ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 ตุลาคม 2553
 

สดตามอารมณ์ตอน 14

กว่าจะถึงจุดหมายก็เย็นเต็มแก่ แต่ละคนแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว บางส่วนกระโจนลงทะเลเหมือนว่าพวกเขาค้นพบโอเอซิส ผมถูกซันฉุดพาเข้ามาที่ห้องพักชั้นสองขนาดสี่เสื่อน้ำมัน มีระเบียงเล็กๆ ยื่นออกไปภายนอก เพื่อรับลมจากทะเล มันถูกตกแต่งไปด้วยกล้วยไม้หลากสีสัน

“ผมนอนริมซ้ายนะ คุณนอนริมขวาละกัน เดี๋ยวมีเพื่อนผมอีกคนชื่อคอริส มันจะมาพักด้วย ตอนนี้มันลงไปหาขวด” ซันชี้แจง ขณะที่กำลังรื้อสิ่งของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเขามาจัดวางภายนอก ผมสังเกตเห็นทั้ง ชุดแว่นตาดำน้ำ ถุงยางอนามัย ใบกระท่อมสด น้ำต้มใบกระท่อมบรรจุในขวดแก้ว และสุดท้ายกัญชาก้อนขนาดฝ่ามือ

ตดยันไม่ทันหายเหม็น ก็มีชายรูปร่างเพรียวลม จมูกโด่ง ละม้ายคล้ายคลึงกับชาวตะวันออกกลาง เขามียิ้มที่มีเสน่ห์และล่อส้นตีนในเวลาเดียวกัน เขาเดินถือขวดพลาสติกหลายขนาดเข้ามาในห้องพัก เขาคือ “คอริส” ผู้มีความเมาขับเคลื่อนร่างกาย ซันเล่าว่าเขาไม่เคยเห็นคอริสเวลาสร่างเมาเลย ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาเกือบสองปี

ผมและซัน ปรึกษากันถึงการแต่งตัวที่ดูดีที่สุด โดยไม่ถึงขั้นประหลาด พวกเราต่างคัดเลือกให้กัน จนสุดท้าย ผมจบด้วยชุดยีนส์สีน้ำเงินเข้ม หมวกโคบาลสีน้ำตาล พร้อมแว่นเรแบนต์ ใส่แล้วสัมผัสถึงกลิ่นอายเซ้าเธิร์น ส่วนซันมาในชุดโทนเข้ม กับเสื้อกั๊กหนังสีดำเมี่ยม และรองเท้าบูท ราวกับเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งเฮลแองเจิ้ล

ทางด้านคอริสหล่ะ? เขายังคงวุ่นอยู่กับการประดิษฐ์บ้องกัญชาจากวัสดุเหลือใช้ และทดสอบกฎทางฟิสิกส์ เพื่อที่จะรีดควันให้ได้มากในอัตราแรงลมพอดี เขาเทน้ำเข้าเทน้ำออกอยู่หลายครั้ง

“ตั้งหนึ่งทุ่ม กว่าดินเนอร์จะเริ่ม” คอริสบอกแบบไม่ระบุ ใบหน้าของเขาชักชวนให้ผมและซันอยู่เมากับเขาก่อนสักพัก ถึงค่อยลงไปที่ห้องจัดเลี้ยง

“งั้นเติมกันก่อนสักคนละสามที เห็นจะดี” ซันตอบรับรู้ใจ

ไม่นาน พวกเราทั้งสามล้วนเมามาย และโต้คารมกันอย่างเพลิดเพลิน ผมได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตมากมายจากคอริส เขาโวถึงประสบการณ์วิ่งราวโรตีในซอยเปลี่ยว พร้อมย้อนกลับมาขโมยตะหลิวอีกเป็นรอบที่สอง และการลักลอบขับรถกระบะขนใบกระท่อมจำนวนสองถุงปุ๋ยจากนราธิวาสขึ้นมายังหน้า รามอันสุดแสนระทึก..

เวลาล่วงเลยไปจนเกือบจะถึง สองทุ่ม พวกผมเริ่มหิวจนแทบจะนำใบกระท่อมมาผัดกับน้ำมันหอยให้รู้แล้วรู้รอด..

