พระนารทฤๅษี

เทพเทวา เทวี ในตอนนี้ขอนำเสนอเรื่องของเทพแห่งความรอบรู้ขอพราหมณ์ – ฮินดูค่ะ

พระนารทฤๅษียังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อเช่น พระนารท ตริกากัชณะ พระฤๅษีนารอทเป็นต้น ตามตำนานของฮินดูปกรณัมกล่าวว่า พระนารทฤๅษีเป็นเทพแห่งความรู้ความปราดเปรื่อง อย่างที่บอกไปในตอนต้น นอกจากนี้ยังเป็นเทพองค์แรกที่คิด “นาตยะโยคะ” ค่ะ

ทางด้านศาสตร์ทางดนตรีต่างๆผู้ที่เรียนทางด้านศาสตร์นี้มาจะรู้จักพระนารทฤๅษีในนามว่า “พระปะโคนธรรพ”ซึ่งคำๆนี้น่าจะมาจากคำว่า “ปรคนธรรพ” มีความหมายว่า ยอดแห่งคนธรรพเนื่องจากพระนารทฤๅษีเป็นผู้คิดค้นพิณขึ้นมา ด้วยพระนารทฤๅษียังมีความเชี่ยวชาญการดนตรีเป็นอย่างมากนั่นเอง(ศาสตร์แห่งดนตรีเป็นศาสตร์ของเหล่าคนธรรพค่ะ)

กำเนิดของพระนารทฤๅษีมีเล่าไว้แตกต่างกันนะคะบางตำนานกล่าวว่าพระนารทเป็นโอรสของพระกัสยปเทพบิดร บ้างก็ว่าพระนารทฤๅษีเกิดจากหน้าผากของพระพรหม(เลยทำให้พระนารทเป็นเทพแห่งศาสตร์ต่างๆมาแนวเดียวกับเทวีอเธน่าของกรีกเลยค่ะ) บางตำนานกล่าวว่าพระนารทฤๅษีเกิดจากคนธรรพ์ที่สิ้นชีวิตแล้วและบางครั้งก็กล่าวว่าพระฤๅษีเป็นอีกภาคหนึ่งของพระเจ้าเป็นต้น

ภายหลังพระนารทถูกพระพรหมสาปให้มีจิตหมกมุ่นในเรื่องรักๆใคร่ๆเพราะไม่สนใจสตรีที่พระพรหมหามาให้เป็นคู่ครอง แต่ยังไงพระนารทก็ไม่สิ้นลายค่ะ ท่านสาปพระพรหมคืนโดยสาปว่า “ขอให้พระพรหมได้บุตรีของตนเองเป็นชายา”

พระนารทฤๅษีชอบเดินทางท่องเที่ยวไปยังดินแดนต่างๆหรือภพทั้ง ๓ ได้แก่ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรก เพื่อค้นหาชีวิตและการดำเนินชีวิตของคนค่ะพระนารทฤๅษีมีความชำนาญในศาสตร์ด้านต่างๆเป็นอย่างมาก เช่นมีความเชี่ยวชาญในการปรุงยา เป็นผู้รอบรู้ทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคตเป็นบรมครูแห่งการขับร้องและดนตรี เป็นต้น

นอกจากนี้พระฤๅษียังชอบเล่าเรื่องราวต่างและให้คำแนะนำต่างๆที่ก่อให้เกิดผลเสียในภายหลังหรือเป็นต้นเหตุของการทะเลาะของบรรดาเทพค่ะ ครั้งหนึ่งพระนารถเคยยุให้พระพายพัดเขาพระสุเมรุจนพังทลายด้วยนะคะ

พระนารทได้ปรากฏตัวในเรื่อง “รามกียรติ์”ด้วยค่ะ โดยเป็นตอนที่หนุมานนำแหวนไปถวายนางสีดาและได้พบกับพระนารทที่อาศัยอยู่ที่เชิงเขาโสฬสนอกกรุงลังกาโดยบังเอิญหนุมานและพระนารทได้ต่อสู้กันจนหนุมานแพ้ เมื่อครั้งหนุมานเผากรุงลงกาจนหางติดไฟพระนารทก็เป็นผู้ช่วยดับไฟที่หางให้ค่ะ