ความจริงเกี่ยวกับอาวุธป้องกันตัวกับสุภาพสตรี
ปัจจุบันอาวุธพกพาเพื่อการป้องกันตัว ถูกนำมาขายโดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นอาวุธคลาสสิคอย่างมีดหรือปืน หรือ อาวุธพกพาสมัยใหม่จำพวกสเปรย์พริกไทย เครื่องช๊อตไฟฟ้า ไซเรน ไฟฉายแทคติคอล และ อื่น ๆ ส่วนมากจะบรรยายสรรพคุณกันขนานใหญ่ และ รับรองกันว่าได้ผลแน่นอน แต่หากในความเป็นจริงแล้วอาวุธป้องกันตัวโดยมากมักไม่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อการป้องกันตัวจริง ๆ เพราะอย่างที่รู้กันว่าเวลาจะเอาอุปกรณ์ไปเก็บก็เก็บใส่กระเป๋าถือเสียอย่างนั้นโดยเฉพาะพวกชิ้นใหญ่ ๆ อย่างมีด เครื่องช๊อตไฟฟ้า และ ปืน ก็พกพาอย่างเปิดเผยไม่ได้จนทำให้แทบไม่มีโอกาสได้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ลองดูคลิปข้างล่างนี้นะครับ เกิดเหตุผู้หญิงชาวจีนคนหนึ่งถูกแทงจนเสียชีวิตในที่สาธารณะต่อหน้าคนจำนวนมาก คุณจะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีโอกาสเลยที่จะป้องกันตัวถึงแม้จะมีอาวุธพกพาอยู่หรือไม่ ไม่มีโอกาสที่จะคว้า และที่คลิปนี้แสดงได้ดีก็คือคุณไม่สามารถหวังพึ่งใครได้นอกจากตนเอง ผมจะไม่บอกว่าอาวุธป้องกันตัวทั้งหลายนั้นใช้งานไม่ได้ แต่อาวุธเหล่านี้จะใช้งานได้ดีเมื่อมีการเตรียมพร้อมหรือการเตรียมตัวที่ดีพอ ยกตัวอย่างเรื่องปืนเพราะหลาย ๆ ครั้งที่เรามักได้ยินว่าไปเรียนยิงปืนดีกว่าเรียนป้องกันตัวปืนที่ตำรวจพกพากัน ตำรวจจะพกพาปืนที่ข้างเอวเพื่อนำมาใช้งานได้สะดวกพร้อมที่จะดึงออกมาได้เกือบตลอดเวลา แต่ตำรวจเองโดยมากก่อนจะเข้าสถานการณ์ก็จะชักปืนออกมาเตรียมพร้อมไว้ก่อน คือ มีการพร้อมยิงก่อนแล้ว ไม่ใช้การชักปืนเร็วแล้วมายิงกันแบบในหนังในชีวิตประจำวัน ส่วนบุคคลทั่วไปที่ไม่มีโอกาสพกพาโดยเปิดเผยแบบตำรวจ ก้มักแอบพกกันในกระเป๋า แต่หากคุณพกปืนในกระเป๋าถือแบบที่หลายคนทำกันคุณแทบจะไม่โอกาสดึงออกมาด้วยซ้ำเมื่อเกิดสถานการณ์เฉพาะหน้า เพราะ กว่าที่คุณจะรู้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น อีกฝ่ายก็เข้าถึงตัวแล้ว มีดที่บางคนชอบพกพากันนั้นก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อดึงออกมาเพื่อใช้งาน ซึ่งเป็นปัญหากับบรรดาสาว ๆ ที่การแต่งกายไม่เอื้อให้พกพาสะดวกแบบนั้น หรือ อย่างปากกามีดที่หลาย ๆ คนชอบก็ใช้งานลำบากกว่าจะดึงออกมากว่าจะดึงมีดออกมาได้เพราะจะเอาเวลาที่ไหนไปดึงหรือหมุนใบมีดออกมาซึ่งต้องใช้สองมือช่วยกันหมุนหรือดึงยกตัวอย่างเช่นในกรณีถูกล๊อคคอจากด้านหลังถ้าถูกรัดคอโดยผู้ชายที่ขนาดร่างกายปกติแล้ว คุณแทบไม่มีโอกาสดึงมีดออกจากกระเป๋า