พวกผมจึงจัดการกระชับพื้นที่ เคลื่อนย้ายตัวเองลงไปห้องจัดเลี้ยงอย่างช้าๆ

ห้องจัดเลี้ยงคับคั่งไปด้วยสัตว์สังคมมากหน้าหลายตา พวกเขาแต่งกายกันได้อย่างออกรส ทั้งเลียนแบบบุคคลที่ชื่นชอบ หรือดูถูกถากถางสิ่งที่เกลียดกันได้อย่างเต็มอารมณ์ คอริสแต่งกายด้วยเสื้อยืดที่มีสัญลักษณ์อนาชชี่(ความหมายเป็นเช่นไร เขาไม่เคยเล่าให้ฟัง) และกางเกงขาเดฟรัดไข่

พวกเราทั้งสามเดินหามุมว่างอยู่สักพัก จึงจับจองโต๊ะได้ผมอาสาเฝ้าโต๊ะให้ ส่วนซันและคอริสต้องเดินผ่าฝูงชนเข้าไปตักอาหาร สายตาช่างสังเกตของผมมองไปยังรอบนอกงาน ที่เปิดกว้างให้ลงไปสูดกลิ่นทะเล หรือสลักชื่อคู่รักลงบนทรายเหมือนละครไทย เสียงคลื่นและลมช่วงหัวค่ำ กับแสงสีส้มสลัวๆจากตะเกียงเก่าๆ ไม่สว่างพอที่จะทำให้มองเห็นได้ถนัดนัก แต่มันก็มีเสน่ห์ และผมไม่เคยเบื่อเสน่ห์แบบนี้เลย แม้จะเคยเห็นภาพเช่นนี้มาแล้วเป็นหมื่นครั้ง สมัยเมากัญชาอยู่ที่กระท่อมปลายสวนยาง หลังบ้านลุงแดง

“ข้าพเจ้าเป็นคนว้าเหว่ ที่ซ่อนความจริงไว้ในหน้ากากของความรื่นเริง..” (ผมจำสำนวนมาจากศิลปินท่านหนึ่ง ซึ่งผมขโมยมาจากห้องสมุด) ผมกำลังคิดถึงถ้อยคำนี้ และที่แน่นอนที่สุด ผมกำลังคิดถึง”ตาล” แม้รู้จักกันเพียงชั่วคราว

ถึงแม้ทั้งชีวิตผมจะดวงซวย แต่วันนี้ผมคิดว่าผมโชคดี เมื่อสายผมของผมหันไปสะดุดกับตาลกับเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ขาสั้นรัด บันท้าย เธอเดินเหมือนคนเหม่อลอย และไร้จุดหมายว่าจะไปทางไหน ผมพยายามลุกขึ้นโบกมือให้เธออยู่นาน จนเธอเห็นผม

“แหมเจอกันอีกแล้วนะ นั่งคนเดียวหรอพริก” ตาลยิ้มทักทายผม เหมือนเพื่อนสนิทที่ไม่เจอกันมาตั้งแต่สมัยประถมสาม

“เดี๋ยวเพื่อนมาหน่ะ ตาลนั่งด้วยกันสิ” ผมวางมาดเท่ ด้วยมั่นใจในแอคเซสซอรี่ระดับแบรนเนมท์(ก๊อปสนามหลวง)ของผม ตาลนิ่งและยิ้ม เธอนั่งลงช้าๆที่ด้านซ้ายมือของผม และกวาดสายตามองไปรอบงาน

“อากาศดีเนอะ พริก” ตาลพูดพรางเหยียดแขนประสานไว้เหนือหัว ยื่นหน้ารับลมทะเลอย่างเต็มที่ ผมสังเกตเห็นความเศร้าในแววตาเธออีกครั้ง ไม่ช้าซันหอบถาดบรรจุมาด้วยแกงเลียง ปลาดุกฟู ผัดเผ็ดหมูป่า ตบท้ายด้วยฟักเชื่อมและขนมชั้น สักพักผมจึงแนะนำให้ซันรู้จักกับตาล ซึ่งซันคงจะริษยาผมซะจนแทบสร่างเมา เมื่อเห็นผมได้คั่วสาวสวยขนาดนี้ ผมจึงยืดอกวางท่าราวกับเป็นสามีของเธอ

