++พักสบายที่เบลล์ วิลล่า เขาใหญ่ เที่ยวสนุกเร้าใจที่กรีนเนอรี่ ไลฟ์ปาร์ค++
พาไปเที่ยวป่าเขาลำเนาไพร มาหลายทริปแล้ว หลายๆ คนอาจจะเริ่มเบื่อน้ำตก ผีเสื้อและดอกไม้กันแล้ว ทริปนี้ผมเลยขอเปลี่ยนบรรยากาศพาไปเที่ยวแบบสบายๆ กันบ้างดีกว่า เอาแบบว่าไปนอนเล่นชิลล์ๆ ในรีสอร์ทสวยๆ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา เป็นการผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงานกันก่อน หลังจากนั้นค่อยไปสนุกตื่นเต้นเร้าใจกับเครื่องเล่นแนวแอดเวนเจอร์นานาชนิดให้ได้กรี๊ดกันสุดเสียง สำหรับสถานที่ที่ผมจะพาไปก็อยู่ไม่ไกล แค่เขาใหญ่เท่านั้นเอง ..... ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะมีน้องๆ มาชวนไปสัมมนาทางวิชาการ โดยเสนอที่พักที่รีสอร์ทค่อนข้างใหม่บริเวณเชิงเขาใหญ่ ชื่อ "เบลล์ วิลล่า รีสอร์ท" แถมด้วยโปรแกรมแวะเดินเล่นที่ปาลิโอ ทานอาหารเย็นที่ร้านดังแถวปากช่อง แล้ววันถัดมาก็จะพาไปเล่นเครื่องเล่นสุดมันส์ที่ "ไลฟ์ปาร์ค" ของกรีนเนอรี่รีสอร์ท งานนี้ฟรีตลอดรายการ เห็นโปรแกรมแล้ว ขืนผมปฏิเสธไปก็บ้าแล้วใช่ไหมครับ .....+++ ทริปนี้เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวแบบสบายๆ กันบ้างนะครับ +++ เช้าวันเสาร์เราออกเดินทางจากบ้านช่วงสายๆ ไปกันแบบสบายๆ ไม่รีบร้อน เพราะจากปราจีนบุรีบ้านเรา ขับรถข้ามเขาใหญ่ไปฝั่งปากช่อง ใช้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว เรามีนัดหมายทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน "ครัวเขาใหญ่" ร้านอาหารชื่อดังแห่งเขาใหญ่ อาหารรสชาติใช้ได้ มีคนมาทานกันแน่นร้าน ..... หลังทานอาหารเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นย่อยอาหารกันที่ "ปาลิโอ เขาใหญ่" อันนี้ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะผมเคยไปมาแล้ว งวดนี้แค่ไปเดินสำรวจดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยมาครั้งแรกบ้างไหม มาครั้งนี้ลูกสาวคนเล็กของผมดูจะติดพ่อมากเป็นพิเศษ ร้องอ้อนให้อุ้มอยู่ตลอดเวลา ผมเลยไม่ค่อยมีเวลาเก็บภาพมาเท่าไหร่ ใครอยากเห็นปาลิโอแบบเต็มๆ ตา ตามไปดูที่บล็อกเก่าผมก็แล้วกัน ที่ link นี้ครับ ---> ++เที่ยว Palio Khao Yai (ปาลิโอ เขาใหญ่) ขอไปกับเขาบ้าง ไม่อยากตกเทรนด์++ .....