ดอกลำโพงกาสลัก

ต้องขอขอบคุณแขกพิเศษของเราที่เข้าบอกว่าคือดอกอะไร
ดอกลำโพง หรือ Thorn apple วงศ์ Solanaceae คล้ายต้นมะเขือพวง ขึ้นในเขตร้อนชื้น หรือ มีอากาศหนาว เว้นในแถบอุณหภูมิต่ำมาก , มีมากกว่า 20 ชนิด ใน 2 สายพันธุ์ คือ Datura spp . กับ Brugmansia spp . พบในไทยได้แก่ ลำโพงขาว ภาคเหนือเรียก มะเขือบ้า ลำโพงอีกชนิดหนึ่งเรียกลำโพงกาสลัก ภาคเหนือเรียกมะเขือบ้าดอก กิ่ง ก้าน ก้านใบมีสีม่วงเข้ม ใบสีเขียวเข้ม ขอบใบหยัก ดอกสีม่วง คล้ายแตร ชาวสวนเรียกแตรนางฟ้า (angel's trumpet) บานพลบค่ำ กลิ่นหอมอ่อน ๆ

เด็ก ๆ ได้รับพิษดอกลำโพงเสมอเพราะนำดอกลำโพงหยิบใส่ปากและเคี้ยว ลำต้น ใบ ดอก ผลของลำโพง มีพิษ มีอัลคาลอยด์ ( alkaloid ) หลายชนิดรวมกัน สารพิษในต้นลำโพงไม่สามารถทำลายด้วยความร้อน เมล็ดลำโพงมีพิษสูงมาก

พิษลำโพงปรกติจะมีอาการภายในเวลา 30 นาที ถึง 60 นาที เนื่องจากสารอัลคาลอยด์ ( alkaloid ) ในลำโพงจะออกฤทธิ์อย่างช้า ๆ ในระบบทางเดินอาหาร ปากคอแห้ง กระหายน้ำ กลืนอาหารและน้ำด้วยความยากลำบาก สายตาพร่า มีอาการเคลิบเคลิ้มเป็นสุข เพ้อคลั่ง อาจรุนแรงเสียชีวิตได้ พ.ศ. 2522 มีรายงานว่ามีคนงาน ชาย หญิงจำนวน 6 คน กินขนมจีนน้ำยาเจือปนด้วยส่วนประกอบของลำโพง อาการผู้ป่วยมีลักษณะเกิดจากสารเบลลาดอนนา (belladonna) พบว่า ส่วนสกัดจากต้น ใบ ดอก และผลของลำโพง จากบริเวณใกล้แหล่งเกิดเหตุ มีอัลคาลอยด์ ( alkaloid ) พวก เบลลาดอนนา อยู่มาก

แม้จะมีพิษแต่คนสมัยก่อน ยังใช้ลำโพงเป็นยาสมุนไพร ช่วยระงับความเจ็บปวด ( anodyne ) และแก้อาการเกร็ง ( antispamodic ) ใช้สูบรักษาหืด เมล็ดตำละเอียด แช่น้ำมันพืช น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา กรอง น้ำมันมาใช้ทาแก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เคล็ดขัดยอก

ดอกลำโพงคงเหมือนทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่ในตัวของมันเองให้ทั้งคุณและโทษ ทุกอย่างอยู่ที่ผู้ใช้ สามารถเลือกใช้ส่วนไหนมาใช้อย่างถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญมากกว่า

เป็นรูปที่ถ่ายจากงานพฤกษาตะวันออก เมื่อปีที่แล้วค่ะ

ข้อมูลจาก //www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=32330.0