มาเที่ยวตรังกันต่อนะคะ ลืมเล่าไปว่าตลอด 3 คืนเราพักกันที่นี่นะคะ
สิริตรัง บูทีค
เป็นที่พักนอกเมืองค่ะห่างจากหอนาฬิกาตรัง 3 กิโลเมตร
และห่างจากสวนสาธารณะพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีประมาณ 1.5 กิโลเมตรค่ะ
(ขอบคุณภาพจากทางโรงแรมด้วยค่ะ ภาพแรกเราหยิบมาจากเพจค่ะ)
ก่อนจะไปเที่ยวต้องเติมพลังกันก่อนเดินทาง อาหารเช้าที่โรงแรมมีให้เลือก 2 อย่างให้สั่งไว้ล่วงหน้า
ว่าจะทานข้าวต้ม หรือจะเป็น ABF แต่เรามีออฟชั่นเสริมเป็นข้าวยำปักษ์ใต้และหมูย่างเมืองตรังด้วย
ด้วยความที่เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ก็เลยไม่มีไลน์อาหารแบบโรงแรมใหญ่ ๆ นะคะ
เช้าวันนี้พวกเรานัดหมายกันจะไปชมตลาดสดเทศบาลตรังและวิถีชีวิตชาวบ้านกันค่ะ
บรรยากาศก็คล้าย ๆ กับตลาดสดทั่ว ๆ ไป มีจำหน่ายทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ผักผลไม้ต่าง ๆ และขนมพื้นเมือง
นัดน้องสาว Sawkitty เอาไว้ที่นี่ด้วย
มาถึงถิ่นก็ต้องชิมอาหารท้องถิ่นด้วย ข้าวเกรียบปากหม้อเจ๊กี่ ร้านนี้เปิดขายมากว่า 30 ปี
ด้วยหน้าตาและสีสันรวมถึงไส้ปากหม้อก็แปลกไปจากที่คุ้นเคย สอบถามได้ความว่า
ตัวแป้ง มีส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้งเท้ายายม่อม เกลือและน้ำผสมกัน
ตัวไส้ ประกอบไปด้วยมันแกว กุ้งแห้ง ถั่วงอก และหัวไชโป๊ผัดรวมกันจนแห้ง
วิธีทำปากหม้อให้เป็นตัวก็เหมือนปากหม้อโดยทั่วไป แต่ไม่เหมือนตรงไส้
มีราดกะทิแล้วก็น้ำปรุงรสสีแดงที่เรียกว่าน้ำส้มเจือง และแตงกวาซอยนั่นเอง
ราคาจานละ 20 บาทถ้าจำไม่ผิดค่ะ
แม่ค้าใจดีอนุญาตให้เราลองทำด้วย
ตามที่รู้กันว่าหมูย่างเมืองตรังเป็นอาหารขึ้นชื่อเป็นหน้าตาของที่นี่
น้องสาวจึงพาไปร้าน "ยิ้นจี่ถ่อง" ซึ่งเป็นร้านเครื่องหอม ส่วนผสมที่สำคัญสำหรับทำหมูย่าง
หม่าม๊าเจ้าของร้านใจดี อัธยาศัยดีมาก ให้เครื่องหอมมาหลายอย่างเลยค่ะ
มีสูตรอาหารตำรับชาวตรังแนบมาด้วยหลายรายการ ขอบคุณค่ะไว้จะลองทำดูค่ะ
ลักษณะอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์ การออกแบบช่องลมและใช้หน้าต่างบานเกล็ดเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
ร้านสิริบรรณ (เก่า) ถนนราชดำเนิน ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลป์สถาปัตย์ดีเด่น ประเภทอาคารพาณิชย์
เป็นบ้านที่ได้รับอิทธิพลรูปแบบสถาปัตยกรรมของปีนัง ด้วยการจำรูปแบบแล้วให้ช่างท้องถิ่นในเมืองทับเที่ยงสร้าง
รูปแบบอาคารเป็นตึกแถว 2 ชั้น รูปแบบสถาปัตยกรรมผสผสานระหว่างนีโอคลาสสิก (Neo-Classic)
จีน และสมัยใหม่ (Modern) เช่น การเน้นหน้าบันและตกแต่งลวดลาย ปูนปั้นภายใน