+++ แวะเที่ยวปาลิโอ เขาใหญ่กันก่อน ++++++ ตามสองเด็กดื้อไปเที่ยวกันเลยครับ ++++++ ตัวอาคารทรงอิตาลี สีสันยังสดใสเหมือนเดิม ++++++ ประติมากรรมสวยๆ บริเวณทางเข้าด้านลานจอดรถ ++++++ วันเสาร์ที่ผมไป มีคนมาเที่ยวเยอะมาก ในภาพพยายามถ่ายหลบๆ คนแล้วนะเนี่ย ++++++ ทริปนี้ดื้อเล็กติดพ่อเป็นตังเม เล่นเอาผมถ่ายภาพแทบไม่ได้เลย ++++++ ไหนๆ ก็เกาะพ่อแจอยู่แล้ว ก็เลยจับมาเป็นนางแบบซะเลย ++++++ ดื้อเล็กยอมเป็นนางแบบให้แต่โดยดี ++++++ ที่ปาลิโอ มีของน่ารักๆ ขายเยอะเลย ++++++ กบตัวน้อยสีสันสดใส เด็กๆ ชอบกันมาก ++++++ กามเทพองค์น้อย ก๊อปมุมถ่ายภาพมาจากบล็อก Sleeping_prince อีกที ชอบมุมนี้จัง ดูเหงาๆ ดี ++++++ (ซ้าย) ตัวตลกโบโซกำลังทำลูกโป่งเป็นตัวการ์ตูน ดื้อใหญ่ไปยืนรอต่อคิวเอาลูกโป่งอยู่นานเลยครับ ++++++ บรรยากาศโดยรวมที่ปาลิโอ เขาใหญ่ +++ หลังออกจากปาลิโอ ก็ถึงเวลาเข้าที่พักกันซะที สำหรับ "เบลล์ วิลล่า รีสอร์ท เขาใหญ่" ที่พักของเราในวันนี้เป็นรีสอร์ทสภาพใหม่ เพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่ปี อยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 16.5 ของถนนธนรัตน์ ก่อนถึงปาลิโอแค่ไม่กี่กิโลเมตร ตัวตึกที่พักเป็นตึกสามชั้นสองหลังเรียงตัวต่อกันเป็นแนวยาว มีห้องพักทั้งหมดประมาณ 44 ห้อง ด้านหลังตึกติดภูเขาขนาดย่อมๆ ส่วนด้านหน้าตึกจะเป็นสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์ม ขนาดสระค่อนข้างใหญ่มีทั้งส่วนตื้นสำหรับเด็กๆ และส่วนลึกสำหรับผู้ใหญ่ .....+++ ทริปนี้เราเข้าพักกันที่ เบลล์ วิลล่า รีสอร์ท เขาใหญ่ ++++++ เข้าเช็คอินที่ Lobby กันก่อน ++++++ อาคารที่พักเป็นตึกสามชั้น แต่ไม่มีลิฟท์นะครับ +++ ภายในห้องพักตกแต่งแบบเรียบๆ แต่ดูน่าสบาย เตียงนอนใหญ่มากนอนกันสี่คนพ่อแม่ลูกก็ยังไม่อึดอัดเท่าไหร่ มีอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ทั้ง LCD TV, เครื่องเล่นดีวีดี, Safebox, ที่เป่าผม, เสื้อคลุมอาบน้ำ, รองเท้าแตะ มีระเบียงชมวิวหันหน้าออกมาทางสระว่ายน้ำทุกห้อง บรรยายมามากแล้ว ไปดูบรรยากาศของ "เบลล์ วิลล่า รีสอร์ท" กันด้วยภาพเลยดีกว่าครับ .....+++ ไปดูในห้องกันบ้างดีกว่า ห้องกว้างขวางดี ภาพนี้มองจากระเบียงเข้าไป ++++++ เตียงนอนขนาดใหญ่ นอนสบายไม่อึดอัด ++++++ มี LCD TV พร้อมเครื่องเล่นดีวีดีให้ดูกันเพลินๆ ด้วย ++++++ ภายห้องน้ำมีทั้งอ่างอาบน้ำ และห้องกระจกแยกส่วนอาบน้ำออกไปต่างหากด้วย ++++++ ของใช้ในห้องน้ำมีให้อย่างครบครัน ++++++ มุมกาแฟภายในห้องพัก ++++++ ระเบียงหลังห้อง มีที่นั่งชมวิวแบบสบายๆ ด้วย ++++++ นั่งจิบกาแฟไป ดื่มด่ำบรรยากาศไปก็เพลินดีนะ ++++++ สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ มุมมองจากบนระเบียงหลังห้อง ++++++ สองเด็กดื้อไม่พลาดการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ ++++++ เล่นน้ำกันเพลิน กว่าจะเลิกก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว ++++++ สองเด็กดื้อขอกลับห้องไปแต่งตัว เตรียมทานอาหารเย็นกันก่อนนะครับ ++++++ อาบน้ำอาบท่ากันก่อน สองดื้อเล่นน้ำกันสนุกเลยล่ะ ++++++ บรรยากาศดีๆ ยามใกล้สนธยา บริเวณด้านหลังตึก +++ หลังจากสองเด็กดื้อลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำกันแบบสนุกจนลืมเวลาแล้ว ช่วงค่ำเราก็ออกเดินทางเข้าไปยังตัวอำเภอปากช่อง เพื่อไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งเมืองปากช่อง ที่ใครๆ ก็นิยมแวะมา นั่นก็คือร้าน "บ้านไม้ชายน้ำ" ทางเข้าร้านจะเป็นซอยเล็กๆ ถนนเลนเดียว ต้องสังเกตดีๆ ถึงจะเจอทางเข้า ตัวร้านจะอยู่ติดลำตะคอง ได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ ร้านนี้เขามีสโลแกนว่า "อิ่มของกิน อินของเก่า" ..... เพราะนอกจากรสชาติอาหารแล้ว สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือ บรรดาของเก่าๆ สไตล์ย้อนยุค ที่เจ้าของสะสมไว้มากมาย ดูคล้ายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ แค่ได้เดินดูของเก่าพวกนี้ก็เพลินแล้วล่ะครับ ทานอาหารเสร็จกว่าจะเดินทางกลับถึงที่พักก็เกือบสามทุ่มแล้ว ทีแรกผมตั้งใจว่าจะไปเดินเที่ยวเก็บภาพปาลิโอในบรรยากาศยามราตรีซะหน่อย แต่กลับมาถึงดึกขนาดนี้โปรแกรมก็เลยต้องฟาล์วไป ขอกลับที่พักเก็บแรงไว้ไปเที่ยวต่อวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า .....+++ ไปทานอาหารค่ำกันที่ร้านบ้านไม้ชายน้ำที่ปากช่อง ++++++ ภายในร้านบ้านไม้ชายน้ำมีของเก่าๆ ให้ชมเยอะไปหมด ++++++ มุมสวยๆ มุมหนึ่งในร้าน ++++++ เอลวิสก็มากับเค้าด้วย ++++++ กล้องถ่ายรูปและภาพถ่ายเก่าๆ จัดเรียงไว้อย่างสวยงาม ++++++ ซีดีเพลงเก่าๆ แบบนี้มีขายที่ร้านด้วย ++++++ เสื้อยืดสวยๆ ในร้านขายของที่ระลึกของร้านบ้านไม้ชายน้ำ ++++++ กลับจากทานอาหารเย็นก็ค่ำมากแล้ว เลยไม่ได้ไปต่อที่ไหนเลยครับ +++ เช้าวันอาทิตย์ผมตื่นนอนแต่เช้า การได้ตื่นเช้ามาสัมผัสอากาศบริสุทธ์ท่ามกลางธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยขุนเขา ทำให้รู้สึกปอดโล่งขึ้นอย่างรู้สึกได้ เช้านี้เราทานอาหารเช้ากันที่ "The Terrace" ซึ่งเป็นห้องอาหารของทางรีสอร์ท อาหารเช้าที่นี่ไม่ค่อยโดดเด่นนัก มีให้เลือกไม่มาก ที่เห็นก็มีพวกข้าวและกับข้าว, ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก หมูแฮม, สลัดผัก, ผลไม้ตามฤดูกาล แต่บรรยากาศในห้องอาหารดูสวยดี โดยเฉพาะที่นั่งตรงมุมห้อง มีโซฟาเข้ามุมพร้อมหมอนอิงใบเล็กๆ ตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆ บนโต๊ะ ทำเอาเรานั่งทานอาหารกันเพลินไปเลย .....