ครบปีกับการเป็นเด็ก internship อะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนไป

ครบปีไปได้ประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ แต่อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปหมด บริษัทไม่ต่อสัญญาให้เด็กเลยซักคน เพราะ เกิดภาวะขาดทุนในโรงแรมไม่มีการรับคนมาทำงานเพิ่มเลย

พอเราไม่ได้ต่อสัญญาก็ถามไปที่ agent ที่พาเรามาบอกต้องย้ายรัฐ ไปอยู่เมืองทางตอนเหนือซึ่งไม่มีไรเลย หรือจะไป เทนเนสซี่ เราก็ถามว่าแล้วค่าย้ายใครออก มันบอก ยูออกเอง อ้าว!!! แล้วใครจะอยากไป ได้เรทก็น้อยลง เหลืออีกแค่ปีเดียว ค่าโครงการก็โดนมันหัก paycheck ไปแล้ว แถมเพื่อนๆ ทั้งหมดแทบจะไม่มีใครได้ต่อสัญญาเลย

นี่ล่ะค่ะ ไอ้ที่เราวาดฝันไว้สวยหรู ตาม Job Description ที่มันให้มาตอนเราเอาไปขอวีซ่า ไม่ได้ตรงกับความจริงหรอกค่ะ

งานที่ทำเราออาจจะโชคดีที่ทำงานในสายที่เรียนมา คือ อยู่ accouting แต่เพื่อนบางคน จบ Finance ให้ไปเป็นเด็กเสิร์ฟ จบเศรษฐศาสตร์ให้ไปเป็น พนักงาน Starbuck แต่มาแล้วนี่นา มันก็ต้องสู้ๆ กันไป

โรงแรมเราส่วนนึงที่ไม่อยากรับเด็กนักเรียนไว้ทำงานก็เพราะ ต้องจ่ายค่าแรงสูง เราทำงานในส่วน Account Payable เลยได้รู้การจ่ายเงินทะงหมดของโรงแรม ทุกๆ สองสัปดาห์โรงแรมจะต้องจ่ายเงินให้ HCMs (ไอ้เอเจนท์ที่พาเรามา) เยอะมาก เราเลยแอบดูปรากฏว่า ในทุกใบลงเวลา ที่เราเขียนแล้วให้ Supervisor เซนต์ เพื่อส่งให้ Human Resource อย่างเราถ้าเป็นพนักงานธรรมดาของทางโรงแรม จะจ่าย 11/hr แต่ ทางโรงแรมต้องจ่ายเงินให้เอเจนท์เรา 13.5/hr แล้วอีเอเจนท์ก็หักไป 2.5/hr จแล้วออก paycheck มาจ่ายนักเรียน 11/hr เท่าพนักงานปรกติ

ยิ่งช่วงที่มีเด็ก work and travel มาเยอะๆ นะคะ จ่ายกันที สามหมื่นเหรียญเลยทีเดียว

นี่เป็นส่วนหนึ่งเลยที่โรงแรมอยากลดต้นทุนตรงนี้ลงไป

ตอนที่เรามา work อะเราทำที่ Hyatt Regency Lake Las Vegas เราได้รับเช็คจากโรงแรมโดยตรง เราคิดว่าเงินค่าชั่วโมงเอเจนท์เราเค้าก็ไม่ได้รับ แล้วเราก็มีสิทธิเหมือนพนักงานทั่วๆไป ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ เอเจนท์ที่เราเคยมาคงได้ไปแต่ค่าโครงการ ไม่ได้หักบ้าเลือดแบบเอเจนท์นี้

Create Date : 29 สิงหาคม 2551		1 comments
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 9:17:40 น.
Counter : 1927 Pageviews.
Share Tweet