Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
มิวเซียมสยาม-ท่าเตียน

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พุทธศักราช 2555
น้องไทอายุ 2 ขวบ 9 เดือน 11 วัน

เมื่อหลายๆ วันที่แล้วเดินผ่านน้าอ้วนที่กำลังท่องโลกอินเตอร์เน็ตอยู่ เธอบ่นลอยๆ ขึ้นมาว่า "คนไทยไม่ค่อยชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันเลยเนอะ?" แม่ตอบด้วยคำถามว่า "เหรอ?" ในหัวก็กำลังคิดว่าพาน้องไทไปพิพิธภัณฑ์มาก็เยอะนะ เท่าที่ลง Blog ไว้ก็มี ไม่ได้ลงก็มี แต่ก็จริงอยู่ถ้าไม่มีน้องไทแม่เองก็ไม่เคยคิดจะไปเหมือนกัน แล้วตาก็เหลือบไปเห็นหน้าจอที่น้าอ้วนกำลังเปิด เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สวยเชียว สอบถามได้ความว่า นั่นคือ "พิพิธภัณฑ์สยาม"

วันนี้ที่บ้านไม่มีโปรแกรมอะไร แม่ก็รีบหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว เปิดหน้าจอข้อมูล+แผนที่ตั้งให้พ่อหนุ่มศืกษาระหว่างแม่แต่งตัวให้คุณลูก กว่าจะออกเดินทางได้ก็สายโด่

ที่นี่เค้าเรียกตัวเองว่า "มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้" ไม่เห็นตรงไหนเขียนว่า "พิพิธภัณฑ์สยาม" เลย ในที่นี้แม่ก็ขอเรียกตามเค้าก็แล้วกันนะจ๊ะ

มิวเซียมสยามตั้งอยู่ที่ ถ.สนามไชย บริเวณท่าเตียน หรือก็คือกระทรวงพาณิชย์เดิมนั่นเอง พ่อหนุ่มขับรถพาเราผ่านสนามหลวง ซึ่งตอนนี้ตั้งพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพันนวดี แม่ถ่ายรูปไม่ทัน แต่เมื่อไม่กี่วันน้าอ้วนเพิ่งไปถ่ายรูปมา เลยขอใช้รูปซะเลย



กล้องก็ตัวเดียวกัน แต่น้าอ้วนถ่ายได้สวยกว่ากันเยอะ รูปนี้น้าอ้วนแลกมาด้วยหน้าและแขนเกรียมแดดเลยนะเนี่ย

มาถึงแล้วจ้า แดดร้อนแรงจริงๆ ก็เกือบเที่ยงแล้วนี่



ศิลปกรรมด้านหน้าอาคารไม่รู้ว่าซ่อมหรือสร้างใหม่ยังไม่เสร็จ เสียดายภาพเลยไม่สมบูรณ์เท่าไร

เข้าไปก็ต้องจ่ายค่าเข้าชมก่อนจ้า ผู้ใหญ่คนละหนึ่งร้อยบาทถ้วน น้องไทเข้าฟรีแถมของแจกด้วย แต่ต้องลงชื่อไว้ในสมุด แล้วเจ้าหน้าที่จะแจกป้ายคล้องคอคนละหนึ่งอัน จากนั้นก็จะเชิญเข้าห้องบรรยายด้วยภาพ

กลุ่มที่ดูหนังรอบนี้กับเราเป็นชาวต่างชาติเกินครึ่ง เลยหวนคิดถึงคำน้าอ้วน สงสัยจะจริงแฮะ

น้องไทดูยังตื่นกับที่แปลกใหม่และมืดด้วย พ่อหนุ่มเลยล่อหลอกด้วยของแจกจากมิวเซียม



หนังประมาณว่าขณะนี้เราอยู่ในยุคนี้ แต่ส่วนหนึ่งของชาติพันธุ์เรายังถ่ายทอดมาในตัวเราจนทุกวันนี้ เหมือนในตัวน้องไทมีส่วนที่ได้มาจากแม่หวีดกะพ่อหนุ่มอย่างละครึ่ง ได้มาจากคุณปู่โพธิ คุณย่าตุ๋ย คุณตาหรั่ง คุณยายนิด มาคนละหนึ่งในสี่ ได้จากรุ่นคุณทวดมาคนละหนึ่งในแปด แบบนี้ถอยไปเรื่อยๆ แม่ว่ามันเป็นเรื่องที่วิเศษจริงๆ ที่เราได้รับส่วนหนึ่งตกทอดมาเรื่อยๆ จากคนที่รักเราตั้งหลายคน

พ่อหนุ่มตั้งใจประกอบของแจกให้น้องไทมากๆ ยังก้มหน้าทำอยู่เลย



หนังจบพ่อหนุ่มทำเสร็จพอดี มันคือ Pop-up รูปตึกมิวเซียมสยามนี่เอง พร้อมศิลปกรรมหน้าตึกที่กำลังก่อสร้างด้วย อ้อ มันหน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง



หนุ่มน้อยยังทำหน้าเฉยเมยอยู่เหมือนเดิม ก่อนออกจากห้องเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถจับต้อง ลอง เล่น ถ่ายรูป ได้ทุกอย่าง ดีจังแฮะ เพราะธรรมชาติเด็กน้อยช่วงนี้ อยากรู้ อยากเห็น อยากสัมผัส ไปหมด มันคันมืออ่ะเนอะ แม่เข้าใจ

