Group Blog
<<
กุมภาพันธ์ 2549
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
9 กุมภาพันธ์ 2549
Chapter XV - ตำนานเทพ ฮีฟีสทัส (Hephaestus)
All Blogs
Chapter XXIII - ตำนานวีรบุรุษ เปอร์ซิอุส (Perseus)
Chapter XXII - แรงงานทั้ง 12 ของเฮอร์คิวลิส (The Labours of Hercules)
Chapter XXI - ตำนานวีรบุรุษ เฮอร์คิวลิส (Hercules)
Chapter XX - ตำนานเทพบุตร ลูซิเฟอร์ (Lucifer) หรือ ซาตาน (Satan)
Chapter XIX - ตำนานเทพี ยูโรปา (Europa)
Chapter XVIII - ตำนานเทพ แพน (Pan)
Chapter XVII - ตำนานเทพ ออร์ฟิอัส หรือ ออร์ฟุส (Orpheus)
Chapter XVI - ตำนานเทพ อีรอส (Eros) หรือ คิวปิด (Cupid)
Chapter XV - ตำนานเทพ ฮีฟีสทัส (Hephaestus)
Chapter XIV - ตำนานเทพ ไดโอนิซัส (Dionysus)
Chapter XIII - ตำนานเทพี เฮสเทีย (Hestia)
Chapter XII - ตำนานเทพ เฮอร์เมส (Hermes)
Chapter XI - ตำนานเทพี อโฟรไดท์ (Aphrodite) หรือ วีนัส (Venus)
Chapter X - ตำนานเทพี ดิมิเทอร์ (Demeter)
Chapter IX - ตำนานเทพ เอเรส หรือ เอรีส (Ares)
Chapter VIII - ตำนานเทพี ฮีร่า หรือ เฮร่า (Hera)
Chapter VII - ตำนานเทพี อาเธน่า (Athena)
Chapter VI - ตำนานเทพ อพอลโล (Apollo)
Chapter V - ตำนานเทพี อาร์เทมิส (Artemis)
Chapter IV - ตำนานเทพ ฮาเดส (Hades)
Chapter III - ตำนานเทพ โปเซดอน (Poseidon)
Chapter II - ตำนานมหาเทพ ซูส หรือ เซอุส (Zeus)
Chapter I - กำเนิดตำนาน เทพนิยายกรีก
Chapter XV - ตำนานเทพ ฮีฟีสทัส (Hephaestus)
เทพฮีฟีสทัส (Hephaestus)
วัลแคน เป็นเทพแห่งโอลิมเปียนที่ครองการช่างโลหะ เรียกตามชื่อกรีกว่า ฮีฟีสทัส (Hephaestus) มีประวัติกำเนิดเล่าแตกต่างกันเป็น 2 นัย
นัยหนึ่งว่าเป็นเทพบุตรของเจ้าแม่ฮีรากับเทพปรินายกซูสโดยตรง แต่อีกนัยหนึ่งว่าฮีฟีสทัสถือกำเนิดแต่เจ้าแม่ฮีรา ทำนองเทวีเอเธน่าเกิดกับซูสฉะนั้น คือผุดขึ้นจากเศียรของเจ้าแม่โดยลำพังตนเอง ทั้งนี้เนื่องด้วยเจตจำนงของเจ้าแม่ฮีราที่ ต้องการจะแก้ลำซูสในการกำเนิดของเทวีเอเธน่าให้เทพทั้งปวงเห็นว่าเมื่อซูสทำให้เทวีเอเธน่าเกิดเองได้ เจ้าแม่ก็สามารถทำให้ ฮีฟีสทัสเกิดเองได้เช่นกัน
