Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
10 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
๐ เวิ้งนั้น ๐

สุดปลายเส้นเเสงจางที่ว่างวน
ท่ามกลางหนเวิ้งหาวมีดาวเกลื่อน
เเขรูปเคียวเเขวนคว้างคล้ายลางเลือน
ที่ขอบโค้งช่างเหมือนเดือนหม่นมัว

เช่นใจช้ำจนชินดั่งบิ่นป่น
เมื่อเมฆหม่นเมฆาต้องฟ้าหลัว
เเสนระกำรูปก่อยังพอตัว
ให้นึกกลัวเเรงก่นของคนไกล

เคยวาดวีคำวอนครั้งก่อนเร้า
พนอเคล้าแนบเคียงขับเสียงใส
พร่ำเพลงเเผ่วรำพึงอลอึงนัย
ฝากลมไล้รัดตรึงเเนบหนึ่งทรวง

ดั่งพรพรหมเผยร่างเพื่อสร้างให้
รอยฝันใฝ่รำพึงจนถึงสรวง
ตอกติดภาพเพียงพานเมื่อนานลวง
จวบเกินล่วงลับวันหาฝันเนา

เหมือนลิขิตเส้นจางอันพร่างพราย
ลอกวาดลายเลือนลับรอยอับเฉา
อยู่โพ้นหยั่งยากลบหรือกลบเรา
สองเคยเฝ้าฝากรักเคยพักพา

มองเเขหม่นผ่านหมอกยิ่งตอกย้ำ
ถึงรอยกรรมเเผลเก่ายังเฝ้าหา
คืนเดือนดับดุจเเฝงเร้นเเสงครา-
สุดเวิ้งฟ้าว่ายวนด้วยป่นใจ












Create Date : 10 กันยายน 2553
Last Update : 11 กันยายน 2553 19:18:55 น. 22 comments
Counter : 614 Pageviews.

 
สวัสดีครับ แวะมาทักทายครับ


โดย: billabong11 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:22:33:04 น.  

 
ฟ้าเวิ้ง...เคยว้าง ก็จางจาก
ไร้ซาก...รอยจาง สว่างไสว
ครึ้มฝน...ครึ้มฟ้า ให้อาลัย
มองหมาย...ไม่เห็น หนาวเย็นลม
พระพาย...โชยพัด สะบัดพลิ้ว
ฝนปลิว...หวิวหวั่น จะฝันขม
กบร้อง...งึมงำ ครางระงม
ชู้ชม...อยู่ไหน ไม่เห็นเงา


โดย: พันคม วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:23:18:04 น.  

 
เวิ้งไหน ..


โดย: พ่อระนาด วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:23:52:12 น.  

 
ชะแว้บ....มาอ่านกลอนเพราะๆของพี่สาว

ข้าน้อยเขียนเป็นแต่กลอนบ้าบอคอแตก....ไม่ก็โคลง ๓ หยาบคาย....

แบบดีๆเขียนไม่เป็นง่ะ


โดย: กาปอม IP: 125.24.16.245 วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:18:24:14 น.  

 
เพียงสายลมพรมลวงผูกบ่วงรัก
กว่าประจักษ์แจ้งจิิตว่าผิดเขลา
ก็ได้รู้แท้นั้นมันเพียงเงา
ที่คลอเคล้าเย้าหยอกคอยหลอกลวง

สวัสดีค่ะ


โดย: วลีลักษณา วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:19:50:23 น.  

 
กลางฟากฟ้าเวิ้งว้างดูเหงาหงอย
อยากย้อนรอยคืนกลับมิลับเหลียว
ย้อนรอยรักรอยอดีตฝังกรีดเกรียว
ดุจคมเคียวเกี่ยวขาดสวาทวาย

ความเวิ้งว้างกลางนภาขอบฟ้ากว้าง
ดุจทรวงร้างรักเศร้าเขาห่างหาย
เหลือแต่ความอ้างว้างและเดียวดาย
ใจสลายโศกสลดรันทดตรม

สวัสดีค่ะคุณอาลีอา มาแจมด้วยค่ะ ขอให้มีความสุขกับงานกลอนนะคะ


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:21:19:16 น.  

 
เที่ยงคืนกว่าๆ สวัสดิ์ ... ของวันสบายๆๆๆๆ

แว๊ะมาทักทายกันครับ ...

.........................