และ ไปหมุนใบมีดออกมาเลย เพราะอะไรถึงว่าเช่นนั้น เหตุผลก็เพราะเมื่อถูกล๊อคคอสัญชาติญาณของคุณจะสั่งให้ตัวเองดิ้นรนหาทางหายใจด้วยการดึงแขนของอีกฝ่ายออก อีกทั้งหากไม่ดึงแขนเอาไว้เมื่อผู้ชายที่โดยมากมีความสูงมากกว่าผู้หญิงมาล๊อคคอและดึงตัวคุณไปด้านหลังจะทำให้คุณอยู่ในสภาพถูกแขวนคออยู่ หากใช้เวลาที่โดนล๊อคคอเอามือสองข้างไปควานหาของในกระเป๋าหรือมัวไปหมุนมีดปากกาอยู่นั้นคุณมีโอกาสจะหมดสติก่อนที่จะหาของหรือหมุนมีดออกมาทันด้วยซ้ำเพราะไม่มีมือที่จะป้องกันตัวเองบ้างเลย สำหรับสเปรย์พริกไทยนั้นก็มีหลายจุดอ่อนที่คนขายมักไม่บอกคุณ นอกเหนือจากพกพาลำบาก โดยเฉพาะถ้าใส่ในกระเป๋าแล้ว ใช้งานตอนฉุกเฉินลำบากเพื่องจากต้องมีการเตรียมการดึงและกด ( ลองคิดภาพหากคุณเป็นผู้หญิงในคลิปด้านบนที่มีสเปรย์พริกไทยพกอยู่จะเอาออกมาทันไหม)ผลของสเปรย์พริกไทยยังไม่แน่นอนและใช้เวลาในการออกฤทธิ์เสียอีก ตัวอย่างเช่น คลิปด้านล้างนี้เป็นตัวอย่างการทดสอบสเปรย์พริกไทย คุณจะเห็นหลาย ๆ อย่างจากคลิปช่วงแรกที่ต้องมีการพ่นหลายครั้งเนื่องจากสเปรย์พริกไทยอาจจะไม่ได้ผลเลยถ้าคุณพ่นไม่ถูก หรือ อาจจะถูกแต่ไม่ออกฤทธิ์ทันที นอกจากนั้นถึงแม้จะถูกสเปรย์พริกไทยไปแล้ว อีกฝ่ายยังมีแรงที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่ ในที่นี้คือการยิงปืน ซึ่งหากหันปากกระบอกใส่คนพ่นสเปรย์แล้วผลที่ได้คงไม่ดีแน่นอน ส่วนจุดอ่อนอื่น ๆ ของสเปร์ยพริกไทยผมขอไม่บอกในที่นี้ เพราะ มีโอกาสที่คนร้ายทั้งหลายจะเอาไปใช้ได้ บางครั้งการโฆษณาและการฝึกแบบไม่เน้นที่ความเป็นจริงก็ทำให้ผลที่ได้ต่างออกกันออกไปมาก อย่างการทดสอบสเปรย์พริกไทยที่เราเห็น ๆ กัน โดยมากมักอยู่กับเป้านิ่ง ๆ ทำให้ยิงเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย นอกจากนั้นก็มักมีการถือเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้เตรียมพร้อมไว้แล้วเสียมาก (พูดง่าย ๆ ว่าหลาย ๆ ครั้งเป็นการแสดงเพื่อขายของครับ) แต่ไม่ใช่ว่าผมจะแอนตี้อุปกรณ์เพื่อการป้องกันตัวเหล่านี้นะครับ จริง ๆ แล้วผมเองก็แนะนำให้สุภาพสตรีพกพาอาวุธป้องกันตัวครับ โดยใช้ควบคู่ไปกับการฝึกการฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วจะมีโอกาสใช้งานได้ผลมากที่สุด เพราะศิลปะการต่อสู้นั้นจะสามารถสร้างโอกาสและจังหวะให้สามารถดึงอาวุธเหล่านี้ออกมาใช้ได้ ตัวอย่างเช่นหากถูกล๊อคคอแล้วคุณสามารถดึงตัวเองออกมาด้วยมือเปล่าได้ก่อนและหยุดคู่ต่อสู้ได้จนมีเวลาพอที่จะดึงอาวุธออกมาใช้ได้ผลที่ได้จะเพิ่มขึ้นอีกมากครับ แล้วจะมาเขียนเรื่องนี้ต่อในตอนหลังครับ