::: ทุนดีๆ ที่อยู่ตรงหน้าแค่เอื้อมคว้า แต่ไปไม่ได้ ::::
คุณๆ เคยมีฝันไหม...

แน่นอน ชั้นคิดว่าใช่

ชั้นก็คนนึง ที่ฝัน ฝันไว้ว่าจะได้ไปเรียนต่างประเทศกับคนอื่นเค้าบ้าง

หลังจากที่เห็นคนอื่นเค้าได้ไปกันโครมๆ ตอนเด็ก แล้วชั้นได้แต่นั่งมอง

ได้ไปสอบชิงทุน AFS แต่ถูกดักคอ ว่าไม่มีตัง เลยได้แต่สอบข้อเขียน

แล้วนั่งมองเพื่อนไปเรียนต่างประเทศ

นั่งมองเพื่อน ไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ โดยที่ตัวเองนอนอ่านหนังสืออยู่บ้าน

หลังจากนั้น ชั้นก็เจียมตัว ...

เมื่อโตขึ้น ชั้นก็เรียนรู้ที่จะเคารพตัวเอง เรียนรู้ที่จะสู้เพื่อตัวเอง

ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบใคร

ใครได้ไปไหนก็ไป ชั้นเลือกเกิดไม่ได้ ให้มีฐานะที่ดีกว่านี้

.........................

ชั้นเรียนปริญญาตรีจบ โดยไม่ได้คิดถึงเรียนต่อเมืองนอกหรือว่าอะไร

แต่พอจบมา อ่านมากขึ้น

ก็รู้ว่า การเรียนต่อต่างประเทศไม่ได้ไกลเกินที่ชั้นจะเอื้อม

ชั้นทำงาน เก็บตังเกือบครึ่งของเงินเดือน เพื่อเรียนต่อ

เงินต่างๆหมดไปกับการดำรงชีวิต ใน กทม ที่ชั้นไม่คุ้นเคย

บางครั้งเพื่อนชวนเที่ยว ชั้นต้องให้เพื่อนบอกล่วงหน้าเป็นครึ่งปี

เพื่อที่จะเจียดตังส่วนการดำรงชีวิตมาเก็บไว้เที่ยว

หุหุ เรื่องเที่ยวมันไม่เข้าใครออกใครนินะ

ชั้นเที่ยวแบบประหยัด ได้แต่กิน และซื้อของฝากแต่พองาม

อย่าหวังเลยจะได้ซื้ออะไรอย่างที่คนอื่นเค้าซื้อกัน.. ไม่เป็นไร ชั้นทนได้

วันนึง ชั้นเห็นรายละเอียดของทุน ในประเทศสาธารณรัฐเชค

ซึ่งเค้าให้เรียนฟรี ถ้าเรียนเป็นภาษาเชค และไม่ต้องสอบ TOEFL หรือ IELTs

ชั้นสนใจมาก เพราะเงินเก็บของชั้นตอนนี้คือ 100000 +

ชั้นสอบถามรายละเอียดก็พบว่า ถ้าเรียนภาษาเชค ต้องไปเรียนภาษาก่อน 1 ปี

เสียค่าเรียนประมาณ 2300 ยูโร หรือ แสนกว่าบาท

โอเค ชั้นพอ

หลังจากเรียนภาษาเสร็จเราสามารถเข้าเรียนโทได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆอีก

นอกจากค่าใช้จ่ายประจำวันปกติ คิดเป็นเงินประมาณ 10000 กว่าบาทนิดๆ

ชั้นนั่งคำนวณว่าระหว่างเรียนที่ไทย เทอมละ 30000 บาท สี่เทอม ค่ากินอยู่อีกหมื่นกว่าๆ เท่ากัน

กับไปเรียนอย่างนี้ อย่างไหนเสียมากกว่ากัน

สรุปคือพอๆกัน

ชั้นดีใจมากมาย ชั้นมองเห็นโอกาสที่ชั้นจะได้ตามฝันของชั้นเอง ที่ชั้นฝัน

แต่...