ส่วนคอริสที่หายไปพักใหญ่ ได้เดินมาพร้อมกับนารีรำพึงอีกสามขวด เขาเป็นฑูตของความเมาทุกสายพันธ์จริงๆ ผมคิดในใจ

มะม่วงเปรี้ยวฝานเป็นแว่นพร้อมกับเกลือเป็นสิ่งที่คอริสจัดเตรียมมาอย่าง ไม่ขาดตกบกพร่อง พวกเราร่ำสุรากันจนเมามายได้ที่ ตาลดื่มจัดมากราวกับนั่งซดน้ำหวาน ส่วนผมได้แต่จิบเล่นเชิง เนื่องจากไม่ถูกกับของเมาพวกนี้มากนัก และไม่ต้องการเมา เพื่อที่จะยืดเวลาอยู่กับตาลให้นานที่สุด

เวลาตีสองแล้ว ผู้คนเริ่มร้างรา เสียงลมกระทบชายหาดยังคงขับกล่อมพวกเราอย่างขยันขันแข็ง ตาลเริ่มพูดจามากขึ้น หลายเรื่องที่เธอเล่า เหมือนกับการได้ปลดทุกข์ ผมพยักหน้าเพื่อตอบรับการเป็นผู้ฟังที่ดี และไม่ขัดจังหวะเธอ

เธออยู่ตัวคนเดียว เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารในช่วงเช้า เป็นนิสิตในช่วงค่ำ และยังไร้ซึ่งมิตรสหาย คือความจริงอันขมขื่นที่ผมได้รู้จากเธอ ความอวดดีของผมลดลง เมื่อคาดการณ์คนไว้ผิดถนัด!

“ไปเดินรับลมกันไหมพริก” ตาลชวนผมลงไปย่ำที่ชายหาด ปล่อยซันและคอริส ที่กำลังถกเถียงกันว่าใครเป็นราชาแห่งเพลงร๊อคกันอย่างมันปากให้นั่งเฝ้า โต๊ะกันไปก่อน ความเมาทำให้ผมกล้าที่จะเดินจูงมือพาเธอไปรับลมหนาว ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติค เพราะฝนที่ตกจนหมดในช่วงเช้าถึงบ่าย ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเปิดใสเห็นหมู่ดาวน้อยใหญ่เรียงรายกันเป็นทาง

คืนนั้นเราสองคนเ้ดินจับมือกันไปไกลสุดชายหาด ต่างบอกเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตทั้งขำท้องผูก ไปจนถึงเศร้าน้ำตานอง สักพักผมได้ดึงมือตาลไว้ แล้วบอกรักเธอ แต่ตาลนิ่งเฉย ไม่รับคำรักและก็ไม่ปฏิเสธผม ตาลวิ่งจูงมือผมไปยังกระท่อมเล็กๆท้ายหาด ตาลกอดผมแน่นและร้องไห้ เธอไม่พูดอะไรเลย บรรยากาศและอารมณ์แห่งสุรา ทำให้เราสองคนเพิ่มความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้เสพความรักกันจนเหน็ดเหนื่อย ตาลคล้อยก็หลับไปด้วยพิษสุรา ส่วนผมยังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันไวจนผมตั้งตัวไม่ทัน พอใกล้รุ่งสาง ผมจึงปลุกตาล ตาลส่รางเมาแล้วและมีสติกลับมาดังเดิม เธอเดินนำหน้าผมตลอดและระหว่างทางที่ผมพาเธอกลับไปส่งที่ห้องพักของเธอ เราไม่ได้คุยอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว จนถึงหน้าประตูห้องของเธอ

“ขอบใจที่มาส่งนะ พริก” คำพูดสุดท้ายบนใบหน้าเปื้อนยิ้มบางๆแลดูหมองของเธอ ก้องกังวานอยู่ในหัวของผมตลอดทางที่ผมเดินกลับไปยังห้องของผม…………


Create Date : 14 ตุลาคม 2553
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 19:06:51 น. 0 comments
Counter : 210 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Life For Rock
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บรรเลงโลก
[Add Life For Rock's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com