสุดยอด ผ่านด่านทหารก่อนรถทุกคันต้องเอากระเป๋าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเป้กระเป๋าเดินทาง ใบใหญ่ ใบเล็ก พวกจับสแกน เอ๊กซ์เรย์ หมด ผ่านด่านทหารมาได้เอากระเป๋าขึ้นรถไปส่งที่สนามบินต่อ
ถึงสนามบิน ใช้แค่ อี-ทิคเก็ตทางทัวร์ได้เตรียมไว้ให้ตั้งแต่อยู่สุวรรณภูมิแล้วครับ เรายื่น อี-ทิคเก็ต ตรงช่องนี้ครับใครไม่มีห้ามเข้าไปเด็ดขาด
เข้าไปแล้วพวกจับสแกนเอ็กซ์เรย์กระเป๋าเราอีกรอบ ที่นี่เป็นของสนามบิน ผ่านไปได้ เอากระเป๋าไปโหลดผ่านด่าน ตม. เป้หรือกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง พวกจับเอ็กซ์เรย์อีกรอบถ้าไม่ผ่านเค้าจะไม่ปั๊มตรง Tag กระเป๋าเรา (กระเป๋าทุกใบต้องติด Tag แล้วให้ด่านปั๊มผ่านถึงจะเข้าไปได้) ส่วนเป้ผมไม่ผ่านพวกค้นเป้ผมละเอียดเลย เจอกล้องเปิดถ่ายรูปลงพื้น 1 ครั้ง แล้วก็เล็งมาที่ผมอีก 1 แชะ กลัวกล้องผมเป็นปืนมั่ง 555 รูปที่ ตม.ถ่ายผม ไม่กล้าลบทิ้งเก็บไว้เป็นเป็นรูปคู่ที่ไม่ได้ตั้งใจถ่ายกับหวานใจผม
กว่าจะผ่านมาได้ 4 ขั้นตอน นั่งรออย่างใจเย็น
เรียกขึ้นเครื่องบ่ายสอง
ระหว่างรอเครื่องที่สนามบินเค้าแจกอาหารให้เพียงแค่เอา บอร์ดดิ้ง พาส ไปยื่น ได้มา 1 กล่อง กินแก้เซ็งไปพรางๆ
นั่งรอยาว เพื่อนเล่นดีเลย์เกือบชั่วโมง เวลา 14.40 น.ได้บินแล้วเย้.... แอร์ อินเดียภายในประเทศใหม่ดีเหมือนกัน ที่นั่งไม่อึดอัดเกินไป
ถึงจามมู 15.10 น. นั่งซักพัก ภายในเครื่องร้อนมาก ช่างเครื่องลูกเรือ เดินกันว่อน สรุป เครื่องเสียไปไม่ได้ต้องนอนที่ จามมู 1 คืน งามไส้เลย ไกด์ไทยไม่ยอมครับ โทรไปยัง Agency ทั้งที่เมืองไทยและอินเดีย ต่อรองกับสายการบินเพื่อให้ไปถึงศรีนาคา เพราะพรุ่งนี้มีโปรแกรมไปทัชมาฮาล เรียกว่าไกด์ต่อสู้สุดกำลัง เห็นใจไกด์เลย แต่เครื่องบินไม่มี ต่อรองได้เที่ยวเช้าสุดห้าโมงเช้า ไกด์บอกไม่ทัน ขอรถโค้ชให้ไปส่งที่เดลลีตอนนี้เลยสายการบินบอกว่าถ้าใช้รถโค้ชใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมงไปถึงเร็วกว่าเครื่องบินชั่วโมงเดียว ให้นอนที่จามมูดีกว่า ไม่เหนื่อยด้วยเลยต้องยอมนอนที่โรงแรมโดยสายการบินเป็นคนรับผิดชอบผู้โดยสารทั้งหมด กว่าจะตกลงกับสายการบิน Agency รวมถึงถามสมาชิกลูกทัวร์ ยอมนอนที่จามมู 1 คืน ลากกระเป๋ามารอรถจี๊ปหน้าสนามบินเพื่อไปโรงแรม
สายการบินจัดรถจี๊ปให้ครับคันนึงนั่งได้ 5 คน ส่วนรถที่เห็นเป็นรถท้องถิ่น ไม่ใช่รถที่มารับทัวร์เรา เราไม่ได้ซื้อทัวร์ของโชกุนมาใช่ไหม
ได้รถพามาส่งโรงแรม kc อยู่ในตัวเมืองกลางแหล่งช้อปปิ้ง (ใช่เปล่าไม่แน่ใจผมมั่วครับ แต่มีที่ช้อปปิ้ง ติดกับพลาซ่าด้วย)
ผู้ร่วมชะตากรรมตกเครื่องบินไฟล์เดียวกัน ส่งมานอนที่นี่หมด
เวลา 18.30 น.ได้ห้อง 302 เป็นห้องสวีท
ห้องดีมากกกก เกินความคาดหมายพอหายเซ็งไปได้บ้าง เข้าไปจะเป็นห้องรับแขกกว้างมากมีชุดโซฟาพร้อมโต๊ะรับแขกให้ 1 ชุด
ห้องรับแขกมีทีวี ตู้เย็นพร้อมโต๊ะทำงาน
ตู้เย็นมีเครื่องดื่มทุกชนิดแต่เสียเงินครับ
ขนมขบเคี้ยวก็มี
จากห้องรับแขกเดินเข้าไปเป็นห้องนอน
ถ่ายรูปจากห้องนอนไปห้องรับแขก
ห้องนอนมีเตียงเดี่ยวขนาด 6 ฟุต หมอน-ที่นอนนุ่มกำลังดีนอนหลับสบายมาก ผ้าต่างๆสะอาดมาก หอมอีกต่างหาก ชอบตรงกระจกด้านข้าง ไม่ใช้บานเต็มแต่ตัดเป็นสี่เหลี่ยม มาวางเหมือนจิ๊กซอ ดูเป็นศิลป์ดี
ปลายเตียงให้ทีวีอีก 1 เครื่องส่วนตู้เสื้อผ้าอยู่ระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอน
หัวเตียงซ้ายขวา มีโต๊ะวางของโทรศัพท์โรงแรม สวิทช์ไฟคอนโทรน ส่วนปลั๊กไฟ เป็นสามขา ได้ทั้งหัวกลมและหัวแบนเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านเราเสียบได้ทุกชนิดครับ
หัวเตียงด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำประตูใช้กระจกฝ้าทั้งบาน
เข้าไปในห้องน้ำมีตู้อาบน้ำแยกเปียก-แห้งฝักบัวพร้อมน้ำอุ่น-น้ำเย็น
ชักโครกพร้อมสายชำระ น้ำแรงมาก สะอาดไม่มีกลิ่นอับใดๆ หอมอีกต่างหาก ให้ที่ชั่งน้ำหนักมาด้วย
อ่างอาบน้ำเป็นจากุซซี่ปรับน้ำได้หลายระดับ แฟนชอบมาก
อ่างล้างหน้า กระจกบานใหญ่ อุปกรณ์พร้อมไดร์เป่าผม
ผมเก็บของเสร็จลงไปเดินเล่นแถวหน้าโรงแรม ร้านค้าคึกคักมาก
พลาซ่าอยู่ติดโรงแรมที่ผมพัก ทรงกลมๆนั้นแหละโรงแรม KC
หนึ่งทุ่มครึ่งลงมากินข้าวที่โรงแรมเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย กินไม่เยอะ ออกไปเดินเล่นที่หน้าโรงแรมต่อ
มีของขายเยอะมา ทั้งของกิน ของฝาก เสื้อ-ผ้าก็เยอะ เดินเพลินดีเหมือนกัน
น่าจะเป็นมัสยิด
ทีจามมู ดูเจริญกว่าศรีนาคาเยอะ แต่ไกด์บอกที่เที่ยวสู้ที่ศรีนาคาไม่ได้ มีธรรมชาติให้เที่ยวมากกว่า เดินไปมี แมค ขายด้วย
ตบแมคมากินที่ห้อง 1 ชุดสบายไป ส่วนคุณนายผมนอนแช่จากุซซี่สบายตัวไป คืนนี้เพลียใจมากกกก ยังดีได้ห้องสวยไวไฟแรงมาก พอหายหงุดหงิดได้บ้าง
วันนี้ได้นอนที่จามู 1 คืน พรุ่งนี้เดินทางไปเดลลีแล้วครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=03-05-2017&group=12&gblog=67
สรุปค่าใช่จ่ายวันศุกร์ 14 เม.ย.60 ***ออกส่วนตัว นอกนั้นรวมอยู่ในค่าทัวร์ตามโปรแกรม -ทิปค่าเรือ 100 รูปี -กำไล 5 เส้น 500 รูปี ตลาดจามมู -แมคไก่ 181 รูปี -ผ้าอนามัย 2 ขนาด 490 รูปี -ทิปเด็กยกกระเป๋า 50 รูปี -กระเป๋าฝาก 5 ใบ 550 รูปี -ระฆัง 1 อัน 89 รูปี
Create Date : 27 เมษายน 2560 |
|
6 comments |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2560 15:47:39 น. |
Counter : 2228 Pageviews. |
|
|
|
-อาหารทั้ง 3 มื้อ มื้อเช้าวันนี้ให้เต็ม 10 ส่วนมื้อกลางวันกับเย็นไม่มีอารมณ์กิน พอรู้ว่าไม่ได้ไปทัชมาฮาล
-ที่พัก เฮ้าท์โบ๊ท ที่พักสวย แต่ไม่เก็บเสียง ความสะอาดทุกอย่างไม่ถึงกับดี พอรับได้ ให้ 7.5/10
-พ่อบ้าน เฮ้าท์โบ๊ท เป็นคนเงียบๆไม่มารบกวน ทำตามหน้าที่ ตรงเวลา ให้ 8/10
-ไกด์ไทย คุณตุ๊กตา ยังบริการดีเหมือนเดิม ดูแลเรื่องอาหาร เทคแคร์ทุกอย่าง ยิ่งตอนรู้ว่าตกเครื่อง โทรทั้งบริษัทแม่ที่เมืองไทย Agency ทั้งไทย ทั้งอินเดีย ต่อรองสายการบิน เรียกว่าสู้สุดๆ วันนี้ให้กำลังใจเต็ม 10
-ที่พักจามมู ได้ห้องสวีท กว้าง สวย สะอาด พร้อมทุกอย่าง เต็ม 10