Bloggang.com : newyorknurse : เรียนต่อที่ New York

เรียนต่อที่ New York

NYN หลังจากย้ายมาทำงานก้บ .St Luke's Hospital เขาก็บอกว่าเรามีสิทธิอะไรบ้างถ้าเราได้รับเป็น Staff ส่วนมากเขาจะให้มี Probation period 3 เดือน สำหรับ Orientation จากนั้นเขาก็จะประเมินผลงานของเราว่าเราควรจะได้ทำงานต่อหรือไม่ ตกลงเราก็ได้งาน จะได้วันป่วย 12 วันต่อปี พักร้อน 20 วันต่อปี มีวันหยุด Holidays อื่นๆ อีก 12 วันต่อปี มี Health Insurance สำหรับครอบครัว(ส่วนมาก Health Insurance ของพยาบาลทุกแห่งจะดีมากกว่าอาชีพอื่น) ค่ายาต่างๆ ฟรี หรืออาจจะ co-pay 3-5 เหรียญต่อครั้ง สามารถเรียนต่อทางสาขาพยาบาลได้เทอมละ 12 credit ต้องสอบได้อย่างต่ำ grade c แต่เราต้องจ่ายก่อน สอบได้ผลแล้วถึงมาเบิกเงินคืน มีเงินสะสมให้เราอีกดํวย เรียกว่า Pension ที่รพ.นึ้เราไม่ต้องจ่ายอะไร บางแห่งเราอาจจะต้องจ่าย 3 % แล้วรพ จ่าย 7 % ก็ยังดี จะได้มีเงินไว้ตอนเกษียร ก่อนเราไม่เข้าใจเราก็ไม่อยากทำ เพื่อนบางคนก็ไม่ได้ทำ มาตอนนี้ถีงจะรู้ว่าเราคิดผิด เผิอญเราทำงานที่เขามีให้เสรํจก็นับว่าโชคดีมาก ๆ เพราะตอนนั้นก็ไม่มีใครอยากให้เขาหักเงินเราเพราะเขาบอกว่าเงินนี้ถอนไม่ได้จนกว่าเราจะอายุ 60 ปี เราเพิ่งจะอายุ 24-25 ใครจะอยู่อเมริกาจน 60 ปี เมินเสียแถอะ เลยทำให้เพื่อน ๆ บางคนไม่ได้เงิน pension นี้เพราะไม่ได้สมัครกับเขา เราโชคดีย้ายที่ทำงานไปอยู่ที่ เขาทำให้โดยที่เราไม่ต้องเสีย กว่าจะรู้ก็เกือบจะสายไป ตกลงพวกเราก็อยู่อเมริกาจนอายุ 60-70 บางคนก็อยู่เลย ดูซิไม่มีใครรู้อนาคตตัวเองจริง ๆๆ
ตกลงเราก็ไปเรียนต่อกับเพื่อนอีก 2 คน เรียนก็ลำบาก ภาษาก็ไม่ดี กลัวจะโดนเรียกถาม ไม่เคยยกมือตอบอาจารย์แต่ที่ดีคือเด็กอเมริกัน จะชอบยกมือตอบ ถูกผิดไม่รู้ ขอให้ได้พูดก็พอ บางทีก็เป็นที่รำคาญของนักเรียนในชั้น เราก็เป็นนักเรียนรุ่นใหญ่ เรียนกับเด็ก ๆ ทุกห้องที่เราเรียนเราก็ว่าเราเจอตัวแสบอย่างน้อยหนีงคน ก็หัวเราะกันกับเพื่อน เราเรียนกันแบบท่องเป็นนกแก้ว จดไม่ท้นก็ขอยืมเด็กไป xerox คนเมืองนี้ก็ดีอย่างมีน้ำใจไม่หวงวิชา แถมจะบอกว่าถ้าจะเรียนวิชาต่อไปควรจะเรียนกับใครและมีข้อสอบเก่า ๆ มาให้เราดูด้วย ก็เรียนไปได้เรื่อย ๆ ได้grade B เลยนะ พวกเรา 3 คนท่องกันเก่งมาก เรียกว่าตอบแทบจะเป็นคำเดียวกันเลย ที่น่าเสียดายก็คือเพื่อนคนไทยด้วยก้น ไม่ค่อยช่วยกันนัก เรา 3 คนได้เจอพยาบาลไทยอีกหลายคนมาเรียนกับเรา เราก็ดีใจ แย่งกันบอกว่าเรียนกับใครดี มีข้อสอบอะไร แต่พอถิงคราวเราถามเขา เขาก็จะไม่บอก บอกว่าลีมเอาโน้ตมาบ้าง จำไม่ได้บ้าง หลังจากทึ่พวกเราบอกเขาจนหมดเปลือก