แต่ถึงกำเนิดของเทพฮีฟีสทัสจะเป็นประการใด ก็ต้องนับว่าฮีฟีสทัสเป็นเทพบุตรของซุสด้วยเช่นกัน หากมีข้อควรกล่าวก็ คือว่า ฮีฟีสทัส "ติดแม่" มากกว่า "ติดพ่อ" และเข้ากับ "แม่" ทุกคราวที่ "พ่อแม่ทะเลาะกัน" ตามประสา "ผัวเจ้าชู้" กับ "เมียขี้หึง" ทั่วไป ในคราวหนึ่งซูสประสงค์จะลงโทษเจ้าแม่ฮีราให้เข็ดหลาบ เอาโซ่ทองล่ามเจ้าแม่แขวนไว้กับกิ่งฟ้าห้อยโตงเตง อยู่ ดังนั้นฮีฟีสทัสก็เข้าช่วย เจ้าแม่ พยายามแก้ไขโซ่จะให้เจ้าแม่เป็นอิสระ ซูสบันดาลโทสะ จึงจับฮีฟีสทัสขว้างลงมาจากสวรรคโลก
ฮีฟีสทัสตกจากสวรรค์เป็นเวลาถึง 9 วันจึงลงมาถึงมนุษย์โลก ณ เกาะเลมนอสในทะเลเอจีน และเนื่องในการตกครั้งนี้ เธอจึงมีบาทแปเป๋ไปข้างหนึ่งตั้งแต่นั้น มา แต่ทั้งที่เธอต้องพิการเช่นนั้นด้วยหมายจะช่วยมารดา
เจ้าแม่ฮีราผู้เป็นมารดาก็หาแยแสเหลียวแลเธอไม่ ฮีฟีสทัสเทพบุตรบังเกิดความโทมนัสซ้ำเติมอย่างแสนสาหัสใน ความเฉยเมยของเจ้าแม่ ถึงแก่ตั้งปณิธานว่าจะไม่กลับขึ้นไปบนเขาโอลิมปัสอีก เธอจึงสร้างวังประทับอยู่ในเกาะเลมนอสและตั้งโรงหล่อเพลิดเพลินในการช่างฝีมือประกอบ โลหะนานาชนิด โดยมีพวกยักษ์ไซคลอปส์เป็นลูกมือ และเพื่อจะแก้ลำความเมินเฉยของมารดา เธอจึงสร้างบัลลังก์ทองคำเปล่งสะพรั่งพร้อมด้วยลวดลายสลักเสลาอย่างหาที่ เปรียบมิได้ขึ้นตัวหนึ่ง เป็นบัลลังก์กลประกอบด้วยลานกลไกซ่อนอยู่ข้างใน ส่งขึ้นไปถวายเจ้าแม่ฮีรา เจ้าแม่ยินดีในรูปลักษณะอันแสนงามของบัลลังก์กล สำคัญว่าเป็นของ บุตรถวายโดยซื่อ พอขึ้นประทับเครื่องกลไกที่ซ่อนอยู่ก็ดีดกระหวัดรัดองค์เจ้าแม่ตรึงติดกับบัลลังก์อย่างมั่นคง จนไม่สามารถแม้แต่จะขยับเขยื้อนองค์ แม้เทพทั้งปวงจะรวม กำลังกันเข้าแก้ไขก็จนปัญญา ไม่มีทางปลดเปลื้องพันธนาการให้หลุดออกไปได้
เมื่อเหนือกำลังทวยเทพดังนั้น เฮอร์มีส เทพผู้มีลิ้นทูต จึงอาสามาเกลี้ยกล่อมวอนง้อขอให้ฮีฟีสทัสขึ้นไปช่วยแก้แต่ "ลิ้นทูต" ของเฮอร์มีสกลับกลายเป็น "ลิ้นถึก" ในกรณีนี้ แม้เธอจะหว่านล้อมด้วยความคมขำไพเราะสักเพียงใด ก็ไม่อาจชักจูงฮีฟีสทัสให้ขึ้นไปบนเขาโอลิมปัสได้
ทวยเทพประชุมปรึกษากันอีกวาระหนึ่ง มองไม่เห็นใครนอกจากเทพไดโอนิซัส จะช่วยได้ จึงเห็นชอบพร้อมกันส่งไดโอนิซัสลงมาเกลี้ยกล่อมเทพฮีฟีสทัสด้วย อุบาย คือใช้วิธีมอมฮีฟีสทัสด้วยน้ำองุ่นจนฮีฟีสทัสเคลิบเคลิ้มมึนเมา แล้วไดโอนิซัสก็พาฮีฟีสทัสขึ้นไปแก้เครื่องกลพันธนาการให้เจ้าแม่ฮีราเป็นอิสระจนได้ ใช่แต่เท่านั้น เธอยังช่วยไกล่เกลี่ยให้เทพบิดามาดรและเทพบุตรออมชอมเข้ากันได้ดังปกติอีกด้วย