+++ ทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร The Terrace ++++++ ใครจะเลือกนั่งทานอาหาร รับลมธรรมชาติ บริเวณระเบียงแบบนี้ก็เย็นสบายดี ++++++ แต่เราเลือกนั่งภายในห้องอาหาร ในมุมสวยๆ แบบนี้ ++++++ บนโต๊ะอาหาร จัดดอกไม้ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ++++++ เชิญทานอาหารเช้าด้วยกันเลยครับ ++++++ ดื้อเล็กนั่งคิดอะไรอยู่นะ? +++ หลังทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องเข้าสัมมนาวิชาการตามโปรแกรม อย่าเพิ่งลืมนะครับว่านี่เป็นทริปสัมมนาวิชาการ ไม่ใช่ทริปท่องเที่ยวทั่วๆ ไป หากขาดโปรแกรมสัมมนานี้ไป เราก็คงไม่ได้มาเที่ยวที่นี่ ใช้เวลาในห้องประชุมแค่หนึ่งชั่วโมงก็จบการบรรยาย ได้เวลาเก็บของเช็คเอ๊าท์เตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อ ช่วงสายวันนี้เรามีนัดไปสัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจแบบเอ๊กซ์ทรีมกับเครื่องเล่นแนวแอดเวนเจอร์นานาชนิดที่ "ไลฟ์ปาร์ค" ของกรีนเนอรี่รีสอร์ท .....+++ สายวันนี้เราจะไปสนุกกันต่อที่ กรีนเนอรี่ ไลฟ์ปาร์ค +++ เราไปถึงที่นั่นช่วงสายๆ วันนั้นแดดแรงเอาเรื่อง แต่ทุกคนก็สนุกจนลืมร้อน อย่างแรกที่เราเลือกเล่นก็คือการขึ้นบอลลูนขนาดยักษ์ "Hiflyer Balloon" เพื่อชมทิวทัศน์มุมสูงด้วยสายตานก บนระดับความสูง 250 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นไฮไล้ท์อย่างหนึ่งของไลฟ์ปาร์คแห่งนี้เลยทีเดียว แม้จะขึ้นไปสูงมากแต่ก็ไม่น่าหวาดเสียวเท่าไหร่ เพราะบอลลูนมีขนาดใหญ่และอยู่นิ่งกับที่ไม่ได้ลอยไปไหน บนตะกร้ากอนโดล่าขนาดใหญ่ จุคนได้รอบละ 25 คน ทุกคนเพลิดเพลินกับการชมวิวสวยๆ ไม่มีใครซักคนที่ตื่นเต้นเพราะกลัวความสูงให้ต้องเสียฟอร์มกันเลย .....+++ เราขึ้นไปชมวิวจากบนฟากฟ้าด้วยบอลลูนยักษ์ลูกนี้ ++++++ บนกระเช้ากอนโดล่า จุคนได้รอบละ 25 คน ++++++ วิวแบบตานก (Bird eye view) มองจากบนบอลลูน ++++++ อยู่ที่สูงแบบนี้ มองลงไปข้างล่างเห็นอาคาร เล็กยังกับเมืองจำลอง ++++++ Hiflyer Balloon จัดว่าเป็นไฮไล้ท์ที่ไม่ควรพลาดของไลฟ์ปาร์คแห่งนี้ +++ สำหรับเครื่องเล่นอย่างอื่นที่ดูน่าหวาดเสียว อย่าง "X-Max" ที่ต้องนั่งบนที่นั่งดีดสปริงตัวขึ้นลงสลับไปมา หรือ "GX-Swing" ที่ต้องนั่งบนที่นั่งแล้วแกว่งไปมาคล้ายชิงช้าแต่สูงและหวาดเสียวกว่ามาก