๐ เคว้งคว้างล่องลอยในดาราจักร
ไร้รูปลักษณ์รังสีที่แผ่ร้อน
หาหลักฐานส่องเห็นในกลุ่มก้อน
เพียงตะกอนโคจรรอบจักรวาล

..............................

ฝันดีครับ ... ถ้ากำลังฝันอยู่



โดย: moonpeace วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:0:26:41 น.  

 

[ Please click me tender ]

สวัสดีดึกๆครับ


โดย: panwat วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:0:58:27 น.  

 
ขยันแต่งกลอนจังค่ะ แต่ละบทใช้เวลานานมั้ยคะ หรือแล้วแต่บทกลอน???


โดย: somjaidean100 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:8:42:22 น.  

 
ระลอกคลื่นถาโถมเข้าโลมฝั่ง
หาดทรายยังต้านรั้งทุกครั้งหน
เเม้เกลียวซัดเซซวนคราป่วนปน
ก็ยอมทนถึงทุกข์เข้ารุกราน

ยามลมเลพัดพลิ้วปลิวสะบัด
ละอองพัดเม็ดปรอยถึงรอยผลาญ
ความหม่นมัวทั่วทอดตลอดกาล
ยังความผ่านเผยเห็นว่าเป็นไป

.............

เเจมเเบบงงๆค่ะคุณวลี 55

โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:07:42 น.


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:29:55 น.  

 
จะโศกเศร้าอาลัยถึงใครนั้น
มิเว้นวันอาวรณ์เกินถอนเหนี่ยว
ฉุดรั้งอกใจกลั้นเพื่อฝั้นเกลียว
รวมหนึ่งเดียวสองรักเพื่อถักทอ

สานสายใยยังอยู่ครองคู่สร้าง
อย่าเลือนร้างเเลกลับไปลับหอ-
ห้องใจเขามากล้นคนเคียงคลอ
เราคงก่อเเค่ก่ายเหลือหายใจ

..........

5 5 5งงๆอีกแล้วครับทั่น

โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:14:16 น.


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:30:30 น.  

 
เพรงฝนพรำแว่วผ่านถึงลานไผ่
ลมพัดไหวเวียนวนถึงบนสรวง
ดารดาษหมู่ดาวสกาวดวง
จันทร์ลอยล่วงหายลับไปกับกาล

ดวงวันเด่นโชนช่วงถึงห้วงฟ้า
หมู่เมฆาคว้างเคว้งบรรเลงขาน
ขับกล่อมโลกลึกล้ำเช่นตำนาน
เเสนชื่นบานยามเว็นหลบเร้นไป

ว่ายวนอยู่อย่างเดิมกาลเพิ่มกัป
วัฏฏะ นับนานส่งอสงไขย
ชีวิตว้างว่างเปล่าถึงคราวใด
เเตกดับได้ดั่งคิดอนิจจัง


.............
เเจมๆๆจ้า

โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:21:34 น.


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:31:09 น.  

 
สายนทีไหลหลากจำพรากแหล่ง
มิหวนเเข่งขันเด่นดั่งเช่นฝน
เมื่อผ่านเเล้วลาลับไม่กลับวน
ดุจใจคนห่างหายมากลายลา

จากเเล้วหนอรักนั้นเคยมั่นสู่
หนึ่งอนูใจนางยอมร้างกล้า-
เผชิญต่อชีวิตลิขิตมา
คนเดียวหนาลำพังไม่หวังใคร

........

โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:28:25 น.


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:31:39 น.  

 
เราต้องทนจำฝืนเพื่อยืนสู้
ใช่มัวกู่ร้องเพรีอกเรียกหาเขา
สองขาก้าวเดินทางเเม้ย่างเบา
จะมัวเขลารอคนอื่นสนใจ

ชีวิตเราของใครที่ไหนนั่น
อย่าเพ้อฝันนอนคอยเขาลอยใกล้
เข้มเเข็งเถิดยามที่ไม่มีใคร
หยัดยืนได้สองขาอย่าล้าเลย

...........




โดย: ป๊าด..ปานเว่ย IP: 125.24.72.216 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:8:11:18 น.
แจมพี่สุนันยา


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:32:39 น.  

