เมื่อฉันเป็น Fangirl ของ Supernatural (2) : รับน้อง
ความที่เราต้องการมากกว่าสิ่งที่มีอยู่แล้วในห้องซีรี่ส์ โดยไม่ได้แนะนำตัวอะไร เราคิดว่ามันไม่จำเป็น บอร์ดนี้เพื่อความบันเทิง ไม่น่าจะจริงจังอะไร เราจึงหาเรื่องตั้งกระทู้บ้าบอคอแตกเกี่ยวกับ Jensen Ackles ไปเรื่อย เราคิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องคุยเกี่ยวกับเรื่องในซีรี่ส์อย่างเดียว เราโพสต์รูปอย่างบ้าคลั่ง สรรหารูปใหญ่ๆมาวางให้หัวใจวายอย่างเมามัน นอกจากนี้เรายังคุ้ยหา Youtube อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับ Supernatural มาเสพ ความหลงครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้ง James McAvoy และ Thomas Kretschmann อาจจะเป็นเพราะมันเป็นซีรี่ส์ ผลกระทบของมันจึงมีความต่อเนื่องมากกว่าและนานกว่าหนังโรงที่จบในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อเริ่มตั้งกระทู้ การสังคมกับแฟนคนอื่นๆก็เกิดขึ้น เราสัมผัสถึงความเป็นเจ้าของ การมาก่อน มาหลังบ้าง แต่ไม่มาก แค่จากคนๆเดียว
และก็เป็นเรื่องธรรมดา ย่อมมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ตีความไปเองก็มีบ้าง เราโดนประปราย เฉียดไปมา เรายอมยกประโยชน์ให้จำเลยบ้าง โต้ตอบแบบเฉียดๆบ้าง บางครั้งก็ไม่ใส่ใจ และในเวลานั้นเราออกความเห็นอย่างสงวนท่าที เพราะดูมาได้แค่รอบเดียว ไม่ได้ดู Comentary, Conventions, และ สัมภาษณ์ต่างๆ เราจึงเน้นไปทางฮาๆอย่างเดียว
จากประสพการณ์การตั้งกระทู้ เราพบว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด มันเหมือนการจัดปาร์ตี้อย่างนึงที่เราต้องหาหัวข้อที่สร้างสรรค์ เรียนรู้ที่จะเขียนข้อความให้น่าสนใจ คอยดูแล ให้การตอบโต้กับคนที่มาออกความเห็น ....... หรือเราคิดมากไปเองหว่า
อย่างไรก็ตาม เราได้ประโยชน์จากการได้ใช้สมองลำดับความคิด แล้วเรียบเรียงลงมาเป็นตัวหนังสือ....
เราสนุกกับการฟังภาษาอังกฤษ จากการดูซีรี่ส์ และ คลิป Youtube โดยเฉพาะสัมภาษณ์ต่างๆในYoutube เราชอบมากจนเราต้องมาแบ่งปัน แปลคลิปลงกระทู้ จะมีคนหมั่นไส้ไหม เราไม่รู้ แต่เราได้ประโยชน์ในเรื่องภาษาจากการแกะคลิปเหล่านี้
สิ่งเหล่านี้ เป็นเหตุให้เราทราบว่า เขาไม่ค่อยแชร์ข้อมูลกันในบอร์ดสาธารณะเท่าไหร่ ภายในห้องSeries ไม่ค่อยคุยอะไรมากเกี่ยวกับSupernatural และนักแสดง เวลาจะแบ่งข้อมูล,ลิ้งค์, และ รูป กันที บางครั้งก็ทำกันหลังไมค์ พวกเขาไม่ค่อยแสดงออก เหมือนคนที่อยากจะหัวเราะแต่ต้องสงวนท่าที เราไม่แน่ใจว่าเขาชอบมากจนรู้สึกหวง เหมือนอย่างที่เราเคยเจอในเว็บบอร์ดของ James McAvoy หรือเปล่า ที่เจ้าของกระทู้เคยพูดว่าเขาดีใจที่มีคนชอบJamesมากขึ้น แต่ก็รู้สึกหวงอยู่เหมือนกัน
ข้อสันนิษฐานของเรามีดังนี้.. 1. ไม่กล้าแสดงออก และเกรงว่าถ้าเอามาแชร์จะไม่ได้รับความสนใจ 2. ไม่มีเวลาที่จะเอามาตั้งกระทู้ในบอร์ด 3. อยากเก็บข้อมูลเป็นของตัวเองเท่านั้น เพื่อใช้ในการออกความเห็น เพราะเขารู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ Knowledge is Power และจะแบ่งปันบางคนเพื่อผูกพันความเป็นมิตร 4. การแบ่งปันข้อมูลในบอร์ดสาธารณะ การวางข้อมูลที่ควรจะเป็นทรัพยากรของบุคคลในข้อ 3 เท่ากับเป็นการลดอำนาจการต่อรองของเขา.......อาจโดนเขม่นได้ 5. ความหวงแหน
Create Date : 04 มกราคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 4 มกราคม 2553 20:04:10 น. |
Counter : 940 Pageviews. |
|
|
|