แต่ทั้งที่ได้รับความยกย่องโปรดปรานเทียมเท่าเทพองค์อื่น ๆ ในคณะเทพโอลิมเปียนแล้วเช่นนั้น ฮีฟีสทัสก็ไม่ยินดีที่จะอยู่บนเขาโอลิมปัสเป็นประจำ จะขึ้นไปก็เฉพาะคราวประชุมเทพสภาและในวาระอื่น ๆ เท่านั้น ในยามปกติเธอคงขลุกอยู่ในโรงหล่อ และหมกมุ่นง่วนกับงานช่างของเธอเป็นนิตย์ จะเปรียบเธอก็เป็น พระเวสสุกรรมของกรีก เพราะการสร้างวังที่ประทับของเทพแต่ละองค์บนเขาโอลิมปัสนั้นเป็นพนักงานของ เธอทั้งสิ้น นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ออกแบบประกอบเครื่องตกแต่งตำหนักต่าง ๆ ด้วยโลหะประดับมณีแวววาว จับตา และประกอบอสนีบาตเป็นอาวุธถวายแก่ซูส กับศรรักให้อิรอส
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2549 12:53:10 น.
10 comments
Counter : 918 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาอ่านค่ะ
ชอบอ่านตำนานเทพจังลเย
โดย:
Batgirl 2001
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:57:14 น.
สวัสดีค่า ขอบคุณที่ไปทักทายนะคะ ชื่อล็อกอินเรา ก็เอามาจากเพลงนั้นในหนังเรื่อง DDLJ ค่ะ เพราะดูหนังอินเดียช่วงแรกก็ประทับใจเรื่องนี้มากมากๆ เลยค่ะ ชอบมากมาก
โดย: Mehndi Laga Ke Rakhna IP: 158.108.23.149 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:06:05 น.
โดย:
Jannyfer
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:07:30 น.
โอ ชอบ
โดย: thert IP: 203.188.14.79 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:22:33:46 น.
โดย: ทอฟฟี่ IP: 125.27.12.226 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:22:11:06 น.
ความจริงแล้วตอนที่ฮีฟีสทัสจะช่วยเฮร่า เพราะเฮร่าทำผิดคิดกฏบต่อซีอุชเมื่อซีอุชจับได้จึงถูกลงโทษ และเทพเจ้าฮีฟีสทัสคงจะสงสารพระมารดาเลยเข้าไปช่วยแก้โซ่ตรวง และไอ้ตอนที่กำลังไขกุญแจอยู่นั้น เทพเจ้าซีอุชเข้ามาเห็นพอดีเลยโดนจับเหวี่ยงลงมาจากสรวงสวรรค์ จนขาต้องเปไปข้างหนึ่ง
โดย: อเธน่า IP: 58.9.190.56 วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:14:56:44 น.
