ตอนที่ สี่
ถิ่นใคร ถิ่นมัน
เลย เถิดจนถึง เชียงคาน
เฮ้ย...เค้าขายไรกันอ่ะ
เป็นคำถามที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผมขับรถลงจากภูทับเบิกได้ซักพัก แล้วสังเกตเห็นได้ว่าตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร่มทรงกลมขนาดใหญ่หลากหลายสีสันสวยงามทั้งสีแดง เขียว น้ำเงิน พร้อมกับกองสิ่งของบางอย่างสีน้ำตาลอ่อนใต้ร่มเหล่านั่น
ด้วยความเป็นคนขี้สงสัยประกอบกับเป็นคนใฝ่หาความรู้ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย บวก กับความช่างสอดรู้สอดเห็นตั้งแต่เด็ก จึงทำให้รู้ว่าสิ่งที่เราสงสัยมันคือ มันคือ....มะขาม...มะขาม...มะขาม...แล้วก็มะขาม กับภาพที่เห็นตรงหน้า...เป็นเครื่องหมายยืนยันได้เลยว่าตอนนี้ผมยังคงอยู่ใน...เพชรบูรณ์ ดินแดนมะขามหวาน ซึ่งทุกครั้งที่ผมผ่านมาจังหวัดนี้ เป็นอันต้องเสียเงินซื้อเจ้ามะขามหวานนี้ติดมือทุกครั้งซิน่า
แต่..."เป้าหมายมีไว้พุ่งชน" จึงทำให้ความพยายามของผีที่จะพยายามผลักมือให้ของผมหมุนพวงมาลัยเพื่อที่จะจอดรถซื้อมะขาม(ของโปรดของผม) เป็นอันต้องล้มเลิกไป เพราะตอนนี้ ผมต้องการไปให้ถึง "เชียงคาน" ให้เร็วที่สุด เผื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเล่นที่นั่นก่อนค่ำซักหน่อย
หล่มเก่า เพชรบูรณ์...
ด่านซ้าย เลย...เรื่อยจนมาถึง ภูเรือ
เฉาก๊วย...รถยนต์คันเก่งของผมได้ส่งสัญญาณบอกแล้วว่า
"ผมหิวน้ำ(มัน)คร้าบ...คุณพ่อ" ด้วยความที่เป็นผู้ชายที่รักครอบครัวในแบบ family man ไม่ต้องให้ผีมาผลัก
ผมก็ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าสถานีเติมน้ำมันเพื่อเฉาก๊วย
และคิดว่าจะซื้อกาแฟเย็นซักแก้วให้กับตัวเองไปด้วยกันเลย
เติมน้ำมันแล้ว...ได้กาแฟเย็นมาหนึ่งแก้ว ภารกิจเสร็จสิ้นครบทุกอย่าง สดชื่นทั้งพ่อและลูก แต่...ช่วงระหว่างเวลาที่เติมน้มันอยู่นั้นผมได้ลองกวาดสายตาไปรอบๆ สถานีเติมน้ำมันแห่งนี้ ก็ทำให้ได้รู้ว่า ปั๊มน้ำมันที่นี่มีการตกแต่งและบรรยากาศไม่เลวเลยทีเดียว เลยเป็นอันว่าผมคงต้องลองเดินสำรวจเก็บภาพถ่าที่สถานีเติมน้ำมันแห่งนี้เสียหน่อยแล้ว ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผมมีภาพความงามของดอกไม้ โดยเฉพาะดอกลีลาวดีสีขาวที่หยอกล้อกับแสงแดดอย่างสดใสร่าเริง ไม่สะทกสะท้านต่อความร้อนแรงของแสงแดด พอที่จะมีรูปดอกไม้สวยๆ ติดมือในทริปนี้ ดื่มด่ำกับความสดใส และความงามของดอกไม้ได้ซักครู่ ผมก็รีบขึ้นรถแล้วบอกเฉาก๊วยว่า เราต้องรีบออกเดินทางแล้วละ เดี๋ยวจะมีเวลาเที่ยวเชียงคานน้อยลง
ด้วยความที่ภูเรือ เป็นอำเภอที่หนาวที่สุดในประเทศไทยและมีอุณภูมิเฉลี่ยที่เย็นเกือบตลอดทั้งปี จึงทำให้เมืองนี้เป็นเมืองแห่งดอกไม้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก อันนี้นมชมพูยืนยันได้ เพราะตลอดสองข้างทางที่ขับผ่านในภูเรือมีสวนดอกไม้สวยๆ งามๆ เต็มไปหมด จนทำให้ผมรู้สึกนึกคิดขึ้นมาได้ว่า แต่สถานที่ไม่ว่าจะเป็นที่ใดในประเทศไทยทีผมได้ผ่านไปแวะเยี่ยมเยือน เค้าก็จะมีเอกลัษณ์ ความโดดเด่น พิเศษเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ซึ่งยากที่จะลอกเลียนแบบได้ ไม่งั้นผมคงอาจจะได้เห็นภูเรือเปลี่ยนเป็นเมืองมะขามหวาน หล่มเก่ากลายเป็นเมืองแห่งดอกไม้ หรือแม้กระทั้ง ผมอาจจะได้ไปนอนอาบแดด ริมชายหาดที่เชียงใหม่ก็เป็นได้ ในเมื่อเรารู้แบบนี้...ผมคงอดใจ ห้ามใจที่จะขอเก็บบรรยากาศ ประสบการณ์และความทรงจำดีๆ ออกมาในรูปแบบของภาพถ่ายเพื่อที่จะมาเป็นของฝากจากเมืองหนาวและดอกไม้แห่งนี้ไม่ไหวซะแล้วววว
แช๊ะ...แช๊ะ...แช๊ะ
ยิงรั่วแบบไม่มียั้งก็ความงามของดอกไม้ และบรรยากาศมันลงตัวอ่ะ โอเค๊...พอละ
เฉาก๊วยลูกพ่อ เดินทางต่อไปยังเป้าหมายของเรากันเถอะ ป่านนี้คงรอเรานานแย่แล้ว
นมชมพู