จากนั้นก็เดินไปที่ห้องแรก



ยิ้มให้ถ่ายรูปแบบฝืนสุดๆ เล่าด้วยภาพต่อก็แล้วกันนะจ๊ะ





เด็กน้อยยังมีใบหน้าวิตกกังวล ในขณะที่สายตาพ่อหนุ่มบอกเป็นนัยว่าถ่ายรูปเสร็จหรือยังเห็นไหมว่าลูกกลัวอยากให้แม่อุ้มอยู่เนี่ย อ่า...พอก็ได้ แล้วเราก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้นสามกันตามป้ายแนะนำ

มาชั้นนี้เป็นประวัติย้อนตั้งแต่ยุคโบร่ำโบราณมาก เป็นเรื่องเล่าจากโครงกระดูกที่ขุดพบ ตรงนี้มีของให้เล่นด้วย เป็นจอให้ใช้แปรงปัด ปัด ๆ ไปเรื่อยๆ ก็จะมีไห หรือวัตถุโบราณโผล่ขึ้นมา แม่ทำเป็นตัวอย่างให้น้องไทดูก่อน ตามคาดตัวน้อยของแม่ยอมลงจากอ้อมกอดพ่อมาเล่นได้แล้ว



แบบว่าชอบมาก ต้องปัดให้ครบทุกจอ



เมื่อภารกิจปัดจอ เอ๊ย! ขุดค้นเสร็จสิ้นก็มาห้องต่อไปกันได้

แม่ชอบจังที่ความสูงของช่องพอดีกับน้องไทยืนดูเองได้ (ตอนนี่หนูสูงประมาณ 96 เซ็นติเมตรจ้า)







เด็กน้อยอยากดูบ้าง ตรงนี้เค้ามีรั้วกั้น แปลว่าไม่ให้จับแน่แท้ แต่มันยั่วยวนเสียเหลือเกิน ดูท่าตะกายของคุณชายสิ



แล้วก็หันไปเจอเรือจำลอง



จับไว้ทันก่อนท่านจะดึงลงมา แต่เรือมันก็น่าเล่นเหลือเกิน





มีปืนใหญ่ให้ลองยิงด้วย



แม่ทดลองเล่น มือซ้ายอุ้มลูก มือขวาหันปืนกับกดปุ่มยิง ผลคือข้าศึกบุกถึงตัวอย่างรวดเร็ว จบเกมส์

แล้วก็เดินทางไปห้องต่อไป สว่างขึ้นหน่อย มีอะไรให้เล่นอีกแล้ว







ห้องถัดไป เด็กๆ ชื่นชอบกันมาก



มีของเล่นแบบไทยๆ มาให้ลองเล่นกัน เช่น ลูกข่าง เดินกะลา เป็นต้น



เด็กชายผู้ต้องลองให้ครบทุกอย่าง



มาต่อห้องถัดไป





แม่ขอแชะกะน้องไทบ้าง



ห้องนี้เค้าให้สวมบทบาทเป็นผู้อ่านข่าว อัดได้ประมาณยี่สิบวินาทีนะ ถ้าจำไม่ผิด



ห้องนี้คงเป็นยุค 60s ละมั้ง



หน้าร้านมีรถสปอร์ตคันโก้จอดอยู่



ต้องขอลองสักหน่อย ขับด้วยสายตาหวั่นๆ เพราะในรถมันค่อนข้างมืดและเก่า นั่งคนเดียวคงเสียวๆ อยู่



เมื่อท่านชายเจอของประดับในร้าน ก็พุ่งปรู๊ดเข้าไปอย่างรวดเร็ว



ก่อนถึงทางออกจะมีห้องให้แสดงความคิดเห็นต่อคำถามที่เค้ามีไว้ แล้วก็จะขึ้นที่จอบนกำแพง แม่อ่านให้ฟังแล้วน้องไทก็เขียน



แล้วก็ถึงทางออกเดินผ่านบันไดไม้อันโอ่โถงลงมาจากชั้นสอง เจอเข้ากับตู้ซื้อของที่ระลึก มีสามลายให้เลือก ตามคาดน้องไทเลือกรูปรถยนต์แน่นอน



รีบทำเวลากันสุดๆ เพราะเกือบบ่ายสองแล้ว กลัวน้องไทหิว พ่อหนุ่มเลือกร้านนี้ให้ ใกล้ๆ มิวเซียมสยามเลย



จริงๆ แล้วอยากพาน้องไทลองนั่งเรือข้ามฟาก ซึ่งท่าเรือก็อยู่ใกล้ๆ สโมสรนั่นเอง แต่แดดร้อนมาก และหนูเริ่มออกอาการง่วง เลยอด ขานั่งรถกลับเจอแอร์เย็นๆ ติ๊งต่่องเพราะๆ และอ้อมกอดแม่ เลยหลับอย่างรวดเร็ว

แม่ขอจบ Blog นี้ด้วยรูปยิ้มแก้มแทบปริของน้องไทนะจ๊ะ

คืนนี้ก่อนขึ้นนอนก็ขออ้อนคุณตาสักนิด เรียกรอยยิ้มจากคนทั้งบ้าน น่ารักจริงๆ



รักน้องไทมากมายมหาศาลเลยจ้า
** แม่หวีด**




Create Date : 27 เมษายน 2555
Last Update : 28 เมษายน 2555 23:50:24 น. 0 comments
Counter : 1610 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NokKaWeed
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Daisypath Anniversary tickers Lilypie Kids Birthday tickers
Friends' blogs
[Add NokKaWeed's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.