. . . เรื่องตลกร้ายๆ ของสื่อหนังสือพิมพ์ไทย . . .
เวลาอ่านข่าวหนังสือพิมพ์เนี่ย เชื่อเนื้อข่าวกันมากน้อยแค่ไหนคะ อ่านปุ๊บเชื่อปั๊บกันเลยหรือเปล่าคะ แล้วคุณคิดว่าสื่อสิ่งพิมพ์ของเราๆ เนี่ยเชื่อถือได้ไหม??
ด้วยความบังเอิญเจอเรื่องตลกร้ายๆ ของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ปกติไม่ค่อยจะซื้อหนังสือพิมพ์สักเท่าไหร่หรอกค่ะ อาศัยอ่านตามเว็บเอา (ตามประสาคนไม่ค่อยจะลงทุน อิอิ) แต่พอดีว่าเมื่อวานนี้ไปแวะซื้อการ์ตูนเรื่อง Pluto เล่ม 3 จากร้านประจำ เลยนึกได้ว่าน่าจะซื้อหนังสือพิมพ์มาทิ้งๆ ไว้ที่ทำงานด้วยเผื่อให้แขกไปใครมาได้อ่าน ประมาณนั้น ปกติแล้ว ถ้าอ่านหนังสือพิมพ์มักจะอ่านไทยรัฐ ไม่ใช่เพราะข่าวบันเทิงหรอกค่ะ แต่ชอบอ่านบทวิเคราะห์ในนั้น โชคไม่ดีไทยรัฐหมด เอ้า ไม่เป็นไร หยิบเดลินิวส์มาก็ได้ กะเอามาไว้อ่านเพลินๆ เวลาว่างด้วย เดินมาอีกสักหน่อย เจออีกร้านหนึ่งมีไทยรัฐวางขาย เลยเสียเงินอีก 8 บาทซื้อมา ตอนซื้อ ตอนหยิบไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้มองพาดหัวข่าวอะไรเท่าไหร่นัก
มาถึงที่ทำงาน ทำนั่นทำนี่สักพัก ว่างมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ หยิบหัวเขียวมาก่อน พาดหัวเป็นเรื่องสลดใจตามประสาหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่เรื่องฆ่ากันตาย ก็ต้องฆาตกรรม อะไรสักอย่างล่ะ วันนี้เป็นเรื่องราวชวนสลดใจของแม่ลูกคู่หนึ่ง ที่อดอาหารตายอยู่ในบ้านร่วมสองเดือน จนสภาพศพแห้งกรังคาบ้าน เมื่ออ่านเนื้อหาข่าว ถึงทราบว่า บ้านหลังนั้นเป็นของอดีตพนักงานการไฟฟ้าคนหนึ่ง ซึ่งซื้อบ้านทิ้งไว้หลายปีมากแล้ว ส่วนเจ้าตัวไม่ได้มาอยู่เพราะมีบ้านอีกหลังอยู่แล้ว จึงอนุญาตให้สองแม่ลูกมาอยู่ และดูแลบ้านให้ โดยเจ้าของบ้านจะเข้ามาเป็นระยะๆ และให้เงินทิ้งไว้เป็นค่าอาหารทุกครั้งที่เข้ามา จนกระทั่งเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อสองเดือนที่แล้ว ที่เป็นเหตุให้เจ้าของบ้านไม่ค่อยได้เข้ามาดูตามปกติ แต่จริงๆ แล้วบ้านดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านทรงไทย ก็จะมีกองถ่ายหนังหรือละครเข้ามาขอทำการถ่ายทำอยู่เนืองๆ และวันที่ทราบข่าวก็เพราะเจ้าของบ้านจะเข้าไปดูบ้าน เนื่องจากจะมีกองถ่ายมาขอถ่ายทำที่บ้านอีก เมื่อไปถึงจึงพบว่า สองแม่ลูกที่เฝ้าบ้านอยู่นั้น เป็นศพแห้งกรังคาบ้านไปเสียแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าถุงยังชีพที่ได้รับแจกหมดเกลี้ยง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่น้ำท่วมและไม่สามารถที่จะออกไปขอความช่วยเหลือได้ จนไม่มีอาหารทาน จนเสียชีวิตในที่สุด
พยายามสรุปมาให้อ่าน เพราะลิงก์ที่ใช้อ่านแบบออนไลน์ของพี่หัวเขียวนี้ ต้องสมัครสมาชิกเท่านั้นจึงจะอ่านย้อนหลัง ทำได้ก็แค่สรุปมาให้อ่านนี่แหละนะคะ อ่านข่าวจบรู้สึกหดหู่กับชีวิต แกมสงสาร เรามีกินมีใช้ แต่อีกหลายๆ ชีวิตที่ต้องอยู่อย่างลำบาก อดอยาก
แล้วความรู้สึกก็เริ่มมาเปลี่ยนเมื่อมาหยิบหนังสือพิมพ์หัวสีชมพู พาดหัวข่าวออกแนวน่ากลัวเล็กน้อย "อดีตครู คลั่งนิพพาน ยอมพลีชีพ ดับพร้อมแม่คาสำนัก" เมื่ออ่านข่าวเนื้อในก็พบว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นที่ๆ เดียวกันกับของพี่หัวเขียว ชักเริ่มสงสัย ว่าทำไมจึงเป็นเยี่ยงนี้ ทำไมเนื้อข่าวออกไปคนละอย่าง อันนี้บอกว่าเป็นอดีตครูที่มาอยู่กับสำนักวิปัสนา ชวนแม่มาอยู่ด้วย และคลั่งเรื่องนิพพาน มาก เนื้อข่าวออกไปในทางสรุปกันว่าฆ่าตัวตายเพราะอยากนิพพาน ???? รายละเอียดติดตามต่อจากที่นี่ หัวสีจมปู
เปรียบเทียบพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์สองสีของไทยนะคะ เมื่อดูแล้ว เกิดคำถามขึ้นในใจ เกิดอะไรขึ้นกับสื่อไทย สื่อไทยมีความรับผิดชอบแค่ไหนกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้ ถ้าคุณไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับ ช่างเป็นเรื่องตลกที่ร้ายกันเหลือเกิน ถ้าคนที่ได้อ่านเฉพาะหัวเขียว คงจะสงสารสลดกับข่าวที่ได้อ่าน แต่ถ้าคนที่ได้อ่านเฉพาะหัวสีชมพู คงจะนึกสมเพชแกอนาถใจกับใครที่คลั่งลัทธิได้ขนาดนี้ แล้วคนที่ได้อ่านทั้งสองสีคงจะนั่งสับสน มันเล่นตลกอะไรกันของมันหรือ ความรับผิดชอบของหนังสือพิมพ์ไทยมีมากแค่ไหน พาดหัวเรื่องเดียวกัน แต่เนื้อหาไปคนละทาง ตกลงเชื่อใครได้ อะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือข้อมูลที่ไม่มีการเสริมเติมแต่ง อะไรคือความเป็นจริง????
หัวเขียวก่อน
ภาพประกอบ
สีชมพู
ภาพประกอบ
Create Date : 15 ธันวาคม 2549 |
|
14 comments |
Last Update : 15 ธันวาคม 2549 14:17:13 น. |
Counter : 2309 Pageviews. |
|
|
|
แหละค่ะ