 
ชื่นชมอกชายที่มีรักมั่น
มิแปรผันเปลี่ยนผ่านเเม้กาลล่วง
ถึงโรคร้ายราวีฤดีดวง
ยังคิดหน่วงหนึ่งครองเพื่อสองใจ

เสียสละเลือดมียอมพลีร่าง
ต่อชีพวางเชื่อมคล้องวันผ่องใส
หากเเม้นมั่นคงรักสลักใน
ขอพบวันฟ้าใหม่สมใจปอง

.........
ถ้าบทกลอน จขบ.คือชีวิตจริง
คุณคือสุดยอดค่ะ นับถือมากๆ
เเละขอเป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: อาลีอา วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:7:57:05 น.
เเจมพันคม


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:39:49 น.  

 
ชื่นชมจากใจจริงใช่อิงอ้าง
บุรุษใจเเสนกว้างกว่าพร่างถ้อย
น้ำจิตใสสะเด็ดราวเม็ดพลอย
ยกนิ้วก้อยเเละโป้งสุดโต่งเอย

แวะมาชื่นชมอีกรอบค่ะ
คุณคือผู้ชายที่ดีมากๆจริงๆซึ่งหายากมากนะคะทุกวันนี้น่ะคะ
ข้าน้อยขอคาราวะ นับถือนับถือค่ะ


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:45:10 น.


โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:48:02 น.  

 
ความทรงจำครั้งเก่าคราเราสอง
สุขสมปองครองกันเมื่อวันเก่า
เเต่บัดนี้จำพรากต้องจากเรา
เหลือเพียงเงาเหงาใจยังใฝ่ครวญ

คิดขึ้นมาคราใดใจก็เจ็บ
สุดหนาวเหน็บบอบช้ำโศกกำสรวล
ล้าเกินเเล้วอกใครใยรัญจวน
อยากคืนหวนครวญหารักลาจร

หากทำได้เช่นคิดจะติดต่อ
ถึงเขาหนอคนนั้นภาพฝันหลอน
กลับคืนเถิดคนไกลใจรอนรอน
ขอรักย้อนก่อนสายเขาหายไป

ยินเสียงไหมคนดีที่คิดถึง
มีคนหนึ่งรำพันกับฝันใฝ่
ฝากสายลมเเสงดาวพราววิไล
บอกคนไกลกลับหน่อยฉันคอยรอ

จากคุณ : อาลีอา
เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 53 20:01:35
ถูกใจ : สุนันยา, moonpeace, กิ่งฟ้า, ตาเป๋า



โดย: อาลีอา วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:51:15 น.  

 
สมาชิกบ้านนี้โต้กลอนกันสนุกจังค่ะ แสดงว่าอารมณ์ดี สุนทรีย์กันทุกคน

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ แสดงว่าคุณอาลีอา เป็นคนใจเย็นแน่ๆเลย ใช่มั้ยคะ??


โดย: somjaidean100 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:23:20:07 น.  

 
เวิ้งนั้น ...

แปลว่าสวรรค์รึเปล่า? ......



สวรรค์ยังยืนยันเช่นเดิมนะ

ยังรอรับทั้งสองเส้นทางอยู่.....





โดย: เปลวอัคคี วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:1:05:01 น.  

 
ชอบเป็นเพื่อนกับความเหงาแน่ๆ เลย


โดย: tantaro วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:10:26:27 น.  

 
ครุ โหติ สคารโว
ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีผู้เคารพตนเอง

มีความสุขในการดำเนินชีวิต ตลอดไป..นะคะ



มาบอกว่า...

คนบ้านโน้น กะลังแย่...แฮ่ ๆ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:11:14:48 น.  

 
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำตอบค่ะ

เห็นด้วยค่ะ ว่าทุกคนต้องมีทั้งตอนอารมณ์ดี และเสีย แต่คุณอาลีอาต้องอารมณ์ดีซะส่วนมากแน่ๆ เพราะกลอนแต่ละบทใช้ภาษาค่อนข้างสวยและอ่อนๆ เพราะถ้าอารมณ์ไม่ดีบทกลอนจะต้องออกมาดุๆกว่านี้แน่ๆ
ดีจังตอนนี้กำลังศึกษาธรรมะอยู่เหรอคะ ช่วยให้ใจเย็นขึ้นหรือเปล่าคะ

อ้อ... เพลงในบล็อกชื่อเพลงอะไรคะ เพระจัง ไม่ทราบว่าคนร้องคือ นรีกระจ่าง หรือเปล่าคะ


โดย: somjaidean100 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:17:41:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาลีอา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




facebookของฉัน

: Users Online
Friends' blogs
[Add อาลีอา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.