สุดท้ายก็อด เอาไว้วันหลังจะต้องมาลองกินให้ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะ
แต่เนื่องจากวันนั้นตั้งใจมากินราเม็งมาก ก็เลยยอมเดินกลับไปที่ Yodobashi Camera เพื่อไปกินราเม็งทีวีแชมป์เปี้ยน Chabuton แทนค่ะ
น้ำเปล่าฟรี มีกระเทียม ซอสต่างๆให้ใส่ ไม่เคยได้ใช้ค่ะ เป็นพวกไม่ชอบปรุงอะไร
เมนูค่ะ
ของเราสั่งชามสีแดง เพิ่มไข่ แถวที่สองซ้ายสุดค่ะ ราเม็งที่นี่จะเป็นแบบทงคตซึ ราเม็ง คือเป็นแบบน้ำต้มกระดูกหมูข้นๆ ร้านนี้เมื่อเทียบกับอิปปุโดแล้ว ความเค็มและมันน้อยกว่ามาก ทำให้ซดน้ำซุปได้มากกว่า ส่วนตัวแล้วชอบร้านนี้มากกว่าอิปปุโดค่ะ และที่นี่ถ้าเรากินหมดแล้วยังไม่อิ่ม เราสามารถขอเติมเส้นได้ฟรีคนละ 1 ครั้งด้วยค่ะ
รอซักพักราเม็งที่สั่งไปก็มาอย่างรวดเร็ว อร่อยมากมาย ไข่ก็นุ่มมาก อาจจะเพราะด้วยอารมณ์หิวด้วยมั้ง
สำหรับเราไม่มีการเติมเส้น แค่นี้ก็อืดแล้ว แต่เพื่อนๆเราก็เบิ้ลเส้นกันไปคนละครั้งตามโควตา พวกผู้ชายอ่ะนะกินกันคุ้มจริงๆ ส่วนเราก็หาของหวานมาปิดท้ายเป็นไอติมโยเกริต์ เปรี้ยวๆแก้เลี่ยนได้ีดี ถ้วยนี้เพิ่มอีกแค่ 100 yen ค่ะ
หลังจากอิ่มจากราเม็ง เรามีนัดกับร้านขนมหวานอันดับหนึ่งของโอซาก้า ร้านนี้ชื่อว่า Pattisserie Ravi, e relier เท่าที่ไปสืบมาในเว็บไซด์เชฟจบมาจากปารีส ของขึ้นชื่อจะเป็นพวกมาการอง อันละ 189 yen ก็เลยไปเดินย่อยกันซักพักก่อนจะเดินไปที่ร้านนี้ ร้านอยู่แถวๆ Higashi Umeda แต่ๆๆๆ เมื่อไปถึงที่ร้านขณะนั้นเวลาประมาณ 4 โมงเย็น ร้านเปิดอยู่แต่เค้กไม่เหลืออะไรแล้ว แงๆๆๆ ได้ลองชิมเอแคลร์ช็อกโกแลตอันนึง เราคิดว่าก็งั้นๆ อาจจะเพราะเราไม่ใช่คอช็อกโกแลต รสชาติไม่หวาน แต่เข้มข้น คราวหน้าต้องไปตั้งแต่ร้านเปิดเลย ร้านนี้เปิด 11 โมงเช้า เอาไว้ไปเตรียมตัวมาใหม่ก่อน รู้สึกเป้าหมายยังไม่สำเร็จเลย 555
ร้านเค้กร้านนี้ค่ะ
สุดท้ายก็ไปได้ชีสเค้กแถวๆสถานีมาปลอบใจ
ขนาดประมาณ 1 ปอนด์ แค่ 680 yen เท่านั้น เอาไปแบ่งกันได้ 8 ชิ้น กินกันไปคนละชิ้นก็พอค่ะ ใครชอบชีสน่าจะปลื้มมาก อร่อยและไม่แพงค่ะ
หมดล่ะ ร้านที่คาดหวังไว้สรุปต้องกลับไปแก้ตัวใหม่ แล้วจะมาเล่าให้ฟังว่าเป็นยังไงบ้างนะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่า
มาต้าเนะ