การก่อผนังล้อมขอบหลังคา การออกแบบลานอเนกประสงค์ที่มีบ่อน้ำซึ่งถือคติความเชื่อจากชาวจีน
และการออกแบบหลังคาคอนกรีตแบน เป็นต้น ซึ่งการออกแบบมีการประยุกต์ให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ
ในเขตร้อนชื้นของภาคใต้ได้เป็นอย่างดี
วันนี้ตรงกับวันสงกรานต์ มีขบวนแห่ผ่านมาพอดี พวกเรารีบหลบค่ะไม่พร้อมเปียก ^__^
Street Arts ซึ่งมีภาพเพ้นท์ริมกำแพงที่แสถงถึงวิถีชีวิตคนเมืองตรัง มี 3 จุดหลัก
จุดแรกและจุดที่สองอยู่ในซอยข้างร้านศิริบรรณนั่นเอง
จุดแรกเป็นภาพดอกศรีตรัง ดอกไม้ประจำเมืองตรัง
จุดที่สองเป็นสวนยางพารา มีรถจอดขวางอยู่ เลยได้ภาพมุมแคบมาค่ะ
และจุดที่สามเป็นถ้ำมรกต อยู่ซอยข้างร้านก๋วยจั๊บ ที่เราพาไปชิมในบล็อกแรก
ที่นี่เราได้ถ่ายกันทั้งกลางวันกลางคืนเลย
ครั้งแรกถ่ายตอนกลางคืนเมื่อมานั่งกินก๋วยจั๊บรอบดึก อีกครั้งมาตอนกลางวัน
จากนั้นพวกเรามุ่งหน้าต่อไปบ้านอดีตนายกชวน หลีกภัยค่ะ
มีผู้คนมาอวยพรปีใหม่ไทยกันมากหน้าหลายตา บรรยากาศภายในบ้านท่านร่มรื่นมาก
มีต้นไม้ใหญ่ ๆ ให้ร่มเงาและไม่ร้อนเลย วันนี้มีอาหาร เครื่องดื่มและขนมหวานลี้ยงด้วยนะคะ
รถคันที่ท่านเคยใช้หาเสียง กับเก้าอี้ตัวที่ท่านนั่งก่อนที่จะได้เป็นนายกค่ะ ตอนนี้เป็นจอมปลวกไปแล้ว ^__^
พวกเรามีกำหนดการจะไปทานอาหารกลางวันกันที่อื่น ไม่ได้ตั้งใจไปทานที่นี่นะคะ
แต่เห็นขนมจีนแล้วดูแล้วน่ากินอ่ะ อร่อยด้วย ก็เลยจัดไปเบาะ ๆ คนละจานสองจาน
พวกเราไปทานอาหารกลางวันและชมการสาธิตทำเมนูหมูโฑเฮ
หมูสามชั้นที่ปรุงรสและสีด้วยวัตถุดิบจากชินชะหลุและเจ่า มีตะไคร้และหอมแดงเจียวน้ำมันไว้ชูกลิ่น
เจ่า คือกากเหล้าแดง ให้รสชาติให้สารสีแดงตามธรรมชาติอันเกิดจากยีสต์ และให้โปรไบโอติก
เสิร์ฟมาพร้อมข้าวกุลีและน้ำฝางสีสวย ๆ ปิดท้ายด้วยโอ้วเอ๋ตำรับเมืองตรัง ที่ร้านโคอิตรัง
ฟิน ๆ กับบรรยากาศเป็นกันเองในร้าน เมนูอาหารที่นี่ก็จะแตกต่างจากที่อื่น ๆ มีที่มามีเรื่องเล่า
ซึ่งแต่ละวันเมนูก็อาจจะแตกต่างกันไปขึ้นกับวัตถุดิบที่จะหาได้
ส่วนรสชาติมื้อนี้เราไม่เจริญอาหารเท่าไหร่ แม้อาหารจะน่าสนใจและหน้าตาสวยงาม
ดีที่ได้ทานขนมจีนมาจากบ้านท่านชวนรองท้องมาก่อน และได้โอ้วเอ๋สวย ๆ ช่วยยาใจ
ที่นี่บังเอิญได้พบกับ ผอ.ททท.ตรังด้วยค่ะ
จบจากอาหารมื้อนี้แล้ว พวกเรามุ่งหน้าไปเที่ยวสวนพฤษกศาสตร์ทุ่งค่ายกันต่อในบล็อกหน้านะคะ
ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
คุณปุ๊ก ญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ททท.ตรัง
และขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาทักทายกันค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปให้กำลังใจนะคะ
คืนนี้หลับฝันดีเช่นกันค่ะ