ตลาดรถประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์มาถึงจุดเดือดอีกครั้ง เมื่อซูซูกิ และมิตซูบิชิ กำลังกระโจนเข้าสู่สมรภูมิในเดือนมีนาคมนี้ สำหรับซูซูกิใช้วิธีนำรถระดับบี-คาร์อย่าง สวิฟท์ รุ่นโฉมใหม่ โมเดลปี 2012 มาใส่เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1.2 ลิตรแทนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เพื่อให้เข้าสเปกของอีโคคาร์ ส่วนประกอบอื่นๆ ยังเป็นของรุ่นพี่บี-คาร์ทั้งนั้น ซึ่งซูซูกิหมายมั่นว่า ความโดดเด่นดังกล่าวจะสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่
หน้าตาของซูซูกิ สวิฟท์ โฉมใหม่ ปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะ ด้านท้ายที่ประตูบานที่ 5 ปรับให้สั้นลง รับกับไฟท้ายทรงใหม่โค้งยาวเรียวที่มาแทนไฟท้ายทรงขนมเปียกปูนในรุ่นเดิม ไฟหน้าใหญ่แบบ มัลติรีเฟลกเตอร์ หลอดไฟแบบฮาโลเจน มิติตัวถัง ยาว 3,850 มม.ยาวกว่ารุ่นเดิมเกือบ 100 มม. กว้าง 1,695 มม.เพิ่มจากรุ่นเดิม 5 มม. ส่วนความสูงเท่าเดิม ฐานล้อยาว 2,430 มม. ขยายจากรุ่นเดิม 40 มม. หากจะเอาเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง นิสสัน มาร์ช ก็ต้องบอกว่า สวิฟท์โฉมใหม่ ยาวกว่า กว้างกว่า แต่เตี้ยกว่า และฐานล้อแคบกว่า 10 มม.
เมื่อผมได้สัมผัสกับ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ก็ต้องชื่นชมวิศวกรผู้ออกแบบที่ยังคงความโดดเด่นสไตล์สปอร์ตขับขี่ได้สนุกเหมือนรุ่นพี่ เครื่องยนต์ รหัส K 12 B 4 สูบ ขนาด 1242 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ แบบซีวีที รีดกำลังออกมาได้สูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และให้แรงบิด 1118 นิวตัน-เมตรที่ 4,800 รอบ/นาที ความที่เป็นเครื่อง 4 สูบ แถมมีซีซีมากกว่า ทำให้
สวิฟท์ให้อัตราเร่งแซง ที่น่าพอใจเกินอีโคคาร์รายอื่นๆ ผมค่อนข้างทึ่ง เมื่อสามารถทำความเร็วแตะ 160 กม.ได้ที่ 5,500 รอบ/นาที
ระบบกันกระเทือนของสวิฟท์ใหม่ เซตไว้สไตล์สปอร์ต จึงค่อนข้างแข็ง ล้อหน้าแบบแมกเฟอร์สัน สตรัต พร้อมคอยล์สปริง ล้อหลังแบบ ทอร์ชันบีมพร้อมคอยล์สปริง ให้การทรงตัวดี เกาะโค้งได้ดีพอสมควร ขับที่ความเร็วระดับ 120-130 กม. ยังให้ความรู้สึกที่มั่นใจดี ส่วนหนึ่งมาจากการเลือกใช้ยางขนาด 185/55R16 ให้กับสวิฟท์รุ่น GLX ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด ส่วนรุ่นรองๆลงมาจะใช้ยางขนาด 175/65R15 สำหรับเรื่องอัตราประหยัดน้ำมัน ความที่เป็นอีโคคาร์ ก็ประหยัดอยู่แล้ว ที่ผมขับก็ซิ่งสุดๆ ยังทำอัตราสิ้นเปลืองได้ประมาณ 14 กิโลเมตร/ลิตร แต่ที่น่าแปลกใจว่า สวิฟท์ ใหม่ ไม่ใช้ระบบ Idling stop หรือระบบดับเครื่องยนต์เมื่อรถหยุดนิ่งและยังเหยียบเบรก เหมือนกับอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ
แม้ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ จะเป็นอีโคคาร์ แต่ก็ให้ระบบความปลอดภัยที่จำเป็นมาอย่างครบเครื่อง ตั้งแต่ถุงลมนิรภัย SRS สำหรับคนขับ ส่วนรุ่นท็อปให้สำหรับคนนั่งข้างด้วย เบรก-หยุดได้อย่างมั่นใจด้วยล้อหน้าแบบดิสก์ มีครีบระบายความร้อน ล้อหลังแบบดรัมเบรก เสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรกเอบีเอส และระบบอีบีดี กระจายแรงดันน้ำมันเบรก และระบบ ช่วยเบรก บีเอ
สำหรับห้องโดยสารของซูซูกิ สวิฟท์ กว้างขวางเกินอีโคคาร์แน่ๆ เพราะพื้นฐานจริงๆคือ รถระดับบี-คาร์ การตกแต่งภายในเน้นสีเข้มให้อารมณ์สไตล์สปอร์ต รุ่นท็อปให้พวงมาลัยแบบ 3 ก้านแบบหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า 4 ทิศทาง ปรับสูง-ต่ำได้ ปรับใกล้-ไกลได้ ให้กระจกไฟฟ้า และเซ็นทรัลล็อก และระบบกรองอากาศ ครบทั้งรุ่นถูกสุดยันรุ่นท็อปสุด ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบทำความร้อน และปุ่ม สตาร์ต -สต็อป เอนจิน ให้เฉพาะรุ่นท็อปเท่านั้น ส่วนรุ่นประหยัดสุด GA ไม่มีวิทยุ ลำโพง ติดรถมาให้ด้วย ไม่มีมาตรวัดรอบเครื่อง ไม่มีมาตรวัดอุณหภูมิภายนอก ไม่มีมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
สำหรับราคาของ ซูซูกิ สวิฟท์ใหม่ อีโคคาร์คันล่าสุด ยังไม่เป็นที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ที่แน่ๆคือได้ "หลุยส์ สก็อต" ดารานักร้องชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์แล้ว โดยภาพรวมแล้ว สวิฟท์ ใหม่ เป็นอีโคคาร์ที่น่าสนใจมาก จากขนาดของรถที่ใหญ่ประมาณ บี-คาร์ เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1.2 ลิตร ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นสไตล์สปอร์ต จึงเป็นทางเลือกใหม่ของผู้สนใจรถประหยัดพลังงาน แต่อาจต้องยอมทำใจบ้างในเรื่องศูนย์บริการที่มีน้อยกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