แล้วรู้หรือป่าวว่าเทพเจ้าเฮอมีสแท้ที่จริงแล้วเป็นเทพองค์ใด ความาจริงแล้วเป็นเทพเจ้าวอร์คิวรี่ของทางฝั่งเทพเจ้ายุโรปเหนือ คือพวกเทพเจ้าเข้าก็มีการแบ่งอาณาเขตกันอยู่เหมือนกันนะครับ เทพเจ้าของกรีก และโรมัน ก็จะอยู่แถวแถบทางตะวันตกจะไม่ก้าวก่ายมาทางตะวันออกเป็นอันขาด ส่วนทางยุโรปก็จะมีโอดีนเป็นใหญ่ทางด้านยุโรปเหนือนนะครับ ส่วนทางอียิปก็จะมีเทพเจ้าราเป็นใหญ่อยู่เหมือนกันนะครับ
กลับมาที่เทพเจ้าเฮอมีส(โรมัน) หรือเทพเจ้ามอร์คิวรี่ (กรีก) หรือเทพเจ้าวอร์คิวรี่(ยุโรป) ผมขอเรียกเทพเจ้าองค์นี้ว่าวอร์คิวรี่ก็แล้วกันนะครับ เพราะชอบชื่อนี้ วอร์คิวรี่จะมีอำนาจมาเหลือหลายคือสามารถแปลงร่างได้ดังใจนึก จนนักปราชญ์หลายคนยังไม่แน่ใจเลยว่าวอร์คิวรี่นั้นแท้จริงแล้วมีร่างเป็นอะไรกันแน่ บางสมัยก็บอกว่าเป็นร่างชายแก่ที่มีหนวดเคราเต็มหน้าเต็มตาอีกบางสมัยก็บอกว่าเป็นชายหนุ่มที่มีผิวกายสีทองหน้าตาหร่อเหลาและยังเยาว์วัยด้วย พอมาบางสมัยทางยุโรปบอกว่าเป็นผู้หญิงที่สวมหมวกมีปีกตรงใบหู ข้อเท้า หรือสามารถกางปีกทั้งหมดได้ทั้ง 8 ปีก คือตรงใบหู2ปีก ข้างหลัง4ปีก และข้อเท้า2ปีก สามารถไปมาดุจสายลม แม้แต่เทพเจ้าสงครามคือ อเธน่า(ไม่ใช่เอเรส หรือมาร์ส เพราะไม่เก่งเลย)ยังไม่สามารถไล่ตามทันเลยนะครับ คิดดูก็แล้วกัน
โดย: วัลแคล IP: 58.9.190.56 วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:15:16:59 น.
ไม่น่าใช่ ถ้าจะเทียบเฮอมิสกับตำนานของชาวนอร์สแล้ว เฮอร์มิสน่าจะเปรียบได้กับเฮอร์มอด(Hermod) เพราะชื่อคล้ายๆกันแถมยังมีหน้าที่เป็นเทพสื่อสารเหมือนกันอีก ส่วนวัลคีรีนั้นเป็นเทพธิดาที่ทำหน้าที่นำวิญญาณนักรบไปยังวัลฮัลลา(ห้องโถงบนสวรรค์) เพื่อรอคอยวันมหาสงครามวิบัติโลก หรือวันแร็กนาร็อก(Ragnarok)นั่นเอง
โดย: Forcerios IP: 124.121.107.152 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:12:21:34 น.
จริงด้วยสรุปแล้วเฮอมิสเขาอยู่ฝ่ายไหนกันแน่
โดย: Rain IP: 58.8.93.197 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:39:06 น.
อยาก ด้ายรุปอ่ะ คร่ะ ขอเวปลิ้งได้ไหม?
โดย: ไซคี IP: 118.173.88.160 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:32:19 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ทองมา วโรช ฤทธิ์ดล
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
คูโนก้า
ยายตัวร้ายกับนายอนาคิน
ใสบาบา
arisa911
Lionia
Kenshin
กึ่งยิงกึ่งผ่าน
Mehndi Laga Ke Rakhna
Webmaster - BlogGang
[Add ทองมา วโรช ฤทธิ์ดล's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ชอบอ่านตำนานเทพจังลเย