ชั้นก็พบว่า ชั้นไม่มีคนที่จะคอยช่วยจ่ายเงินเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวันให้ชั้น

ทำไม ? ถ้าชั้นเรียนไทยแล้วชั้นมี แต่เรียนที่อื่น ชั้นจะไม่ได้

เพราะอะไรกัน

นั่นทำให้ชั้นต้องพักเรื่องนี้ไว้ในใจ พร้อมกับน้ำตา

ชั้นต้องทำงานเก็บเงินเพิ่มอีกกี่ปีกัน ถึงจะไปเรียนได้

ถึงตอนนั้นค่าเงินมันก็คงเพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้ที่เช็ค ยังใช้เงินเป็นโครห์นอยู่

อีกไม่นานก็เปลี่ยนเป็นยูโร ซึ่งคงแพงกว่านี้มาก

ชั้นไม่เคยน้อยใจโชคชะตาในเรื่องใด นอกจากเรื่องที่ชั้น

มองเห็นโอกาสที่ชั้นจะได้ไป " เรียน " แต่ไม่ได้ไป

เพียงเพราะครอบครัวชั้นไม่ได้ร่ำรวยมากพอ

และชั้นไม่ได้เรียนเก่งพอจะสอบได้เกรดดีๆตอนเรียนตรี และสอบโทเฟลได้คะแนนเยอะๆ

ปล. ทุกคนอาจจะสงสัย แล้วทำไมไม่เรียนในไทย

เปล่าเลย ชั้นเรียนได้ในไทย ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

แต่ ชั้นอยากไปต่างประเทศไง แค่นั้นแหล่ะ

ชั้นจึงต้องมองหาทุน ( ฟรี แบบสมบูรณ์ ) ที่จะช่วยชั้นได้

บางคนอาจจะมองว่า แล้วจะรีบไปทำไม

ทำไมไม่รอเก็บตังให้ได้ ไม่ต้องง้อขอใคร

อืม ใช่ อาจจะจริง แต่ชั้นก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่า ทุนมันจะรอชั้นไหม

โอกาสไม่เคยรอใครอยู่แล้ว

ถ้าลงท้ายอีกสองปีแล้ว ชั้นไม่มีปัญญาไป ชั้นคงต้องปลงใจอยู่ไทยนี่แหล่ะ

แล้วเอาตังไปละเลงเที่ยวเล่นซะให้ชุ่มปอด สมกับที่ชั้นต้องทนอดทนอยาก

ทนนอนกับน้ำตามาเป็นเวลาหลายปี

แล้วมันก็ไม่สมหวัง

.................


แล้วชั้นก็ต้องแพ้ ต่อชะตาตัวเอง ที่ไม่ได้กำหนดเอง



Create Date : 10 กันยายน 2551
Last Update : 10 กันยายน 2551 21:20:39 น.
Counter : 424 Pageviews.

5 comments
  
ใช่เลยค่ะเป็นเหมือนกันเลย
แต่ยังไงก็สู้ต่อไปนะคะ
สักวันฝันอาจเป็นจริงก็ได้ค่ะ
โดย: Brownie IP: 118.175.64.68 วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:17:02:49 น.
  
เป็นกำลังใจให้คะ อยากจะบอกว่า การเรียนเมืองนอก ไม่ใช่ทางออกทางเดียวนะคะ คนอยู่เมืองนอกต้องลำบากพอตัว ถ้าที่บ้านไม่ได้ช่วยส่ง ดิชั้นมีเพื่อนหลายคนเรียนในที่ต่างๆกัน ทั้งในลอนดอน ออสเตรเลีย อเมริกา อยากจะบอกว่า ทุกคนอยากกลับบ้านกันหมด คือ ถ้าไปเรียนคนเดียว ไม่มีเพื่อนฝูง บอกได้เลยว่าลำบากมาก มีคนฆ่าตัวตายไปก็มี สงสัยไหมว่าทำไม อันนี้ไม่รู้ รู้แต่ว่า สภาพมันแย่มาก การสู้อยู่คนเดียว ภาษาก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะพึ่งใคร แล้วภูมิอากาศก็อึมครึม มันเศร้าหดหู่อ่ะคะ แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว ก็ต้องอดทนนะคะ ถ้ามุ่งมั่นแล้วไม่เปลี่ยนใจก็ขอให้เป็นไปตามที่คิด
อยากจะบอกว่า ถ้าจะเรียน ควรเลือกเรียนประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษดีกว่าคะ รัฐเชค นั้น ความเป็นอยู่ลำบากมาก ดิชั้นสังเกตจากเห็นเพื่อนเชคหลายคนก็หนีตายมาทำงานที่ตะวันออกกลางทั้งนั้น ถ้าเรียนในประเทศที่ให้ทำงานได้เรียนไปด้วยได้ จะดีกว่ามากๆคะ อย่างเช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย สนับสนุนสองประเทศนี้มากกว่าคะ ยังไงซะ คิดเสียว่า ถ้าโอกาสเป็นของเราจริงๆ สักวันมันจะต้องมาคะ
โดย: GottaBeMary วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:17:33:47 น.
  