ตกลงเราก็รุ้นกันจนเกิอบจบ มี Professor คนหนึ่ง เรารู้สึกว่าเขาไม่ชอบคนต่างชาติ แล้วก็จริงอย่างคิด เขาสอนวิชา Heath care manangment เกีียวกับพวก Medicare ,Medigap เราจำไม่ลีมเลย พวกเราก็คัดลอก Notes ก้นเตรียมท่องอย่างดี จะจบแล้วตื่นเต้นมาก ต้องรุ้นให้จบเสียที
พอสอบเราก็ตอบกันอย่างคล่องแคล่วตามที่ท่องก้นมา ออกมาดีใจกันใหญ่ว่าเราทำได้กันอย่างดี แต่ปรากฎว่าผลสอบออกมา พวกเรา 3 คนสอบตกแถม อจ.ยังไปว่าเราในห้องอีกว่ามีนักเรียนลอกกันในห้องสอบ เราเซ็งกันมาก ขอพบ อจ.เอา Notes ไปให้อาจารย์ดูว่าเราท่องเหมือนก้น เป็นไปไม่ได้ที่เราจะมองเพือน ๆ แล้วเขียนได้เหมือนกันหมด อจ.ก็ไม่ฟัง เราก็ไม่อยากตก แถมเสียชื่อเสียงคนไทยด้วย เราเพิ่งมาได้ 6-7 ปี เอาละเป็นไรเป็นกัน ขอพบ Dean เลย ไปก้นทั่ง 3 คนเอา Noted ของเราไปให้ท่านดูดัวย Dean เป็นบาทหลวง catholic ท่านเช่ือพวกเรา และก็แก้ Grade ให้พวกเราผ่าน Professor ที่สอนพวกเราโกรธมากแต่ก็ทำอะไรเราไม่ได้ การสอบ final พวกเราก็ผ่าน ตกลงเราสามคนก็ได้ รับปริญญา BS IN HEALTH CARE MANAGEMENT จาก ST FRANCIS COLLEGE ,BROOKLYN NEW YORK
เป็นบทเรืยนว่าฝรั่งเขาก็เป็นคนยุติธรรมดี และเราควรจะกล้าต่อสู้กับสิ่งที่เราคิดว่าไม่ผิด ถึงแม้ภาษาเราไม่ดี เขาก็พยายามเข้าใจเรา ไม่น่ากลัวอย่างที่เราคิดว่าไม่กล้าพุด เพราะเขาไม่ได้คอยจับผิดเราว่าเราจะพูดถูกหลักไวยากรณ์หรือไม่ ที่เขาถามเราให้พูดอีกครั้งก็เพราะเขาต้องการจะเข้าใจว่าเราพูดอะไร ที่ดีของฝรั่งก็คือเขาไม่ผูกใจเจ็บ อะไรแล้วก็แล้วกันไป วันรุ่งขิ้นก็ทักทายกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้อยจริงๆทีจะเจอคนที่เขาผูกใจเจํ็บแค้น หรือเขาอาจจะเก็บความรู้สีกเก่ง เพราะเราไม่เคยเจอเลย เราเคยว่าเพื่อนร่วมงานแรงๆ ปรากฏว่าเขาก็พุดดีกับเราเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เราอายไปเลย

Create Date : 18 ธันวาคม 2553

Last Update : 12 เมษายน 2555 22:04:50 น.

0 comments

Counter : 1939 Pageviews.