อันนั้นผมขอยอมแพ้ เพราะกลัวจะต้องคายของเก่าให้ได้หน้าแตกกันซะเปล่าๆ สู้พาเด็กๆ ไปเล่นเครื่องเล่นน่ารักๆ ดูจะมีความสุขกว่า เครื่องเล่นเด็กที่นี่ต้องเด็กโตหน่อยอย่างดื้อใหญ่ถึงจะพอเล่นได้ สงสารดื้อเล็กเหมือนกันที่ไม่ได้เล่นอะไรเลย ไว้โตกว่านี้แล้วค่อยพามาใหม่แล้วกัน ดื้อใหญ่ได้เล่นขับรถมินิคาร์กับเล่นเรือบั๊มพ์แค่สองอย่างก็ถึงเวลาใกล้เที่ยง ได้เวลาเคลื่อนขบวนไปทานอาหารกลางวันกันแล้ว .....+++ เครื่องเล่นน่าหวาดเสียวอย่าง GX-Swing แบบนี้ ผมคงต้องขอยอมแพ้ ++++++ ขอพาดื้อใหญ่ไปขับรถมินิคาร์แบบนี้ดีกว่า ++++++ ต่อด้วยขับเรือบั๊มพ์ แต่เสียดายไม่มีใครมาบั๊มพ์ด้วย +++ มื้อเที่ยงเรามีนัดทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน "Village Grill" ซึ่งเป็นร้านสเต็กที่อยู่บริเวณ Primium outlet เขาใหญ่ รสชาติสเต็กที่ร้านนี้ ผมไม่สามารถบอกได้ว่าอร่อยหรือไม่ เพราะลิ้นของผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารประเภทสเต็กเท่าไหร่ มันพอใจที่จะได้สัมผัสกับอาหารไทยๆ ซะมากกว่า ทานอาหารเสร็จเราได้แวะเดินย่อยอาหารและเลือกซื้อของกันที่สารพัดร้านค้าใน outlet กันอยู่พักใหญ่ จนบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลาแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้านใครบ้านมันกันแล้วครับ .....+++ แวะทานสเต็กกันที่ร้าน Village Grill ก่อนกลับบ้าน ++++++ สองเด็กดื้อขอเก็บภาพกับหุ่น Batman ที่ Premium Outlet +++ ขากลับผมขับรถขึ้นเขากลับทางเขาใหญ่เหมือนเดิม มีเรื่องให้ตื่นเต้นนิดหน่อยตอนขาลงเขา ช่วงก่อนถึงน้ำตกเหวนรก ขับรถอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีกลุ่มมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบ๊ค์ขับรถสวนมาหน้าตาตื่น พร้อมทั้งตะโกนบอกให้เราวกรถกลับเพราะข้างหน้ามีช้างป่าตัวใหญ่ยืนขวางอยู่กลางถนน แค่ยืนคงไม่เท่าไหร่แต่เขาว่ามันวิ่งไล่รถด้วย บรรดารถที่วิ่งตามๆ กันมาจึงพากันวกรถกลับไปจอดรอดูท่าทีกันอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งมีรถสวนขึ้นมาบอกกว่าช้างไปแล้ว เราจึงได้เดินทางกันต่อ นี่ถ้าผมขับไปเจอช้างป่าแบบจังๆ ก็คงทำอะไรไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ รู้แต่ว่าอย่าบีบแตรไล่จะทำให้ช้างโกรธเท่านั้นเอง สำหรับทริปพักสบายๆ ทริปนี้คงต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....
น้องดื้อเล็กยิ้มน่ารักจังเลยนะคะ
หลับฝันดีเน๊าะทั้งครอบครัวเลยจ้า