แนะนำตัวอย่างเพื่อนสองคนที่ลอนดอนคะ เค้าสองคนนี้ ไม่ได้มีเงินทุนที่จะเรียนโทเลย จบป.ตรีทั้งคู่ แต่ขอวีซ่าเรียนแค่ภาษาอังกฤษเฉยๆ แล้วตกตอนเย็นก็ไปทำงานบาร์ (งานบาร์ที่นู่นไม่เหมือนบาร์เมืองไทยนะ แค่คนชงแล้วเสริฟหน่ะ ได้เงินเยอะมาก ตีเป็น 8-10 ปอนด์ต่อชม.) เค้าก็อาศัย เรียนกลางวันนิดหน่อย ที่เหลือทำงานเอา คือ ไปทำงานเอาทุนเรียนที่นู่น เก็บเล็กผสมน้อย อีกไม่นานก็คงจะลงเรียนโทได้แล้ว แต่ แต่ (อีกแล้ว) ทั้งนี้ คุณต้องอดทนมากๆ เพราะเพื่อนทั้งสองคนก็บอกว่า ใช้ชีวิตลำบากพอสมควร เพราะที่อังกฤษ ค่ากินอยู่แพงมาก แต่เค้าก็ผ่านมาได้ ข้าวก็ไปกินเอาที่ทำงาน(ที่บาร์ให้ข้าวกินฟรี) ไรงี้ เค้าก็อาศัยแบบนี้เอา วิธีคิดของเพื่อนคือ ถ้าไม่ได้เรียนโทก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ภาษา ได้มาใช้ชีวิตอยู่ตปท. และที่สำคัญ ถ้าเกรดดีมาอยู่แล้ว อาจจะมีทุนเรียนฟรีของมหาลัยที่นู่น อาจจะไปสมัครได้ทีหลัง ....ยังไงก็ลองหาข้อมูลเอาดูนะคะ เพราะคงจะมีคนมีข้อมูลมากกว่านี้ ถ้าคิดจะไปเรียนต่างประเทศ แต่ทุนไม่มาก ลองวิธีนี้ดู แต่อาจจะช้ากว่าคนอื่น แต่คิดเสียว่า เวลาที่ผ่านไป เราก็ได้อะไรกลับคืนมาไม่น้อยคะ
โดย: GottaBeMary วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:17:39:33 น.
  
อ่านแล้วเศร้าใจคะ เราเองก็เคยอยากไปเรียนนอกเหมือนกัน เห็นเพื่อนไปซัมเมอร์บ้าง ไปเรียนเลยบ้าง แต่บ้านเราไม่มีกะตังค์เหมือนกัน เคยถามแม่ก็โดนแม่ว่าซะยาวเลย รู้สึกน้อยใจตัวเองนะ แต่เราทำใจได้แล้วละคะ เราเกิดมาได้เท่านี้จริงๆ
โดย: Charming barbie วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:0:46:13 น.
  
พ่อแม่บางคนก็ห่วงลูก และเขาก็ไม่เคยไปต่างประเทศ
ระดับสมองและการเรียนเขา ไม่ได้ด้อนกว่าใครแน่นอน
เพียงแต่ เขาก็รู้ว่ามีอะไรในโลกมากกว่าการไปเรียนต่างประเทศ
ข้อสำคัญคือ พ่อแม่ห่วงลูก จะไปไกลๆไม่รู้ว่าเป็นแบบไหน เคยมีคำกล่าวว่าไม่มีการได้เปล่าหรือให้เปล่าในโลกนี้
โดย: ano IP: 118.172.133.238 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:51:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pamaano
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



A pharmacist who is become to psychotherapist

Be smile and relax with this home ^^

we have a facebook page that u guys can click "Like" to join

You can talk about your problem and if u want

to keep your problem secret , you can tell us to talk privately

let "Like"
Group Blog
กันยายน 2551

 
1
2
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog